โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ไปๆ มาๆ มหกรรมเอาล่อเอาเถิดกับธนาคารแห่งประเทศไทย ในเรื่องการลดดอกเบี้ย ก็เริ่มปรากฏเค้าลางว่า เนื้อแท้ต้องการอะไรกันแน่
ฉากหน้ามีการระบุว่าค่าเงินบาทแข็งตัว ต้องการให้ลดดอกเบี้ยเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ฉากหลังมีความพยายามจะนำเอาทุนสำรองของประเทศไปใช้
การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่ออังคารที่ผ่านมาเป็นหลักฐานจะแจ้งโดยมีการพิจารณาถึงกรอบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วยสารพัดมาตรการ
และหนึ่งในมาตรการทางการเงินที่มีการผลักดันเข้าไป คือ การตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
นี่แหละ เรื่องสำคัญ
เพราะกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะตั้งขึ้นได้ก็ต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารชาติ เนื่องจากเงินที่จะเอาใช้คือทุนสำรองของประเทศ
และทุนสำรองฯ ก้อนใหญ่อยู่ในบัญชีฝ่ายออกบัตร หรือเรียกว่าเงินคลังหลวง ที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนแห่งวัดป่าบ้านตาด เคยระดมทองคำ เงินบริจาคเข้าไปไว้ในคลังหลวง รวมถึงเคยคัดค้านการนำเงินคลังหลวงไปใช้มาแล้ว
แต่งานนี้ก็มีความพยายามเอาคลังหลวงไปใช้อีก
เหตุผลที่จะมาอธิบายกันไม่แคล้ว เอาเงินจำนวนมากๆ ไปกองไว้เฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์ สู้เอาไปลงทุนหากำไรไม่ได้
นอกจากนั้น หากมีการนำทุนสำรองไปใช้ตั้งกองทุนฯ ก็ต้องไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว กระตุ้นเศรษฐกิจ
เห็นหรือยังว่า มันมีความวิเศษเลิศเลอแค่ไหน
แต่สิ่งที่ไม่ได้อธิบายก็คือ การนำทุนสำรองไปใช้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
นับตั้งแต่พื้นฐานก็คือการบริหารกองทุน ที่รับรองว่าต้องมีฝูงแร้งผู้หิวโหยเข้ามาควบคุมกลไกการลงทุน เกิดขบวนการคอมมิชชั่น ที่จะตามมาด้วยคอร์รัปชั่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
หรือการลงทุนไม่ใช่จะได้กำไรทั้งหมด แต่อีกด้านก็ย่อมเสี่ยงต่อการขาดทุนด้วย
ที่สำคัญ ทุนสำรองที่เห็นตัวเลขมหาศาล เอาเข้าจริงไม่ได้มากอย่างที่เห็น เนื่องจากมีพันธะต่างๆ ที่แฝงอยู่
นี่แหละ ดูให้ดีปฏิบัติการงาบคลังหลวงกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากไปถลุงงบประมาณ ก่อหนี้ ซุกหนี้เอาไว้อย่างมหาศาล
และหากเอาคลังหลวงไปใช้ได้จริง ก็เตรียมตัวกันได้ว่าความวิบัติจะมาเยือนอย่างเลี่ยงไม่ได้
บ้านเมืองจะถูกแทะในทุกด้าน ไม่เหลือแม้แต่กระดูกเอาไว้เลย
credit Posttoday
ถ้าแบบนี้ ก็ขอให้ใช้เงินในนรกให้อิ่มหนำกันเถอะ