Jump to content


Photo
- - - - -

ดับแล้งในอกด้วย 'อุทกพัฒน์' ... เปลวสีเงิน


  • Please log in to reply
ยังไม่มีผู้แสดงความเห็นในกระทู้นี้

#1 pglovethai

pglovethai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 236 posts

ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:41

    วันนี้....จันทร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ "วันพืชมงคล" มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ท้องสนามหลวง เป็นนิมิตว่า "ฟ้า-ดิน" กำหนดให้ผืนดิน-ผืนป่า "ประชาสยาม" เป็นเขตคามแห่งชนชาวเกษตร จรดพระนังคัล คือมั่นหมาย น้ำมา-ฝนมา ข้าวปลา-พืชพันธุ์ธัญญาหาร ถึงฤดูกาลหว่าน-คราด-ดำ-ไถ กล้าใหม่แทนไม้เก่า ข้าวเต็มนา-ปลาเต็มหนอง-คลองเต็มน้ำ แผ่นดินนี้จึงได้นาม...สยามเมืองยิ้ม!


    น้ำคือชีวิต แต่...น้ำมากก็ตาย น้ำน้อยก็ตาย ไม่มีน้ำเลยก็ตาย ดังนั้น การ "บริหาร-จัดการน้ำ" จึงมีความสำคัญกับการอยู่-การตายของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตโดยตรง ประเทศจะโรยราหรือจะรุ่งเรือง


    การ "บริหาร-จัดการน้ำ" นี่แหละ...เรื่องใหญ่!


    ปีนี้แล้งต่อยอดจากปีที่แล้ว และทวีขึ้นเป็น "แล้ง-ร้อนบรรลัยจักร" ในรอบ ๗๐ ปี ที่ว่าในรอบ ๗๐ ปี เพราะผมเกิดมาได้เท่านี้ จึงวัดจากผิวหนังและหัวกระบาลกลางแดดได้ว่า "จุดร้อนสุด" คือปี ๒๕๕๖ นี้ และช่วงนี้ ส่วนใครจะเกกลับว่า "เคยร้อนมหาบรรลัยจักรกว่า"


    ผมก็ไม่เถียง ถ้าท่านมีแต้มต่อมากกว่า ๗๐ อยู่ในบัตรเครดิตภพหน้า!


    ก็อย่างที่คุยกันมาเรื่อยๆ นั่นแหละครับ ประเทศชาติก็เหมือนคน หมุนเวียนเปลี่ยนผัน ขึ้น-ลง, ดี-ร้าย, สว่าง-มืด, ร้อนจัด-เย็นจัด ตราบใดที่ยังไม่มีเอกอัจฉริยมนุษย์คนใดสามารถพิสูจน์หักล้างทฤษฎี "โลกกลม" ของโคลัมบัสให้เป็นอื่น ทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในหลักการ


    "หมุนวน"!     แห่ง.....วงจรกิเลส, วงจรกรรม และวงจรวิบาก ไม่มีปุถุชนคนไหนแหกรางจาก ๓ วงจรนี้ไปได้ ต่อให้ชื่อทักษิณ หรือ...ยิ่งลักษณ์ก็เถอะ!     มันร้อนนัก

 

วันนี้ก็คุยเรื่องน้ำซะเลย จะว่าเกี่ยวกับน้ำ ๓.๕ แสนล้านก็เกี่ยว จะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว คือถ้าประเมินจากแล้ง-ร้อนจัดตอนนี้ คือปี ๒๕๕๖ นี้ ประเทศไทยไม่น่าจะมีน้ำท่วมถึงขั้น "มหาอุทกธาร" อย่างปลายปี ๒๕๕๔

 

    ถ้ามีก็ "มหาซวย" ถึงเนื้อเงิน ๓.๕ แสนล้านเป็นอ้อยอยู่ในปากแล้วก็เถอะ แต่เนื้องานจากเงิน ๓.๕ แสนล้านนั้น ยังเป็นสเปิร์มอยู่ ผ่านมาเข้าปีที่ ๒ สมมุติที่ยื่นซองประมูลกันไป ๙ โมดูล ๑๐ โมดูล เสร็จ ๒ เจ้า คือเจ้าเกาหลีกับเจ้าอิตัลไทย ๓.๕ แสนล้าน ผ่าครึ่งกันไปคนละ ๑.๕ แสนล้าน ก็อีก ๕ ปี ทุกโครงการจึงจะเสร็จตามสัญญา หมายความว่า "ปลงซะเถอะแม่จำเนียร" ภายใน ๕ ปีนี้ แจ็กพอตเข้าซักปี-สองปีแน่ โดยยังไม่มีอะไรในโครงการเสร็จมากั้นน้ำได้


    และชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ประเทศไทย ครบ ๕ ปีแล้ว ๓.๕ แสนล้านเป็นอุจจาระไปหมดแล้ว  แต่โครงการทั้งหมดนั้นจะ "ไม่เสร็จ" ตามสัญญา


    ประมูล "สร้างโรงพัก" เจ้าเดียว "ทิ้งร้าง" ทั่วประเทศ ที่เจี๊ยวเล็ก-เจี๊ยวใหญ่กันอยู่ตอนนี้  อย่าเพิ่งตายกันนะ กัดฟันอยู่ให้ถึงปี ๒๕๖๑ แล้วจะเห็นประวัติศาสตร์ "รอยตีนควาย-รอยตีนนักการเมือง"

 

   "ซ้ำรอยเดิม"!


    ประมูลจู๋จี๋แบ่งๆ กันไป ๒ เจ้า ทั้งงานแก้มลิง งานฟลัดเวย์ งานเขื่อน ทั้งหมด ๑๐ โมดูล ต่อให้พระวิษณุกรรมเหาะลงมาเขียวๆ คุมการก่อสร้างเอง ก็ไม่มีทางทำ "เสร็จ" ได้ตามกำหนดในสัญญา ๕ ปีน่ะ บริษัทไหนได้สัญญา แค่ผ่านสิ่งแวดล้อม แค่เจรจาเวนคืนที่ดินชาวบ้าน แค่นั้นก็ทำให้สำเร็จก่อนเถอะ ยังไม่ต้องพูดถึงการก่อสร้าง!


    ในระเบียบรัฐ จะมีคณะกรรมการตรวจสอบสัญญาก่อนอนุมัติ ๑ ในคณะกรรมการที่เป็นยาดำแทรกในบอร์ดคือ ตัวแทนจาก "สำนักงานอัยการสูงสุด" ส่วนมากจะเป็นตัวอัยการสูงสุดเอง  แต่ก็เห็นเกือบทุกสัญญาที่เกิดปัญหา จะจบลงแบบรัฐเสียค่าโง่


    ถามว่า...ปล่อยให้โง่ได้อย่างไร ในเมื่อมีตัวแทน "สำนักงานอัยการสูงสุด" ร่วมตรวจสอบสัญญาตั้งแต่ต้น?


    และทำไม "อัยการสูงสุด" ไม่เคยมีความผิด หรือต้องรับผิดชอบใดๆ เลย ทั้งที่แต่ละเดือน-แต่ละปี รับค่าตอบแทนระดับล้าน ซ้ำบางคน "คนเดียว" เป็นมันเกือบทุกบอร์ด ปีๆ "เงินบริสุทธิ์" เฉพาะส่วนนี้ที่ "เป็นคุณ" รับไป ไม่เฉียดร้อยล้านรึ?


    แต่เวลาเกิดความเสียหาย ทั้งจากสัญญาผิดพลาด-ไม่รอบคอบ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจากสัญญามีช่องโหว่ พวกบอร์ดทั้งหลาย โดยเฉพาะบอร์ดที่มาจากอัยการ-นักการเมือง ในส่วน "เป็นคุณ" ก็รับกันเต็มๆ แต่ในส่วน "เป็นโทษ"  ไม่เห็นมีโทษต้องรับกันเลย?!

 

    ผมว่ามันไม่แฟร์กับสังคม ประชาชน "เจ้าของเงิน" ทุกบาท-ทุกสตางค์ หามาให้แล้ว กำไรประชาชนก็ไม่ได้ แต่พอขาดทุนหรือฉิบหายเพราะ***เมืองกันเอง ประชาชนอีกนั่นแหละ เป็นฝ่ายต้องรับจ่ายหนี้ให้ ในส่วนที่ฉิบหายจากพวกมึงทำ!

 

    รัฐบาล "ทักษิณริ-ยิ่งลักษณ์ยำ" นี้ ทำกระฉอกฉาวไปทั้งโลกว่า ประเทศไทยเป็น "เมืองคอรัปชั่นอันดับโลก" ฉะนั้น ทุกโครงการของรัฐบาล ไม่ว่าจำนำข้าว-จำนำพืชผลเกษตร กองทุนบ้าบอคอแตก น้ำ ๓.๕ แสนล้าน กู้ ๒.๒ ล้านล้าน ต่อไปนี้

 

    ต้องให้ "ภาคประชาชน" เข้าไปร่วม
    ในฐานะ "ผู้ตรวจสอบ"!

 

    ตรวจสอบทั้งสัญญา ทั้งการใช้เงิน และทั้ง "ความเป็นไปได้-ความโปร่งใส" ในทุกขั้นตอนของโครงการ พูดกันโดยไม่เกรงใจ เพราะ...พวกกู...ประชาชนของชาติ ไม่ใช่ของทักษิณ

 

    ไม่ไว้ใจ "ผีปากแดง" ดูดเดือด อย่างพวกมึงอีกแล้ว!

 

    อ้าว...จะคุยเรื่องน้ำ ดันถลำไปเรื่องเนื้อ จนเกือบจะ เอนเทอร์ เดอะ โบนส์ แล้วมั้ยล่ะ ครึ่งปีหลังนี้ ถ้าน้ำมา ทีท่าจะมาเฉพาะแห่ง แต่มาแบบ "มหาวินาศสันตะโร"

 

    เพราะผมวัดใจเทวดาฟ้าดินแล้ว ก็กลัวๆ ใจท่านอยู่ สังเกตมั้ยล่ะ ถึงแล้ง-ร้อน แต่มีมหาวาตะนำมรสุมเข้ามาเป็น "พายุ-ฝน" ซัดกระหน่ำเป็นระลอก

 

    เดี๋ยวๆ ก็ ทางเหนือห่าหนึ่ง เดี๋ยวๆ ก็ ทางอีสานห่าหนึ่ง เดี๋ยวๆ ก็ ทางใต้ห่าหนึ่ง กระทั่งในภาคกลาง-กรุงเทพฯ เอง ก็เจอเข้าหลายห่าอยู่!

 

    ลักษณะนี้ วันใด-วันหนึ่ง พายุ-ฝนอาจมาแบบ "มหาห่า" เป็นมหาถล่มตรงจุดใด-จุดหนึ่งก็เป็นได้ ถ้าตรงจุดนั้นคือ "ทำเนียบรัฐบาล" ก็อนุโมทนาสาธุไป เพราะมี ๓.๕ แสนล้านเป็นฟลัดเวย์ เป็นแก้มลิง-ตูดลิงป้องกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นภาคกลาง ต่ำจากนครสวรรค์ลงมา
    "นครนรก" แหงๆ พระเดช-พระคุณท่าน!

 

    ที่ราบลุ่มภาคกลาง จากชัยนาทเรื่อยลงมาถึงอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ ที่พ่นน้ำลายกันไว้แต่ปลายปี ๕๔ จนถึงขณะนี้ ผีปลอดก็ไม่เห็น เห็นแต่ผีปอบมาหลอกกินตับ...กับกินไอ้นั่น


    สำหรับตอนเหนือลงมาถึงนครสวรรค์ ในพื้นที่ ๘ จังหวัด เรียกว่าแถบ "ลุ่มน้ำยม" ที่เคยจมซ้ำซากก่อนเพื่อน เป็นบุญของพี่น้องทั้งหลาย รอดจม-รอดตายค่อนข้างแน่แล้ว     "ฟ้าประทาน-ทหารลงมือทำ" ต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้วครับ!

 

    โดยเฉพาะพี่น้องแถบ นครสวรรค์-สุโขทัย-พิษณุโลก อย่างชาวบางระกำ ขวัญเอ๋ย...ขวัญมา ด้วยมูลนิธิน้ำ "อุทกพัฒน์" โดยนายสุเมธ ตันติเวชกุล กับกองทัพบก โดย "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ได้เซ็นสัญญาทำความตกลงร่วมมือกัน ป้องกัน-แก้ไขอุทกภัย-ภัยแล้ง และการจัดการทรัพยากรน้ำชุมนม ตามแนวพระราชดำริของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

 

    อภิมหาโครงการระดับชาติ ๓.๕ แสนล้าน นั่นก็ปล่อยเขาว่ากันไป แต่เฉพาะหน้า ชาวบ้านแต่ละชุมชนที่ต้องเอาให้รอด ใครจะช่วย...ก็โครงการพระราชดำริและกองทัพบกนี่แหละช่วย

 

    ผมดูข่าวโทรทัศน์แวบๆ เดือนก่อน เห็นทหารช่างยกกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือก่อสร้างขนาดเล็ก-ขนาด ใหญ่ ไปสร้าง "อ่างพวง" ให้ชาวบ้านที่สุโขทัย

 

    เงี่ยหูฟังจาก ทบ.ช่อง ๕ ว่า เป็นแถวๆ ศรีสัชนาลัย โดย ดร.รอยล จิตรดอน เลขาฯ มูลนิธิอุทกพัฒน์ "ผู้ชำนาญการน้ำ" ลงไปคลุกฝุ่น-คลุกชาวบ้าน กับทหารช่างจนใกล้เสร็จ โดยชาวบ้านเฮละโล-สาระพา มาร่วมมือ-ร่วมใจกัน

 

    ผมเห็นภาพข่าวแว็บๆ ยังบ่อน้ำตาตื้น "ปิดทองหลังพระ" เป็นเช่นนี้เองหนอ ด้วยน้ำพระทัย-สายพระเนตร "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และน้ำอด-น้ำทนของทหารคือกองทัพ การบริหาร-จัดการน้ำจาก "อุทกพัฒน์" โดย ดร.รอยลมือปฏิบัติ และโดยทหารช่างมือขุด-มือทำ บนความเห็นร่วมของชาวบ้านแต่ละพื้นที่

 

    โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง...เกิดแน่ และเริ่มเดินหน้า คือ อ่างเก็บน้ำยมบน อ่างเก็บน้ำยมล่าง อ่างเก็บน้ำงาว ไม่มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ยังไม่รวมการพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-เล็กในลุ่มน้ำสาขาอีก ๑๗ โครงการ บึงกระดิ่ง บึงน้ำทรง ที่พยุหะคีรี บึงอ้อ ที่เขตเมืองนครสวรรค์
   

มูลนิธิ "อุทกพัฒน์" อาจเป็นชื่อใหม่ ไม่คุ้นหูแต่ทราบไว้เป็นเบื้องต้นเถิดว่า ขณะนี้ ดร.สุเมธและ ดร.รอยลผู้ทำงาน ได้จับมือกับกองทัพ ลุย-ลงแต่ละพื้นที่ เข้าไป "บริหาร-จัดการทรัพยากรน้ำ" ในระดับชุมชนกว่า ๖ หมื่นชุมชนทั่วประเทศแล้ว


    เมื่อคราวเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ช่วงนั้น มหาอุทกธารเพิ่งคลายตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินจำนวน ๘๔ ล้าน ที่ กสทช.ทูลเกล้าฯถวาย เป็นทุนประเดิมก่อตั้งมูลนิธิน้ำ "อุทกพัฒน์" เพื่อการพัฒนาเรื่องน้ำให้กับประชาชน
    และ ๘๔ ล้าน ทุนประเดิมจาก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" นั้น ขณะนี้...กระจายสู่สุขประชาชน ด้วยโครงการแก้ปัญหา "น้ำท่วม-น้ำแล้ง" แล้ว.






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน