Jump to content


Photo
- - - - -

เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง: กลับมาแล้ว


  • Please log in to reply
540 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:21

เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
16 มิถุนายน 2554

 

ดร.โสภณ พรโชคชัย 

 

          ในระบอบประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง คือเสียงสวรรค์ แต่พวกเผด็จการทรราชพยายามบิดเบือนสัจธรรมข้อนี้อยู่เสมอ


          เรามายืนยันความถูกต้องกันเถิด เสียงส่วนใหญ่คือสัจธรรม หรือสัจธรรมยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ การตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ย่อมไม่ผิดพลาด ย่อมถูกต้องเสมอ ในกรณีของผู้เขียนซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินนั้น วิธีการประเมินค่าทรัพย์สินสำคัญวิธีหนึ่งก็คือ การเปรียบเทียบตลาด (Market Comparison Approach) ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินต้องหาข้อมูลให้เพียงพอ ซึ่งเมื่อหาพบแล้ว เราก็จะทราบได้ว่าในตลาดมีระดับราคาที่เรียกว่า “ช่วงชั้นราคาตลาด” (Zone of Market Prices) หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “หั่งเส็ง” หรือ “หั่งเช้ง” ที่คนส่วนใหญ่ซื้อบ้านในราคาตลาด (Market Prices) ราคานั้นก็จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง (Market Value) ของทรัพย์สินที่เราประเมินซึ่งอาจแตกต่างไปบ้างตามลักษณะเฉพาะของทรัพย์สิน


          พฤติกรรมตลาด (Market Behavior หรือ Market Practices) ในท้องตลาด เป็นผู้กำหนดราคาตลาด ซึ่งสะท้อนจากความเป็นไปได้ทั้งทางกายภาพ ตลาด การเงิน และกฎหมาย เช่น ในท้องถิ่นหนึ่ง ๆ ที่ดินที่เป็นที่นากับที่ดินที่เป็นสวนยางพารา หรือที่ดินที่มีระบบชลประทานกับที่ดินที่ไม่มี หรือที่ดินที่ถือครองเป็นโฉนดกับที่เป็น สปก.4-01 ย่อมมีราคาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามพฤติกรรมตลาด อย่างไรก็ตามในตลาดที่ไม่สมบูรณ์ (Imperfect Market) กลไกตลาดอาจถูกบิดเบือนไปได้ในบางขณะสั้น ๆ แต่ไมใช่ตลอดไป


          อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีตลาด ก็จะมีราคา เพราะตลาดเป็นแหล่งสังเคราะห์อุปสงค์และอุปทานให้ออกมาเป็นราคาตลาด ถ้าเราไม่ฟังเสียงตลาดหรือคนส่วนใหญ่ เราก็จะไม่สามารถทราบราคาที่แท้จริงได้ มีตัวอย่างว่า ครั้งหนึ่งก้อนหินจากดวงจันทร์ถูกขโมยหายไปจากองค์การนาซา ปรากฏว่าหินก้อนนี้มีราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่มีราคาเช่นนี้ก็เพราะมีพฤติกรรมตลาดที่แน่ชัดที่ผ่านการซื้อขายมาหลายต่อหลายครั้งในตลาด จนสามารถทราบได้นั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ประเทศอื่นคงไม่สามารถไปดวงจันทร์ได้โดยง่าย แต่ก็อยากได้หินมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงมีระบบตลาดของหินดวงจันทร์เกิดขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมตลาดเป็นตัวกำหนดมูลค่าทรัพย์สิน


          อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงอาจมีข้อมูลที่สูงหรือต่ำผิดปกติ (Outliers) อยู่บ้าง ซึ่งย่อมเป็นความผิดพลาด (Errors) ที่อธิบายได้หรือยังอธิบายไม่ได้อันเป็นผลมาจากการจดบันทึกหรือเก็บข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน มีตัวแปรพิเศษ หรือกลุ่มตัวอย่างแตกต่างไปจากกลุ่มส่วนใหญ่จริง เช่น จากการเก็บข้อมูลในจำนวนที่เพียงพอพบว่า ปกติบ้านแบบเดียวกันในย่านนี้ มีราคา 1 ล้านบาท บวก/ลบ 10% แต่มีบางคนซื้อเพียง 5 แสนบาท เพราะเป็นบ้านเก่าที่ทรุดโทรม หรือมีคนฆ่าตัวตายในบ้าน คนเลยกลัว ในทางตรงกันข้าม บางคนก็อาจซื้อในราคา 2 ล้านบาท เพราะจำเป็นต้องซื้อหรือเพราะความไม่รู้ เป็นต้น เราจึงต้องร่อนเอาข้อมูล Outliers เหล่านี้ออกก่อนการวิเคราะห์และประมวลผล ไม่เช่นนั้นก็จะถือเป็นข้อมูลขยะ ถ้าเราเอาขยะเข้ามาวิเคราะห์ เราก็จะได้ขยะออกมา (Garbage In, Garbage Out).


          ในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่ให้สาวกยึดมั่นในพระพุทธองค์แต่ให้ยึดมั่นในพระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนหลังพระองค์ปรินิพพาน ในสมัยพุทธกาลและหลังจากนั้นมาอีกนับร้อย ๆ ปี ก็ไม่มีการสร้างพระพุทธรูป แม้แต่พระวินัยบางข้อ ถ้าที่ประชุมสงฆ์เห็นควรละเว้นแก้ไข พระองค์ก็อนุญาตให้ทำได้ นี่แสดงว่าพระพุทธองค์ยอมรับปัญญา และความเป็นอิสระของคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้พระพุทธเจ้ายังปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ เห็นคนเท่าเทียมกัน ทรงบวชจัณฑาลเป็นพระสงฆ์ จึงนับว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งประชาธิปไตย และจึงถูกทำลายหรือไม่ก็ถูกควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติของวรรณะพราหมณ์และวรรณะกษัตริย์เรื่อยมา


          บางคนอ้างผิด ๆ ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เช่น กรณีการเถลิงอำนาจของนาซี เยอรมนี โดยอ้างว่าฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงก็คือ การเลือกตั้งในปี 2476 ดังกล่าว นาซีไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ นาซีได้คะแนนเสียงเพียง 44% เท่านั้น ทั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งสกปรก รวมทั้งการทำลายคู่แข่งของฮิตเลอร์ และแม้นาซีจะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็เป็นการชนะด้วยเสียงที่ได้มากที่สุดแต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อยู่ดี โดยสรุปแล้วในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นเรื่องของปุถุชน ทุกคนรู้เท่าทันกัน เสียงส่วนใหญ่ย่อมถูกต้องเสมอ ไม่มีใครโง่กว่าใคร เราจึงเชื่อมั่นในเสียงส่วนใหญ่ได้


          อย่างไรก็ตาม “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” เช่น เสียงส่วนใหญ่ของโจรย่อมใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง โจรก็ยังเป็นคนส่วนน้อยในสังคม ในเชิงเทคนิควิทยาการ เช่น การสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เราจะถือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เราต้องถามผู้รู้ หรือเรื่องความเชื่อแต่เดิมว่าโลกแบน ถ้าให้ประชาชนผู้ไม่รู้วิทยาการออกเสียงในสมัยโบราณว่าโลกกลมหรือแบน ส่วนใหญ่ก็ต้องออกเสียงว่าโลกแบน เป็นต้น


          ด้วยข้อยกเว้นเหล่านี้ พวกเผด็จการทรราชจึงนำมาบิดเบือน สร้างความสับสนด้วยการอุปโลกน์ตนเป็นผู้นำ เป็นผู้รู้ เป็นอภิชนเหนือคนอื่น และข่มว่ามหาชนเป็นคนโง่ ถูก “ฟาดหัวด้วยเงิน” ได้โดยง่าย ไร้สามารถ ขาดศักยภาพในการตัดสินใจ จำเป็นต้องมีผู้ยิ่งใหญ่ที่สวรรค์ส่งมาเพื่อนำทางให้อยู่เสมอ ๆ การบิดเบือนเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้ท้ายพวกเผด็จการทรราชมาทำการรัฐประหาร แล้วมาควบคุมประชาชน แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มาโกงกิน ดังเช่นที่เห็นตั้งแต่สมัยสฤษดิ์ สามทรราช รสช. หรืออาจรวม คมช. ด้วยก็ได้ มีใครเชื่อบ้างว่ารัฐบาลสุรยุทธ์และรัฐมนตรีเหล่านั้นใสสะอาดกว่ายุคอื่น ในยุคเผด็จการทรราชมักมีการโกงกินมากกว่าพวกนักการเมืองพลเรือนเพราะขาดการตรวจสอบและเพราะมักอ้างตนมีคุณธรรมเหนือผู้อื่น


          เผด็จการทรราชยังใช้อำนาจเขียนประวัติศาสตร์บิดเบือนต่าง ๆ นานา เช่น เมื่อจะโค่นล้มรัฐบาล ป. พิบูลสงคราม ก็กล่าวหาว่ารัฐบาลดังกล่าวโกงเลือกตั้ง ทั้งที่การโกงกันเพียงบางส่วนจากทั้งสองฝ่าย และอาจเป็นการสร้างสถานการณ์การโกงเพื่อก่อรัฐประหาร ในสมัย 6 ตุลาคม ก็หาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อตอกย้ำความชอบธรรมของคณะรัฐประหาร ก็จัดแสดงนิทรรศการอาวุธในธรรมศาสตร์ที่สนามไชย ซึ่งผู้เขียนในฐานะนักศึกษาผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งเชื่อว่าไม่เคยมีอาวุธสงครามเช่นนั้น หาไม่ตำรวจ ทหารและกลุ่มฝ่ายขวาที่บุกเข้าไปคงต้องเสียชีวิตกันมากมายไปแล้ว


          ประชาชนมักถูกมองว่าเป็นแค่ “ฝุ่นเมือง” หรือ “ปุถุชน” (บุคคลผู้มีกิเลสหนา) แต่ในความเป็นจริง ปุถุชนหรือสามัญชนนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ไม่ว่าชนชั้นปกครองจากชาติใด ราชวงศ์ใด หรือลัทธิใดมาครอบครอง สามัญชนก็ยังอยู่สร้างชาติ รักษาความเป็นชาติ เช่นที่เห็นได้ในประวัติศาสตร์จีน เกาหลี หรือล่าสุดในสมัยสงครามเวียดนามที่มีเพียงประชาชนระดับบนที่มีฐานะและโอกาสที่ดีกว่าที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อความอยู่รอดส่วนตัว ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักถึงคุณค่าของมวลมหาประชาชน ดังบทกวีที่ว่า


          “ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

 

หมายเหตุ:
ผู้เขียน เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อแสดงคารวะถึงเกียรติศักดิ์ของสามัญชนที่มักถูกมองข้าม หยามหมิ่น ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะให้บทความนี้เป็นผลบวกหรือลบต่อการเมืองฝ่ายใด และที่ผ่านมาและจากนี้ไป ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดไปรับใช้การเมืองฝ่ายใด


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#2 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:23

ขอยืนยันกับ อ.กิตติศักดิ์ ปรกติ: "เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง"
2 กุมภาพันธ์ 2555

 

ดร.โสภณ พรโชคชัย

 

          ผมเพิ่งอ่านพบข้อเขียนของท่านอาจารย์กิตติศักดิ์ ปรกติ {1} รุ่นพี่ธรรมศาสตร์ของผมเมื่อวานนี้เอง ทั้งที่อาจารย์ท่านเขียนมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว (ราว 4 เดือนก่อน) ผมไม่ได้ทำงานการเมือง เลยตกข่าว ไม่ได้ติดตามข่าวสารด้านนี้นัก แต่ผมเคยเขียนเรื่อง "เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง" เมื่อเดือนมิถุนายน 2554  ผมจึงขอมายืนยันกับอาจารย์กิตติศักดิ์และทุกท่านในเรื่องนี้ครับ

 

ข้อเขียนของอาจารย์กิตติศักดิ์
          ท่านเขียนไว้ว่า “ตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้เห็นได้จากคดี Perry v. Schwarzenegger ซึ่งศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาพิพากษาไปเมื่อ 4 สิงหาคม ปี 2010 นี้เองว่า ผลการลงประชามติของผู้ออกเสียงเลือกตั้งในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2008 ที่มีมติให้แก้รัฐธรรมนูญของแคลิฟอร์เนียเสียใหม่ เพื่อหวงห้ามมิให้คนเพศเดียวกันทำการสมรสกันได้นั้นขัดต่อหลักความเสมอภาคและขัดต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ตามประชามตินั้น ประชาชนเสียงข้างมากในแคลิฟอร์เนียต้องการให้กำหนดตายตัวลงในรัฐธรรมนูญของแคลิฟอร์เนียทีเดียวว่า การสมรสจะทำได้เฉพาะหญิงกับชายเท่านั้น คำพิพากษาของศาลสูงสหรัฐอเมริกาในคดีนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ศาลตัดสินไปในทางที่ขัดต่อมติมหาชน จัดเป็น Anti-Majoritarian Decision แต่ศาลสหรัฐอเมริกาก็ได้ยอมรับว่า เมื่อเสียงส่วนมากใช้ไปในทางที่ผิด ศาลซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยที่แสนจะน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียงข้างมากรับรู้ไว้”


          ผมขอเห็นต่างจากอาจารย์กิตติศักดิ์ ดังนี้:
          1. ประชามติของชาวมลรัฐหนึ่งจะไปขัดกับรัฐธรรมนูญของทั้งสหรัฐอเมริกา (ซึ่งมาจากฉันทามติของคนทั้งประเทศ) ย่อมไม่ได้อยู่แล้ว ประชามติของคนกลุ่มย่อยเช่นนี้ย่อมไม่มีผล เช่น ชาวฮาวายจะลงประชามติแยกออกจากสหรัฐอเมริกาคงไม่ได้ มติของคณะโจรว่าจะไปปล้นบ้านไหน ชุมชนไหน ย่อมใช้ไม่ได้เพราะโจรไม่ใช่คนส่วนใหญ่ในสังคม


          2. อย่างไรก็ตาม หากมีการลงประชามติกันทั่วประเทศห้ามการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็ต้องแก้กฎหมายตามเสียงส่วนใหญ่ ผู้พิพากษาก็คงไม่อยู่ในวิสัยที่จะมาตัดสินเป็นอื่นได้


          3. ดังนั้นมันจึงเป็นคนละเรื่องกัน จะกล่าวว่า “ศาล (ผู้พิพากษาไม่กี่คน) ซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยที่แสนจะน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียงข้างมากรับรู้ไว้” ไม่ได้ครับ เพราะเป็นการเปรียบเทียบแบบผิดฝาผิดตัว

 

อย่าบิดเบือนเสียงส่วนใหญ่
          เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องนั้นเป็นสัจธรรม แต่กฎทุกกฎก็มีข้อยกเว้น เช่น ในกรณีศิลปวิทยาการ คนส่วนใหญ่ในสมัยก่อนที่ไม่มีความรู้ อาจเชื่อว่าโลกแบน แต่ความจริงโลกกลม หรือเราคงไม่สามารถถามคนส่วนใหญ่ว่าจะสร้างจรวดไปดวงจันทร์อย่างไร เราพึงถามผู้รู้ต่างหาก อย่างไรก็ตามในกรณีสังคม เศรษฐกิจและการเมือง เสียงส่วนใหญ่ถูกต้องแน่นอน


          บางคนอ้างผิด ๆ ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เช่น กรณีการเถลิงอำนาจของนาซี เยอรมนี โดยอ้างว่าฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงก็คือ การเลือกตั้งในปี 2476 ดังกล่าว นาซีไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ นาซีได้คะแนนเสียงเพียง 44% เท่านั้น {3} ทั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งสกปรก รวมทั้งการทำลายคู่แข่งของฮิตเลอร์ และแม้นาซีจะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็เป็นการชนะด้วยเสียงข้างมากแต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อยู่ดี


          โดยสรุปแล้วในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นเรื่องของปุถุชน ทุกคนรู้เท่าทันกัน เสียงส่วนใหญ่ย่อมถูกต้องเสมอ ไม่มีใครโง่กว่าใคร  ดังนั้นเราจึงเชื่อมั่นในเสียงส่วนใหญ่ได้ ยกเว้นจะถูกโฆษณาชวนเชื่อ หรืองมงายเอง ซึ่งไม่ใช่ปรากฏเฉพาะปุถุชน แม้แต่ อาจารย์ระดับดอกเตอร์ชื่อดังยังหลงคารมเปรตกู้มาแล้ว หรือพวกคุณหญิงคุณนาย นายทหารใหญ่ ๆ ไปหลงเคารพอลัชชีทั้งหลาย เป็นต้น

 

อย่าหลงกับ คนดี
          ท่านอาจารย์กิตติศักดิ์ ยังกล่าวว่า “หลักของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น ดำรงอยู่ได้ไม่ใช่เพราะตั้งอยู่บนฐานของเสียงข้างมากเฉยๆ . . . อำนาจสูงสุดแม้จะเป็นของประชาชน แต่ก็จำกัดโดยกฎหมายเสมอ และกฎหมายที่ว่านี้มีอยู่อย่างไรก็ต้องตัดสินโดยผู้พิพากษาซึ่งเป็นอิสระ . . . ที่ว่าเป็นอิสระในที่นี้ก็คือต้องเป็นคนกลาง ที่เข้าสู่ตำแหน่งเพราะมีคุณสมบัติเป็นที่ประจักษ์ทั้งในทางคุณวุฒิ และทางคุณธรรม ไม่ใช่ตั้งกันตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ แต่ตั้งขึ้นจากบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่พอจะทำให้น่าเชื่อได้ว่า บุคคลเหล่านี้ล้วนมีคุณวุฒิเป็นผู้รู้กฎหมาย รู้ผิดชอบชั่วดี และเป็นผู้ทรงคุณธรรมคือวินิจฉัยตัดสินคดีไปตามความรู้และความสำนักผิดถูกของตน โดยตั้งตนอยู่ในความปราศจากอคติ และมีหลักเกณฑ์ทางจรรยาบรรณคอยควบคุม”


          ศาลรัฐธรรมนูญของไทยชุดนายอุระ หวังอ้อมกลาง ก็ถูก คปค (คมช) ยุบทิ้งไป กระบวนการแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากวุฒิสภาซึ่งมาจาก คมช. อีกทอดหนึ่งหลังจากว่างเว้นไป 2 ปี จะประกันได้อย่างไรว่า “ไม่ใช่ตั้งกันตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ” นอกจากนั้นจากการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2554 {4} พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ (57%) ไม่เชื่อมั่น (ร้อยละ 37.62 ไม่ค่อยเชื่อมั่น ส่วนร้อยละ 19.31 ไม่เชื่อมั่น) ส่วนน้อยเท่านั้นที่เชื่อมั่น (ร้อยละ 25.53 ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 17.54 เชื่อมั่นมาก) ที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นในศาลรัฐธรรมนูญก็เพราะ “เพราะการตัดสินคดีที่ผ่านมา มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคดีมองว่าเป็นการตัดสินแบบ 2 มาตรฐาน”


          คำถามสำหรับประเทศไทยก็คือ ข้าราชการตุลาการได้รับการพิสูจน์อย่างเพียงพอจากสังคม หรือไม่ว่าเป็นคนดีจริง ไม่มีนอกมีใน ประเทศไทยมีกระบวนการควบคุมและตรวจสอบที่เข้มงวดต่อบุคลากรเหล่านี้เช่นในประเทศที่เจริญหรือไม่ หรือความเป็นคนดีเป็นแค่ข้อกล่าวอ้าง แต่ไม่เคยพิสูจน์  ถ้าเป็นเช่นนั้นสังคมอาจมีข้อกังขา เข้าทำนอง “อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ” นั่นเอง

 

ต้องเคารพประชาชน
          ในประเทศที่เจริญ เราต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ว่าถูกต้อง แต่ “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” ในกรณีศิลปวิทยากรดังข้างต้น และด้วยข้อยกเว้นเหล่านี้ พวกเผด็จการทรราชจึงนำมาบิดเบือน สร้างความสับสนด้วยการอุปโลกน์ตนเป็นผู้นำ เป็นผู้รู้ เป็นอภิชนเหนือคนอื่น และข่มว่ามหาชนเป็นคนโง่ ถูก “ฟาดหัวด้วยเงิน” ได้โดยง่าย ไร้สามารถ ขาดศักยภาพในการตัดสินใจ จำเป็นต้องมีผู้ยิ่งใหญ่ที่สวรรค์ส่งมาเพื่อนำทางให้อยู่เสมอ ๆ


          การบิดเบือนเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้ท้ายพวกเผด็จการทรราชมาทำการรัฐประหาร แล้วมาควบคุมประชาชน  แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มาโกงกิน ดังเช่นที่เห็นตั้งแต่สมัยสฤษดิ์ สามทรราช รสช. หรืออาจรวม คมช. ด้วยก็ได้ มีใครเชื่อบ้างว่ารัฐบาลสุรยุทธ์และรัฐมนตรีเหล่านั้นใสสะอาดกว่ายุคอื่น ในยุคเผด็จการทรราชมักมีการโกงกินมากกว่าพวกนักการเมืองพลเรือนเพราะขาดการตรวจสอบและเพราะมักอ้างตนมีคุณธรรมเหนือผู้อื่น


          เผด็จการทรราชยังใช้อำนาจเขียนประวัติศาสตร์บิดเบือนต่าง ๆ นานา เช่น ในสมัย 6 ตุลาคม ก็หาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อตอกย้ำความชอบธรรมของคณะรัฐประหาร ก็จัดแสดงนิทรรศการอาวุธในธรรมศาสตร์ที่สนามไชย ซึ่งผู้เขียนในฐานะนักศึกษาผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งเชื่อว่าไม่เคยมีอาวุธสงครามเช่นนั้น หาไม่ตำรวจ ทหารและกลุ่มฝ่ายขวาที่บุกเข้าไปคงต้องเสียชีวิตกันมากมายไปแล้ว

 

          ประชาชนมักถูกมองว่าเป็นแค่ “ฝุ่นเมือง” หรือ “ปุถุชน” (บุคคลผู้มีกิเลสหนา) แต่ในความเป็นจริง สัจธรรมอยู่ในคนหมู่มาก จึงมีคำพูดว่า “คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน” ปุถุชนหรือสามัญชนนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ไม่ว่าชนชั้นปกครองจากชาติใด ราชวงศ์ใด หรือลัทธิใดมาครอบครอง สามัญชนก็ยังอยู่สร้างชาติ รักษาความเป็นชาติ เช่นที่เห็นได้ในประวัติศาสตร์จีน เกาหลี หรือล่าสุดในสมัยสงครามเวียดนามที่มีเพียงประชาชนระดับบนที่มีฐานะและโอกาสที่ดีกว่าที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อความอยู่รอดส่วนตัว ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักถึงคุณค่าของมวลมหาประชาชนแทนที่จะไปยกย่องทรราช

 

อ้างอิง   {1} กิตติศักดิ์ ปรกติ. สิ่งที่คล้ายกันพึงได้รับการปฏิบัติอย่างเดียวกัน แต่ไม่พึงปฏิบัติอย่างเดียวกันกับสิ่งที่ต่างกัน ปรกติ 28 กันยายน 2554 www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000123483 {2} โสภณ พรโชคชัย. เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง. http://prachatai.com...l/2011/06/35438 {3} การเลือกตั้งในเยอรมนี German federal election, March 1933. http://en.wikipedia....ion,_March_1933 {4} ดุสิตโพลคนกรุง 37.62% ไม่เชื่อศาล รธน.-“วสันต์” แนะตั้ง ส.ส.ร.แก้ รธน. ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2554 18:51 น. http://www.manager.c...D=9540000103816

 

 
คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#3 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:25

วิพากษ์ความเห็นของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

 

Sat, 2013-04-06 12:18


ดร.โสภณ พรโชคชัย
 

ตามที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้แสดงปาฐกถาความตอนหนึ่งว่า "ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์ฮิตเลอร์ยังได้เป็นผู้นำที่ได้มาจากการเลือกตั้ง เมื่อชนะการเลือกตั้งได้พรรคพวกมาในสภาก็ได้แก้ไขกฎหมายเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ในที่สุดผู้นำเสียงข้างมากก็นำพาเยอรมันไปสู่หายนะก็คือประเทศเยอรมัน" {1} ข้อความนี้ไม่สอดคล้องกับความจริง
 
แม้ฮิตเลอร์จะมาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นการเลือกตั้งที่โกงมา รวมทั้งการทำลายคู่แข่ง และที่สำคัญไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2476 ฮิตเลอร์ได้คะแนนเสียง 44%  ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  และแม้ฮิตเลอร์จะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่โดยเสียงส่วนใหญ่อยู่ดี {2}  ดังนั้นการที่ฮิตเลอร์นำเยอรมนีเข้าสู่สงครามจึงไม่ใช่มติของชาวเยอรมันส่วนใหญ่
 
บางคนเข้าใจว่าคนส่วนน้อยเห็นได้ถูกต้องกว่าคนส่วนใหญ่ เช่น คดี Perry v. Schwarzenegger ซึ่งศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาพิพากษาไปเมื่อ 4 สิงหาคม 2553 ว่า ผลการลงประชามติของชาวมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2551 ที่มีมติห้ามคนเพศเดียวกันสมรสกันนั้น ขัดต่อหลักความเสมอภาคและขัดต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา  คำพิพากษานี้ดูประหนึ่งว่าศาลตัดสินไปในทางที่ขัดต่อมติมหาชน (Anti-Majoritarian Decision) คล้ายกับว่า "เมื่อเสียงส่วนมากใช้ไปในทางที่ผิด ศาลซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยที่แสนจะน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียงข้างมากรับรู้ไว้” {3}
 
ข้อนี้ก็เป็นความเข้าใจผิด ความจริงก็คือประชามติของชาวมลรัฐหนึ่งจะไปขัดกับรัฐธรรมนูญของทั้งประเทศ (ซึ่งมาจากฉันทามติของคนทั้งประเทศ) ย่อมไม่ได้อยู่แล้ว ประชามติของคนกลุ่มย่อยเช่นนี้ย่อมไม่มีผล เช่น ชาวฮาวายจะลงประชามติแยกออกจากสหรัฐอเมริกาคงไม่ได้  หรือกรณีมติของคณะโจรว่าจะไปปล้นบ้านไหน ชุมชนไหน ย่อมใช้ไม่ได้เพราะโจรไม่ใช่คนส่วนใหญ่ในสังคม
 
อย่างไรก็ตาม หากมีการลงประชามติกันทั่วประเทศห้ามการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็ต้องแก้กฎหมายตามเสียงส่วนใหญ่  ผู้พิพากษาก็คงไม่อยู่ในวิสัยที่จะออกมาพูดเป็นอื่นในที่สาธารณะหรือมาตัดสินเป็นอื่นได้  ดังนั้นมันจึงเป็นคนละเรื่องกัน จะกล่าวว่าศาล (ผู้พิพากษาไม่กี่คน) ซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียงข้างมากไม่ได้
 
เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องนั้นเป็นสัจธรรม (แต่กฎทุกกฎก็มีข้อยกเว้น ในกรณีศิลปวิทยาการ เช่นจะสร้างจรวดไปดวงจันทร์ ก็ต้องถามผู้รู้ เป็นต้น)  ทั้งนี้ยกเว้นกรณีถูกโฆษณาชวนเชื่อ หรืองมงายเอง ซึ่งไม่ใช่พบเห็นแต่ในหมู่ปุถุชน แม้แต่อาจารย์ระดับดอกเตอร์ชื่อดังยังหลงคารมเปรตกู้มาแล้ว หรือกรณีพวกคุณหญิงคุณนาย นายทหารใหญ่ ๆ ก็ไปหลงเคารพอลัชชี เป็นต้น
 
ยิ่งกว่านั้นนายวสันต์ยังกล่าวว่า "เยอรมันจึงมีศาลรัฐธรรมนูญและมีอำนาจมาก และมีบทบัญญัติพิทักษ์รัฐธรรมนูญสำหรับประชาชน"  การที่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีมีเกียรติภูมิสูงนั้นเป็นเพราะสภาเป็นผู้เลือกตั้งผู้พิพากษาที่สมัครเข้ามาตามคุณสมบัติที่กำหนด {4}  แต่กรณีศาลรัฐธรรมนูญของไทย กลับแตกต่างกัน โดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 204 ระบุที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นผู้พิพากษาในศาลฎีกา 3 คน  ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด 2 คน โดยทั้งสองกลุ่มนี้ได้รับเลือกโดยวิธีลงคะแนนลับ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 2 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องอื่นอีก 2 คน {5}
 
อีกประเด็นหนึ่งที่พึงวิพากษ์การแสดงปาฐกถาของนายวสันต์ก็คือ ความไม่สมควรในวิจารณ์หรือเหน็บแนมการเมืองในฐานะที่เป็นตุลาการ  ทั้งนี้ตามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าตุลาการต้อง "ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนหรือสาธารณชนในเรื่องที่เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่เสนอหรืออาจจะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย" {6}
 
นอกจากนั้นในประมวลจริยธรรมขาราชการตุลาการยังระบุว่า "ผู้พิพากษาไม่พึงแสดงปาฐกถา บรรยาย สอน หรือเข้าร่วมสัมมนา อภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อสาธารณชน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา" {7}  ดังนั้นการแสดงปาฐกถาครั้งนี้ซึ่งพาดพิงถึงบุคคลและพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จึงไม่ควรทำ เว้นแต่จะลาออกจากสถานะตุลาการ
 
หากผู้เป็นตุลาการออกมาพูดการเมือง จะถูกติเตียนว่าเอนเอียงได้  ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยผลจากการสำรวจเมื่อปี 2554 {4} พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ (57%) ไม่เชื่อมั่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ (ร้อยละ 37.62 ไม่ค่อยเชื่อมั่น ส่วนร้อยละ 19.31 ไม่เชื่อมั่น) และมีส่วนน้อยที่เชื่อมั่น  เหตุผลที่ไม่เชื่อมั่นก็เพราะ “เพราะการตัดสินคดีที่ผ่านมา มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคดีมองว่าเป็นการตัดสินแบบ 2 มาตรฐาน” {8}
 
ผู้เขียนเป็นห่วงใยต่อความมั่นคงของสถาบันตุลาการจึงแสดงความเห็นข้างต้นมาด้วยความเคารพและด้วยความบริสุทธิ์ใจ
 
 
อ้างอิง
 
{1} ข่าว "ปธ.ศาลรธน. ชี้ เสียงข้างมากหากยึดติดอำนาจ ประเทศจะหายนะ" ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 5 เมษายน 2556 ณ www.thairath.co.th/content/pol/337042
 
{2} การเลือกตั้งในเยอรมนี German federal election, March 1933. http://en.wikipedia....ion,_March_1933

คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#4 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:34

โพสหลายกระทู้ติดกันแบบนี้ระวังข้อหาฟลัดกระทู้นะคะ เข้าใจว่าประชาธิปไตย แต่ก็ต้องทำตามระเบียบด้วย. อย่าเป็นพวกแก่แล้วแก่เลย มารยาทไม่มี เด็กมันจะถอนหงอกเอาได้

#5 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:57

เป็นประชาธิปไตยได้แค่ 5 นาที/4ปี แน่ใจเหรอครับว่านี่......ผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว  :huh: 


บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่

#6 Et tu Brute?

Et tu Brute?

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,529 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 05:26

*
POPULAR

 
แม้ฮิตเลอร์จะมาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นการเลือกตั้งที่โกงมา รวมทั้งการทำลายคู่แข่ง และที่สำคัญไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2476 ฮิตเลอร์ได้คะแนนเสียง 44%  ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  และแม้ฮิตเลอร์จะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่โดยเสียงส่วนใหญ่อยู่ดี {2}  ดังนั้นการที่ฮิตเลอร์นำเยอรมนีเข้าสู่สงครามจึงไม่ใช่มติของชาวเยอรมันส่วนใหญ่

 

เอานะ ลองเอาตรรกะบวยแบบหมาแก่ 

 

ฮิตเลอร์ได้ 44%

เพื่อไทยได้ 48%

ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ทั้งคู่

 

จึงไม่มีสิทธิแก้ รธน.  เพราะไม่ใช่มติของชาวไทยส่วนใหญ่

 

หน้าตาเฉิ่มแล้วความคิดยังเฉิ่มซ้ำเข้าไปอีก  -_-

 

 

 

 


It's us against the world


#7 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:00

ลองตรองดูครับ


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#8 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:10

เข้าใจว่าตอนเด็ก ๆ คงโดนกลั่นแกล้งรังแกสารพัด เป็นลูกไล่เขา

 

ดีไม่ดีอาจโดนทารุนกรรมทางเพศ

 

โตขึ้นมาหน่อย เพื่อน ๆ ก็ไม่คบ ไปไหนก็มีไร้คนเมียงมอง เสมือนอากาศธาตุอันว่างเปล่า 

 

ถึงแม้จบ ดร. อัีนเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียว ที่เจ้าตัวพอจะใช้ข่มความรู้สึกขมขื่นลึก ๆ ได้ (เฉพาะเจ้าตัวเขาคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว !)

 

แต่ก็ไม่วายมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้แล

 

 

-_-  -_- 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#9 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:12

เอาอีกแล้วด๊อกฯ ณ ตอนนี้เขาให้ด๊อกฯสมัครเป็นสมาชิกแล้วหรือยัง?
เพื่อไทยอ่ะ


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#10 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:17

ลองตรองดูครับ

ฮิตเลอร์มาจากเสียงส่วนใหญ่ของเยอรมันไหม?



#11 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:32

ลองตรองดูครับ

 

ฮิตเลอร์ก็มาจากเสียงส่วนใหญ่เหมือนกันครับ ยังทำประเทศเยอรมันนีย่อยยับได้

 

ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ใช้วัดความถูกใจได้ แต่ใช้วัดความถูกต้องไม่ได้


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#12 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:55

ไม่ได้อ่าน พูดส่งเดชอีกแล้วว่าฮิตเลอร์มาจากเสียงส่วนใหญ่อีกแล้ว



 

ลองตรองดูครับ

 

ฮิตเลอร์ก็มาจากเสียงส่วนใหญ่เหมือนกันครับ ยังทำประเทศเยอรมันนีย่อยยับได้

 

ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ใช้วัดความถูกใจได้ แต่ใช้วัดความถูกต้องไม่ได้


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#13 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:55

ไม่ใช่ครับ

ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่
ไปอ่านดูที่ผมเขียนพร้อมอ้างอิง ก่อนมาพูดครับ

 

 

 

 

ลองตรองดูครับ

ฮิตเลอร์มาจากเสียงส่วนใหญ่ของเยอรมันไหม?


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#14 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:56

เมื่อถึงที่สุดหาเหตุผลมาถกเถียงไม่ได้ก็ค่อนขอด

ไม่น่าเกิดมาเลยนะครับ




 

เข้าใจว่าตอนเด็ก ๆ คงโดนกลั่นแกล้งรังแกสารพัด เป็นลูกไล่เขา

 

ดีไม่ดีอาจโดนทารุนกรรมทางเพศ

 

โตขึ้นมาหน่อย เพื่อน ๆ ก็ไม่คบ ไปไหนก็มีไร้คนเมียงมอง เสมือนอากาศธาตุอันว่างเปล่า 

 

ถึงแม้จบ ดร. อัีนเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียว ที่เจ้าตัวพอจะใช้ข่มความรู้สึกขมขื่นลึก ๆ ได้ (เฉพาะเจ้าตัวเขาคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว !)

 

แต่ก็ไม่วายมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้แล

 

 

-_-  -_-


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#15 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:57

เมื่อถึงที่สุดหาเหตุผลมาถกเถียงไม่ได้ก็ค่อนขอด

ไม่น่าเกิดมาเลยนะครับ




 

เข้าใจว่าตอนเด็ก ๆ คงโดนกลั่นแกล้งรังแกสารพัด เป็นลูกไล่เขา

 

ดีไม่ดีอาจโดนทารุนกรรมทางเพศ

 

โตขึ้นมาหน่อย เพื่อน ๆ ก็ไม่คบ ไปไหนก็มีไร้คนเมียงมอง เสมือนอากาศธาตุอันว่างเปล่า 

 

ถึงแม้จบ ดร. อัีนเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียว ที่เจ้าตัวพอจะใช้ข่มความรู้สึกขมขื่นลึก ๆ ได้ (เฉพาะเจ้าตัวเขาคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว !)

 

แต่ก็ไม่วายมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้แล

 

 

-_-  -_-

 

 

แร้วเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าล่ะ

 

ไม่น่าเกิดมาเรยนะ

 

 

-_- -_-


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#16 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:01

5 5 5


คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#17 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:03

5 5 5

 

 

5 5 5

 

แปลว่า ยอมรับ 

 

 

:mellow:  :mellow: 

 

 

อือม

 

 

-_-  -_- 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#18 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:03

ตรองดูแล้วคะ แต่ไม่เห็นด้วยอย่างที่สุดคะ ไม่ขออธิบายนะคะ

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#19 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:05

ด๊อก หน้ากาก เสือ ปญอ

#20 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:07

ไม่ได้อ่าน พูดส่งเดชอีกแล้วว่าฮิตเลอร์มาจากเสียงส่วนใหญ่อีกแล้ว



 

 

ลองตรองดูครับ

 

ฮิตเลอร์ก็มาจากเสียงส่วนใหญ่เหมือนกันครับ ยังทำประเทศเยอรมันนีย่อยยับได้

 

ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ใช้วัดความถูกใจได้ แต่ใช้วัดความถูกต้องไม่ได้

 

ด็อคฯกำลังจะบอกว่าฮิตเลอร์เป็นเผด็จการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง งั้นหรือครับ ???

 

ตำราไหนครับ ???


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#21 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:11

ไม่ใช่ครับ

ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่
ไปอ่านดูที่ผมเขียนพร้อมอ้างอิง ก่อนมาพูดครับ

 

 

 

 

 

ลองตรองดูครับ

ฮิตเลอร์มาจากเสียงส่วนใหญ่ของเยอรมันไหม?

แล้ว ดร อ่านที่อ้างอิงมาจริงๆไหม?
 วานตอบ

 

ผมว่าหลายคนก็อ่านและรู้ว่านาย กาย นี้แก้จะล้มสถาปบันหรือแค่จะเปลี่ยนจากกษัตริย์โปแตสแตนเป็นแคทอลิก

 

ใน Wiki ที่ท่านนำมาก็บอกนะ ท่านอ่านไหม?หรือเลือกแต่ที่ชอบใจมา?

 

ขออภัยโยงไปอีกกระทู้ท่าน

 

ผมละ งง กับการบอกฮิตเลอร์ไม่ใช่เสียงข้างมาก ทั้งๆที่เขาได้ข้างมากจริงๆ

 

นับวันการใช่รายละเอียดละลายหลักการใหญ่เพื่อตีความดั่งใจมากขึ้นทุกที

 

ปล.

ท่านจบด้านประวัติศาสตร์เหรอ?


Edited by sigree, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:14.


#22 pooyong

pooyong

    สมาชิกขั้นไม่สูง แต่สูงอายุ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,292 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:14

02827635.jpg

 

กระบือ ย่อมเป็น กาสร


การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน

#23 galaxy2

galaxy2

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,063 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:21

พวกฝักใฝ่เป็นขี้ข้าทักสิน ก็มักจะเขียนให้เป็นไปตามแนวทักสิน..อันไหนไม่ตรงหรือเคยเกิดขึ้นมาแล้วก็พยายามหาข้อบิดเบือนไป เพื่อมิให้ขัดกับทักสิน....เวรกรรมประเทศชาติ


Edited by galaxy2, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:21.


#24 pop2518

pop2518

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 941 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:44

อ้าว นาซีได้ 44% ได้เป็นพรรครัฐบาลแต่กลับไม่นับว่าได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่เหรอครับ อ่านแล้ว งง ครับ แล้วงี้ ที่ พท ได้ไม่ถึง 50% จะนับได้ป่าวคับ ตามที่อ่านดูโดยสรุปจากความเห็นนี้ ผมขอเรียกการปกครองแบบ ประชาธิปไตยเสียใหม่ ว่าเป็นการปกครองแบบ พวกมากลากไป ก็แล้วกันนะครับ มันจะลากไปตายก็ต้องตามไปป่าวครับ ไม่เข้าใจ



#25 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:57

ติดบอร์ดแบบเข้ากระดูกเลยน๊ะด๊อก...

 

เขียนอะไรแบบคนไร้สมองก็เอา..

 

:lol: 



#26 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:15

 

 
แม้ฮิตเลอร์จะมาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นการเลือกตั้งที่โกงมา รวมทั้งการทำลายคู่แข่ง และที่สำคัญไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2476 ฮิตเลอร์ได้คะแนนเสียง 44%  ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  และแม้ฮิตเลอร์จะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่โดยเสียงส่วนใหญ่อยู่ดี {2}  ดังนั้นการที่ฮิตเลอร์นำเยอรมนีเข้าสู่สงครามจึงไม่ใช่มติของชาวเยอรมันส่วนใหญ่

 

เอานะ ลองเอาตรรกะบวยแบบหมาแก่ 

 

ฮิตเลอร์ได้ 44%

เพื่อไทยได้ 48%

ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ทั้งคู่

 

จึงไม่มีสิทธิแก้ รธน.  เพราะไม่ใช่มติของชาวไทยส่วนใหญ่

 

หน้าตาเฉิ่มแล้วความคิดยังเฉิ่มซ้ำเข้าไปอีก  -_-

 

แปลกจัง  ทำไมด๊อกไม่ยอมตอบความเห็นอันนี้เลย  ทำเป็นมองข้ามไปเฉยๆ  ทำไมก็ไม่รู้เนอะ  :lol:  :lol:  :lol:



#27 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:22

ค่อยสมกับเป็น ด๊อก หน่อย...  

:D


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#28 2012

2012

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 744 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:23

นับว่าเป็นบุญที่เสียงส่วนใหญ่ของ กทม ไม่เอาท่าน. หรืออาจจะไม่รู้จักท่านเลยยย

"ถึงเวลาแล้วที่ใครมีอาวุธชนิดไหนก็ต้องจับขึ้นมาใช้รบกับมัน”


#29 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:29

เราเชื่อว่า ตามกติกา เราต้องทำตามเสียงส่วนใหญ่ แต่
เสียงส่วนใหญ่มิใช่ความถูกต้อง เชื่อเข้าไปได้อย่างไร

- สิ่งที่เกิดขึ้นมั่นใจหรือการออกเสียงนั้นทำตามกติกา
ไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีการโกง

- ข้อมูลที่คนออกเสียงได้รับนั้นครบถ้วน ไม่มีการ
โกหกกัน ไม่หน้าด้านที่จะทำผิดแล้วตะแบงว่าไม่ได้ทำผิด

- องค์กรอิสระเป็นกลางแบบไหน

- คนออกเสียงไม่โง่

เราว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภานี้ เอี้ยทั้งนั้น เราว่า พรบ ปรองดอง
ของไอ้เหลิม มีคนที่ไม่ไร้สมองสักกี่คนที่จะไม่ยอมรับ แล้วจขกท
จะยังเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง

ความถูกต้องก็คือคนในสภาต้องทำงานเพื่อชาติ มิใช่ทำชาติล่มจม
ทำเพียงเพื่อเอี้ยตัวเดียว ตั้งแต่เลือกตั้งมาเราได้เห็นคนส่วนใหญ่ใน
สภานี้ได้ทำงานเพื่อชาติหรือยัง

เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องอาจจะใช้ได้กับประเทศอื่น ที่เขาเข้าใจ
ว่าผลประโยชน์นั้นต้องเห็นแก่ชาติ เห็นแก่ส่วนรวมเหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก รู้ว่าโกงคืออะไร คอรัปชั่นคืออะไร จะรับจะให้ก็คือคอรัปชั่น
เช้าใจว่าจริยธรรม จรรยาบรรณ คืออะไร รู้ว่ากติกา กฎหมายว่าอย่างไร
ถ้ารู้เราคงไม่มีรัฐมนตรีที่ทำผิดกฎหมาย ทั้งหวยบนดิน
ทั้งปลุกปั่นให้คนเผาบ้านเผาเมือง และคนที่ร่วมขบวนการเผาบ้านเผาเมืองมาร่วม
รัฐบาลนี้มากมาย ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น ยังยอมให้คนเอี้ยหนีคุกมามีอำนาจสั้งให้
รัฐบาลซ้ายหันขวาหันได้ เราได้เห็นชัด ๆ ว่า เอี้ยหนี้คุกคิด อีโง่ทำ

เราว่าความต่างของคนไทยคือพวกมีการศึกษาที่มีสมอง กับพวกที่ถึงศึกษาก็ไร้สมอง
คนที่ยอมรับกติกาเขาก็ยอมรับให้เสียงข้างมากชนะไปและทำตามกติกาที่มี แต่เราก็
มีคนที่ไร้สมองพวกอันธพาลทำตัวไม่ต่างจากเด็กอาชีวะ ที่เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
ยกพวกเข้าต่อต้าน แม้แต่วันนี้เป็นเสียงข้างมากเสียด้วย ยังไม่วายทำตัวเป็นอันธพาล
แล้วคนรักษากฎหมายก็พลอยมาทำ เอี้ยด้วย มาเป็นตะกวดบ้าง มีสัน-ดานแบบธาริต
บ้าง เราคงต้องนั่งรอดูว่าเสียงส่วนใหญ่จะฉลาดขึ้นมองเห็นว่าประเทศกำลังย่อยยับอย่างไร
สื่อบ้านเราก็ฮ่วยแตก แทนที่จะสะท้อนภาพความจริงให้เห็นก็มีแต่ชเลียจนบิดเบี้ยว
เมื่อไรที่สื่อบ้านเราไม่เสียศูนย์ ไม่แยกเป็นฝักเป็นฝ่าย ก็จะสามารถสร้างความฉลาด
ให้ผู้คนได้ ลดการเอาผลประโยชน์ให้ตัวเองลงบ้างและกลับมามองผลประโยชน์ของชาติ

นี่หรือ ดร. จะยอมให้คนไทยยอมรับว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง

Edited by sudthorn, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:35.

คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#30 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:47

เสียงว่วนใหญ่ ใน กทม.?? นี่นับรวมด้วยไหมครับ



เสียงส่วนใหญ่ ใน กทม.?? นี่นับรวมด้วยไหมครับ

Edited by plunk, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:26.

ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#31 ปลายขอบฟ้า

ปลายขอบฟ้า

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 185 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:49

เสียงส่วนใหญ่ ... เบื่อคำนี้จัง แต่ก้อต้องยอมรับนะครับ ...

 

ถ้างั้น จะแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ซึ่งมาจากเสียงส่วนใหญ่(ผ่านการลงประชามติมาแล้ว) .... ก้อสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องถามเสียงส่วนใหญ่ก่อนอีกครั้งไหมครับ ....

 

ผมว่าพวกเราในหมู่บ้านนี้ เคารพเสียงส่วนใหญ่นะครับ ... แต่ ไม่เชื่อใจคนที่ทำหน้าที่แทนเสียงส่วนใหญ่ ... ก้อเท่านั้น



#32 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:53

หางออกแล้วด๊อก


Posted Image

#33 ONETHAI

ONETHAI

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 962 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:09

ถ้า จขกท. เป็นคนที่เสียงส่วนใหญ่ของ กทม. ไม่เลือก ก็กลับไปกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยา ลอยคออยู่ในน้ำนั่นแหระครับอย่าโผล่มาให้เห็นหน้าเลยครับ

 

เพราะด็อกไม่ช่ายความถูกต้องของคน กทม. หุบปากไปได้เลย

 

 

ปล. ด็อกเตอร์บ้านเรานี่มีเยอะยังกับดอกเห็ดเลยเน๊อะ ขนาดพร้อมพงษ์พระเอกหนังโป็ก็เป็นด็อกเตอร์ได้



#34 PriFa

PriFa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 241 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:23

ดร. บอกว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง  แล้วก็บอกว่า สัจธรรมยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ 

 

ส่วนผมเห็นว่า  สัจธรรมคือความถูกต้อง และเป็นความถูกต้องที่คนส่วนใหญ่ (หรือทั้งหมด) จะเห็นด้วย (โดยไม่นับเงื่อนเวลา) 

แต่ความถูกต้อง (ทุกอัน)  ไม่ใช่สัจธรรม  

 

เช่น สัจธรรมที่ว่า "คนเราทุกคน เกิดมาแล้วต้องตาย"  ซึ่งเป็นความถูกต้อง

คนตกจากที่เครื่องบินที่บินอยู่ในระดับสูงตาย ก็เป็นความถูกต้อง แต่ไม่ใช่สัจธรรม เพราะอาจมีบางคนไม่ตาย

 

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ (ในที่สุดแล้ว) จะกลับมายืนอยู่ข้างสัจธรรม (เมื่อรู้ และเข้าใจ) ต่างหาก



#35 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:32

เห็นใจกันหน่อยสิ ... อุตส่าห์ลงแรงตัวเป็นเกลียว แต่ดันช่วยท่านแม้วตัดคะแนนหม่อมมาได้แค่ 1000 กว่าคะแนน  :(

 

เลยต้องเร่งสร้างผลงานให้เข้าตาหน่อย  -_-


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#36 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:36

เสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง

 

ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในนี้โหวตกันว่า ด็อกต้องไปโดดน้ำตายนะ

 

ด็อกก็ต้องไปนะ

 

ห้ามเถียง

 

ห้ามอิดออด

 

ห้ามมีข้อแม้ใด ๆ

 

 

เพราะ***เสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง***

 

 

 

เอิ๊ก ๆ

 

:D  :D


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#37 คนกรุงธน

คนกรุงธน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,129 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:43

บางคนเข้าใจว่าคนส่วนน้อยเห็นได้ถูกต้องกว่าคนส่วนใหญ่ เช่น คดี Perry v. Schwarzenegger
ซึ่งศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาพิพากษาไปเมื่อ 4 สิงหาคม 2553 ว่า
ผลการลงประชามติของชาวมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2551 ที่มีมติห้ามคนเพศเดียวกันสมรสกันนั้น ขัดต่อหลักความเสมอภาคและขัดต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา
คำพิพากษานี้ดูประหนึ่งว่าศาลตัดสินไปในทางที่ขัดต่อมติมหาชน (Anti-Majoritarian Decision) คล้ายกับว่า "เมื่อเสียงส่วนมากใช้ไปในทางที่ผิด ศาลซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยที่แสนจะน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียง ข้างมากรับรู้ไว้” {3}
 
ข้อนี้ก็เป็นความเข้าใจผิด ความจริงก็คือประชามติของชาวมลรัฐหนึ่งจะไปขัดกับรัฐธรรมนูญของทั้งประเทศ (ซึ่งมาจากฉันทามติของคนทั้งประเทศ) ย่อมไม่ได้อยู่แล้ว ประชามติของคนกลุ่มย่อยเช่นนี้ย่อมไม่มีผล เช่น ชาวฮาวายจะลงประชามติแยกออกจากสหรัฐอเมริกาคงไม่ได้  หรือกรณีมติของคณะโจรว่าจะไปปล้นบ้านไหน ชุมชนไหน ย่อมใช้ไม่ได้เพราะโจรไม่ใช่คนส่วนใหญ่ในสังคม
 

อย่างไรก็ตาม หากมีการลงประชามติกันทั่วประเทศห้ามการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็ต้องแก้กฎหมาย(เสียก่อน)ตามเสียงส่วนใหญ่  ผู้พิพากษาก็คงไม่อยู่ในวิสัยที่จะออกมาพูดเป็นอื่นในที่สาธารณะหรือมา ตัดสินเป็นอื่นได้  ดังนั้นมันจึงเป็นคนละเรื่องกัน จะกล่าวว่าศาล (ผู้พิพากษาไม่กี่คน) ซึ่งแม้เป็นเสียงข้างน้อยก็มีหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดให้เสียงข้างมากไม่ได้

 
 
...ประชามติ นั่นมันเป็นเรื่องของการหยั่งเสียงก่อนออกกฎหมาย
...คำพิพากษา นั่นมันเป็นเรื่อง ว่ากันตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว
 
ศาลก็ต้องพิพากษาไปตามตัวบทกฎหมาย
...พวกเสื้อแดงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ศาลตัดสินต้องตามใจพวกมัน เสียงส่วนใหญ่...ควายเอ๊ยยย

Edited by คนกรุงธน, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:47.

"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"


#38 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:45

เสียงส่วนใหญ่บอกให้ไปตายก็คงทำ


Posted Image

#39 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:47

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง

ถ้าเสียงส่วนใหญ่ทำผิด จะทำอย่างไร

ถ้าจะรู้ว่าเสียวส่วนใหญ่ทำผิดหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบ

ถ้าเสียงส่วนใหญ่บอกว่า ไม่ให้ตรวจสอบ จะทำอย่างไร

ถ้าเสียงส่วนน้อยไม่ยอม และตรวจสอบไปแล้ว ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ผิด จะเป็นอย่างไร

ถ้าเสียงส่วนใหญ่สุดท้ายบอกว่า ไม่ให้ลงโทษเพราะไม่ผิด ถ้าผิด เดี๋ยวนิรโทษกรรม

 

แล้วก็วนกลับไปข้อแรกใหม่

เพราะเสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง

ที่ไหนกันวะ?

 

-_-


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#40 คนกรุงธน

คนกรุงธน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,129 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:54

ผมหายสงสัยแล้วครับ ว่าข้อสอบของ นศ.สถาบันต่างๆ อ่านแล้วเข้าใจยากชิบเป๋งเลย


"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"


#41 jumpman

jumpman

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 121 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:02

เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง มันก็มีข้อยกเว้นของมันอยู่แล้ว

ท่านบอกว่าประชาชนไม่โง่ ท่านมีวิธีวัดอย่างไรมายืนยันว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือทั้งหมดไม่โง่ครับ

ลูกกระจ๊อกฝ่ายค้าน


#42 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:03

clearนะจ๊ะ
คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#43 pornchokchai

pornchokchai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,526 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:04

มีใครพบข้อยกเว้นบ้างหรือยัง
คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ

#44 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:07

ผมก้ยังสงสัยอยู่ดีว่า ใช้เงิน 150,000 บาท ได้มา 1144 คะแนน ตกแล้วคะแนนละกี่บาท


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#45 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:11

บางคนอ้างผิด ๆ ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เช่น กรณีการเถลิงอำนาจของนาซี เยอรมนี โดยอ้างว่าฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงก็คือ การเลือกตั้งในปี 2476 ดังกล่าว นาซีไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ นาซีได้คะแนนเสียงเพียง 44% เท่านั้น ทั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งสกปรก รวมทั้งการทำลายคู่แข่งของฮิตเลอร์ และแม้นาซีจะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็เป็นการชนะด้วยเสียงที่ได้มากที่สุดแต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อยู่ดี

 

ก็นั่นนะซินะ..

 

รัฐบาลบางประเทศมันยังโง่งมงาย แถมบ้าอำนาจ

ชอบอ้างว่าตัวเองมาจากเสียงส่วนใหญ่อยู่เลย..  :)  


The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#46 jumpman

jumpman

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 121 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:12

clearนะจ๊ะ


ไม่เคลียร์ครับ ช่วยตอบประเด็นนี้ด้วย

ท่านบอกว่าประชาชนไม่โง่ ท่านมีวิธีวัดอย่างไรมายืนยันว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือทั้งหมดไม่โง่ครับ

ลูกกระจ๊อกฝ่ายค้าน


#47 grand_v

grand_v

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 841 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:12

clearนะจ๊ะ

 

เออเฮ้ย บ้าก็ไม่บอก :wacko: 



#48 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:16

clearนะจ๊ะ

 

 

เออ เคลียร์ก้อด้าย

 

ตกลงก็ยอมรับแร้วว่า โดนเด็ก ๆ โดนทารุณกรรมสารพัด โตมาเรยมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้

 

แร้วก็ยอมรับแร้วว่า ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในนี้บ่องให้ ดร. ไปตาย 

 

ดร.ก็ต้องไปตาย

 

 

 

โอเค เคลียร์ !

 

:D :D


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#49 naiare

naiare

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,475 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:16

เสียงส่วนใหญ่ที่ได้มาจากการบล๊อคคู่ต่อสู้ด้วยม๊อบจัดตั้งของตัวเอง ถูกต้องอีกเหรอ?

 

ไปให้ข้อมูลที่ไหน ก็ตามไปป่วน ห้ามฟังสิ่งที่แตกต่าง แบบนี้คือสิ่งถูกต้อง?

 

มาร์กอสชนะเลือกตั้งเหมือนกัน ถูกต้องไหม แล้วยังผู้นำเผด็จการที่ชนะเลือกตั้งหลอกประชาชน คอรับชั่นจนประเทศเจ๊งอีกตั้งมากมาย ถูกต้องไหม?

 

พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต)

"ถ้าประชาชนมีคุณภาพดี ประชาธิปไตยก็มีคุณภาพดีด้วย ถ้าประชาชนมีคุณภาพต่ำ ประชาธิปไตยก็จะเป็นประชาธิปไตยอย่างเลวด้วย เพราะว่า คุณภาพของประชาธิปไตย ขึ้นต่อคุณภาพของประชาชน แล้วคุณภาพของประชาชนขึ้นต่ออะไร ก็ขึ้นต่อการศึกษา"

 

แม้แต่ปรีดี ก็บอกว่า ถ้าฝูงชนรวมตัวทำสิ่งที่ผิดไม่เรียก ปชต แต่คืออนาธิปไตย

 

พระพุทธทาสบอกว่าถ้าประชาชนส่วนใหญ่บ้าคลั่ง ประเทศก็พังเหมือนกัน  ปชต ควรจะหมายถึง ประโยชน์เพื่อประชาชนส่วนใหญ่

 

ไม่น่าเชื่อว่า คนจบด๊อกเตอร์มีความคิดคับแคบจำกัดเช่นนี้   แม้แต่ในความคิดคุณยังขาดเสรีภาพเลย นับประสาอะไรคือ

 

ทุกวันนี้ ประเทศที่ปกครองโดยสังคมนิยม และ ปชต ไม่ต่างกัน บางประเทศล้มเหลว บางประเทศเจริญ

 

ทั้งหมดเป็นเพราะคน คนคือตอบ  หาใช่เสียงส่วนใหญ่ไม่

 

คนดี ทำดี ขยันทำ ประเทศเจริญ  คนชั่ว หลงมัวเมา เจ๊งเหมือนกันหมด

 

การสรุปแบบคุณด๊อกคือ ดอกบัวมีเหล่าเดียว  ไม่ใช่สี่เหล่า



#50 pooyong

pooyong

    สมาชิกขั้นไม่สูง แต่สูงอายุ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,292 posts

ตอบ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:17

k8.jpg


การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน




ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน