ยังไม่มีผู้แสดงความเห็นในกระทู้นี้

[คนบ้านนอก]

มติชน 13 กรกฎาคม 2555

"13 กรกฎาคม" วันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย ในคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 กรณีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ มีผลทำให้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อันเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่หน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องจารึกไว้ 

เพราะคำ "วินิจฉัย" ที่กำลังจะออกมาไม่ว่าจะเป็นไปในแนวทางใด แทบ "ทุกฝ่าย" ยืนยันตรงกันว่าจะมีผลกระทบต่อสถานการณ์การเมืองไทย อย่างแน่นอน

และอาจบานปลายไปสู่วิกฤตการณ์ใหญ่อีกครั้ง 

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ "ผู้ถูกร้องที่ 3" เป็นห่วงถึงขนาดที่ว่า "คำวินิจฉัย" อาจจะส่งผลกระทบต่อสถาน ภาพความเป็น "พรรคการเมือง" 

และเป็นไปได้ถึงขั้นอาจจะทำให้เกิดการสั่งให้ "ยุบพรรค" !

ซึ่งจะทำให้ "พท." เผชิญการ "ยุบพรรค" เป็นครั้งที่ 3 ต่อจาก "พรรคไทยรักไทย" และ "พรรคพลังประชาชน" 

ล่าสุด ภูมิธรรม เวชยชัย ผู้อำนวยการพรรค พท. ได้ออกมาเปิดเผยถึงการเตรียม "พรรคสำรอง" ชื่อ "พรรคเพื่อธรรม" เอาไว้เรียบร้อยแล้ว 

โดย "พรรคเพื่อธรรม" นั้นมีชื่อย่อภาษาไทยว่า "พธ." ชื่อภาษาอังกฤษว่า "PHUEA THAM PARTY" มีชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "PHT" 

ได้รับการจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองจากนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 โดยมีสำนักงานใหญ่พรรคเพื่อธรรม ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 40 ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 

รากที่มาของ "เพื่อธรรม" ผู้ก่อตั้งให้หมายความเอาไว้ว่า "การถือความเป็นธรรมเป็นใหญ่ ความจริงความถูกต้องความดีงามและเหตุผลเป็นใหญ่ ทำการด้วยปัญญาเคารพหลักการ กฎระเบียบ กติกา ความจริง ความถูกต้องชอบธรรม" 

มีกรรมการบริหารพรรค ชุดก่อตั้งพรรคจำนวนทั้งสิ้น 9 คน คือ 

1.นายสุรสิทธิ์ ฉิมพาลี หัวหน้าพรรค 

2.พล.อ.สำเนียง เสลาหอม รองหัวหน้าพรรค

3.นายวันชัย จุฬานนท์ เลขาธิการพรรค

4.พ.ต.อ.ไพศาล คชทรัพย์ รองเลขาธิการพรรค

5.นายพิธาวัชร์ เลิศสิริสกุลสุข เหรัญญิกพรรค

6.นายเจษฎา เอื้ออารีย์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค

7.นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช โฆษกพรรค

8.นายธีรพัฒน์ เจียมอุทิศศักดิ์ กรรมการบริหารพรรค

9.น.ส.หทัยรัชย์ เป๋าบุตร กรรมการบริหารพรรค

ซึ่งในการประชุมใหญ่ครั้งแรกของ "พธ." เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2554 มีมติเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 11 คน ดังนี้

1.นายวัลลภ สุปริยศิลป์ เป็นหัวหน้าพรรค 

2.พล.ต.ต.จรัญ ชิตะปัญญา รองหัวหน้าพรรค

3.พล.ต.เทียมศักดิ์ สุขานุยุทธ รองหัวหน้าพรรค

4.น.ส.นิชนันท์ วังคะฮาตธัญญกิจ เลขาธิการพรรค

5.นายเธียรชัย ธารถวิล รองเลขาธิการพรรค

6.นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ เหรัญญิกพรรค

7.นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรค 

8.ม.ล.ณัฏฐพล เทวกุล โฆษกพรรค 

9.พล.อ.สำเนียง เสลาหอม กรรมการบริหารพรรค

10.นายพิษณุ พลไวย์ กรรมการบริหารพรรค

11.นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช กรรมการบริหารพรรค

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายวัลลภ สุปริยศิลป์ หัวหน้าพรรค พธ. นั้นเป็นอดีต ส.ส.น่าน พรรคพลังประชาชน อดีตประธานภาคเหนือพรรค พท. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท.ลำดับที่ 113 

นอกจากนี้ นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญซึ่งเป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค และ ม.ล.ณัฏฐพล เทวกุล ซึ่งเป็น "โฆษกพรรค" นั้นก็คือ "อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค พท." รวมทั้ง นายพิษณุ พลไวย์ กรรมการบริหารพรรค ก็ยังเป็นอดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคไทยรักไทย ด้วย 

ล่าสุด ในการประชุมใหญ่สามัญ "พรรค พธ." เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ได้มีมติเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค โดยเปลี่ยนที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรค มาตั้งอยู่ ณ เลขที่ 444/1 ถนนนครสวรรค์ แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กทม. อันเป็นที่ตั้งเดียวกันกับ "มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย" 

เมื่อมีคำถามถึงการถูกคาดหมายว่ากำลังกลายเป็นพรรคสำรอง วัลลภ สุปริยศิลป์ออกตัวทำนองแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ตัวเองเป็นอดีต ส.ส. 9 สมัย จบปริญญาเอกจากทุนของรัฐบาลอังกฤษ มีความสามารถจะบริหารพรรค พธ. ให้เจริญก้าวหน้าทางการเมืองได้ ไม่จำเป็นต้องมาตั้งพรรคการเมืองเพื่อเป็นพรรคสำรองของใคร แต่หากผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค พท. เห็นว่าพรรค พธ. มีความสามารถ มีความโดดเด่น และพอจะพัฒนาในทางการเมืองได้ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พธ. เราก็พร้อมที่จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค

เหมือนกับจะบอกว่า ประตูพรรคเพื่อธรรม เปิดกว้างสำหรับคนเพื่อไทยเสมอ

 

http://www.matichon....pid=03&catid=03