นั่นเป็นข่าวสารที่คุณได้รับมา ผมไม่แปลกใจหรอกที่คุณรู้สึกแบบนั้น
ตอนแรกจะเปรียบเทียบกับคนที่ผมรู้จัก เรียกว่าฮาร์ดคอร์คนหนึ่งกลับไม่รู้สึกเหมือนคุณ
กลับมาเรื่องศาลดีกว่า คุณบอกว่าศาลทำตัวไม่เหมาะสม สำหรับผมท่านวางตัวยาก
ในเมื่อมีคนมาร้องเรียน เงื่อนไขก็บังคับให้ท่านต้องรับ ถ้าผมเป็นศาลยังไงก็ต้องรับอยู่ดี
ทำให้คิดต่างจากคุณ แล้วขั้นนี้ท่านก็แค่รับเรื่องไว้ ไม่เห็นจะเป็นประเด็นอะไร
ท่าน ทลึ่งไปแสดงความคิดอะไร ใว้ละค่ะ ที่ตนตัดสิน ไม่พูดใครว่า..คนที่จะได้เป็นผู้พิพาทษา มีข้อห้ามมากมาย ...ในการอยู่ร่วมในสังคม ...ท่านไม่เหมาะแล้วค่ะ..ท่านพลาดเกินไป
ท่านไปแสดงความคิดอะไรหรือครับ เท่าที่ผมทราบ ก็แค่รับคำร้องแล้วให้กลุ่มที่สนับสนุนแก้ไข รธน ชี้แจงมาว่าจะแก้ไขแบบไหน อย่างไร
หากคุณบันทึกกรรม มีข้อมูลใหม่ ๆ บอกผมด้วยนะครับ
ส่วนหนึ่งการสัมมนาหัวข้อ "การรักษาดุลยภาพทางการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย" ที่โรงแรมนาน่ารีสอร์ท แอนด์สปา จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม
"หากขณะนั้นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รัฐบาลและฝ่ายค้านจับมือกัน บ้านเมืองสามารถเดินหน้าต่อไปได้นั้น เชื่อว่าตุลาการเสียงข้างมากคงจะใช้ดุลพินิจไม่สั่งยุบพรรค เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่ขณะนั้นบ้านเมืองวุ่นวาย หาทางออกไม่เจอ ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องวินิจฉัยเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ยืนยันว่าการวินิจฉัยครั้งนั้นไม่ได้เป็นไปตามกระแสหรือตามอำนาจที่ใครกล่าวหา "
ตอนแรกถ้าไม่รับ สบาย ถ้ารับ เป็นเรื่อง แต่ก็กัดฟันรับไว้ก่อน เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง ไต่สวนและไม่มีไรก็จบ แต่ยอมรับว่าบางครั้งศาลก็ทำงานชุ่ยเกินไป สังเกตได้ว่าช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับก็ด่าคนรับทันที ไม่เห็นว่าจะด่าคนยื่น พอศาลอาญารับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นฟ้องแกนนำ นปช.กลับด่าคนยื่น นี่คือสองมาตรฐานชัดเจน
ทุกสิ่งที่พูด ใคร บังคับให้พูด " เงียบใครว่าได้ค่ะ