เรื่องจริงและซีเรียส เรื่องที่เกาหลี โกหกทั้งเพครับ ผู้หญิงคนที่อ้างว่าโดนหลอกไป ที่จริงสมัครใจไปด้วยตัวเอง พอไปถึงก็อยากกลับมาหาผัวที่บ้าน แต่ไม่มีเงินกลับเลยกุเรื่องขึ้นมา ที่ร้านไม่มีการขายบริการแต่อย่างใด ตอนนี้คนไทยที่ร้านทุกคนเดือดร้อนหนักต้องปิดร้านหนี ตำรวจเกาหลีทำให้ร้านนวดไทยร้านๆอื่นๆโดนทุกร้าน ครับ

เรื่องจริงที่เกาหลีเป็นแบบนี้
#1
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:36
#2
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:04
ขอหลักฐานด้วยครับ
น่าสนใจ
#3
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:31
ผมก็ว่าคดีนี้มันแหม่งๆยังไงชอบกล ถ้ามีข้อมูลเพิ่มรบกวนโพสได้เลยครับ
#4
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:51
เราไปทำรุงรังบ่อย ๆ แบบนี้ อีกหน่อยจะเข้าเกาหลีคงต้องใช้วีซ่า
#5
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:42
สงสัยคือเธอมีเวลาเล่น ไลน์ มีเวลาเลือกหรือค้นหาว่า ใครที่พอจะช่วยเธอได้
และได้คุยกันกับตำรวจของไทย และ ส่งพิกัด ต่างๆ นาๆ
ได้อย่างไร หากถูกบังคับขายบริการ
- อู๋ ฮานามิ, SPDZ, emujack and 3 others like this
#6
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 14:46
น่าคิดครับขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
#7
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:59
รอเจ้าตัวเค้ารวบรวมหลักฐานกลับมาแถลงเองดีกว่าครับ เจตนาแค่ติงการทำงานของสื่อมวลชนที่ไม่รับผิดชอบเท่านั้น
#8
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:01
ตำรวจสากลคงโง่กว่าสลิ่ม
#9
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:03
POPULAR
กระทู้นี้ไม่มีสลิ่มไม่มีควายแดง ควายก็ควายเพราะความงี่เง่าของมันเองเพียวๆไม่มีการเมือง ไม่มีอุดมการณ์
- ปุถุชน, Rxxxx, อู๋ ฮานามิ and 11 others like this
#10
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:45
#11
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:49
ไม่มีเงินกลับ ก็ร้องขอให้สถานฑูตช่วยเหลือก็ได้นี่นา
#12
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:14
ไม่มีเงินกลับ ก็ร้องขอให้สถานฑูตช่วยเหลือก็ได้นี่นา
ถ้าเป็นพวกคนงานไทยที่ไปเป็นโรบินฮูดที่โน่น
พออยากจะกลับ ก็ไปมอบตัวที่สถานทูต
แล้วก็เอาเงินที่ทำงานมาซื้อตั๋วกลับไทย
ในพาสสปอร์ตหน้าหลังก็จะถูกจ็อบไว้ประมาณว่าหนีเข้าเมืองค่ะ
คนงานไทยไปหนีที่โน่นเยอะนะคะ
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
#13
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:25
#14
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:13
เหอะ เหอะ เรื่องพวกนี้พูดลำบาก มันเหมือนพม่า ลาว กัมพูชา ที่เข้ามา
ทำงานในประเทศเรานั่นแหละ ถ้าได้รับอนุญาตทำงาน ก็พอทำงานได้
อย่างสบายใจหน่อย แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตทำงานมันก็มีปัญหาตามมา
สารพัด
คนไทยที่ไปทำงานในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ก็ต้องมีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งเขาก็
ไม่ค่อยจะอนุญาตให้ มันก็เลยมีนายหน้าวิ่งเต้น คือพวกบริษัทจัดหางานนั่นแหละ
หางานให้ ขอใบอนุญาตทำงานให้ ทำพาสปอร์ต ขอวีซ่าทำงานให้ แต่คิดค่าใช้จ่าย
เป็นแสน
ถ้าไปทำงานโดยไม่ถุกกฎหมาย ก็ใช้วิธีขอวีซ่านักท่องเที่ยว ถ้าเล็ดลอดเข้าไปได้
โดย ตม ของเขาไม่สงสัย ก็ไปลักลอบทำงาน ซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงก็จะไปทำงานประเภท
นี้แหละ คือนวดแผนโบราณ หรือ พนักงานเสริฟในร้านอาหาร โดยเจ้าของร้านซึ่งมัก
จะเป็นหญิงไทย ผัวเกาหลี หรือผัวญี่ปุ่น ก็แล้วแต่ เป็นผู้ติดต่อพาไป เสียค่าใช้จ่าย
เป็นแสนเหมือนกัน คนติดต่อพาไปจะเป็นผู้จัดการให้หมดทั้งเรื่องพาสปอร์ต วีซ่า และ
ค่าเครื่องบิน แต่จะไปหักคืนจากค่าจ้างจนกว่าจะหมด ซึงถ้าไปทำงานปกติก็น่าจะ
ลำบากอยู่แล้ว เพราะค่าจ้างมันได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ยิ่งถ้าได้ค่าจ้างน้อยก็ต้อง
อยู่ยาวเลยกว่าจะใช้หนี้หมด
รายที่เป็นข่าวนี้ รู้สึกว่าตามข่าวแล้ว คนไป กับ คนพาไป เป็นญาติกัน ก็คงต้องว่ากันเอง
นั่นแหละอะไรจริงอะไรไม่จริง
- Rxxxx likes this
#15
ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:21
เรื่องโฮมซิค นี่เป็นเอามาก ผมมีญาติไปซาอุฯสมัยที่ยัีงมีความสัมพันธ์อันดี แรงงานมีฝีมือได้ไปแสดงฝีมือไว้มาก แต่่มีปลาเน่าทำให้เสียหมด โฮมซิคนี่เกิดกับใครก็ได้ทำให้เกิดอาการจิตไม่ปกติแสดงอาการต้องถูกสงตัวกลับ
#17
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:04
เรื่องแดงขึ้นมาตามนั้น
http://www.dailynews...th/crime/206832
ปคม. แถลงกรณีอาเด็ก17 ปี ขายตัวเกาหลี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ปคม.แถลงจับกุม นางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 896/2556 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา โดยประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากผู้ต้องหาเดินทางกลับมาประเทศไทยด้วยสายการบิน อิส สตาร์ เจ็ท เที่ยวบินที่ แซดอี 511 จากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นางเพียงใจ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ กับพวก ที่หลอกลวงให้เดินทางไปทำงานนวดแผนโบราณที่ร้านอยุธยา กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ก กระทั่งมีการประสานงานจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนผู้เสียหายได้รับความช่วยเหลือ เดินทางกลับประเทศไทย อย่างปลอดภัย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหา รวม 3 ราย ประกอบด้วย นางเพียงใจ นายชุน ซอง กึม หรือเอ็ม อายุ 36 ปี และ น.ส.ทิพย์วรรณ เต็มเปา อายุ 26 ปี ก่อนจะได้รับการติดต่อจากนางเพียงใจ เพื่อขอมอบตัวต่อสู้คดี
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำนางเพียงใจ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาแต่ทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อผู้ต้องหาที่มีหมายจับ เข้ามอบตัว ก็มีการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ จากนั้นก็จะนำตัวส่งศาลอาญา เพื่อพิจารณาเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากพนักงานสอบสวนหมดอำนาจในการควบคุมตัวแล้ว ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีก็ยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นไปตามพยานหลักฐานต่างๆ
“ส่วนกรณีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ทางพนักงานสอบสวนมีการสอบปากคำผู้เสียหายร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม หากปรากฎว่าผู้เสียหายให้การเท็จก็ต้องถูกดำเนินคดี ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบในการให้การกับเจ้าพนักงาน ส่วนในรายละเอียดต่างๆ นั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้” ผบก.ปคม.กล่าว
ขณะที่ นางเพียงใจ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนยืนยันได้ว่าไม่ได้หลอกลวงหลานสาวให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงไม่ได้เป็นไปตามที่มีข่าวออกมาเลย แต่เป็นความสมัครใจของหลานเอง ที่ต้องการไปทำงานหาเงิน แม่ของเขาก็ทราบดี นอกจากนี้แม่ของ น.ส.เอ ยังเคยเดินทางไปทำงานมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะเห็นว่ามีรายได้ดี จึงอนุญาตให้ลูกไปกับตน โดยตลอดเวลาที่หลานอยู่ด้วยนั้น ก็ไม่เคยบังคับ ขู่เข็ญ หรือมีปัญหาทะเลาะกัน จึงไม่ทราบว่าทำไมถึงต้องแจ้งความดำเนินคดีตน เรื่องนี้น่าจะคุยปรึกษากันก่อน ถ้าอยากกลับประเทศไทยแล้วตนก็ไม่บังคับ น่าจะบอกกันตามตรง
นางเพียงใจ กล่าวต่อว่า สำหรับงานนวดที่ทำก็ไม่ใช่งานหนักอะไร ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีใดๆ ทั้งสิ้น แต่หลานเล่นเฟซบุ๊ก แล้วไปบอกกับ พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี รอง ผกก.สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ว่าถูกพามาทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ และต้องการความช่วยเหลือเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย นั้น เขาก็ไม่มาบอกตรงๆ ทำให้เรื่องบานปลายจนตนต้องถูกศาลออกหมายจับ ถูกดำเนินคดี ก็ต้องเสียประวัติและครอบครัวได้รับผลกระทบไปด้วย
ผู้ต้องหารายนี้ กล่าวอีกว่า ส่วนการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ธานินทร์ นั้น ขณะนี้ยังขอพิจารณาอีกครั้งว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียหายแค่ไหน แต่จริงแล้วก็เข้าใจว่าตำรวจก็ทำตามหน้าที่ รวมทั้งทาง บก.ปคม.ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนเรื่องนี้ผู้ปกครองของ น.ส.เอ ยังไม่ได้พูดกับตน แต่คงยังไม่แจ้งความกลับผู้ใด
ทั้งนี้ สำหรับข้อกล่าวหา ที่พนักงานสอบสวนแจ้งความเอาผิดนางเพียงใจ ประกอบด้วย 1.สมคบกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ 2.ร่วมกันเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีโดบการหลอกลวงขัมขู่ 3.ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่เป็นธุระจัดหา โดยบุคคลนั้นอายุไม่เกิน 18 ปี 4.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขืนใจให้ค้าประเวณี และ 5. ร่วมกันบังคับขู่เข็ญให้เด็กยินยอม เพื่อแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม.
Edited by อู๋ ฮานามิ, 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:07.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#18
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:15
ตำรวจสากลคงโง่กว่าสลิ่ม
ไอ้โง่เอ้ยยยยย โง่ซ้ำซาก เงิบสิ เงิบยันเงา เงิบบ่อยๆไม่สงสารผู้ใหญ่ที่บ้านเหรอกระทู้นี้ไม่มีสลิ่มไม่มีควายแดง ควายก็ควายเพราะความงี่เง่าของมันเองเพียวๆไม่มีการเมือง ไม่มีอุดมการณ์
ทางบ้านเค้าไม่รู้อะไรด้วยจะโดนด่ายันโค .....ต ..................รเอานะ
#19
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:16
- BearFamily likes this
#20
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:20
แค่เด็กมันอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงผัว ทำเอาพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาเดือดร้อน
ทำมาหากินลำบากกันไป... จบ ม.๓ เลิกเรียน อีนี่เด็กใจแตกหว่ะ ดูข่าวล่าสุด
พ่อออกมาบอกแล้วว่าเด็กมันกุเรื่องขึ้นมาเองเพราะอยากกลับบ้าน
- BearFamily and Manners like this
#21
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:40
แค่เด็กมันอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงผัว ทำเอาพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาเดือดร้อน
ทำมาหากินลำบากกันไป... จบ ม.๓ เลิกเรียน อีนี่เด็กใจแตกหว่ะ ดูข่าวล่าสุด
พ่อออกมาบอกแล้วว่าเด็กมันกุเรื่องขึ้นมาเองเพราะอยากกลับบ้าน
น่าจะมีการกวดขันกันให้เข้มงวดเกี่ยวกับการสอนจริยธรรมให้คนไทยนะครับ ยิ่งเด็กๆสมัยนี้มีน้อย-ไม่มีกันเลยทีเดียว แว้นก็เต็มเมือง เด็กขายบริการก็เยอะแยะ สังคมมันเสื่อมโทรมลงเยอะจริงๆ
#22
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:10
สรุปก็เรื่องโอ่ละพ่อ จากนี้ใคร เดือดร้อนจริงๆ ผมว่าก็มีแย่ล่ะครับ เหอๆๆๆ
ทำไม่คิดโดยแท้
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#23
ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:34
ร้านนวดไทย คนงานไทย คนไทยที่ยื่นวีซ่า เริ่มเดือดร้อนละครับ
#25
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 01:07
จริงๆมันก็ผิดตั้งแต่เอาเด็ก 17ไปทำงานแล้ว
เรียนก็ไม่จบ มีผัวแล้ว อายุแค่ ๑๗ พ่อแม่เลี้ยงมายังไง
#26
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 01:41
ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังคร่าวๆนะคับ
-พ่อของเด็ก17 ส่งลูกไปเที่ยวไปทำงานกับน้องสาวของตัวเองที่เกาหลี เพราะเด็ก17อยู่กับพ่อ แล้วไม่ยอมเรียนและติดแฟน พ่อแม่ของเด็กเลิกรากันไปและแยกกันอยู่
-เด็ก17เล่นFacebook คิดถึงแฟน ที่อยู่พัทยา เลยอยากกลับบ้าน
-เด็ก17โพสรูปร้องไห้แล้วบ่นว่าโดนลวนลาม เลยมีตำรวจนายนึงเข้ามาแนะนำและช่วยเหลือ จนกลายเป็นเคสของการค้าประเวณี
-เรื่องแดงขึ้นมา พ่อเด็กงง และน้องสาวของพ่อเด็กก็งง
-สื่อกระหน่ำเล่นข่าว
-สื่อเงิบ เพราะพ่อเด็กออกมายันว่าไม่ได้เป็นการค้าประเวณีแน่นอน และตัวเด็กเองอาจจะอยากกลับบ้านโดยไม่กล้าบอกพ่อเพราะกลัวโดนตำหนิ เลยกุเรื่องขึ้นมา
-ตำรวจเงิบ เพราะไปเอาตัวเด็กกลับมาแล้วด้วยเข้าใจว่าเป็นการค้าประเวณีโดยการดำเนินการของตำรวจที่เข้าไปแนะนำช่วยเหลือผ่าน Facebook
-สื่อกระหน่ำลงเล่นข่าว อีกครั้งกลายเป็นเรื่องวุ่นวายของคำโกหกของเด็ก
- SPDZ likes this
"ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน”
"กลุ่มชาวพุทธหูรุนแรง"
#27
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:45
ตามนั้นครับ
#28
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:48
เมื่อคืนดูข่าวเห็นบอกว่าตำรวจเองก็มีหลักฐานไปจับจริงๆนี่ครับ? เห็นว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างทั้งไทยและเกาหลี เลยงงว่าตกลงมันยังไงกันแน่?
#29
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:53
เมื่อคืนดูข่าวเห็นบอกว่าตำรวจเองก็มีหลักฐานไปจับจริงๆนี่ครับ? เห็นว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างทั้งไทยและเกาหลี เลยงงว่าตกลงมันยังไงกันแน่?
ตำรวจมั่วคับและทางน้องสาวของพ่อเด็ก17 กำลังคิดอยู่ว่าจะฟ้องกลับหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ดำเนินการเรื่องการฟ้องกลับใดๆคับ
Edited by ใจหมาหน้าV`, 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:53.
"ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน”
"กลุ่มชาวพุทธหูรุนแรง"
#30
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:15
ไงดีละกรณีนี้
ผมตามข่าวเป็นระยะๆ ก่อน อา เปิดเผยจำได้ว่าตำรวจเล่นไปเยอะ โยงคดีค้าประเวณีอื่นๆด้วย
แต่พอหลังอาเด็กแสดงหลังฐานการพูดคุยกับเด็ก โอละพ่อ
แต่ เมื่อเรื่องมันใหญ่ไปแล้วผมไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไร ก่อนจบคดีอาอาจกลายเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเกาหลี หมดอนาคต
และหากเอาเรื่องที่คนไทยในเกาหลีกำลังโดน คงถูกตรวจสอบจนธุรกิจมีปัญหา บางรายอาจต้องปิดตัว
ไม่รู้นะที่มาท่ไปของเรื่องมันงี้เง่าแต่ทำลายหลายชีวิต
ปล.
ผมเห็นภาพข่าวในเว็บบางเว็บเซ็นเซอร์หน้าอา แต่บางเว็บไม่
น่าคุยเรื่องนี้ด้วย
#31
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:34
ไงดีละกรณีนี้
ผมตามข่าวเป็นระยะๆ ก่อน อา เปิดเผยจำได้ว่าตำรวจเล่นไปเยอะ โยงคดีค้าประเวณีอื่นๆด้วย
แต่พอหลังอาเด็กแสดงหลังฐานการพูดคุยกับเด็ก โอละพ่อ
แต่ เมื่อเรื่องมันใหญ่ไปแล้วผมไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไร ก่อนจบคดีอาอาจกลายเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเกาหลี หมดอนาคต
และหากเอาเรื่องที่คนไทยในเกาหลีกำลังโดน คงถูกตรวจสอบจนธุรกิจมีปัญหา บางรายอาจต้องปิดตัว
ไม่รู้นะที่มาท่ไปของเรื่องมันงี้เง่าแต่ทำลายหลายชีวิต
ปล.
ผมเห็นภาพข่าวในเว็บบางเว็บเซ็นเซอร์หน้าอา แต่บางเว็บไม่
น่าคุยเรื่องนี้ด้วย
ก็คงเหมือนปาหี่เรื่องอื่นๆของตำรวจแหละครับ จบแล้วตำรวจลอยตัวได้หน้าได้ตา พอหายเห่อสังคมก็ลืมๆกันไป สุดท้ายแพะรับความซวยแบบเนื้อๆไม่มีกระดูก ก้มหน้าก้มตารับสภาพ
#32
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:58
สงสัยโดนบังคับให้ไปทำงาน เพราะอยู่บ้านก็เสียคน พอไปก็เหงาอยากจะสก๊อยเลยหาทางชั่วจนได้กลับ
คนแบบนี้ถีบออกจากตระกูลได้โดยไม่ต้องคิดเลย

#33
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:05
ผมว่า อีกหน่อย คนไทยไปเที่ยวเกาหลีลำบากล่ะ ถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์
- หนูอ้อย and อู๋ ฮานามิ like this
#34
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:33
ผมว่า อีกหน่อย คนไทยไปเที่ยวเกาหลีลำบากล่ะ ถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์
ไปกับทัวร์ก็สงสารพี่ไกด์
เคยไปเมื่อปีกว่าๆมานี้ มีอย่างว่าปนไป 3 คน
พอถึงสนามบินอินชอน ..เจ้าหล่อนก็แยกหายไป พี่ไกค์ไทยกับไกด์ท้องถิ่นหัวเราะหึหึ
แต่สักพักหนึ่งในนั้นโทร.กลับมาที่กรุ๊ป (ไกค์มีเบอร์ให้ใส่ซองไว้ตั้งแต่เมืองไทย)
ไกค์บอกทีหลังว่าเค้ามีปัญหา ต.ม.ไล่กลับ เลยติดต่อกลับมาที่กรุ๊ปทัวร์เพื่อกลับไทยด้วย
แต่ดูเค้าไม่เสบย เลยระหว่างสองวันหลัง เที่ยวแบบใจลอย และคงมองหน้าพี่ไกค์ไม่สนิท
อีก 2 คน--ผ่าน และคงทำงานเก็บเงินโกยทองที่นั่น ฟังว่าเกาหลีเศรษฐกิจดีมาก
จับธุรกิจใดก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด เพียงค่าครองชีพสูง (แต่ยังไม่เท่าญี่ปุ่น)
สำหรับข้อมูลบางเรื่องต้องตามยาวๆ
และยาวแล้วก็อาจไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าฝั่งใดจริง-ไม่จริง
เรื่องน้อง 17 ไปทำงานเกาหลีนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าอย่าเชื่อไรง่ายๆไม่ว่าฝั่งใดสีใด
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#35
ตอบ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 14:24
ลองเข้าไปดูใน FB ของน้องเค้าแล้ว เห็นโพสท์รูป ไปเที่ยวในเกาหลี เส่นเฟซฯ ตลอด (ตอนนี้ปิดไปละ)
ถ้าถูกกักขังค้าประเวณีจริง คงไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือหรอก มีnotebookด้วย เห็นยังคุยกับเพื่อน คุยกับแฟนตลอด
คงจะคิดถึงแฟนจริง ๆ น่ะแหล่ะ
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน