ผมว่าจะไปโทษเธออย่างเดียวก็ไม่ได้นะครับ
เพราะการศึกษาในห้องเรียนกับชีวิตจริงมันต่างกันครับ
ในห้องเรียนมันเป็นแบบแผนที่สอนกันมาตั้งนานอยู่แล้ว
ถึงแม้จะมีการพลิกแหลงยังงัยมันก็คงไม่เกินกว่าที่มีอยู่ในตำราแน่ๆ
ขืนอาจารย์ออกอะไรที่มันไม่มีในตำรา หรือนอกเหนือกว่าที่เขียนไว้มากๆ
ก็คงตกกันยกชั้นแน่ๆ
ถึงแม้จะตกก็สามารถที่จะลงทะเบียนซ้อมหรือเรียนซ้ำอีกกี่รอบก็ได้
เรื่องสอบตกเนี่ยไม่แปลกครับ เพราะคนที่จบออกมาด้วยเกรดดีๆ บางทีก็มีปัญหาในการดำเนินชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ
แต่สิ่งที่นางกำลังเจอ หรือโดนบ่นจากคนรอบๆข้างนั้น
มันไม่มีในตำราเรียน เวลาพลาดขึ้นมามันไม่สามารถที่จะลงทะเบียนใหม่หรือสอบซ้อมได้อีก
มันจึงเป็นการยากที่จะให้เธอตัดสินใจอะไรออกมา ในสิ่งที่เธอไม่ถนัด
ถ้าเป็นเรื่องแฟชั่น หรือการไปเปิดงาน ตัดริบปิ้น หรืออะไรที่ไม่ต้องใช้สมองมาก อันนี้เธอถนัด
เธอจึงไร้เดียงสาในเรื่องการเมือง ก็แหมทำงานทางการเมืองแค่ 49 วัน
ก็ได้เป็นนายก เนี่ยถ้าไม่ใช่นามสกุล "ชินวัตร" คงต้องร้องเพลงรอไปอีก 20-30 ปีก่อน
ดังนั้นการที่เธอมาเป็นนายก คงเป็นด้วยการโดนขอร้อง หรือไม่ไม่ก็เป็นลักษณะบังคับมากกว่า
หรือเป็นเพื่อเป็นลักษณะขัดตาทัพมากกว่า เพราะคนที่วางตัวไว้อาจจะติดปัญหาในช่วงนั้น
เธอจึงเหมาะสมมากที่สุดในตอนนั้น แหมช่างเหมือนกับซี่รี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องชอบของผมเลยครับ (เรื่อง Change นายกมือใหม่หัวใจประชาชน)
แล้วบรรดา สส. ในพรรคของเธอ หรือต้องบอกว่าพรรคพี่ชายเธอ แต่ละคนนะดีๆทั้งนั้น
เป็นประเภทสุดยอดของสุดยอด.....(เติมช่องว่างกันเอาเอง)
เมื่อเธอใหม่ทางการเมืองมากๆ จึงไม่แปลกที่เธอจะโดน คนรอบข้าง / บริวาร หลอกใช้
มันก็เลยมีเรื่องบางเรื่องที่เราๆท่านๆเห็นเป็นเรื่องที่ตลกขบขัน ซึ่งโดยปกติมันจะเป็นคนไทยทั่วไปจะไม่ผิดพลาดในเรื่องนั้น
แต่เธอก็ผิดพลาดได้ ซึ่งการที่เธอพิดพลาดในเรื่องที่ไม่น่าจะผิดนั้น
พี่ชายเธอก็คงจะเห็น เลยให้เธอทำงานที่ไม่ต้องใช่สมอง ให้ไปเปิดงาน ตัดริบปิ้น ฯลฯ
ลองสังเกตให้ดีๆนะครับจะเห็นว่า เธอไม่ค่อยจะออกงานที่ต้องใช้สมอง อย่างเช่นการประชุมรัฐสภา เป็นต้น
ที่ผมพยายามบอกออกมาขนาดนี้นะ ผมบอกตรงๆเลยนะครับว่าผม สงสารครับ สงสารโคตรเลยครับ
ผมไม่ได้สงสารเธอเลย แต่ผมกำลังสงสารคนที่ไม่ได้เลือกพรรทเพื่อไทย และ ..........
ผมสงสารประเทศไทย ที่มีนายกเยี่ยงนี้
