Jump to content


Photo
- - - - -

รวมความเห็นและข้อวิพากษ์วิจารณ์ ปาฐกถายิ่งลักษณ์ที่มองโกเลีย


  • Please log in to reply
40 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:21

อยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันรวบรวมความเห็นไม่ว่าจะเป็นบทกลอน คำวิพากษ์วิจารณ์ หรือรูปภาพ คลิปวีดีโอ จากบุคคลสาธารณะและสื่อต่างๆ ที่เกียวข้องกับการไปสำแดงปาฐกถาของนางยกที่มองโกเลีย มาแปะรวมไว้ในกระทู้นี้ด้วยค่ะ อาจจะซ้ำกับกระทู้อื่น แต่กระทู้นี้อยากให้เอามาแปะไว้ให้อยู่ที่เดียวกัน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความหรือรูปภาพที่เอามาแปะเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อเก็บไว้มอบเป็นรางวัลแก่นางยกหญิงคนแรกแห่งประเทศไทยค่ะ


Edited by Tatiana, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:43.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#2 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:26

ปาฐกถา "ยิ่งลักษณ์" : ขายชาติ? ช่วยญาติ? รักษาอำนาจ?

1(12).gif

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หงายไพ่ทักษิณโชว์อย่างอล่างฉ่าง ผ่านปาฐกถาที่เธอไม่ได้เขียนที่มองโกเลีย  อย่าไปโกรธเธอเลยครับ  เธอกำลังทำงานของเธอ เพียงแต่มันไม่ใช่งานเพื่อชาติ เป็นงานเพื่อญาติ ที่อาจเข้าข่าย ‘ขายชาติ’ ในความรู้สึกของใครหลายคน

                ปาฐกถาดังกล่าว เหมือนประกาศนียบัตรรับรอง ‘ความกะล่อนตอแหล’ และเสมือนเกียรติบัตร ที่รับรองว่ายิ่งลักษณ์มีความสามารถที่จะอ่านมันได้อย่างไม่เคอะเขิน ไม่อดสูใจ ไม่กระดากปากที่กำลัง “ปลิ้นปล้อน” ต่อนานาประเทศที่ไปนั่งฟังอยู่  และประชาชนร่วมชาติที่ ‘รู้เช่นเห็นชาติ’

                1.) ยิ่งลักษณ์ไม่เพียงเดินข้ามเส้น ‘ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า’ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรเท่านั้น  แต่ยังไปสุมไฟเผาประเทศโชว์ ด่าประเทศชาติของตัวเอง เพื่อเรียกคะแนนสงสารให้โคตรญาติของตัวเอง โดยไม่พูดความจริงให้ครบถ้วน  ถ้าเป็นลิเกละคร ก็ควรต้องถามว่า บทที่ยิ่งลักษณ์รับแสดงครั้งนี้ คือบทนางเอกหรือนางตอแหล  ซึ่งไม่น่าจะตอบยาก 

                2.) กระนั้นก็ตาม ยิ่งลักษณ์เป็นเพียง ‘หุ่น’ ตัวหนึ่ง ที่ทักษิณและบริวารช่วยกันชักเชิดอยู่  ในแง่นั้นอาจน่าเห็นใจ  แต่อีกด้านก็เห็นได้ชัด เธอเลวตรงที่ กล้ากล่าวคำกะล่อน โดยไม่ละอายหรือเคอะเขิน  เธอช่วยทักษิณดึงโลกมาล้อมประเทศด้วยคำลวง

                3.) สำหรับผมแล้ว ปาฐกถาครั้งนี้  เป็นแค่ภาพสะท้อนความหวั่นวิตกว่า  ทักษิณกับพวก กำลังกลัวว่า ‘การรัฐประหาร’ จะมาเยือนอีกหน  ซึ่งจะทำให้อำนาจและผลประโยชน์หายวับไปกับตา และหากการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกครั้ง กับสมาชิกในตระกูลชินวัตรคนที่ 3 การขุดรากถอนโคนคงจะเกิดขึ้น  จึงจำเป็นต้องปลุกกระแสให้คนเกลียดชังการรัฐประหาร หวงแหนประชาธิปไตย และอ้างเสียเลยว่าตนเองเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมาก แต่งดเว้นที่จะพูดถึงพฤติกรรม การบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว คดโกง และพยายามจะแก้ไขกฎหมายอย่างไม่ถูกต้อง เป็นธรรม

                4.) หนังสือพิมพ์ ‘ไทยโพสต์’ ฉบับวันที่ 18 เม.ย.56 พาดหัวข่าวรองว่า  “ลักไก่ดันนิรโทษพาแม้วกลับ”  เนื้อหาโดยสรุปคือ “...ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวานนี้ ได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯที่นายวรชัย เหมะ เสนอเข้าสู่สภาฯในวันนี้...”

                ข่าวบอกด้วยว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้สไกป์มายังที่ประชุมโดยบอกว่า  “อยากให้พวกเราช่วยกัน เมื่อพรรคและ ส.ส.เข้มแข็ง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้กลับบ้านถ้าไม่เข้มแข็ง โอกาสจะได้มาก็น้อย พอไม่ได้กลับบ้านก็หาเสียงยาก เราเถียงกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ว่าไปตามกัน และเมื่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ไม่ขัดข้อง ว่ายังไงก็ว่าตามกัน  ขอให้เข้มแข็งเป็นกำลังใจให้พวกผม เมื่อได้แรง ผมก็จะเป็นกำลังใจให้พวกท่าน

                วันนี้ผมยังว่ายน้ำกลางทะเล พวกที่นั่งฉลองจิบแชมเปญอยู่ริมฝั่งขอให้เบาๆ หน่อย เดี๋ยวไอ้คนอยู่กลางทะเลจะตกใจจมน้ำตายไปซะก่อน

                เราต้องสื่อสารให้ชัดเจน ทุกคนจะได้รู้ว่าการต่อสู้ที่ยาวนานต่อสู้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราไม่มีความรู้ ฟังแต่คำโกหก ไม่เชื่ออะไรเลย พวกนี้ก็ขยันโกหกด้วย พวกนี้พวกผีเจาะปาก ก็พูดไป ไม่พูดบนความเป็นจริง

            เราต้องช่วยกันแก้ข้อกล่าวหา ไม่อย่างนั้น เขาจะบอกพวกนี้มือมากปากน้อย  อย่าไปเล่นตามเกมเขา ผู้ชนะคืออย่าไปเล่นในเกมเขากำหนด วันนี้คนต่างจังหวัดสนใจการเมือง  คนใน กทม. อาจสนใจน้อย เพราะงานหนัก เมื่อสนใจน้อยก็หวาดระแวง ขี้กลัว”

                หลังจากนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ กล่าวอวยพร พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง  คิดสิ่งใดให้ประสบสำเร็จตามความปรารถนา  แล้วก็ลั่นวาจาให้ทักษิณ พอได้ยิ้มว่า“พวกเราจะทำทุกอย่างให้ท่านได้กลับบ้านในปลายปีนี้แน่นอน”

                5.) ชัดเจนว่า บรรดา‘ขี้ข้า’ของทักษิณดิ้นพล่าน ต้องทำงานให้ได้งานตามทักษิณสั่งในทันทีหลังข่าวนี้ปรากฎขึ้น  น่าสงสัยว่า ทำไม นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ ยอมเอาเก้าอี้ประธานรัฐสถาไปเสี่ยงกับการถูกถอดถอน ด้วยการรวบรัดตัดความ ว่าสภามีมติแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราโดยจะแปรญัตติกันแค่ 15 วัน ทั้งๆที่องค์ประชุมไม่ครบ ไม่นับเป็นมติ 

                วรชัย เหมะ ส.ส.เพื่อไทย ก็ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาทันที โดยได้รับความร่วมมือจากประธานและสมาชิกเสียงข้างมากลากไป จนกลายเป็นญัติที่ต้องรีบกลับมาพิจารณา เมื่อเปิดประชุมสภาสมัยหน้า

                ส.ส. พรรคเพื่อไทย ส.ว. ที่มาร่วม และตัวพรรค ปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และมวลชนเสื้อแดงก็ร่วมกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นประกาศให้ประชาชนจับกุมตัว  โดยที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบอกว่า เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของพวกเขา

                ผมจึงประเมินว่า ยิ่งลักษณ์กับปาฐกถาตอแหลที่ใครก็ไม่รู้เขียนให้อ่านนี้ เป็นหนึ่งในการเดินหน้าภายใต้แรงกดดันของทักษิณในครั้งนี้นี่เอง 

                6.) หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ของสหรัฐฯ เคยเสนอบทความเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า เป็นคนที่บริหารประเทศไทยอย่าแท้จริง โดยสั่งการผ่านเทคโนโลยี และสื่อออนไลน์ อย่าง "สไกป์"  ทั้งนี้ บทความดังกล่าว ได้อ้างถึงชื่อของ "นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า "ประเทศไทยเหมือนมีนายกฯ 2 คน คนหนึ่งอยู่ในประเทศ ส่วนอีกคนอยู่นอกประเทศ ทั้ง 2 คนทำงานร่วมกัน อันถือเป็นความเข้มแข็ง"

                นอกจากนี้ บทความยังระบุอีกว่า "ส่วนการบริหารวันต่อวันของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ทรงเสน่ห์ ก็คือการตัดริบบิ้นและกล่าวสุนทรพจน์ในงานต่าง ๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พยายามไม่ให้บทบาทของพี่ชายมาบดบัง เมื่อทักษิณร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านสไกป์ นัก ข่าวก็ได้ถามเธอว่า ตกลงใครเป็นผู้นำรัฐบาลกันแน่ เธอยืนยันว่าเธอคือนายกฯ ตัวจริง ทักษิณแค่ร่วมพูดคุยด้วยในฐานะผู้ให้ขวัญกำลังใจ"

                ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างมาก สื่อรายงานว่า 31 มกราคม ที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ พร้อมกับหันไปตำหนิ นายจารุพงศ์ว่า "ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง ไม่ได้ๆ " ขณะที่ นายจารุพงศ์ ก็หน้าถอดสี และเดินตามนายกฯ ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

                7.) ยิ่งลักษณ์เองก็จวนตัว  เมื่อพี่สาวคือ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ถูกส่งลงมาประกบ พร้อมกับข่าว ‘นายกฯ สำรอง’  ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า ยิ่งลักษณ์กำลังเพลิดเพลินกับตำแหน่งนายกฯ  จนไม่อยากเอาตำแหน่งไปเสี่ยง ทำงานรับใช้ทักษิณจนเอกเกริกเกินไป  บางคนพูดลอยลมให้ได้ยินกันชัดเจนว่า “ยิ่งลักษณ์เริ่มฟังป๋ามากกว่าพี่” งานนี้ ไม่ทำย่อมไม่ได้  จึงจะเห็นได้ว่า เมื่อยิ่งลักษณ์กลับมา สื่อขอสัมภาษร์ เธอปฏิเสธที่จะตอบในเรื่องนี้

                8.) ยิ่งลักษณ์กล่าวปาฐกถานี้ได้ เพราะเป็นการอ่าน เป็นการสื่อสารทางเดียว ไม่มีสื่อหรือใครคอยซักค้าน  ลองมีสื่ออย่างสมจิตต์ นวเครือสุนทร อยู่ที่นั่นสิครับ อะไรจะเกิดขึ้น

                9.) ในขณะที่ยิ่งลักษณ์อ่านโพยว่า “ในปี 1997 ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งร่างขึ้นโดยที่ประชาชนมีส่วนร่วม เราทุกคนคิดว่ายุคใหม่ของประชาธิปไตยไทยมาถึงแล้วและจะเป็นยุคสมัยที่ไร้การรัฐประหาร”

            หากมีสื่อดีๆ อยู่กับเธอด้วย เขาก็ย่อมต้องซักค้านว่า ถ้ารัฐธรรมนูญปี 2540 ดีจริงๆ ทำไมทักษิณ ชินวัตร จึงดิ้นพล่าน ด่ากติกา ว่าไม่เป็นธรรม ในคดีที่ดินรัชดา ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว

                หากมีประชาชนดีๆ อยู่ด้วย  เขาจะสวนยิ่งลักษณ์ว่า  หลังมีรัฐธรรมนูญปี 2540 เราไม่เพียงมุ่งหมายว่าบ้านเมืองจะมีประชาธิปไตยที่ดี และไม่มีการรัฐประหารเท่านั้น  เรายังหวังว่าบ้านเมืองจะไม่มีนักการเมืองชั่ว ที่มีจิตใจเป็นเผด็จการ บ้าอำนาจ คดโกง และปลิ้นปล้อนหลอกลวง

                นายคณิน บุญสุวรรณ ถึงกับประจานระบอบทักษิณผ่านหนังสือชื่อ “รัฐธรรมนูญตายแล้ว”  ที่ตีแผ่พฤติกรรมของรัฐบาลทักษิณ ว่าเจาะไชบิดเบือนรัฐธรรมนูญมาตราต่างๆ เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง จนบ้านเมืองเสียหายขนาดไหน  วันนี้ ถ้านายคณินว่าง ลองเอาไปอ่านออกอากาศทางช่องเสื้อแดงบ้างนะครับ  ถือว่าเป็นการให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติต่อสิ่งที่ตัวเองเคยเขียนไว้

                10.) ในขณะที่ยิ่งลักษณ์อ่านโพยว่า “แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึงสองครั้งสองหนด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกล้มลงในปี 2006 ประเทศไทยเสมือนรถไฟตกรางและประชาชนคนไทยใช้เวลาเกือบ10 ปีกว่าที่จะได้เสรีภาพแห่งประชาธิปไตยกลับคืนมา

                หลายคนที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้รู้ว่ารัฐบาลที่ดิฉันพูดถึงคือ รัฐบาลที่พี่ชายของดิฉันพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

                สื่อมวลชนดีๆ ประชาชนดีๆ ย่อมมีคำถามว่า ทำไมยิ่งลักษณ์เลือกที่จะบิดเบือนประเด็นโดยไม่ให้รายละเอียดว่า พรรคเพื่อไทยถูกยุบพรรค เพราะทำผิดกฎหมาย ที่คนระดับรองหัวหน้าพรรค ไปจ้างพรรคเล็กมาลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งกัน เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายการเลือกตั้ง อันเนการแสวงหาอำนาจโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธฺปไตย

                เช่นเดียวกับพรรคพลังประชาชน ที่ถูกยุบ เพราะนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค กระทำการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการแสดงหาอำนาจโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน  
                หากสองพรรคการเมืองดังกล่าวเป็นพรรคการเมืองที่ดีจริงๆ  ทำไมจึงมีกรรมการบริหารพรรคที่มีนิสัยเลวทรามเช่นนั้น  ทำไมไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย  ทำไมไปแสวงหาการได้มาซึ่งอำนาจ โดยไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยเล่า  เช่นนั้นแล้ว ไม่สมควรที่จะต้องถูกยุบทิ้งไปเช่นนั้นหรอกหรือ 

                11.) โดยสรุป โพยที่ยิ่งลักษณ์คาบไปอ่าน เป็นเพียงการหาความชอบธรรมให้แก่สิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังทำ  นั่นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มอำนาจรัฐ ตัดอำนาจประชาชน ทั้งเรื่องที่มาของ ส.ว. ว่าควรจะมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น  การตัดระบบการยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทิ้งไป  และประเด็นอื่นๆ ซึ่งมิได้เกิดประโยชน์อะไรแก่ประชาชนเลย 

                พร้อมกันนี้ก็กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าปราบปรามประชาชนจนเสียชีวิต  โดยละเว้นข้อเท็จจริงว่า มีการชุมนุมที่มาพร้อมการก่อการร้าย ใช้ความรุนแรง เกินสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และศาลก็สั่งแล้วว่าเป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย 

                ผลสอบของคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา  ผลสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ผลสอบของ คอป.  ล้วนออกมาตรงกันว่า  ฝ่ายผู้ชุมนุมเอง ก็มีกองกำลังติดอาวุธคอยคุ้มครอง  ผู้เสียชีวิตหลายราย มิได้ตายเพราะอาวุธของฝ่ายทหาร ฯลฯ แต่ยิ่งลักษณ์กลับตีขลุม  เพื่อโยนบาปให้ศัตรูทางการเมืองและกองทัพ  และทิ้งปริศนาไว้ในประโยคที่ว่า  “มีความชัดเจนว่าผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่  รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย”

                คนจึงตั้งคำถามว่า ปาฐกถาครั้งนี้ ยิ่งลักษณ์ขายชาติ ช่วยญาติ เพื่อรักษาอำนาจของตนเองและครอบครัวอยู่หรือไม่?  และน่าคิดว่า ปาฐกถาในเวทีที่ใหญ่กว่านี้ของยิ่งลักษณ์ไม่เคยถูกแปล  ทำไมครั้งนี้แปลและเผยแพร่อย่างเอกเกริก

                กำลังทำฝันของทักษิณให้เป็นจริงด้วยการปลุกระดมผู้คนให้เข้าใจผิด หนุนช่วย และเกลียดชังฝ่ายตรวจสอบใช่หรือไม่  กำลังทำให้การรัฐประหารเป็นวิธีการที่เลวร้าย ไม่ควรเกิดอยู่ใช่หรือไม่ ไม่ว่าเราจะมีรัฐบาล***เพียงใด ก็อย่ารัฐประหารนะ

                ละครฉากนี้จึงช่วยให้เห็นไพ่ที่หงายขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยความโหก หวงแหน และลุ่มหลงในอำนาจเท่านั้น!!


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#3 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:26

นายกฯ หน้ามึน

image001(2).gif

สืบเนื่องจากการอาศัยสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เดินทางไปอ่านปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลีย โดยมีเนื้อหาโจมตีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใส่ร้ายระบบยุติธรรมของประเทศ ทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดว่ายังมีการจำคุกผู้ที่ต่อสู้ตามวิถีประชาธิปไตย แก้ต่างให้ทักษิณ ชินวัตร นักการเมืองทุจริตผู้หลบหนีอาญาแผ่นดิน บิดเบือนเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ป้ายสีฝ่ายที่ต่อต้านการนิรโทษกรรมให้ทักษิณว่าเป็นพวกปฏิกิริยาต่อประชาธิปไตย และยังให้ท้ายการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศไทยด้วย

นายกฯ ยิ่งลักษณ์ถูกตั้งคำถามถึงความถูกต้องและความเหมาะสมของการกระทำดังกล่าว

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการกล่าวปาฐกถาว่า เวทีดังกล่าวเป็นเวทีประชาธิปไตย จึงมีเจตนาถ่ายทอดประสบการณ์การเมืองไทย ไม่ได้เป็นการแก้ความผิดให้ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากให้เป็นอุทาหรณ์ และพร้อมที่จะแสดงความเห็นเช่นนี้อีกในเวทีประชาธิปไตยอื่น!

แบบนี้ เท่ากับว่า ไม่สำนึก!

ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำอธิบายต่อประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่าเป็นการบิดเบือนอย่างไร เป็นความเท็จอย่างไร ใส่ร้ายโจมตีประเทศตัวเองอย่างไร ป้ายสีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอย่างไร?

ไม่มีการตอบข้อซักถามลงในรายละเอียดที่ชัดเจนเลย

ตีหน้ามึน!

ทำเหมือนพวก “ตีกิน” สำเร็จด้วยปากแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่กล้าเผชิญหน้า ไม่ยอมตอบข้อซักถาม

เอ... เธอรู้จริงๆ หรือเปล่าว่าที่มีคนเขียนให้เธอไปอ่านนั้น มันหมายความว่าอย่างไร?

โง่ หรือแกล้งโง่?

เพราะถ้าเธอมีความเข้าใจ ก็จะต้องรู้ว่าประเด็นที่คนไทยจำนวนมากคาใจ ข้องใจ และไม่พอใจ คือเรื่องอะไร  และจะต้องมีคำตอบ คำอธิบาย คำชี้แจง ออกจากปากนายกรัฐมนตรีที่ชัดเจนกว่านี้

  ลองไปดูปฏิกิริยาจากประชาชนที่แสดงท่าทีและตั้งคำถามต่อเรื่องนี้ ในเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร Yingluck Shinawatra ขออนุญาตคัดบางส่วนมาให้ท่านผู้อ่านพิจารณา (เฉพาะส่วนที่ทีมงานนายกฯ ยังตามลบไม่ทัน) เช่น

คุณ Gtx R Cha - “ประชาธิปไตยแบบใหม่ แต่ไม่เอาผู้นำคดโกง เลี่ยงภาษี ทุจริตที่ดิน เพราะมันก้อจะเกิดปัญหาแบบนี้อีก ถ้าคิดว่าจะทำอะไรก้อไม่คิดว่าตัวเองผิด คือถูกหมด ให้พี่ชายมารับโทษตามกฎหมายสิ หรือคิดว่าศาลตัดสินผิดอีก”

คุณ Ai Chiba – “นายกบอกว่าเป็นสิทธิคนเสื้อแดงสามารถจับตัวตุลาการศาลได้ แล้วถ้าคนจะจับตัวนายกก็เป็นสิทธิตามประชาธิปไตยสินะคะ”

คุณ Peng Thana - “ประชาธิปไตยที่ปฏิเสธการตรวจสอบจากองค์กรอิสระและภาคประชาชน ช่างเหมือนระบอบเผด็จการที่สวมหน้ากากความเป็นประชาธิปไตย เป็นระบบพวกพ้องที่ไม่ต้องสนใจชาติบ้านเมือง พวกของตัวเองคือความถูกต้อง อยากให้รู้ว่าความจริงคนไทยไม่โง่ แต่หลงงมงายเกินไป ถ้าเห็นแก่ส่วนรวมก็ต้องหันมารักความถูกต้องได้แล้ว ประเทศชาติเป็นของทุกคนอย่าเห็นแก่ตัว โกงกินภาษีราษฎร”

คุณ AppleAngel A Violet – “บอกชาวโลกเค้าด้วยสิว่า หล่อนสนับสนุนโคตรประชาธิปไตย นั่งอยู่ในม็อบ สวมเสื้อแดง ให้พวกถ่อยเผาบ้านบ้านเมือง และกระทำการขับไล่ศาล รธน. ก่อนมาแ..ดที่มองโกเลีย ปชช.อีกห้าสิบล้านเจ็บปวดกว่าที่มีตระกูลเห้...บริหารประเทศเป็นของเล่นเพื่อประโยชน์ส่วนตน และเจ็บปวดที่เห็นคนสิบห้าล้านยอมเป็นทาสเงินของคนไม่รู้จักพอ”

คุณ แป๊ะ เว้ยเฮ้ย – “ท่านนายกทำไมไม่พูดไปด้วย พี่ชายฉันรวยมาจากการทำรัฐประหารในยุคหนึ่งล่ะครับ”

คุณ Tidchet Disbanjong – “แล้วประชาธิปไตยบ้านพ่องพวกคุณหรอครับไปปิดประชุมอาเซียน เผาศาลากลาง ปลุกระดมให้คนเข้ามาเผาเมือง บ้านแม่มพวกคุณสิครับ”

คุณ Jee Fon Net – “ไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้ความเลื่อมล้ำที่ปรากฏมันเป็นยุคข้าวยากหมากแพงแล้ว ชนชั้นล่างจะตายกันแล้ว รับรู้บ้างมัย ไม่ใช่จะรับรู้แต่การแก้รัฐธรรมนูญกับเดินสายออกนอกประเทศอย่างเดียวนะ” ฯลฯ

พิจารณาคำอธิบายของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถตอบคำถามหรือข้อวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนได้เลยแม้แต่น้อย

แถมยังมีหน้ามาบอกว่า “ถ้ามีโอกาสจะพูดอีก”

จงใจที่จะท้าทายกระแสสังคม

เหิมเกริม หลงคิดว่าตนมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ มีขี้ข้า มีบริวารห้อมล้อม

ล่าสุด กำเริบเสิบสานถึงขนาดให้ขี้ข้าทักษิณเร่งจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ทุกสี คนฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน รวมถึงคดีทุจริตโกงกิน ร่ำรวยผิดปกติของทักษิณ ชินวัตร ได้รับการล้างผิดด้วย

ปากกล้าขาสั่น ไม่กล้าสู้ความจริงในศาล ดีแต่ปลุกระดมต้มตุ๋นคนเสื้อแดง

เท่ากับเปลือยธาตุแท้ของขบวนการทั้งหมด ตั้งแต่หนีคดีทุจริตโกงกินไปต่างประเทศ ปลุกระดมหลอกล่อให้คนเสื้อแดงออกมา อ้างอำมาตย์ อ้างสองมาตรฐาน แกนนำอ้างว่าพร้อมติดคุก อ้างสันติวิธี มีกองกำลังติดอาวุธ แก้วสามประการ ก่อจลาจลในบ้านเมือง ล้มการประชุมอาเซียน เผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหารฆ่าประชาชน ก่อการร้าย ทั้งหมดก็เพื่อต้องการจะให้มีการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย เพื่อทักษิณจะได้อาศัยล้างผิดไปด้วย 

ไม่ต่างกับ “เอาเลือดคนตายมาล้างผิดให้ทักษิณ”!

คิดได้อย่างไรว่าจะเกิดความปรองดอง

แบบนี้ ต่อไปใครจะเคารพกฎหมาย

พวกที่ไปกดดันข่มขู่อยู่หน้าศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ มันก็คิดใช่ไหมว่า ถึงทำผิดกฎหมายแล้วจะไม่ต้องรับผิดรับโทษ เพราะจะมีคนช่วย หรือจะได้รับนิรโทษกรรม?

อีกไม่นาน หากฝ่ายที่ไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณจะเอาบ้าง... ดิบมา-ดิบไป เถื่อนมา-เถื่อนไป ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน...ไม่รับอำนาจฝ่ายบริหาร ไม่รับอำนาจนายกฯ ไม่รับอำนาจสภา ไม่รับอำนาจตำรวจ ฯลฯ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร?

นายกฯ หน้ามึน กำลังเอาหายนะของประเทศชาติมาเป็นเดิมพันให้กับผลประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณและตระกูลชินวัตร

สารส้ม

 


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#4 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:28

ต้องคำนี้ค่ะ มันถึงจะจี๊ด.... จากคุณชัย ราชวัตร

 

164950_10151570861485742_1833233631_n1.jpg

 

472636_478339905571737_1459629581_o1.jpg


Edited by ดอกปีบ, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:37.

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#5 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:00

_00000000000000000000_~1.jpg

 

แจมด้วยค่ะ จากคุณณิชา ดีมากเลย

ยิ่งลักมั่วเหมารวมได้โล่


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#6 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:05

_00000000000000000000_~1.jpg

 

จากพี่กนก พี่ธีระ ค่ะ


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#7 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:08

ชินวัด วัวลืมตีน เป็นคน อกตัญญู

ได้ดีได้เพราะ รัดประหาน

If you try hard enough, you can be whatever you want to be.


#8 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:57

ตัวมันเอง ก็นั่งหัวโด่ สนับสนุนยั่วยุให้แดงมาชุมนุม เผาประเทศ ทำไมไม่บอกไปด้วย



#9 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:03

ตอบ วันนี้, 12:45

50297.jpg
คำกล่าวเปิดในเวทีประชาคมประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์ฟังเข้าใจหรือเปล่า สิ่งที่เขาพูดว่าคือตัวอย่างประเทศไทยเต็ม ๆ เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อเท่านั้นแหละ


(บางส่วน) Speech เปิดการประชุมของประธานาธิบดีมองโกเลีย
ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย
Credit: สถานี RTV1 สำนักข่าวออนไลน์ 24 ชั่วโมง


MR. TAKHIAGIIN ELBEGDORJ

....The trials and miseries of most of the countries which failed
or are being unsuccessful to build democracy
stem often times not from the people, but from bad governance.
Democratic orders in many cases are threatened and shattered
not by external factors, but by internal, from inside.
The losers of corruption are the people,
and winners are the corrupt officials.
Corruption, bad money and their dirty networks are powerful.
Corruption destroys people’s confidence in democracy.
Everyone knows that corruption and bad governance are
the mortal enemies of freedom and democracy.
Fighting corruption is the toughest test for officials in office.
Transition from rule of man to the rule of law
is one of the hardest challenges for any developing and aspiring state.
The state must serve not the power, but the people.
The same is true about the law. Judicial and public sector reforms,
the changes in the mindset of people do require time,
patience and persistence.
It’s been over 20 years since Mongolia began her strides
to democracy, yet there remain many issues pending solution........



(บวร ยสินทร :แปล)

.... จากประสบการณ์ของประเทศที่ล้มเหลว
หรือไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย
พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
หลักการประชาธิปไตยในหลายกรณีถูกคุกคามและทำลาย
ไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ และจากภายในตัวรัฐบาลเอง
ประชาชนเป็นผู้เสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง
โดยผู้ได้ประโยชน์ก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองผู้ทุจริตนั้น
การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินทุจริต และโครงข่ายที่สกปรกมักทรงพลัง
การทุจริตคอรัปชั่นนี่เอง คือ ตัวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
คือศัตรูตัวฉกาจของเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คือ บททดสอบที่แสนยากสำหรับทางการ
การที่จะเปลี่ยนจากการใช้กฎกติกาที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจมาเป็นการใช้กฎกติกาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในการพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยตามที่มุ่งมาดปรารถนา
รัฐต้องไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชน
เช่นเดียวกับกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปองค์กรสาธารณะก็เพื่อการรับใช้ประชาชน
การเปลี่ยนแปลงความนึกคิดเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลา
ด้วยความอดทนและความเพียร
กว่า 20 ปี ที่มองโกเลียก้าวเดินสู่ระบอบประชาธิปไตย
ก็ยังมีปัญหาอีกมากมายหลายประเด็นที่รอการแก้ไข ........


Plume Boonmartun ถ้านายกปูฟังรู้เรื่อง คงไม่พูดแบบนั้นออกไปให้ผู้นำนานาชาติฟัง เพราะสปีชของปธน.มองโกเลีย ชัดแล้ว ว่า เพราะมีรัฐบาลชั่วประชาธิปไตยจึงล้มเหลว
นภศร นุจรี ศิริมังคะโล นางจิ้งจอก มันโง่มันฟังเขาพูดรู้เรื่องหรือเปล่า ว่าเขาด่ามันกับโคตรมันว่าบริหารประเทศใด้เลวเนรคุณแผ่นดินสุดๆๆ มันยิ้มระรื่นบอกขอบคุณคะ่ควายเอ้ย
Tong Preechasak อันนี้คงยากเกินตัวอะมีบ้าที่ชื่อยิ่งลักษณ์จะเข้าใจ ขนาดนักข่าวถามตรงๆ มันยังงงกับคำถามนักข่าว ตระกูลนี้มีกรรม สมองพัฒนาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ค่อยๆ ขยับลงกลายเป็นสมองสัตว์เซลเดียว
กรกรด กดกฏกฎ อีดอกคงฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่อง ***ตอแหลความเลวของพี่โกงแผ่นดินถูกรัฐประหารหนีออกนอกประเทศ เขาฟังมันพูดเสร็จเขาคงสมน้ำหน้าคิดอยู่ในใจว่าพี่ชั่วน้องเลวสายเลือดมัน***ตอแหลข้ามชาติ ไม่น่าให้อีดอกเข้ามาประเทศเลยเสนียด***จริงๆๆๆๆๆกลัวเชื้อโกงแผ่นดินแปดเปื้อนประเทศเขา

 

อันนี้แร๊งส์


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#10 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:04

  >>> ผิด....เขาไม่เรียก..ปาฐกถา...

 

>>> เขาเรียก.( โฆษณา สกุลชิน)...  



#11 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:08

"สุดยอดการขายแห่งปี-ของปู"
 
30 April 2556 - 00:00

  การ "โกหก" ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นสิ่งจำเป็นด้วยซ้ำในการเจรจาความบ้าน-ความเมือง เขาเรียกการโกหกแบบนั้นว่า "กุศโลบาย" ความหมายตรงตัวคือ "โกหกเพื่อชาติ" แต่การ "เอาชาติไปโกหก" ในการพูดจาความบ้าน-ความเมือง เขาเรียกว่า "อกุศโลบาย" ความหมายตรงตัวคือ "ตอแหลขายชาติ" ส่วนจะขายเพื่อเป้าประสงค์ใด ก็ขึ้นอยู่กับจิตเจตนาผู้แหล จะ "ตอแหลเพื่อตัวเอง" หรือ "ตอแหลเพื่อตระกูล" ก็...สุดแต่กรณี!
    ครับ..ที่ยกมาพูดนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ตัดเล็บขบเสร็จ หยิบปฏิทินโหราศาสตร์ ประจำปี ๕๖ ของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ที่เจ๊ผม "คุณสุชาดี มณีวงศ์" แห่ง "กระจกหกด้าน" รายการดีคู่ช่อง ๗ สี จัดหามาให้ทุกปี ขึ้นมาพลิกๆ ดู ก็อ้อ...อย่างนี้นี่เอง...
    "ดาวพุธ" มันเสียน่ะครับ!
    เสียเพราะอะไร เพราะโจรและมหาโจรซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงออกฤทธิ์ชักนำให้เป็นไป ก่อนที่จะสิ้นฤทธิ์พากันชักแหง็กๆ ในบั้นปลาย เข้าตามเศษตำราทศกัณฐ์เสียเมือง "ปากเป็นเอก-เลขเป็นโท-มณโฑเป็นสตรี-อัปรีย์เป็นรัฐบาล"
    จำกันไว้นะครับ ตอนนี้ดาวพุธ คือปาก คือคำพูด-คำจา คือเอกสารสัญญา "อยู่ในอำนาจโจร" ควบคุม ใครจะไปเซ็นสัญญา ไปออกกฎหมาย ไปสู้คดีความ ไปสปีช ไปให้สัมภาษณ์ ไปวาดลวดลายทั้งคำพูดทั้งการขีดการเขียน กระทั่งใครจะเมนต์-ไปเมาธ์อะไรตามเว็บก็เถอะ
    ควร "ตั้งสติก่อนทำ!"
    อย่าเอามัน เอาซ่า ที่หาความรับผิดชอบไม่ได้เป็นที่ตั้ง พาดพลั้งลงไป จะเสียมากกว่าได้ อัดอั้นตันใจไว้ ดีกว่าต้องกล่าวคำว่า "เสียใจ" กับคำพูด-คำจา กับที่เขียนขีด กับที่เมนต์อวดเก่งกล้า ด่าเลอะเทอะไม่เลือกหน้า ไม่มีใครเก่งกว่า-ดีกว่าตัวข้าเองซักคน
    เออ...นี่ นายกฯ หญิงของเรากลับจากอูลัน บาตอ มองโกเลีย แล้วกระมัง (๒๙ เม.ย.๕๖) ยามไม่อยู่...ไม่เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียงหวานๆ วลีท่องเด็ดๆ มาให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ก็คิดถึง เมื่อกลับมาสิงบ้าน-สิงเมืองตามเดิมก็ดีแล้ว จะได้เห็นหน้า-ได้ยินคำพูดคำจาประหลาดๆ 
    ทำให้ชีวิตผมมีชีวาขึ้นเยอะเลย!
    ดูเหมือนการกลับจากเยือนอูลัน-บาตอของนายกฯ หญิงหนนี้ กลับแบบ "เสียงมาก่อนตัว" เรียกว่าดังระเบิด-ระเบ้อ ก่อนที่ตัวเป็นๆ จะกลับมาปรากฏให้เห็น ขนาดนั้นเชียว
    ก็จะไม่ดังระเบิดได้ไง อยู่เมืองไทย เป็นนายกฯ เข้าปีที่ ๒ ยังพูดไทยได้ไม่กี่คำ บูรณาการบ้าง เอาอยู่บ้าง ไม่ทราบค่ะบ้าง ยังไม่ได้รับรายงานบ้าง เรื่องของสภา สั่งอะไรไม่ได้บ้าง  ๓ เสาหลักต้องถ่วงดุลเพื่อให้เกิดความสมดุลบ้าง แดงล้อมศาลเป็นสิทธิ์ตามประชาธิปไตยบ้าง 
    แต่ไปมองโกเลียวัน-สองวัน นายกฯ ขวัญใจผม แสดงวิสัยทัศน์ทางการเมือง ว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยยิ่งกว่านกแก้ว-นกขุนทองกินพริกซักกำมือ เรียกว่าเจื้อยแจ้วตามร่างเป็นภาษาฝรั่งตั้ง ๔-๕ หน้ากระดาษ ไม่เพียงกราวหน้าพาทย์ประชาธิปไตยทั่วๆ ไป
    ยังยกตัวอย่างเหตุการณ์โจรเผาบ้าน-เผาเมืองในเมืองไทยไปผสมสี-ตีไข่ ใช้ความจริงเป็นกระสาย ๑ ส่วน เอาความเท็จ ๙ ส่วนยำเข้าไป ร่ายเป็นสปีช ปฏิบัติการ "แดงทั้งแผ่นดิน" คือประชาธิปไตยที่ถูกต้องของเมืองไทย  เรียกว่า ถลกเนื้อ-เถือหนัง แล้วลากไส้-ลากพุง ประเทศตัวเองออกมากองขายกลางเมืองอูลัน-บาตอ
    จะฉายหนังตัวอย่างให้ดู เอาพากษ์ไทยเวอร์ชั่น "เฟซบุ๊กนายกฯ" นั่นแหละ!
    ...........ในปี 1997 ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งร่างขึ้นโดยที่ประชาชนมีส่วนร่วม เราทุกคนคิดว่ายุคใหม่ของประชาธิปไตยไทยมาถึงแล้ว และจะเป็นยุคสมัยที่ไร้การรัฐประหาร
    แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึงสองครั้งสองหนด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกล้มลงในปี 2006 ประเทศไทยเสมือนรถไฟตกรางและประชาชนคนไทยใช้เวลาเกือบ 10 ปีกว่าที่จะได้เสรีภาพแห่งประชาธิปไตยกลับคืนมา
    หลายคนที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้รู้ว่ารัฐบาลที่ดิฉันพูดถึง คือรัฐบาลที่พี่ชายของดิฉัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    หลายคนที่ไม่รู้จักดิฉัน อาจบอกว่า เธอจะบ่นไปทำไม? เป็นเรื่องปกติในกระบวนการการเมืองที่รัฐบาลมาแล้วก็ไป ซึ่งหากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง
    แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเป็นไปที่เกิดขึ้น จากการรัฐประหารประเทศไทยต้องถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติ หลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการและแผนงานที่พี่ชายของดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป
    คำว่า “ไทย” หมายความว่า “อิสระ” และประชาชนคนไทยก็ได้ลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืนมา แต่ในเดือนพฤษภาคม 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 91 คน ในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ
    คนบริสุทธิ์ถูกลอบยิงโดยสไนเปอร์ แกนนำการชุมนุมต้องติดคุกหรือหลบหนีไปต่างประเทศ และแม้แต่ทุกวันนี้ยังคงมีเหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ติดคุกอยู่
    ประชาชนคนไทยไม่ท้อถอยและยืนยันที่จะเดินไปข้างหน้า จนในที่สุดรัฐบาลในขณะนั้นต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งก็มีฝ่ายปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยที่เชื่อว่าจะบริหารจัดการและบิดเบือนเจตนารมณ์ประชาธิปไตยได้ต่อ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของประชาชนได้ ดิฉันได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบ
    มีความชัดเจนว่าผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่ รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย
    ตัวอย่างหนึ่งที่ดีในประเด็นนี้ จะเห็นได้จากที่จำนวนครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาไทยมาจากการเลือกตั้ง แต่อีกครึ่งหนึ่งกลับได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง 
    ยิ่งกว่านั้น กลไกที่เรียกว่าองค์กรอิสระได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง เป็นการดำเนินการเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่าเพื่อคนส่วนใหญ่ของสังคม........ฯลฯ.........
    พอหอมปาก-หอมคอนะครับ หรือจะเหม็นก็ไม่รู้นะ ตัดไปตอนจบของสปีชเลย.......
    ดิฉันขอปิดท้ายด้วยการประกาศว่า ดิฉันหวังว่าความเจ็บปวดที่ครอบครัวของดิฉันได้รับ  ที่ครอบครัวของเหยื่อทางการเมืองไทย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 91 คน ในเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ต้องเผชิญ จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทย 
    ขอให้เราทุกคนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อที่เสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์ได้รับการปกปักรักษาเพื่อลูกหลานและคนรุ่นต่อๆ ไป
    นี่แหละปาฐกถานายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์-เกินอภัย ไร้กาละ-เทศะ ไม่รู้อะไรควร-อะไรไม่ควร ไม่รู้จักแยกแยะ ไหน..ส่วนชาติ-ไหน..ส่วนตน สรุปได้อย่างเดียว...นี่คือเจตนา ด้วย "จงใจ"!
    ที่ซ้ำร้าย นำเหตุการณ์จริงไปบิดเบือนเพื่อตน-เพื่อครอบครัวตน จากขาวเป็นดำ จากหน้ามือเป็นหลังเท้า กับสิ่งจริงที่ประจักษ์ตา-ประจักษ์ใจ อันชาวโลกได้รับรู้ "ความเป็นจริง" จากข่าวสารยุคดาวเทียม ผ่านไปเมื่อ ๒-๓ ปีนี่เอง 
    ผมขยะแขยง ด้วยรังเกียจที่จะโต้แย้ง-แจงชี้กับสิ่งที่เรียกว่า...นี่คือคำพูดของนายกรัฐมนตรีประเทศหนึ่ง ที่นำประเทศตัวเองไปแบขายตลาด 
    ขายด้วยตอหลดตอแหลในวาจา เพื่อแลกผลประโยชน์ที่ตัวเองระบุ..........."ตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว"!
    ไฟใน-ผู้นำประเทศเป็นฝ่ายนำออกไปเสียเอง ซ้ำไฟนอก-เจ้าพี่ชาย และพวกสมุนบริวารก็เป็นฝ่ายนำเข้ามา สรุปเป็นว่า...ประเทศไทย ไม่มีใครที่ไหนเอาไปขาย 
    ผู้นำไทยนั่นแหละ...ขายมันซะเอง!
    ทุกคนรู้ ที่ยิ่งลักษณ์ขึ้นไปอ่าน "ขายประเทศ" นั้น เป็นภาษาอังกฤษที่ "ตัวการ" ร่างให้อ่าน ประสานแผนปลุกปั่นยึดประเทศผ่านขั้นตอน "ล้มสถาบันตุลาการ" ขณะนี้ ผมไม่ข้องใจตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ คือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เพราะเขาทำอย่างนี้ได้
    แต่ข้องใจจริงๆ ข้าราชการตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงลงมา ท่านยอมให้เหตุการณ์บัดซบ-บัดสีอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
    จะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจสัมปทาน "ร่วมทุนขายชาติ" กันอย่างนั้นหรือ?.


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#12 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:18

แม้วโกเลีย

  • จาก โพสต์ทูเดย์
 

โดย...ธนก บังผล

 

อุบร๊ะ สวยสยองขนลุกขนพองข้ามประเทศเชียวละครับแม่คุณเอ๊ย

ที่มองโกเลียมีดีอะไร โย่วๆ ทำไมทำให้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มิสการเมืองไทยที่ไปสันถวไมตรีสัญจรคราวนี้ เกิดผิดผีขึ้นมาซะอย่างนั้น

จะว่านายกฯ ปูหลุด ต๊าย ตาย เป็นสาวเป็นแส้ รักษากิริยามาตั้งนาน ไม่น่าจะใช่

ครับ ผมคิดว่าบรรดาฮาร์ดคอร์การเมืองคงได้ทั้งสดับตรับอ่านกันมามากพอสมควร ลองเอาข่าวมาสะเด็ดน้ำกันบ้างพอหอมปากหอมคอดูนะสักหน่อย บ่นกันขรมเชียวว่าอยู่ดีดี๊ คุณยิ่งลักษณ์เอาเรื่องการแตกความสามัคคีในบ้านไปเมาท์ให้ชาวต่างชาติฟังบนเวทีอย่างนี้ หมายฟามว่าไง

ผมอ่านไปอ่านมาอยู่หลายตลบ คำพูดคำจามันคุ้นๆ อ่ะ...ใช่เลย แผ่นเสียงตกร่องอย่างนี้ เป๊ะ นี่มันช่างละม้ายความในใจของคุณทักษิณ ชินวัตร พ่อนกขมิ้นไร้รังนอนเสียนี่กระไร

อารมณ์ตัดพ้อด่าทอฝ่ายการเมืองฝั่งตรงข้ามเนี่ย มันผิดวิสัยนายกฯ คนสวยที่เคยประพฤติมาโดยตลอด อ่ะ นี่ผมยืนอยู่ข้างคุณยิ่งลักษณ์ล้านเปอร์เซ็นต์เลย จริงจริ๊ง ไม่ได้โม้

ไม่เชื่อเหรอครับ ลองตรองดู โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ...“หากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง”

โถๆๆๆ คุณยิ่งลักษณ์ เธอเคยเอ่ยปากเรื่องครอบครัวของเธอสักคำหรือเปล่าครับ ไม่เลย เงียบกริ๊บ แล้วใครละครับชอบเอาครอบครัวตัวเองมาออกสื่อ ใครเอ่ย? ใช่...เขาละ งุงิ งุงิ

ปฏิบัติการเป็นทีม พ่อโยน ลูกเสิร์ฟ อาชง น้องตบ ครอบครัวหรรษาลั้นลา มีทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่ไม่ยักกะเคยเห็นเขาคุยกันเองบ้างเลยนิ ฮ่าๆ หรือแม้กระทั่ง การเอ่ยอ้างถึงเดือน พ.ค. 2553 อย่างมีนัย อั้ยย่ะ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณยิ่งลักษณ์เธอยังไม่ประสาอะไรเลยนะครับ ยังไม่ลงสมัครเลือกตั้งด้วยซ้ำ

นั่นละครับ เพราะผมเชียร์คุณยิ่งลักษณ์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ใจหนึ่งก็ประหวัดคิดไปว่า เอ๊ะ หรือนั่นคือสวยซ่อนเหลี่ยมฮ่าๆ

ก็แหม...ไหนจะต้องเอาใจพี่น้องเสื้อแดงที่บุกไปเฝ้าหน้าศาลรัฐธรรมนูญเอย ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเอย ต้องเห็นใจว่าคุณยิ่งลักษณ์เธอเหนื่อยครับ

ความรู้สมัยเด็กๆ เลือนรางว่าความหนาแน่นประชากรที่นั่นน้อยที่สุดในโลก เรียกได้ว่าโหวงเหวงผีหลอก โอ้ว...นี่มันรายการคนอวดผีชัดๆ ตอนเธออยู่ในประเทศไทยเธอพูดอยู่ไม่กี่คำเอง กล้าพูดอย่างนี้ซะที่ไหน

อีกอย่างคือชาวมองโกลส่วนใหญ่เป็นพวกเร่ร่อน ในปีหนึ่งๆ นั้นเขาจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ บ้างก็มากถึง 20 ครั้ง

นั่นไง เป๊ะอีกละ เหมือนใครครับ ย้ายที่นอนไปเรื่อยๆ เนี่ย คริๆ แม้วโกเลีย


Edited by Tatiana, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:21.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#13 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:29

 
942355_282438738558217_1674631443_n.jpg
อ.สมเกียรติ สอน ปู ให้จักรู้องค์กรอิสระ

องค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปฏิรูปการเมือง

"องค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ"เกิดมาตามที่ประชาชนต้องการให้บัญญัติไว้ในรัฐธรรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ. 2540 แล้วใช้ต่อเนื่องมาในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 เพื่อทำงานอย่างอิสระในนามรัฐ โดยมิให้รัฐบาลแทรกแซง องค์อิสระเกิดขึ้นเพื่อให้เป็นอิสระจากรัฐบาลที่ทุจริตคดโกงและลุแก่อำนาจที่ปรากฏก่อนปี 2540 จึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปฏิรูปการเมืองในปี 2540 ที่ให้องค์กรอิสระมาจากคัดเลือกและแต่งตั้งโดยวุฒิสภา ซึ่งเป็นวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ทำนองเดียวกันกับที่รัฐบาลมาจากสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเช่นกัน
เมื่อถึงเวลาใดที่รัฐบาลโปร่งใสบริสุทธิ์ ไม่ทุจริตคอรัปชั่น เป็นที่ไว้วางใจของพลเมืองได้ในระยะยาว ก็สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกองค์กรอิสระได้

รัฐบาลที่ซื่อสัตย์โปร่งใสไม่ทุจริตคอรัปชั่นและไม่ลุแก่อำนาจย่อมจะพอใจที่มีองค์กรอิสระมาช่วยงาน
รัฐบาลที่ทุจริตคดโกงและลุแก่อำนาจ ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน แต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพรรคการเมืองของตนก็จะถูกองค์กรอิสระช่วยถ่วงดุลย์ให้ประชาชนมีที่พึ่งอีกทางหนึ่ง

ศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครอง, ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรตำแหน่งทางการเมือง จึงเกิดขึ้นแต่แรกเริ่มตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 โดยเหล่า สสร.นำแบบอย่างมาจากรัฐธรรมนูญในยุโรปและบางประเทศในเอเชีย
องค์กรฯอิสระในปัจจุบันมาจากวุฒิสถาที่มีทั้งที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและแต่งตั้ง ขณะเดียวกันก็มีอำนาจแทรกแซงจากฝ่ายนักการเมืองพรรคต่างๆทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้องค์กรอิสระเริ่มถูกวิจารณ์เชิงลบมากขึ้น

การตำหนิวิพากษ์องค์กรฯอิสระโดยท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สมเกียรติ อ่อนวิมล
สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
จังหวัดสุพรรณบุรี
พ.ศ. 2540

ที่มา แนวหน้า


 

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#14 noswords

noswords

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 543 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:30

ตัว Speech ครับ

Credit จากคุณ redbuffalo0110

ที่มา: http://www.thairath....tent/pol/341911

และ http://www.ptp.or.th...px?news_id=4989

 

 

คำแปลปาฐกถาพิเศษ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประชุมประชาคมประชาธิปไตย อูลัน บาตอ, มองโกเลีย 29 เมษายน 2013

 

                

คำแปลปาฐกถาพิเศษ

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร

การประชุมประชาคมประชาธิปไตย

อูลัน บาตอ, มองโกเลีย

29 เมษายน2013

 

ท่านประธาน,

ท่านผู้มีเกียรติ,

ท่านผู้เข้าร่วมประชุม,

 

ดิฉันขอเริ่มด้วยการขอบคุณท่านประธานาธิบดีแห่งมองโกเลียที่ได้เชิญให้ดิฉันมาปาฐกถา ณ การประชุมประชาคมประชาธิปไตยแห่งนี้

 

ดิฉันได้ตอบรับเชิญไม่เพียงเพราะดิฉันต้องการที่จะได้มีโอกาสเยือนมองโกเลีย ประเทศที่ประสบความสำเร็จในความเป็นประชาธิปไตย หรือไม่ได้มาเพียงที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย แต่ดิฉันเดินทางมาที่นี่เพราะความเป็นประชาธิปไตยมีความสำคัญต่อดิฉันอย่างมาก และที่สำคัญยิ่งกว่าคือความไม่เป็นประชาธิปไตยมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศบ้านเกิดของดิฉัน ประเทศไทยที่ดิฉันรัก

 

ประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่เป็นแนวคิดอุดมการณ์ใหม่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมายาวนานแนวทางประชาธิปไตยได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าและความหวังสำหรับผู้คนจำนวนมาก และในขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาและสร้างความเป็นประชาธิปไตย

 

เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ไม่ได้ได้มาฟรีๆ สิทธิ เสรีภาพ และความเชื่อที่ว่า มนุษย์ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงมีความเท่าเทียมกันนั้นได้มาด้วยการต่อสู้ และที่น่าเศร้าใจคือ ทำให้ต้องมีผู้เสียชีวิต

 

ทำไม ถึงเป็นเช่นนั้นหรือ? ก็เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยในโลกนี้ที่ไม่เชื่อในแนวคิดประชาธิปไตย  คนเหล่านี้พร้อมที่จะให้ได้มาด้วยอำนาจและด้วยการกดขี่การมีเสรีภาพ นั่นหมายความว่าพวกเขาพร้อมที่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น เขาไม่เคารพสิทธิมนุษยชนหรือความเสรีภาพ พวกเขาพร้อมจะใช้กำลังเพื่อกดขี่ให้คนอยู่ใต้อำนาจ และยังใช้อำนาจในทางที่ผิด สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นในอดีตและยังคงท้าทายเราทุกคนในปัจจุบัน

 

มีหลายประเทศที่ความเป็นประชาธิปไตยได้หยั่งรากลึกแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเป็นความรู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นกระแสประชาธิปไตยที่นำความเปลี่ยนแปลงสู่ประเทศต่างๆ จากปรากฏการณ์อาหรับสปริงค์ถึงช่วงผ่านเปลี่ยนในเมียนมาร์ภายใต้ผลักดันของประธานาธิบดี เต็ง เส่ง รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของดิฉัน ด้วยพลังของประชาชนคนไทยที่ทำให้ดิฉันมายืนอยู่ที่นี่ได้ในวันนี้

 

ใน ระดับภูมิภาค หลักการสำคัญๆในปฏิญญาอาเซียนก็ยึดมั่นในหลักนิติธรรม, ประชาธิปไตย และรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกันเราทุกคนต้องระมัดระวังว่าแรงปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตย ไม่เคยที่จะถดถอยลดน้อยลง ดิฉันขอยกเรื่องของดิฉันเองเป็นอุทาหรณ์

 

ในปี1997 ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งร่างขึ้นโดยที่ประชาชนมีส่วนร่วม เราทุกคนคิดว่ายุคใหม่ของประชาธิปไตยไทยมาถึงแล้ว และจะเป็นยุคสมัยที่ไร้การรัฐประหาร

 

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึงสองครั้งสองหนด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกล้มลงในปี 2006 ประเทศไทยเสมือนรถไฟตกรางและประชาชนคนไทยใช้เวลาเกือบ10 ปีกว่าที่จะได้เสรีภาพแห่งประชาธิปไตยกลับคืนมา

 

หลายคนที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้รู้ว่ารัฐบาลที่ดิฉันพูดถึงคือรัฐบาลที่พี่ชายของดิฉัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

หลายคนที่ไม่รู้จักดิฉัน อาจบอกว่า เธอจะบ่นไปทำไม? เป็นเรื่องปกติในกระบวนการการเมืองที่รัฐบาลมาแล้วก็ไป ซึ่งหากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง

 

แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเป็นไปที่เกิดขึ้น จากการรัฐประหารประเทศไทยต้องถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติ หลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการและแผนงานที่พี่ชายของดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป

 

คำว่า “ไทย” หมายความว่า “อิสระ” และประชาชนคนไทยก็ได้ลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืนมา แต่ในเดือนพฤษภาคม 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง91 คนในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ

 

คน บริสุทธิ์ถูกลอบยิงโดยสไนป์เปอร์ แกนนำการชุมนุมต้องติดคุกหรือหลบหนีไปต่างประเทศ และแม้แต่ทุกวันนี้ยังคงมีเหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อ ประชาธิปไตยที่ติดคุกอยู่

 

ประชาชน คนไทยไม่ท้อถอยและยืนยันที่จะเดินไปข้างหน้า จนในที่สุดรัฐบาลในขณะนั้นต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งก็มีฝ่ายปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยที่เชื่อว่าจะบริหารจัดการและบิด เบือนเจตนารมณ์ประชาธิปไตยได้ต่อ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของประชาชนได้ ดิฉันได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ขอประเทศ แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบ

 

มีความชัดเจนว่าผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่ รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย

 

ตัวอย่าง หนึ่งที่ดีในประเด็นนี้ จะเห็นได้จากที่จำนวนครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาไทยมาจากการเลือกตั้ง แต่อีกครึ่งหนึ่งกลับได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มคนเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ยิ่งกว่านั้น กลไกที่เรียกว่าองค์กรอิสระได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่ แท้จริงเป็นการดำเนินการเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหนึ่งมากกว่าเพื่อคนส่วน ใหญ่ของสังคม

 

นี่ คือความท้ายทายของประชาธิปไตยไทยในปัจจุบัน ดิฉันนั้นต้องการเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในประเทศไทยและประชาธิปไตยของไทย พัฒนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยหลักนิติธรรมและกระบวนการทางกฎหมายที่ แข็งแรงมีขั้นตอนที่ชัดเจนโปร่งใสและเมื่อนั้นทุกคนจะสามารถมั่นใจได้ว่าเขา จะได้รับการดูแลที่ยุติธรรม เจตจำนงนี้ ดิฉันได้แสดงออกโดยประกาศเป็นนโยบายต่อที่ประชุมของรัฐสภา ก่อนการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

 

ความ มีประชาธิปไตยทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเมือง เกิดสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดการลงทุน นำมาสู่การสร้างงานสร้างรายได้ ที่สำคัญดิฉันเชื่อว่าเสรีภาพทางการเมืองเป็นการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้วยการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจและนำมาซึ่งการลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างคนจน คนรวย

 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นความสำคัญที่จะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับประชาชนในระดับรากหญ้า เราจะต้องเดินหน้าปฏิรูปการศึกษา เพราะการศึกษาสร้างโอกาสด้วยความรู้ และปลูกฝังวัฒนธรรมทางประชาธิปไตยในวิถีชีวิตของประชาชน

 

เมื่อประชาชนมีความรู้ ประชาชนจะสามารถตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถปกป้องความเชื่อของตนจากผู้ที่ต้องการกดขี่ และนี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนข้อเสนอของมองโกเลียในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติเกี่ยวกับการศึกษาและประชาธิปไตย

 

การลดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนก็สำคัญเช่นกันมนุษย์ทุกคนควรมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน เราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งนี้จะทำให้ประชาชนเป็นผู้มีส่วนร่วมที่แท้จริงในการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างประชาธิปไตยของประเทศ

 

นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลต้องริเริ่มนโยบายที่จะเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสร้างชีวิตที่ดีกว่า และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ดิฉันได้เริ่มต้นไว้หลายโครงการ รวมถึงการสร้างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และวิสาหกิจขนดกลางขนาดย่อม ในขณะที่ได้กำหนดมาตรการยกระดับรายได้ของเกษตรกร

 

และดิฉันเชื่อว่าเราต้องการการนำที่มีประสิทธิภาพและมีความสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและหลักนิติธรรมตลอดจนความสร้างสรรค์ในการหาทางออกที่สันติในการแก้ไขปัญหาของประชาชน

 

เราต้องการการนำที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในซีกรัฐบาลแต่ในฝ่ายค้านและประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกคนต้องเคารพกฎหมายและช่วยกันสร้างประชาธิปไตย

 

ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ,

 

อีกบทเรียนที่ได้เรียนรู้คือเพื่อนในต่างประเทศมีความสำคัญ การกดดันจากนานาชาติที่เชื่อในระบอบประชาธิปไตยทำให้กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทยคงอยู่ได้ การคว่ำบาตรและการไม่ยอมรับเป็นกลไกที่สำคัญที่จะหยุดกระบวนการปฏิกิริยาที่ต่อต้านประชาธิปไตย

 

เวที นานาชาติอย่างประชาคมประชาธิปไตยแห่งนี้มีบทบาทที่จะช่วยให้ประชาธิปไตยยืน หยัดอยู่ได้ การส่งเสริมและปกป้องประชาธิปไตยด้วยการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์และสร้างความร่วมมือ หากประเทศใดก็ตาม ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ทุกคนต้องร่วมกันกดกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงและนำเสรีภาพกลับคืนสู่ประชาชน

ดิฉันขอยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนเวที่นี้เวทีนี้และการดำเนินงานของสภาบริหาร ( Governing Council ) เพื่อจะได้ช่วยให้ประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้นทั่วโลกนอกจากนี้ ดิฉันขอชื่นชมประธานาธิบดีมองโกเลียสำหรับข้อริเริ่มความเป็นหุ้นส่วนเอเชียเพื่อประชาธิปไตย ( Asian Partnership Initiative for Democracy ) และทางรัฐบาลไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือในส่วนนี้

 

ท่านผู้มีเกียรติ,

 

ดิฉันขอปิดท้ายด้วยการประกาศว่า ดิฉันหวังว่าความเจ็บปวดที่ครอบครัวของดิฉันได้รับ ที่ครอบครัวของเหยื่อทางการเมืองไทย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 91 คนในเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม2553 ต้องเผชิญจะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทย

 

ขอให้เราทุกคนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อที่เสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์ได้รับการปกปักษ์รักษาเพื่อลูกหลานและคนรุ่นต่อๆไป

 

ขอบคุณค่ะ

 

  Embargoed Until 09.00 hrs., 29 April 2013 Please Check Against Delivery

 

Statement

of

Her Excellency Ms. Yingluck Shinawatra

Prime Minister of the Kingdom of Thailand

at the 7th Ministerial Conference of the Community of Democracies

Ulaanbaatar, Mongolia, 29 April 2013

--------------------------------

 

Mr. Chairman,

Excellencies,

Delegates to the Conference,

Ladies and Gentlemen,

 

                   I wish to begin by expressing my appreciation to His Excellency the President of Mongolia for inviting me to speak at this Conference of the Community of Democracies. 

 

I accepted this invitation not only because I wanted to visit a country that has made many achievements regarding democracy, or to exchange ideas and views on democracy. But I am here also because democracy is so important to me, and more importantly, to the people of my beloved home, Thailand.

 

Democracy is not a new concept. Over the years, It has brought progress and hope to a lot of people. At the same time, many people have sacrificed their blood and lives in order to protect and build a democracy. 

 

A government of the people, by the people and for the people does not come without a price.  Rights, liberties and the belief that all men and women are created equal have to be fought, and sadly, died for.

 

Why? This is because there are people in this world who do not believe in democracy. They are ready to grab power and wealth through suppression of freedom.  This means that they are willing to take advantage of other people without respecting human rights and liberties.  They use force to gain submission and abuse the power.  This happened in the past and still posed challenges for all of us in the present.

 

In many countries, democracy has taken a firm root.  And it is definitely refreshing to see another wave of democracy in modern times, from Arab Spring to the successful transition in Myanmar through the efforts of President Thein Sein, and also the changes in my own country where the people power in Thailand has brought me here today.

 

At the regional level, the key principles in the ASEAN Charter are the commitment to rule of law, democracy and constitutional government.  However, we must always beware that anti-democratic forces never subside. Let me share my story.

 

                    In 1997, Thailand had a new constitution that was created through the participation from the people.  Because of this, we all thought a new era of democracy has finally arrived, an era without the cycle of coups d’?tat.

 

It was not to be.  An elected government which won two elections with a majority was overthrown in 2006. Thailand lost track and the people spent almost a decade to regain their democratic freedom.

 

Many of you here know that the government I am talking about was the one with my brother, Thaksin Shinawatra, as the rightfully elected Prime Minister. 

 

Many who don’t know me say that why complain?  It is a normal process that governments come and go. And if I and my family were the only ones suffering, I might just let it be. 

 

But it was not.  Thailand suffered a setback and lost international credibility. Rule of law in the country was destroyed. Projects and programmes started by my brother’s government that came from the people’s wishes were removed. The people felt their rights and liberties were wrongly taken away.

 

Thai means free, and the people of Thailand fought back for their freedom. In May 2010, a crackdown on the protestors, the Red Shirts Movement, led to 91 deaths in the heart of the commercial district of Bangkok. 

 

Many innocent people were shot dead by snipers, and the movement crushed with the leaders jailed or fled abroad.  Even today, many political victims remain in jail.

 

However, the people pushed on, and finally the government then had to call for an election, which they thought could be manipulated. In the end, the will of people cannot be denied. I was elected with an absolute majority.  

 

But the story is not over. It is clear that elements of anti-democratic regime still exist. The new constitution, drafted under the coup leaders led government, put in mechanisms to restrict democracy.

 

A good example of this is that half of the Thai Senate is elected, but the other half is appointed by a small group of people. In addition, the so called independent agencies have abused the power that should belong to the people, for the benefit of the few rather than to the Thai society at large.

 

This is the challenge of Thai democracy.  I would like to see reconciliation and democracy gaining strength. This can only be achieved through strengthening of the rule of law and due process. Only then will every person from all walks of life can feel confident that they will be treated fairly. I announced this as part of the government policy at Parliament before I fully assumed my duties as Prime Minister.

 

Moreover, democracy will also promote political stability, providing an environment for investments, creating more jobs and income. And most importantly, I believe political freedom addresses long term social disparities by opening economic opportunities that would lead to reducing the income gap between the rich and the poor.

 

That is why it is so important to strengthen the grassroots. We can achieve this through education reforms. Education creates opportunities through knowledge, and democratic culture built into the ways of life of the people.

 

Only then will the people have the knowledge to be able to make informed choices and defend their beliefs from those wishing to suppress them. That is why Thailand supported Mongolia’s timely UNGA resolution on education for democracy.  

 

Also important is closing gaps between rich and poor. Everyone should be given opportunities and no one should be left behind.  This will allow the people to become an active stakeholder in building the country’s economy and democracy. 

 

That is why my Government initiated policies to provide the people with the opportunities to make their own living and contribute to the development of our society. Some of these include creating the Women Development Fund, supporting local products and SMEs as well as help raising income for the farmers.

 

And I believe you need effective and innovative leadership. Effective in implementing rule of law fairly. Innovative in finding creative peaceful solutions to address the problems of the people.

 

You need leadership not only on the part of governments but also on the part of the opposition and all stakeholders. All must respect the rule of law and contribute to democracy.

 

Ladies and Gentlemen,

 

Another important lesson we have learnt was that international friends matter.  Pressure from countries who value democracy kept democratic forces in Thailand alive. Sanctions and non-recognition are essential mechanisms to stop anti-democratic regimes.

 

An international forum like Community of Democracies helps sustain democracy, seeking to promote and protect democracy through dialogue and cooperation.  More importantly, if any country took the wrong turn against the principle of democracy, all of us here need to unite to pressure for change and return freedom to the people.

 

 I will always support the Community of Democracies and the work of the Governing Council.  I also welcome the President’s Asian Partnership Initiative for Democracy and will explore how to extend our cooperation with it.

 

Ladies and Gentlemen,

 

I would like to end my statement by declaring that, I hope that the sufferings of my family, the families of the political victims, and the families of the 91 people, who lost their lives in defending democracy during the bloodshed in May 2010, will be the last.

 

Let us continue to support democracy so that the rights and liberties of all human beings will be protected for future generations to come!

 

Thank you. 


What is a rebel? - A man who says NO!Albert Camus


#15 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:48

ขอบคุณค่ะ คุณ noswords ดิฉันน่าจะเอาปาฐกถานี้เริ่มต้นกระทู้ ลืมซะนิ


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#16 noswords

noswords

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 543 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:27

ขอบคุณค่ะ คุณ noswords ดิฉันน่าจะเอาปาฐกถานี้เริ่มต้นกระทู้ ลืมซะนิ

 

ไม่เป็นไรครับ

ขอยกเครดิตให้คุณ redbuffalo0110 ที่เอื้อเฟื้อลิงค์ในกระทู้ ครม.มีมติให้นำสุนทรพจน์ ที่... ซึ่งผมตามหาต้นฉบับที่นังยกใช้พล่ามอยู่เหมือนกันครับ


Edited by noswords, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:37.

What is a rebel? - A man who says NO!Albert Camus


#17 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:04

ตอบ วันนี้, 15:14 ด้วยอภินันทนาการจากคุณ lovelygam

 

ลีน่าจังจัดหนักซ้ำๆ ย้ำๆ หูย...ขนลุกเบย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

โปรดระวังฟังเสร็จต้องล้างหู บ่องตง


Edited by Tatiana, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:09.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#18 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:08

กรุณา unlike my comment in this topic

thank u

จะได้ไม่รำคาญ

If you try hard enough, you can be whatever you want to be.


#19 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:14

กรุณา unlike my comment in this topic

thank u

จะได้ไม่รำคาญ

ไรกันเนี่ยะ ตามมาหลอกหลอนนอกมู้เชียวเหรอจ๊ะ แค่บ่นรำคาญเล็กๆหน่อยเดียว ไม่ unlike หรอก like แล้ว like เลย จุ๊บๆ :P  :P  :P


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#20 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:23

264325_4131026893193_695217394_n.jpg

 

คุณปู่วสิษฐ เดชกุญชรด้วยค่ะ


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#21 P.K.

P.K.

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 38 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:26

โอ้โห.! ! ! !   นี่่นังปูมันกำลังชักชวนให้นานาชาติเข้ามาร่วมกดดันคว่ำบาตรกับคนไทยที่ไม่ยอมรับพฤติกรรมการบริหารอย่างเลวครบทุกตัวของตระกูลชินวัตรอยู่หรือ โคตรเนรคุณ!!... มันเอาชีวิตเลือดเนื้อสาวกเสื้อแดงเป็นเกราะเป็นกำแพงกำบังความเลวที่ขี้ขลาดของคนในตระกูลมัน*** เสื้อแดงที่เป็นคนไทยเลิกโง่เสียที.........ที่ตายในเหตุชุมนุมมีชื่อของคนในตระกูลชินวัตรไหม........



#22 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:27

ไปเจอที่เฟซของเพื่อน...

อยากทราบแหล่งอ้างอิง ของ อ.วสิษฐ ที่ว่า...

 

วสิษฐ จวกเละ ปาฐกถายิ่งลักษณ์ แสดงความโง่
วันอังคารที่ 30 เมษายน 2556
จากกรณีที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย โดยได้มีการขึ้นปาฐกถาพิเศษ วิพากษ์วิจารณ์ความไม่ชอบธรรมของรัฐธรรมนูญปี50 และประชาธิปไตยในประเทศ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร ได้แสดงความคิดเห็นกับกรณีดังกล่าวว่าเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีไปแสดงปาฐกถาที่มองโกเลีย ประจานเมืองไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่เข้าใจบทบาทของนายกรัฐมนตรี

... จึงได้นำเอาทุกข์ของตนและของพี่ชายไปเปิดเผยเป็นเชิงขอความเห็นใจในที่ประชุมนานาชาติ ที่ทุเรศที่สุดก็คือทุกข์ที่ว่านั้นเป็นผลของความทุจริตประพฤติมิชอบของพี่ชายตนเอง แต่ไปโยนความผิดให้คนอื่น พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร เผยต่อว่า ตนได้อ่านต้นฉบับ (text)ภาษาอังกฤษที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ่านในที่ประชุมที่มองโกเลียแล้ว

เชื่อว่าคนอื่นเขียนให้ เพราะความรู้ภาษาอังกฤษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีไม่พอที่จะเขียนได้อย่างนั้น แต่ใครจะเป็นคนเขียนก็ตาม คนที่เอาไปอ่านนอกจากจะโกหกอย่างหน้าด้านแล้ว ยังแสดงความโง่ของตนด้วยอย่างแน่นอน

โง่รงที่ไปบอกเขาว่าบ้านเมืองยังไม่สงบแล้วก็เชิญชวนให้เขามาลงทุน และโง่ตรงที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยไม่ได้ ปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นฟังแล้วเหมือนกับฟังนายก ฯ ของรัฐบาลพลัดถิ่นกำลังร้องขอความช่วยเหลือให้ต่างประเทศมาช่วยยึดอำนาจคืนให้ตน ผมเห็นว่า การขู่บังคับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญหรือพ้องกัน แต่เป็นไปตามแผนของทักษิณกับพวก ที่จะยึดประเทศไทยทั้งประเทศให้ไต้เท่านั้นเอง

 

923528_350779501700811_1447614839_n.jpg

Edited by Suraphan07, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:28.


#23 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:43

มาจากเฟสของคุณ 

Sutep Assawanadda

 

น่าจะเป็นหนึ่งในคณะทำงาน เดินหน้าผ่าความจริงค่ะ


Edited by Tatiana, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:49.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#24 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:45

โอ้โห.! ! ! !   นี่่นังปูมันกำลังชักชวนให้นานาชาติเข้ามาร่วมกดดันคว่ำบาตรกับคนไทยที่ไม่ยอมรับพฤติกรรมการบริหารอย่างเลวครบทุกตัวของตระกูลชินวัตรอยู่หรือ โคตรเนรคุณ!!... มันเอาชีวิตเลือดเนื้อสาวกเสื้อแดงเป็นเกราะเป็นกำแพงกำบังความเลวที่ขี้ขลาดของคนในตระกูลมัน*** เสื้อแดงที่เป็นคนไทยเลิกโง่เสียที.........ที่ตายในเหตุชุมนุมมีชื่อของคนในตระกูลชินวัตรไหม........

ในเหตุชุมนุมยังไม่มีคนในตระกูลชิงฯ ตายค่ะ แต่คิดว่าอีกไม่นาน


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#25 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:46

 

มันเทียบกันไม่ได้ แต่อยากเทียบให้เห็น

นางออง ซาน ซูจี หญิงเหล็ก สัญลักษ์แห่งคำว่า ประชาธิปไตย จากพม่า เธอเดินทางไปที่ไหน ไม่มีแม้แต่คำน้อย ที่จะด่าประเทศชาติ ของตนเองให้ชาวโลกรับฟัง

นางยิ่งลักษ์ ชินวัตร สํญลักษ์ แห่งการโกงกิน อัปปรีย์... *** ขายชาติ ขายแผ่นดิน มีตำแหน่งเป็นถึงผู้นำประเทศ แต่ไปต่างประเทศครั้งใด ทำขายหน้าประชาชน ทุกครั้งไป ล่าสุดเอาแผ่นดินไทยไปขาย ถึงขั้นด่าประเทศชาติ ด่าทหาร ประจานชาวโลก เพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ให้พี่ชาย !!!

หนึ่งหญิงเหล็ก นาม ออง ซาน ซูจี
หนึงหญิงเลว นาม ออง ดอกที มีคำผวน (อี ดอก Tอง)
 
269757_448705025215452_1723531262_n2.jpg
 
ที่มา Facebookรวมมิตรการเมือง

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#26 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:57

ไม่อยากพูดมาก แค่อยากบอกว่า

 

หน้าด้านมาก แค่นั้นเองได้ไหม


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#27 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:28

ฟังแล้วเหมือนกับฟังนายก ฯ ของรัฐบาลพลัดถิ่นกำลังร้องขอความช่วยเหลือให้ต่างประเทศมาช่วยยึดอำนาจคืนให้ตน

 

ท่านวสิษฐอ่านขาดเลยครับ

 

พวกสัตว์ตระกูลนี้มันนึกว่า "ประเทศไทยเป็นทรัพย์สมบัติของมัน" ครับ

มันถึงนึกอยากเอาสมบัติชาติไปแลกผลประโยชน์มันก็ทำ  

นึกอยากล้มสถาบันมันก็ทำ

นึกอยากเปลี่ยนประเทศให้ได้ดั่งใจมัน มันก็ทำ

 

มันถึงทนไม่ได้เวลามีคนบอกมันว่าประเทศไทยเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน  

เพราะมันคิดว่าเป็นของโคตรเหง้าญาติวงศ์พงศามัน

ทั้งที่มันแค่เป็นนายก ไม่ใช่เจ้าแผ่นดิน

ได้รับเลือกตั้งมา 4 ปี  ไม่ได้อยู่ตลอดชีวิต

 

แต่นี่มันวางแผนยึดประเทศไทยยาว เป็นที่ทำมาหากิน

 

มันจะกลายเป็นมูกาบี้แห่งซิมบับเวไปแล้ว

ยึดประเทศไว้ 20 ปี  ทำให้ชาติที่เคยรุ่งเรืองร่ำรวยเป็น "อู่ข้าวอู่น้ำของแอฟริกา"

กลายเป็นประเทศอดอยากยากแค้น ไม่มีอาหาร ต้องใช้คูปองปันส่วนอาหารกิน

ใครอยากได้คูปองต้องเอาบัตรประชาชนมาแลก  แล้วมันก็เอาบัตรนั้นแหละไปสวมสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#28 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:12

1367481078-0000000000-o.jpg


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#29 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:13

1367467695-0000000000-o.jpg


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#30 เกลียดคุณแม้วจังครับ

เกลียดคุณแม้วจังครับ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,190 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:59

264325_4131026893193_695217394_n.jpg

 

คุณปู่วสิษฐ เดชกุญชรด้วยค่ะ

สาธุครับปู่



#31 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:53

1367487828-0000000000-o.jpg


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#32 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:56

สุทธิชัย หยุ่น จาก oknation ให้ความเห็นนุ่มๆ แต่แนบเนียน

 

 

 

41d5f1.jpgเจตนาของ "คำปราศรัยมองโกเลีย" ของนายกฯยิ่งลักษณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่ชัดแจ้ง แต่ที่แน่ ๆ คือเรื่อง "ปรองดอง" ของคนสองฟากทางการเมืองมีอันต้องเก็บเข้าลิ้นชักไปอีกวาระหนึ่ง เพราะสปีชนี้มาพร้อมกับประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมายนิรโทษกรรม...อีกทั้งยังมีเรื่อง "กลางซอย" และ "สุดซอย" ของเฉลิม อยู่บำรุง, ประกอบกับคำประกาศผ่านสไกป์ของคุณทักษิณว่าคนเพื่อไทยไม่ต้องกลัว ลุยแก้รัฐธรรมนูญเต็มที่ อย่างมาก็แค่ "ยุบสภา เลือกตั้งใหม่"!


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#33 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:24

สาวไส้ให้กากินต้องปลิ้นให้หมดพุง

 

โบราณกล่าวว่า “น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก” เป็นคติสอนสำหรับผู้มีอารยธรรม หรือผู้นำที่มีปัญญาว่า ความขุ่นข้องหมองใจความเสียหายที่อยู่ภายในบ้าน ต้องเก็บไว้เฉพาะคนในครอบครัวไม่ออกไปประจานหรือสาวไส้ให้กากิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ไปปาฐกกาถาที่มองโกเลีย บอกถึงวุฒิภวะความเป็นผู้นำ ความมีอคติความเคียดแค้นที่มีอยู่ในสายเลือดต่อคนใดคนหนึ่งหรือสถาบันใดสถาบันหนึ่ง  ประสานเข้าอย่างกลมกลืนกับอดีตนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

ในวันที่ทักษิณ Skype เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย  ตอนหนึ่งทักษิณพูดว่า “พวกเราต้องสื่อการกันให้ชัดเจน ทุกคนต้องรู้ว่าการต่อสู้อันยาวนาน สู้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราไม่มีความรู้ ฟังแต่คำโกหก ไม่เชื่ออะไรเลย พวกนี้ชอบโกหกเสียด้วย” ทักษิณ พูดอะไรกับลูกพรรคของเขาไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ แต่ที่เขาพูดว่า “ผู้ใหญ่ในบ้านเราไม่มีความรู้ ฟังแต่ความโกหก” หมายถึงใคร ถ้าหมายถึงผู้ใหญ่ในฝ่ายบริหาร  นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ก็มีอำนาจสูงสุดอยู่แล้วฝ่ายนิติบัญญัติ ประธานสภาฯก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่ที่ “ไม่มีความรู้ ฟังแต่ความเท็จเป็นใคร”

มาดูคำปาฐากกาถาของนางสาว ยิ่งลักษณ์  ที่เราลอกมาจากบทความ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟ็ซบุ๊ค 'Vasit Dejkunjorn' ถึงเหตุการณ์ การกดดันศาลรัฐธรรมนูญของกลุ่มเสื้อแดง และปาฐกาถาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มองโกเลีย ว่าเป็นหนึ่งในแผนการยึดประเทศไทยของทักษิณและพวก  "มีคนเขียนแสดงความเห็นกันไปแล้วเป็นอันมาก แต่ผมก็ยังเห็นอยู่ว่าผมต้องเขียนด้วยในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ทีแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องเดียวคือเรื่อง นปช.เสื้อแดง และนายกรัฐมนตรี สมคบกันคุกคามและบังคับไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยเจตนา บัดนี้มีอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีไปแสดงปาฐกถาที่มองโกเลีย ประจานเมืองไทย

เรื่องแรกนั้นมีผู้แจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามแล้ว และคงรู้กันในไม่ช้าว่าตำรวจจะทำอะไรหรือไม่และเพียงใด

ส่วนเรื่องที่สอง ผมเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่เข้าใจบทบาทของนายกรัฐมนตรี จึงได้นำเอาทุกข์ของตนและของพี่ชายไปเปิดเผยเป็นเชิงขอความเห็นใจ  ในที่ประชุมนานาชาติ ที่ทุเรศที่สุดก็คือ  ทุกข์ที่ว่านั้นเป็นผลของความทุจริตประพฤติมิชอบของพี่ชายตนเอง แต่ไปโยนความผิดให้คนอื่น

ผมได้อ่านต้นฉบับ (text) ภาษาอังกฤษที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ่านในที่ประชุมที่มองโกเลียแล้ว เชื่อว่าคนอื่นเขียนให้ เพราะความรู้ภาษาอังกฤษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีไม่พอที่จะเขียนได้อย่างนั้น แต่ใครจะเป็นคนเขียนก็ตาม คนที่เอาไปอ่านนอกจากจะโกหกอย่างหน้าด้านแล้ว ยังแสดงความโง่ของตนด้วยอย่างแน่นอน โง่ตรงที่ไปบอกเขาว่าบ้านเมืองยังไม่สงบแล้วก็เชิญชวนให้เขามาลงทุน และโง่ตรงที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยไม่ได้”

เห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านวสิษฐ ทุกประการ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นว่าความมีอคติของนายกฯประสานกับความเคียดแค้นที่บอกว่า คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ กับประชาธิปไตยไม่ได้  “ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิไตย” เป็นใคร เป็นคนเดียวกันหรือสถาบันเดียวกันกับผู้ที่ทักษิณกล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้านเราไม่มีความรู้ ฟังแต่ความโกหก”หรือไม่   ถ้าใช่ต้องนับพี่น้องสองคนนี้มีอุดมการณ์เดียวกัน คือทั้งทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญคิดศัตรูประชาธิปไตยที่ พวกเขาต้องขจัดและล้มล้างให้ได้

ความจริงแล้วเรื่องที่ผู้นำประเทศไปสาวไส้ให้กากินไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นขบวนการที่ทำกันมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่การว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ระดับโลกให้ออกข่าวโจมตีประเทศไทย จาบจ้วงสถาบันจ้างทนายความให้กล่าวร้ายรัฐบาลไทย ไปพูดในออสเตรเลียว่า ประธานองค์มนตรีขัดขวางการทำงานของเขา เคยกล่าวหาว่าศาลไทยลำเอียงไม่เที่ยงตรง ถ้าจะให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ถ้าเห็นว่าการสาวไส้ให้กากินแล้วเกิดประโยชน์โภคผลแก่ประเทศ นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องปลิ้นไส้ออกมาให้เห็นทั้งหมดว่า ความเลวร้ายทั้งมวลมาจากสาเหตุอะไร ใครเป็นต้นเหตุของความเลวร้าย

การสาวไส้ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เรื่องที่ใคร ได้ผลประโยชน์มหาศาลจากการปฏิวัติ ในปี 2531 ใครที่กอดพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ แล้วกล่าวว่า “ถ้าไม่มีพี่ผมคงไม่มีวันนี้” ใครที่ได้สัมปทานดาวเทียมจากการปฏิวัติ  เพราะรัฐบาลก่อนหน้าปฏิวัติไม่ยอมให้สัญญาสัมปทานดาวเทียมแก่ใคร นายกฯต้องแถลงให้ที่ประชุมรัฐมนตรีนานาชาติ ฟังด้วยว่ามูลเหตุของการยับยั้งการใช้อำนาจในวันที่ 19 กันยายน 2549 มาจากอะไร

อยากจะเตือนความจำนายกฯว่า รัฐบาลในปี 2549 ถูกล้มล้างด้วยประชาชนมานานหลายเดือนก่อนที่ทหารเข้ามายับยั้งการใช้อำนาจ ที่ขาดกฎหมายรับรอง ผู้ที่มีสติทุกคนจำได้ว่า  รัฐบาลในขณะนั้นยุบสภาต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 หลังจากประชาชนประท้วงในข้อคอร์รัปชั่น และขายสัมปทานดาวเทียมให้บริษัท เทมาเส็ก ในสิงคโปร์แล้วไม่ยอมเสียภาษี เมื่อยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 4 เมษายน 2549 ซึ่งฝ่ายค้านในเวลานั้นเห็นว่าสภายังไม่มีความผิดอะไร ยังไม่มีความขัดแย้งในสภา รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการยุบสภา และการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในระยะเวลา 40 วันเป็นการเอาเปรียบทางการเมือง พรรคฝ่ายค้านเลยบอยคอต ไม่ร่วมสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น

ด้วยความย่ามใจที่คิดว่ารัฐบาลในเวลานั้น สามารถควบคุมองค์กรอิสระเช่น คณะกรรมการเลือกตั้งได้ เลยจัดให้มีการประชุมเรียกพรรคการเมือง ที่ไม่มีส.ส.ในสภา ไม่เคยมีบทบาท หรือพรรค ที่อุปโลกน์ ขึ้นมาร่วมเลือกตั้ง ด้วยความมั่นใจว่าจากการร่วมมือของ กกต.และ พรรคกระยาจกทั้งหลาย ทำให้การเลือกตั้งพรรคเดียวมีความชอบธรรมได้ แต่ในที่สุดพรรครัฐบาลตอนนั้นถูกขัดขวางการเลือกตั้งโดยมิชอบ  เมื่อประชาชนกว่าสิบเอ็ดล้านคนลงคะแนนไม่เลือกพรรคไหน ทำให้พรรคไทยรักไทย และพรรคที่ส่งลงเพื่อให้การเลือกสมบูรณ์ ไม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชน คือ ไม่ได้เสียงถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ตามกฎหมายกำหนด แต่ด้วยความดื้อรั้นที่จะเอาชนะให้ได้ กกต.ในเวลา นั้นจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมเลือกตั้งแซม หลายครั้งก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ

ความวุ่นวายในเวลานั้น แม้กระทั่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงกับมีกระแสพระราชดำรัสว่า “บ้านเมืองเป็นวิกฤติที่สุดในโลก” จนในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ ก็ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ   คณะกรรมการเลือกตั้งสามคนถูกฟ้องร้อง และ ศาลตัดสินลงโทษให้จำคุก รัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลนั้น ถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง รัฐบาลยุบสภาตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2549 จัดให้มีการเลือกตั้งแต่ถูกศาลตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ประมาณวันที่ 24 เมษายน (ถ้าจำไม่ผิด) แต่รัฐบาลยังบริหารงานต่อมาตามปรกติ บริหารประเทศมาโดยไม่มีสภาท่ามกลางการประท้วงของประชาชน  ตลอดมาจนถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 ถ้านับจากวันที่ยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ารัฐบาลบริหารงานมาโดยไม่มีสภานานถึงแปดเดือน ก่อนที่ทหารจะเข้ามาหยุดยั้งการใช้อำนาจ  นี่เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยหรือ

เพราะฉะนั้นถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ อยากจะสาวไส้ให้กากิน หรืออยากจะประจานความเลวร้ายของประเทศไทยให้ชาวโลกได้รับรู้ก็ต้อง ปลิ้นไส้ออกมาตั้งต้นว่า รัฐบาลนั้นตั้งขึ้นมาท่ามกลางข้อครหาเรื่องทำผิดกฎหมายตั้งแต่ก่อนเข้าบริหารประเทศ อดีตนายกถูกฟ้องข้อหาซุกหุ้น แต่ชนะคดีมาได้หวุดหวิดท่ามกลางข้อข้องใจสงสัย ของประชาชน เมื่อเข้ามาบริหารแล้วถูกประชาชนประท้วง ฟ้องร้องในข้อหาคอร์รัปชั่นหลายเรื่อง หลายคดีที่ศาลตัดสินไปแล้วว่ามีความผิด บางคดีก็ถูกตัดสินให้จำคุก บางคดีศาลสั่งให้ยึดทรัพย์หลายหมื่นล้าน ความผิดและข้อกล่าวหาเหล่านั้น ล้วนแต่เกิดขึ้นระหว่างอดีตนายกฯบริหารประเทศทั้งนั้น

นางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องประจานให้ชาวโลกรู้ด้วยว่า อดีตนายก และ นายกคนปัจจุบันบริหารงานโดยไม่แยแส ต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เช่นกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งให้นายกไปชี้แจง เรื่องคืนพาสปอร์ตให้พี่ชาย เวลาล่วงเลยมานานแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ยังไม่ยอมไปชี้แจง ประธานสภาและ สมาชิกสภาผู้แทนหลายคนต้องไป ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากนักโทษหนีคุก ส.ส. พรรคเพื่อไทยก็ขัดรัฐธรรมนูญโดยการไม่ยอมไปชี้แจง มิหนำซ้ำแสดงอาการท้าทายศาล โดยการสบันสนุนให้คนเสื้อแดงไปข่มขู่ศาล

ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมานายกฯต้องไปประจานให้ชาวโลกรู้ด้วยว่า สาเหตุที่ทหารจำต้องยับยั้งอำนาจเถื่อน ของรัฐบาลเผด็จการพลเรือนในบางครั้งนั้นทำเพราะอะไร ถึงได้บอกแต่ต้นว่าถ้าอยากสาวไส้ให้กากินต้องปลิ้นให้หมดพุง

 

 


Edited by Tatiana, 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:27.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#34 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:25

สาวไส้ให้กากินต้องปลิ้นให้หมดพุง

 

โบราณกล่าวว่า “น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก” เป็นคติสอนสำหรับผู้มีอารยธรรม หรือผู้นำที่มีปัญญาว่า ความขุ่นข้องหมองใจความเสียหายที่อยู่ภายในบ้าน ต้องเก็บไว้เฉพาะคนในครอบครัวไม่ออกไปประจานหรือสาวไส้ให้กากิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ไปปาฐกกาถาที่มองโกเลีย บอกถึงวุฒิภวะความเป็นผู้นำ ความมีอคติความเคียดแค้นที่มีอยู่ในสายเลือดต่อคนใดคนหนึ่งหรือสถาบันใดสถาบันหนึ่ง  ประสานเข้าอย่างกลมกลืนกับอดีตนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

ในวันที่ทักษิณ Skye เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย  ตอนหนึ่งทักษิณพูดว่า “พวกเราต้องสื่อการกันให้ชัดเจน ทุกคนต้องรู้ว่าการต่อสู้อันยาวนาน สู้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราไม่มีความรู้ ฟังแต่คำโกหก ไม่เชื่ออะไรเลย พวกนี้ชอบโกหกเสียด้วย” ทักษิณ พูดอะไรกับลูกพรรคของเขาไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ แต่ที่เขาพูดว่า “ผู้ใหญ่ในบ้านเราไม่มีความรู้ ฟังแต่ความโกหก” หมายถึงใคร ถ้าหมายถึงผู้ใหญ่ในฝ่ายบริหาร  นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ก็มีอำนาจสูงสุดอยู่แล้วฝ่ายนิติบัญญัติ ประธานสภาฯก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่ที่ “ไม่มีความรู้ ฟังแต่ความเท็จเป็นใคร”

มาดูคำปาฐากกาถาของนางสาว ยิ่งลักษณ์  ที่เราลอกมาจากบทความ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟ็ซบุ๊ค 'Vasit Dejkunjorn' ถึงเหตุการณ์ การกดดันศาลรัฐธรรมนูญของกลุ่มเสื้อแดง และปาฐกาถาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มองโกเลีย ว่าเป็นหนึ่งในแผนการยึดประเทศไทยของทักษิณและพวก  "มีคนเขียนแสดงความเห็นกันไปแล้วเป็นอันมาก แต่ผมก็ยังเห็นอยู่ว่าผมต้องเขียนด้วยในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ทีแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องเดียวคือเรื่อง นปช.เสื้อแดง และนายกรัฐมนตรี สมคบกันคุกคามและบังคับไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยเจตนา บัดนี้มีอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีไปแสดงปาฐกถาที่มองโกเลีย ประจานเมืองไทย

เรื่องแรกนั้นมีผู้แจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามแล้ว และคงรู้กันในไม่ช้าว่าตำรวจจะทำอะไรหรือไม่และเพียงใด

ส่วนเรื่องที่สอง ผมเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่เข้าใจบทบาทของนายกรัฐมนตรี จึงได้นำเอาทุกข์ของตนและของพี่ชายไปเปิดเผยเป็นเชิงขอความเห็นใจ  ในที่ประชุมนานาชาติ ที่ทุเรศที่สุดก็คือ  ทุกข์ที่ว่านั้นเป็นผลของความทุจริตประพฤติมิชอบของพี่ชายตนเอง แต่ไปโยนความผิดให้คนอื่น

ผมได้อ่านต้นฉบับ (text) ภาษาอังกฤษที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ่านในที่ประชุมที่มองโกเลียแล้ว เชื่อว่าคนอื่นเขียนให้ เพราะความรู้ภาษาอังกฤษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีไม่พอที่จะเขียนได้อย่างนั้น แต่ใครจะเป็นคนเขียนก็ตาม คนที่เอาไปอ่านนอกจากจะโกหกอย่างหน้าด้านแล้ว ยังแสดงความโง่ของตนด้วยอย่างแน่นอน โง่ตรงที่ไปบอกเขาว่าบ้านเมืองยังไม่สงบแล้วก็เชิญชวนให้เขามาลงทุน และโง่ตรงที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยไม่ได้”

เห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านวสิษฐ ทุกประการ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นว่าความมีอคติของนายกฯประสานกับความเคียดแค้นที่บอกว่า คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ กับประชาธิปไตยไม่ได้  “ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิไตย” เป็นใคร เป็นคนเดียวกันหรือสถาบันเดียวกันกับผู้ที่ทักษิณกล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้านเราไม่มีความรู้ ฟังแต่ความโกหก”หรือไม่   ถ้าใช่ต้องนับพี่น้องสองคนนี้มีอุดมการณ์เดียวกัน คือทั้งทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญคิดศัตรูประชาธิปไตยที่ พวกเขาต้องขจัดและล้มล้างให้ได้

ความจริงแล้วเรื่องที่ผู้นำประเทศไปสาวไส้ให้กากินไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นขบวนการที่ทำกันมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่การว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ระดับโลกให้ออกข่าวโจมตีประเทศไทย จาบจ้วงสถาบันจ้างทนายความให้กล่าวร้ายรัฐบาลไทย ไปพูดในออสเตรเลียว่า ประธานองค์มนตรีขัดขวางการทำงานของเขา เคยกล่าวหาว่าศาลไทยลำเอียงไม่เที่ยงตรง ถ้าจะให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ถ้าเห็นว่าการสาวไส้ให้กากินแล้วเกิดประโยชน์โภคผลแก่ประเทศ นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องปลิ้นไส้ออกมาให้เห็นทั้งหมดว่า ความเลวร้ายทั้งมวลมาจากสาเหตุอะไร ใครเป็นต้นเหตุของความเลวร้าย

การสาวไส้ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เรื่องที่ใคร ได้ผลประโยชน์มหาศาลจากการปฏิวัติ ในปี 2531 ใครที่กอดพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ แล้วกล่าวว่า “ถ้าไม่มีพี่ผมคงไม่มีวันนี้” ใครที่ได้สัมปทานดาวเทียมจากการปฏิวัติ  เพราะรัฐบาลก่อนหน้าปฏิวัติไม่ยอมให้สัญญาสัมปทานดาวเทียมแก่ใคร นายกฯต้องแถลงให้ที่ประชุมรัฐมนตรีนานาชาติ ฟังด้วยว่ามูลเหตุของการยับยั้งการใช้อำนาจในวันที่ 19 กันยายน 2549 มาจากอะไร

อยากจะเตือนความจำนายกฯว่า รัฐบาลในปี 2549 ถูกล้มล้างด้วยประชาชนมานานหลายเดือนก่อนที่ทหารเข้ามายับยั้งการใช้อำนาจ ที่ขาดกฎหมายรับรอง ผู้ที่มีสติทุกคนจำได้ว่า  รัฐบาลในขณะนั้นยุบสภาต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 หลังจากประชาชนประท้วงในข้อคอร์รัปชั่น และขายสัมปทานดาวเทียมให้บริษัท เทมาเส็ก ในสิงคโปร์แล้วไม่ยอมเสียภาษี เมื่อยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 4 เมษายน 2549 ซึ่งฝ่ายค้านในเวลานั้นเห็นว่าสภายังไม่มีความผิดอะไร ยังไม่มีความขัดแย้งในสภา รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการยุบสภา และการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในระยะเวลา 40 วันเป็นการเอาเปรียบทางการเมือง พรรคฝ่ายค้านเลยบอยคอต ไม่ร่วมสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น

ด้วยความย่ามใจที่คิดว่ารัฐบาลในเวลานั้น สามารถควบคุมองค์กรอิสระเช่น คณะกรรมการเลือกตั้งได้ เลยจัดให้มีการประชุมเรียกพรรคการเมือง ที่ไม่มีส.ส.ในสภา ไม่เคยมีบทบาท หรือพรรค ที่อุปโลกน์ ขึ้นมาร่วมเลือกตั้ง ด้วยความมั่นใจว่าจากการร่วมมือของ กกต.และ พรรคกระยาจกทั้งหลาย ทำให้การเลือกตั้งพรรคเดียวมีความชอบธรรมได้ แต่ในที่สุดพรรครัฐบาลตอนนั้นถูกขัดขวางการเลือกตั้งโดยมิชอบ  เมื่อประชาชนกว่าสิบเอ็ดล้านคนลงคะแนนไม่เลือกพรรคไหน ทำให้พรรคไทยรักไทย และพรรคที่ส่งลงเพื่อให้การเลือกสมบูรณ์ ไม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชน คือ ไม่ได้เสียงถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ตามกฎหมายกำหนด แต่ด้วยความดื้อรั้นที่จะเอาชนะให้ได้ กกต.ในเวลา นั้นจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมเลือกตั้งแซม หลายครั้งก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ

ความวุ่นวายในเวลานั้น แม้กระทั่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงกับมีกระแสพระราชดำรัสว่า “บ้านเมืองเป็นวิกฤติที่สุดในโลก” จนในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ ก็ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ   คณะกรรมการเลือกตั้งสามคนถูกฟ้องร้อง และ ศาลตัดสินลงโทษให้จำคุก รัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลนั้น ถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง รัฐบาลยุบสภาตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2549 จัดให้มีการเลือกตั้งแต่ถูกศาลตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ประมาณวันที่ 24 เมษายน (ถ้าจำไม่ผิด) แต่รัฐบาลยังบริหารงานต่อมาตามปรกติ บริหารประเทศมาโดยไม่มีสภาท่ามกลางการประท้วงของประชาชน  ตลอดมาจนถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 ถ้านับจากวันที่ยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ารัฐบาลบริหารงานมาโดยไม่มีสภานานถึงแปดเดือน ก่อนที่ทหารจะเข้ามาหยุดยั้งการใช้อำนาจ  นี่เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยหรือ

เพราะฉะนั้นถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ อยากจะสาวไส้ให้กากิน หรืออยากจะประจานความเลวร้ายของประเทศไทยให้ชาวโลกได้รับรู้ก็ต้อง ปลิ้นไส้ออกมาตั้งต้นว่า รัฐบาลนั้นตั้งขึ้นมาท่ามกลางข้อครหาเรื่องทำผิดกฎหมายตั้งแต่ก่อนเข้าบริหารประเทศ อดีตนายกถูกฟ้องข้อหาซุกหุ้น แต่ชนะคดีมาได้หวุดหวิดท่ามกลางข้อข้องใจสงสัย ของประชาชน เมื่อเข้ามาบริหารแล้วถูกประชาชนประท้วง ฟ้องร้องในข้อหาคอร์รัปชั่นหลายเรื่อง หลายคดีที่ศาลตัดสินไปแล้วว่ามีความผิด บางคดีก็ถูกตัดสินให้จำคุก บางคดีศาลสั่งให้ยึดทรัพย์หลายหมื่นล้าน ความผิดและข้อกล่าวหาเหล่านั้น ล้วนแต่เกิดขึ้นระหว่างอดีตนายกฯบริหารประเทศทั้งนั้น

นางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องประจานให้ชาวโลกรู้ด้วยว่า อดีตนายก และ นายกคนปัจจุบันบริหารงานโดยไม่แยแส ต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เช่นกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งให้นายกไปชี้แจง เรื่องคืนพาสปอร์ตให้พี่ชาย เวลาล่วงเลยมานานแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ยังไม่ยอมไปชี้แจง ประธานสภาและ สมาชิกสภาผู้แทนหลายคนต้องไป ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากนักโทษหนีคุก ส.ส. พรรคเพื่อไทยก็ขัดรัฐธรรมนูญโดยการไม่ยอมไปชี้แจง มิหนำซ้ำแสดงอาการท้าทายศาล โดยการสบันสนุนให้คนเสื้อแดงไปข่มขู่ศาล

ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมานายกฯต้องไปประจานให้ชาวโลกรู้ด้วยว่า สาเหตุที่ทหารจำต้องยับยั้งอำนาจเถื่อน ของรัฐบาลเผด็จการพลเรือนในบางครั้งนั้นทำเพราะอะไร ถึงได้บอกแต่ต้นว่าถ้าอยากสาวไส้ให้กากินต้องปลิ้นให้หมดพุง


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#35 Thai Old

Thai Old

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 8 posts

ตอบ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:57

372986_212422832134046_2092638773_q.jpg

  •  
    เห็นนายกไปปาฐกถาที่มองโกเลียจะพูดเองหรือใครจับยัดให้พูดก็แล้วแต่ แต่ถ้าให้เดาไม่น่าจะพูดเองได้นะคงจะมีคนเขียนให้แล้วพูดตามละมั้งซึ่งผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์พูดไปนั้นแกเข้าใจรู้เรื่องหรือไม่ คงจะเหมือนเรื่องหญ้าแฝก หญ้าแพรก สะพาน คอ นก รีต หรือเรื่องอื่นๆอีกเยอะซึ่งไม่แน่ใจว่ารู้เรื่องเข้าใจจริงหรือเปล่าแต่จากประมวลดูแล้วไม่น่าจะรู้นะ ยิ่งมาพูดเยอะๆสรุปสัก 3 เรื่องคือ ครอบครัวเจ็บปวดเป็นเหยื่อทางการเมือง มีคนเสียชีวิต 91 คน...เรื่อง สว.สรรหาและองค์กรอิสระ ผมไม่รู้ว่าคุณยิ่งลักษณ์แกรู้เรื่อง 91 ศพแบบจำขี้ปากเขามาพูดรวมทั้งเรื่อง สว.สรรหาแกจะรู้เรื่องหรือเปล่าหรือว่าเข้าใจว่าเป็นบ้านจัดสรรของ เอสซี แอสเซท เพราะมันสรรๆเหมือนกัน เรื่ององค์กรอิสระแกคงเข้าใจว่าเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระละมั้ง แกงงๆอะไรหรือเปล่า เอาความไม่ดีของประเทศเราไปเล่าให้ประเทศอื่นฟังมันเท่ห์หรืออย่างไร ทำไมไม่พูดให้เขาฟังด้วยว่าประเทศเรามีโสเภณีเยอะ มียาเสพติดแยะ มีคอรัปชั่นกันทั่วหัวระแหง ร้อยละ30 50 เป็นความภาคภูมิใจของดิฉัน...ทำไมไอ้คนเขียนสคริปไม่เขียนไปด้วย...แต่ก็อย่าไปว่าอะไรท่านนายกยิ่งลักษณ์เลยครับ ท่านเป็นคนเดียงสา เป็นคนตรงๆ งงๆ สคริปมาอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น ซื่อๆใสๆแบบประเทศซิดนีย์ จังหวัดหาดใหญ่ ผมว่าดูขำๆก็แล้วกัน เรามีนายกอย่างนี้ก็อย่างนี้แหละจะอะไรกันนักหนา...แทงกิ้ว ทรี ทาม ครอบครัวคุณจะเจ็บปวดอย่างไรแต่ผมคนไทยและประเทศไทยเจ็บปวดกว่า...
     
     
     
    ฝากของอาจารย์ วันชัย อีกท่านครับ
     

 



#36 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:59

>> ปาฐก ฤ เปลือยถก...ณ นรก ละสังขาร

 

....ตัณหา ชะสามาน-.....ยะประจัก-ษะกับใจ

 

>> พจน์พาก-ยะเพื่อพี่......กรณี-ยะกิจใหญ่

 

....ธานี จะมีภัย...............ฤพิบัติ  บ กังวล..ฯลฯ

 

 

>>>>>>>>>> พระฤๅษี <<<<<<<<<<<<

 

....................๓/฿.....ง.......                          แแิิิืืืุ    .............๓/๕/๕๖.( อินทรวิเชียรฉันท์๑๑)   


Edited by พระฤๅษี, 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 14:01.


#37 บาดทะยัก

บาดทะยัก

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 114 posts

ตอบ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:39

วันพฤหัสบดี ที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2556, 12.04 น.
50416.jpg

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเนื้อหาในการปาฐกถาพิเศษของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ในเวทีการประชุมประชาธิปไตย ที่เมืองอูลัน บาตอ ประเทศมองโกเลีย 

2 พ.ค.56 ทางเฟซบุ๊คได้มีการแชร์ 'เบื้องหลังปาฐกถาเนรคุณชาติ' กันอย่างแพร่หลาย โดยแหล่งข่าวได้เปิดเผยถึงเนื้อหาในปาฐกถาเอาไว้ว่า “ก่อนหน้านี้เนื้อหาไม่ใช่แบบนี้ เพราะก่อนเดินทางจะมีการประชุมเตรียมการก่อนไปเยือน และกระทรวงการต่างประเทศได้รับมอบหมายในการจัดทำร่างปาฐกถาของนายกฯ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้สอบถามนายกฯว่าจะพูดเรื่องอะไร โดยนายกฯบอกว่าจะพูดเรื่องประชาธิปไตยในไทยและเรื่องการศึกษา ซึ่งนายกฯก็พูดแค่นั้น และหลังจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศก็ส่งร่างปาฐกถามาที่ตึกไทยคู่ฟ้าจำนวนเนื้อหาประมาณ 6-7 หน้า A 4  

หลังจากนั้นคณะทำงานด้านการจัดทำสคริปให้นายกฯ นำโดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็มีการปรับเนื้อหาให้กระชับขึ้นแล้วส่งให้นายกฯ ดู จนมาถึงวันที่ 27 เม.ย. วันเดินทางเนื้อหาในปาฐกถาก็ยังไม่นิ่ง เห็นว่านายกฯคุยกับคณะทำงานและนายสุรนันทน์บนเครื่องบินระหว่างบินไปมองโกเลีย นายกฯบอกให้แก้ไข อยากให้พูดให้เขียนให้ชัดเจน ตรงๆไปเลย ใส่ชื่อพี่ชายคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไปเลย รวมทั้งอยากให้พูดถึงคนที่ติดคุกจำนวนมากด้วยซ้ำแต่ก็ถูกตัดออก ระหว่างการเดินทาง 5 ชั่วโมงบนเครื่องบินมีการแก้ไข แล้วก็ปริ๊นด้วยเครื่องปริ๊นไร้สาย (Portable) ปริ๊นแล้วก็แก้ ปริ๊นแล้วก็แก้ ในที่สุดจนได้เนื้อหาตามที่นายกฯ ต้องการ คือไม่ใช่ภาษาทางการทูตและภาษาที่สวยงามของกระทรวงการต่างประเทศ" 

ส่วนการส่งข่าวกลับมาที่ประเทศไทยนั้น แหล่งข่าวเล่าว่า ทีมงานของนายกฯได้ร่างเป็นภาษาอังกฤษแล้วมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้นายกฯมีคิวขึ้นพูดในเวลา 08.30น. ซึ่งเป็นเวลาที่มองโกเลีย แต่ที่ไทยคือ 07.30 น. จึงสั่งให้ทีมงานส่งเข้าอีเมลล์ประจำตัวของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล อีเมลล์ของสำนักข่าวสำนักต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการยิงขึ้นเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล 30 นาที เพราะหวังว่าผู้สื่อข่าวจะเห็นข่าวก่อนแล้วก็ยิงข่าวขึ้นเว็บและรายงานข่าว โดยนายกฯย้ำว่าไม่ต้องแก้ไขให้เป็นภาษาข่าว ขอให้พูดอย่างไรก็ส่งไปตามทั้ง แต่ปรากฏว่าส่งอีเมลล์เร็วเกินไปทำให้ผู้สื่อข่าวยังอาจจะไม่ตื่นมาเช็คอีเมลล์ เพราะเห็นข่าวออกอีกทีก็ช่วงสายๆ

"เมื่อนายกฯ ปาฐกถาจบพอลงจากเวทีก็ถามทีมงานว่าที่ไทยมีข่าวอัพหรือยัง พอนายกฯรู้ว่ามีข่าวขึ้นแล้วก็ยิ้มและดีใจแล้วก็สอบถามว่าเขาพาดหัวในเว็บกันยังไงบ้างด้วยสีหน้าท่าทางที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ"

 

 

##ถ้าข่าวนี้จริงก็แปลว่าเจ๊รู้อยู่แก่ใจว่าพูดอะไร และมีส่วนในการแก้ไขเพิ่มเติม อีกตะหาก ไม่ได้อ่านตามโำำพยอย่างเดียว 


Edited by บาดทะยัก, 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:47.


#38 nastyfunky

nastyfunky

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 395 posts

ตอบ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:27

ตอบ วันนี้, 12:45

50297.jpg
คำกล่าวเปิดในเวทีประชาคมประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์ฟังเข้าใจหรือเปล่า สิ่งที่เขาพูดว่าคือตัวอย่างประเทศไทยเต็ม ๆ เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อเท่านั้นแหละ


(บางส่วน) Speech เปิดการประชุมของประธานาธิบดีมองโกเลีย
ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย
Credit: สถานี RTV1 สำนักข่าวออนไลน์ 24 ชั่วโมง


MR. TAKHIAGIIN ELBEGDORJ

....The trials and miseries of most of the countries which failed
or are being unsuccessful to build democracy
stem often times not from the people, but from bad governance.
Democratic orders in many cases are threatened and shattered
not by external factors, but by internal, from inside.
The losers of corruption are the people,
and winners are the corrupt officials.
Corruption, bad money and their dirty networks are powerful.
Corruption destroys people’s confidence in democracy.
Everyone knows that corruption and bad governance are
the mortal enemies of freedom and democracy.
Fighting corruption is the toughest test for officials in office.
Transition from rule of man to the rule of law
is one of the hardest challenges for any developing and aspiring state.
The state must serve not the power, but the people.
The same is true about the law. Judicial and public sector reforms,
the changes in the mindset of people do require time,
patience and persistence.
It’s been over 20 years since Mongolia began her strides
to democracy, yet there remain many issues pending solution........



(บวร ยสินทร :แปล)

.... จากประสบการณ์ของประเทศที่ล้มเหลว
หรือไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย
พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
หลักการประชาธิปไตยในหลายกรณีถูกคุกคามและทำลาย
ไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ และจากภายในตัวรัฐบาลเอง
ประชาชนเป็นผู้เสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง
โดยผู้ได้ประโยชน์ก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองผู้ทุจริตนั้น
การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินทุจริต และโครงข่ายที่สกปรกมักทรงพลัง
การทุจริตคอรัปชั่นนี่เอง คือ ตัวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
คือศัตรูตัวฉกาจของเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คือ บททดสอบที่แสนยากสำหรับทางการ
การที่จะเปลี่ยนจากการใช้กฎกติกาที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจมาเป็นการใช้กฎกติกาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในการพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยตามที่มุ่งมาดปรารถนา
รัฐต้องไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชน
เช่นเดียวกับกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปองค์กรสาธารณะก็เพื่อการรับใช้ประชาชน
การเปลี่ยนแปลงความนึกคิดเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลา
ด้วยความอดทนและความเพียร
กว่า 20 ปี ที่มองโกเลียก้าวเดินสู่ระบอบประชาธิปไตย
ก็ยังมีปัญหาอีกมากมายหลายประเด็นที่รอการแก้ไข ........


Plume Boonmartun ถ้านายกปูฟังรู้เรื่อง คงไม่พูดแบบนั้นออกไปให้ผู้นำนานาชาติฟัง เพราะสปีชของปธน.มองโกเลีย ชัดแล้ว ว่า เพราะมีรัฐบาลชั่วประชาธิปไตยจึงล้มเหลว
นภศร นุจรี ศิริมังคะโล นางจิ้งจอก มันโง่มันฟังเขาพูดรู้เรื่องหรือเปล่า ว่าเขาด่ามันกับโคตรมันว่าบริหารประเทศใด้เลวเนรคุณแผ่นดินสุดๆๆ มันยิ้มระรื่นบอกขอบคุณคะ่ควายเอ้ย
Tong Preechasak อันนี้คงยากเกินตัวอะมีบ้าที่ชื่อยิ่งลักษณ์จะเข้าใจ ขนาดนักข่าวถามตรงๆ มันยังงงกับคำถามนักข่าว ตระกูลนี้มีกรรม สมองพัฒนาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ค่อยๆ ขยับลงกลายเป็นสมองสัตว์เซลเดียว
กรกรด กดกฏกฎ อีดอกคงฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่อง ***ตอแหลความเลวของพี่โกงแผ่นดินถูกรัฐประหารหนีออกนอกประเทศ เขาฟังมันพูดเสร็จเขาคงสมน้ำหน้าคิดอยู่ในใจว่าพี่ชั่วน้องเลวสายเลือดมัน***ตอแหลข้ามชาติ ไม่น่าให้อีดอกเข้ามาประเทศเลยเสนียด***จริงๆๆๆๆๆกลัวเชื้อโกงแผ่นดินแปดเปื้อนประเทศเขา

 

อันนี้แร๊งส์

เปลี่ยนนายกกันเถิด นะ เห็นอีบ้าแถวนี้ ถ้าไม่ยศเป็นถึงนังยกละก็ จะตบปากมัน โดนปรับจ่าย 500 ก็ยอม


Savoir…
Savoir parler…
Savoir parler pour ne rien dire…


#39 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:44

คุณnastyfunkyคะ ถ้าเข้าถึงตัวมันง่ายรับรองมันโดนตบตายห่ านไปแล้ว เพราะคงไม่มีใครเสียดาย 500 บาทหรอกค่ะ

 

วันนี้ like หมดแล้วค่ะ


Edited by Tatiana, 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:45.

กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#40 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:27

นายกรัฐมนตรีหญิง : จำอวดหญิง ภาพอุบาทว์ของสังคม

 

เวลาที่เราได้ยินนักการเมืองผู้มีประวัติการเมืองสุดแสนโสโครก กล่าวอวดอ้างว่าตนเองสุดแสนสะอาด บริสุทธิ์ผุดผ่องเกินมนุษย์ทั้งผอง เรารู้สึกขยะแขยง สะอิดสะเอียน พร้อมกับหัวเราะเยาะคำเท็จนั้นอยู่ในใจ แต่เราก็มักจะรักษามารยาทสังคมโดยปล่อยให้นักการเมืองจอมโกงรายนั้นโกหกต่อไป เพราะเชื่อว่าผู้ฟังที่มีสติปัญญาจต้องรู้เท่าทันคำโกหกปลิ้นปล้อนนั้น

ฉันใดก็ฉันนั้น เวลาเราได้ยินนายกรัฐมนตรีผู้มีสถานะเป็นหุ่นกระบอกเอ่ยคำโป้ปดมดเท็จ เรารู้สึกขยะแขยง สะอิดสะเอียด และสมเพชเช่นกัน แต่เรากลับรู้สึกสมเพชประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่า สมเพชที่ประเทศมีคนไร้สัจจะ ไร้ปัญญาครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าก็คือนายกรัฐมนตรีผู้นั้นคือคนที่มีส่วนร่วมก่อคดีโกงบ้านกินเมืองร่วมกับพี่น้องในตระกูลของตน

เป็นเรื่องน่าอับอายมิใช่น้อย ที่ตัวตลกหญิงคนหนึ่งเกิดจับพลัดจับผลูได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่ไม่มีวุฒิภาวะ ไร้คุณสมบัติ และไม่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มิหนำซ้ำ เมื่อเข้ามาแล้วก็มิได้ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน แต่กลับจงใจใช้อำนาจรัฐแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง แล้วยังใช้อำนาจรัฐเพื่อช่วยเหลือนักโทษหนีคดีอาญารายหนึ่ง ซึ่งคือญาติของตนให้พ้นผิด โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรมใดๆ

ถือเป็นตลกร้ายที่คนซึ่งไม่เคยเชื่อมั่นในสารัตถะของหลักการเสรีนิยมประชาธิปไตย แต่กลับพร่ำเพ้อเจื้อยแจ้วว่าตนเองยึดมั่นในหลักการเสรีภาพ และจีบปากจีบคอพูดว่าตนรักและเทิดทูนประชาธิปไตยเสียเต็มประดา แถมอ้างด้วยว่าประชาธิปไตยนั้นได้มาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน ซึ่งนับว่าเป็นการอ้างแบบจริงผสมเท็จ เพราะคนที่ตัวตลกหญิงอ้างว่ามาเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น มิพฤติกรรมไม่ต่างไปจากโจรเผาประเทศ มิหนำซ้ำโจรเหล่านั้น ยังทำตามคำปลุกระดมของหัวหน้าโจรที่หลบหนีคดีอาญาอยู่นอกประเทศ หัวหน้าโจรใช้สมุนโจรก่อการเผาบ้านเมือง เพื่อหวังกลับบ้านแบบเท่ๆ ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย

จำอวดหญิงอ้างว่าผู้เรียกร้องประชาธิปไตยต้องตายเพราะถูกยิง แต่กลับจงใจปกปิดความจริงที่ว่าพวกเผาเมืองมีอาวุธสงครามจงใจก่อเหตุจลาจล และจงใจเผาประเทศเพื่อแลกกับเงินของแผ่นดินที่รัฐบาลใช้เป็นเครื่องล่อใจให้คนที่คิดไม่เป็นต้องยอมเผาบ้านเผาเมืองของตนเอง ส่วนแกนนำแก๊งเผาเมืองบางคนก็ได้รับการปูนบำเหน็จด้วยตำแหน่งยิ่งใหญ่ จำอวดหญิงพูดความจริงเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ในเหตุรัฐประหาร 2549 แต่จงใจปกปิดความจริงเรื่องชายโกงบ้านกินเมืองผู้มีพฤติกรรมบกพร่องโดยสุจริต และยังจงใจปกปิดเรื่องการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และการใช้อำนาจรัฐเพื่อแสวงหาความมั่งคั่งให้กับชายผู้นั้นโดยการอาศัยข้อมูลภายในเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว

ตลกหญิงอ้างว่านักโทษหนีคดีสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ประชาชน จนประชาชนทนไม่ได้เมื่อนักโทษชายต้องหมดอำนาจ แต่ตลกหญิงไม่เคยพูดเรื่องที่นักโทษชายสั่งฆ่าประชาชนหลายพันคนโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม อ้างนโยบายประชานิยมที่ทำขึ้นเพื่อซื้อเสียงประชาชนว่าเป็นเรื่องดีงาม อ้างการแข่งขันเสรี ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจที่ทำให้ครอบครัวของเธอรวยล้นฟ้ามาจากธุรกิจผูกขาด อ้างว่าประชาชนต้องมีส่วนร่วมทางการเมือง แต่ไม่เคยฟังเสียงคัดค้านใด ๆ จากเจ้าของแผ่นดิน

เฉอหวังจะได้แรงกดดันจากนานาชาติที่จะช่วยพัฒนาประชาธิปไตย แต่กลับไปพูดในดินแดนที่ไม่มีประชาธิปไตยแท้จริง อ้างว่าไม่ต้องการให้มีการเสียเลือดเสียเนื้ออีก แต่กลับสร้างสถานการณ์ให้ผู้คนเผชิญหน้ากัน อ้างว่ารักสันติแต่กลับสนับสนุนให้แก๊งอันธพาลของตนไปคุกคามฝ่ายตรงข้าม เหล่านี้คือ ความมหัศจรรย์เชิงอุบาทว์ของตลกหญิงจอมสร้างภาพ แล้วเธอเชื่อหรือว่านานาชาติจะเชื่อเธอ


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#41 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:36

พ่อค้าหัวใสเกาะติดสถาณการณ์ 

 

52329632f.jpg

 

ขอบคุณภาพจาก oknation


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน