พ.ต.ท.ทักษิณ ....ในขณะนั้น คือนักธุรกิจไม่ใช่นักการเมือง..... ดังนั้น หากจะประเมินจริยธรรม ต้องประเมินในแง่ความเป็นนักธุรกิจ และหากเป็นเช่นนั้น เหตุใด พรรคประชาธิปัตย์ จึงเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากถ่ายภาพนั้นไม่นาน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งแรกในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ขณะที่เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจ ในปี 2549 เขามีฐานะไม่เพียงเป็นนักการเมืองแต่ เป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ ที่มาจากการเลือกตั้ง ..............................................
...........โดย หม่อมเต่านา แนะนำพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรยอมรับการรัฐประหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุค ร.ส.ช. เพราะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณรวยกระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ต้องยอมให้เป็นรัฐมนตรี ฉะนั้น เมื่อ มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดิบได้ดีจากคณะรัฐประหาร พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยิ่งต้องต่อต้านการรัฐประหาร
....................."ทุกครั้งที่เราเห็นภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ กับ พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ยืนยิ้มอยู่ด้วยกันนั้น สิ่งที่แว๊บ เข้ามาในหัวเราเสมอๆ ก็คือว่า ถ้าหากไม่มีการปฎิวัติในตอนนั้น ถ้าหากคนไทยไม่ได้ชินชา แต่เกรงกลัวอำนาจทหาร และให้การยอมรับในการทำรัฐประหาร มาเรื่อยๆจนเป็นวัฒนธรรม... นักธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น พ.ต.ท. ทักษิณ หรือ ใครก็ตาม ก็จะไม่สามารถเข้าไปหาจุดศุนย์กลางของอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน เพื่อกระทำการอะไรก็ตามที่พวกเราคิดว่าเขาทำกัน... พ.ต.ท. ทักษิณ ในตอนนั้น คือนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง ถ้าหากจะประเมินจริยธรรมของ พ.ต.ท. ทักษิณก็ต้องทำด้วยหลักฐาน และความเป็นนักธุรกิจของเขาในตอนนั้น...ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใด พรรค ปชป. จึงเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็น รมต. ต่างประเทศ ได้ในทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณลงเล่นการเมือง หลังจากภาพนั้นถ่ายได้เพียงไม่นาน?? เรียกได้ว่าตำแหน่งทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ อันแรก เกิดจาการเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาล ปชป ของนายกชื่อ ชวน หลีกภัย ...