ปลด"โต้ง" ง่ายกว่าปลด ดร.ประสารนะ
โต้ง เป็นนักการเมืองที่เกาะติดอำนาจการเมืองมาตลอดฝีมือไม่ปรากฏ ถนัดแค่แถลงข่าวประชาสัมพันธ์
ใช้ความรู้ระดับประถมมาบริหารประเทศ
จบเศรษฐศาสตร์ จุฬา ดูดีมีศักดิ์ศรีนิดหน่อย
ดร.ประสาร จบปปริญญาเอกบริหารธุรกิจจากฮาร์วาด..
ดูดีมีศักดิ์ศรีกว่าโต้งเยอะ.. ได้รับความเชื่อถือ
..ที่สำคัญ เป็นคนทำงานตรงไปตรงมา
รักษาผลประโยชน์ของประเทศ...
ปลดผู้ว่าธปท. เตรียมปล้นคลังหลวง
รัฐบาลกำลังเล่นเกมส์หยั่งกระแสปลดผู้ว่าแบงค์ชาติ โดย สรรเสริญ สมะลาภา
https://www.facebook...location=stream
การโยนว่าใครมีอำนาจปลดผู้ว่าฯ คื อการสร้างข่าวเพื่อหยั่งกระแส
จากคุณกิตติรัตน์บอกว่าเป็นอำนาจของบอร์ดแบงค์ชาติ จนถึงคุณวีรพงษ์ (ประธานบอร์ดฯ)
บอกว่าเป็นอำนาจของนายกฯ และ ครม. คนในรัฐบาลจะไม่รู้เชียวหรือว่าที่จริงแล้วเป็นอำนาจของใคร
ทุกคนเห็นด้วยว่าที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งเกินไป แต่จากการแถลงว่าได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว
ก็ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง 2.4% ในช่วง 8 วัน
อีกทั้งการมุ่งประเด็นไปที่แบงค์ชาติไม่ยอมลดดอกเบี้ยก็เป็นเพียงข้ออ้างปลดผู้ว่าฯ
เพราะทุกคนก็ทราบดีอยู่ว่าดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยเดียวของเงินไหลเข้าและการลดดอกเบี้ย
ก็มีผลข้างเคียงด้านอื่นรวมถึงทำให้มีเงินไหลเข้ามาที่ตลาดทรัพย์สินอื่นเช่นเดียวกัน
ส่วนการตัดสินใจลดดอกเบี้ยนั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าฯ คนเดียว ที่คุณวีรพงษ์บอกว่า "เศรษฐกิจไทยอาจเกิดภาวะวิกฤตเหมือนในอดีต"
ก็ยิ่งไปกันใหญ่ครับ เพราะวิกฤตในอดีตเกิดจากเงินไหลออกเนื่องจากฟองสบู่แตก ไม่ใช่เงินไหลเข้าเหมือนในปัจจุบัน
ผมคิดว่าเป้าหมายจริงของการปลดผู้ว่าฯ คือต้องการที่จะล้วงเงินทุนสำรอง
ที่ตอนนี้มีอยู่ 5 ล้านล้าน ออกมาใช้ (ดังรูป) ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและแบงค์ชาติครั้งแรก
คือความคิดที่จะนำทุนสำรองมาจัดตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
และก็มีความพยายามโดยมีมาตรา 7(3) ใน พรก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ
ที่ให้อำนาจรัฐบาลโอนเงินและทรัพย์สินของแบงค์ชาติได้
แต่สุดท้ายด้วยการทักท้วงอย่างหนักจากหลายฝ่ายเรื่องนี้ก็พับไป
หากรัฐบาลกำลังเล่นเกมส์หยั่งกระแสปลดผู้ว่าฯ เราก็จะหยั่งกระแสไม่ปลดบ้าง
... 2 ล้านล้านก็จะกู้แล้ว ยังจะงาบเงินทุนสำรองอีกหรือ !!