ใครจะไปคิดว่า...จู่ๆ She หน้าโง่...เกิดอุตริอะไร “ปรี๊ดแตก”...ออกมากล่าว “ปาฐกถาโง่ๆ” ที่ “มองโกเลีย” ด้วยการ “ให้ร้าย” กับ “ประเทศบ้านเกิดของตัวเอง”...ชนิดที่เรียกว่า “หลายคน...รับไม่ได้” โดยเฉพาะกับประโยคเด็ดที่ว่า "รัฐบาลพี่ชายของดิฉัน ที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลายคนที่ไม่รู้จักดิฉัน อาจบอกว่า เธอจะบ่นไปทำไม เป็นเรื่องปกติในกระบวนการการเมืองที่รัฐบาลมาแล้ว ก็ไป ซึ่งหากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเป็นไปที่เกิดขึ้น จากการ "รัฐประหาร" ประเทศไทยต้องถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติ หลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการและแผนงานที่พี่ชายของดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการ ถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป"...
รวมไปถึงประโยคปิดท้ายที่ว่า..."ดิฉันหวังว่าความเจ็บปวดที่ครอบครัวของดิฉันได้รับ ที่ครอบครัวของเหยื่อทางการเมืองไทย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 91 คนในเหตุการณ์เมื่อเดือนพ.ค.2553 ต้องเผชิญ จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทย ขอให้เราทุกคนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อที่เสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์ได้รับการปกปักษ์รักษาเพื่อลูกหลานและคนรุ่นต่อๆไป"...
... ถือเป็น “เชื้อเพลิงชั้นดี” ที่ She เป็นคนจุด-เป็นคนก่อให้ “ไฟขัดแย้ง” ในสังคมไทย...อุบัติขึ้นเอง...จริงๆ...
งานนี้จะไปโทษ-จะไปโบ้ยให้ใคร...คงไม่ได้ เพราะ She เดินยุทธศาสตร์ผิดเอง...ผิดอย่างมหันต์...หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “วางบทบาท-วางตัวเอง” ไว้อย่างดี...ที่ “ไม่กระโดด” เข้ามาสู่ “วงขัดแย้ง” โดยมี “สื่อทาสเงิน” ทั้ง “มติชิน-ข่าวบูด” คอยปกป้องอย่างถึงพริกถึงขิง
แต่การออกมาพูดที่ต่างแดนหนล่าสุดนี้...ทำให้ “ภาพลักษณ์” ที่เคยเป็น “แต้มต่อ” ของ She หดหายไปในบัดดล เพราะจะเห็นว่า “หลายคนในสังคม” ที่มีชื่อชั้นที่สังคมยอมรับ...ยังทนไม่ได้ ต้องแบกหน้า “ออกมาด่า-ออกมาบริภาษ” ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง โดยมีคำเปรียบเจ็บแสบ...ทั้ง "อีโง่-อีดอก-กะหรี่-ขายชาติ-ทุเรศ"... ถือได้ว่า...“เสียโง่” ของแท้...และ “ไต่กอ” สืบทราบมาก็คือว่า ระหว่างที่ She กำลังนั่งอยู่บนอากาศ ปรากฏว่ามี “แฟ็กซ์” ตรงมาจาก “พี่ชายนักโทษตัวดี” โดยเป็น “สคริปต์” ที่ “สั่งการ” ให้ “น้องสาวหน้าโง่” ต้องพูดตามเป๊ะ... เรียกว่า “ฉีกทิ้ง...สคริปต์” ที่ “กระทรวงบัวแก้ว” จัดเตรียมไว้ให้...ว่า “ควรจะพูดอะไร”...และทำให้ “คนในกระทรวงบัวแก้ว” ถึงกับ “อึ้งกิมกี่” ที่ She ช่างกล้าพูดเช่นนี้...เพราะมันทำให้ “หายนะ” กำลังมาเยือนทั้ง She และรัฐบาลของ She
... เพราะนับต่อจากนี้... She จะบริหารประเทศอย่างสบายใจเฉิบ...ไม่ได้อีกแล้ว เพราะ "ผู้คนในสังคม" ไม่เชื่อถือและ “ไม่ให้โอกาส She” อีกแล้ว...
คำพูดที่ She ปูดออกมานั้น เป็นการเปิดประตูบ้านประจานตัวเอง...นำปัญหาของบ้านตัวเอง ที่ “พี่ชายตัวเอง” เป็นคนสร้างปัญหาแท้ๆ ไปป่าวประกาศให้ “คนนอกบ้าน” ได้รับรู้ในเรื่องที่ผิดๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ “คนที่มีหน้าที่ดูแลบ้านตัวเอง”
เหตุผลหลักที่ “พี่ชายนักโทษหน้าเหลี่ยม” บีบบังคับให้ She ต้อง Spoke ตาม “สคริปต์” ที่เขียนให้ก็คือ มีสัญญาณแจ่มชัดว่า She และรัฐบาลของ She จะโดน “องค์กรปราบโกง” เชือดในเรื่อง “ข้าวฉาว-ข้าวเหม็นบูด-ข้าวเน่า”...ที่ “ทำไว้แย่มาก”...เพราะ “ชาวนา” ยังไม่ได้เงิน...แถม “เงินคงคลัง” ก็ไม่มีแล้ว เรียกได้ว่า...หยิบมาถกเมื่อไหร่...ก็ “โดน...เมื่อนั้น”
อีกทั้ง “สัญญาณ” จาก “ขั้วอำนาจเก่าแก่” ที่ทรงพลังและยังมีอิทธิพลแฝง...ก็เริ่มบ่งบอกแล้วว่า “ต่อไม่ติด”...หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “น้องหน้าโง่” สามารถ “แตะ” ได้ถึง “ผู้มีบารมี...หลายคน” งานนี้ “พี่ชายนักโทษหน้าเหลี่ยม” จึงอ้างว่า ต้องเดิน “เกมแรง” เพื่อ “ยกระดับการเจรจา” ให้มี “อำนาจต่อรอง” ดังเดิม...แทนที่จะสู้แบบ “แตกหัก”
เพราะรู้ดีว่า...ต่อให้ “แตกหัก...ขนาดไหน” ก็ไม่สามารถต่อกรกับ “อำนาจแฝง” ที่ “ซ่อนเร้น” และมี “อิทธิพล”...ไม่ได้ และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า “การมีอำนาจ-การถืออำนาจ” ไว้ “ในมือ” ย่อมดีกว่า...การถูกเขี่ยออกนอกวงโคจร...เพราะอย่างน้อย “พวกขี้ข้า” แบบ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” หรือ “ทาริดสีดวงทวาร” ยังมาคอยรับใช้เพื่อ “ประคองอำนาจ” เอาไว้
ไม่แปลกใจกันบ้างหรือ...ทำไม “โจกแดง” รุ่นแรกๆ ถึง “เงียบฉี่” ไม่ออกมาโวยวาย ตีโพยตีพาย แสดงอาการเหิมเกริม...เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ปล่อยให้ “โจกแดงกเฬวรากหางแถว” ดาหน้ากันออกมาเสนอหน้าแทน
เพราะงานนี้ “โจกแดงรุ่นเดอะ” รู้หลบเป็นหลีก...เพราะหากขืนทำตัวซ่าส์...อาจได้ไปอยู่ “ห้องกรง” เหมือนที่ “ก่อ(แก้ว)การร้าย” โดนอยู่ในเวลานี้ ก็คิดดู “ตัวละครเล่น” เริ่มมีน้อย...ทำให้ “นักโทษเหลี่ยมจัด” ถึงกับลงทุน “ต่อสายตรง” ถึงบรรดา “โจกแดงกเฬวรากหางแถว” ด้วยตัวเอง...แต่ก็สำแดงให้เห็นแล้วว่า “คำพูด” เริ่มไม่ขลัง!!!
ดังจะเห็นได้จาก “มวลชนแดงถ่อย” ที่ร่อยหรอ...ไม่คึกคักเหมือนเก่า...ในการทำศึกป่วนที่หน้าสำนักงานของศาลรัดทำมะนวย...ถึงขนาดมีข่าวออกมาว่า “นักโทษเหลี่ยมจัด” อารมณ์บ่จอย...ที่ “ปริมาณ...ไม่ได้ตามเป้า” สมราคาที่จ่ายไป
การออกมาสั่งการให้ “สภาทาส” และ “แดงถ่อย” ออกมาท้ารบกับ “อำนาจ” ของ “ศาลรัดทำมะนวย” ก็เพื่อต้องการ “ป้องกันไว้ก่อน” ในการ “ไม่ให้อำนาจ” ของ “ศาลรัดทำมะนวย” มากระหน่ำใส่ “รัฐบาลน้องหน้าโง่” โดยพยายามชูประเด็นเรื่อง "ก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ" ที่รับตีความว่า “การแก้รัดทำมะนวย” ส่อกระทำผิด รวมไปถึงการสั่งการให้ “เดินหน้า” เรื่อง “นิรโทษกรรม”...โดยอ้างเรื่อง “ลอยคอในทะเล” มานาน...และ “เดินมาสุดซอย” แล้ว...ถอยกลับไม่ได้อีก
แต่งานนี้ “คลุกวงใน” ต่างรับรู้กันดีว่า นี่คือ “อาการพล่าน” เหมือนหนูติดจั่น...ที่รับรู้ดีว่า...อนาคตของการกุมอำนาจรัฐ...เริ่มไม่แน่นอน...จึงต้องดิ้นทุกหนทาง แต่ “ไต่กอ” อยากย้ำเตือนว่า...การเดินเกมแบบรุกไล่โดยไม่สนความถูกต้องเช่นนี้...คือ “บูมเมอแรง” ดีดกลับ...ที่จะกระทบชิ่งไปทำให้ “อำนาจที่มีในมือ ณ เวลานี้”....หลุดลอยไปโดยง่าย!!!
เพราะการประกาศไม่ยอมรับอำนาจของ “ศาลรัดทำมะนวย” ถือเป็นตัวเร่งไฟให้ลุกโชน!!!
หากจำกันได้...คราวก่อนตอน "ซุกหุ้นภาค 1" ศาลรัดทำมะนวย...ตัดสินด้วยหลักรัฐศาสตร์ โดยอ้างว่า “ประชาชนเลือกเขาเข้ามา” ทำให้ "จอมโกงชาติพ้นผิด...แบบบกพร่องโดยสุจริต" ซึ่งเวลานั้น...ก็มีการเชิดชู-ยกย่องว่า "ยุติธรรม-แฟร์ดี" แต่พอมีคำตัดสินใดๆ ออกมา “ตรงกันข้าม-ไม่เป็นดั่งใจ”...คนกลุ่มเดียวกันนี้ ก็ออกมาตีโพยตีพายไม่ยอมรับ
เรื่องแบบนี้ "ผู้คนในสังคมไทย" มองกันออก และเริ่มรู้สึกเบื่อกับ "การบ้าอำนาจ-การอ้างเสียงข้างมาก" ที่ไร้เหตุผล และคิดเอาแต่ได้...เช่นนี้!!!
เพราะเมื่อมี “คนกลุ่มหนึ่ง” ไม่ยอมรับกติกา คิดเอาแต่ได้-ยึดแต่ประโยชน์ตัวเอง...โดย “อาศัยอำนาจรัฐ” ที่ถืออยู่ในมือ...และ “เลือกปฏิบัติ” ในการปล่อยให้ “คนคิดต่าง...โดนกระทำ” แต่ “คนคิดเหมือน...ทำอะไรก็ได้”
งานนี้...“ไต่กอ” บอกได้เลยว่า “กลียุคของบ้านเมือง”...เคลือบคลาน...ใกล้เข้ามาทุกที...และเมื่อ “พลัง(ของ)ประชาชน” ทนไม่ได้...และออกมาขับไล่ “พวกโกงบ้าน-กินเมือง”...ถึงเวลานั้น...ครอบครัวหลายคน-ตระกูลหลายคน...อาจไม่ได้อยู่ในผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้...ขอบอก
งานนี้...ต้องรอคอยดูว่า “คำทำนาย” ของ “เจ๊ฟอง ณ กรมประชาฯ” ที่ว่า "ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.เป็นต้นไป 'ดวงแปรตอหลู' ซึ่งดาวพฤหัสบดีที่คุ้มครองดวงชะตาชีวิตจะเข้าสู่ภพมรณะ ทำให้ดวงจะตกมากที่สุดในรอบ 12 ปี" จะเป็นจริงหรือไม่...โปรดติดตามด้วยใจระทึก...555
คอลัมน์ “ซุบซิบไทยอินไซเดอร์”
โดย “ไต่กอ”
