ยังไม่มีความชัดเจนเท่าใดนักสำหรับท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อกรณี "กลุ่มหน้ากากขาว" ที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
หากแต่เป็นในส่วนของรัฐบาลที่ส่ง ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลง (จริงๆ น่าจะเรียกว่า "ฉะ" เสียมากกว่า) ตอบโต้การเคลื่อนไหวดังกล่าว
บทสรุปของรัฐบาล (ผ่านปากรองโฆษกรัฐบาล) ก็คือ สังคมยังมีการปะทะกันระหว่างความคิด 2 ขั้ว คือ 1.ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 2.ตัวแทนกลุ่มอำนาจเก่าที่กลัวจะเสียอำนาจและเคยออกมาขับไล่รัฐบาลทักษิณมา แล้ว
ก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งที่เคยพูดๆ มาแล้วในก่อนหน้านี้ แล้วก็ตอกย้ำอีกครั้งในรูปแบบเดิมๆ
“น่าแปลกว่า สังคมบ้านเรายังมีคนที่ตั้งข้อรังเกียจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่เคยรังเกียจการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งที่เป็นวงจรอุบาทว์ ขอถามว่า ประเทศไทยยังบอบช้ำไม่พออีกหรือ..."
ถึงแม้ว่าตอนท้ายจะยืนยันว่า รัฐบาลเคารพสิทธิการชุมนุมของทุกคน แม้จะคิดต่างจากรัฐบาล...นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้คนที่ฟังถ้อยแถลงที่เจือด้วย ความขุ่นเคืองรู้สึกเป็นอย่างอื่น
ถึงแม้ว่ายังจับความรู้สึกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ แต่ในส่วนของรัฐบาลนั้น ชัดเจนว่า กำลัง "รู้สึก" ถึงการเคลื่อนไหวของ "กลุ่มหน้ากากขาว" และอาจรวมไปถึง "ไทยสปริง" ที่ออกมาก่อนหน้า
เพราะการที่พยายามลากโยงให้กลุ่มผู้คนที่ชิงชังรัฐบาลว่าเป็นกลุ่มที่สนับ สนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องของ "เกม" การเมือง ก็เพื่อจะทำให้เห็นว่า ผู้ชุมนุมนั้นมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่
สิ่งที่แสดงออกมาจึงดูเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง จนต้องยอมเสี่ยง
ยอมเสี่ยงที่จะเปิดโปงจุดนี้กับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
โดยทั้งที่รู้ว่า กลุ่มหน้ากากขาวนั้น จนวันนี้ยังหาแกนนำ ผู้ริเริ่มไม่เจอเลย
แต่สิ่งที่ปรากฏก็คือ จำนวนผู้ชุมนุมนั้น เริ่มมีมากขึ้น
ยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งเป็นการพิสูจน์ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพี่ชาย ได้สูญเสียกลุ่มคนชั้นกลางของเมืองหลวงไปมากเท่านั้น
สูญเสียกลุ่มสำคัญในโลกโซเชียลมีเดียที่จะเป็นผู้ลงคะแนนให้ไปมากขึ้นทุกขณะ
กลุ่มผู้ชุมนุม "ไม่เอารัฐบาล" ครั้งนี้อ าจจะแตกต่างจาก ม็อบสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วพัฒนาการจนมาเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อหลายปีก่อน
นั่นก็เพราะต่างคนต่างมา แต่ทุกคนมีความรู้สึก มีความต้องการทางการเมืองเฉกเช่นเดียวกัน
แทบทุกคนใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสาร นัดหมายการชุมนุมจากโลกโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกัน
เมื่อไร้แกนนำ ก็ไร้รูปแบบ
เมื่อไม่มีรูปแบบก็ยากที่จะรับมือ-จัดการ
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. ที่ดูแลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกาศตั้งวอร์รูมเพื่อจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่ใช้ช่องทางการสื่อ สารผ่านโซเชียลมีเดีย จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้
แม้จะอ้างถึงคนโรคจิตที่ไปโพสต์ข้อความข่มขู่ว่าจะเกิดเหตุระเบิดอีกครั้ง ภายหลังเหตุระเบิดที่หน้าซอยรามคำแห่ง 43/1 มาแล้ว ว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องตั้งวอร์รูมขึ้นมาจับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ด้วยเหตุปัจจัย-บรรยากาศการเมือง ทำให้ยากที่จะคล้อยตามโดยไร้คำถาม
เอาแค่นั้นจริงเหรอ ?
อย่างที่รู้กัน โซเชียลมีเดียนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก ก็สามารถสื่อสารถึงกันได้หมด ตราบใดที่ยังมีคลื่นสัญญาณ
การตั้งวอร์รูมเอาไว้ก่อนอาจจะแสดงให้เห็นว่า "ไม่ประมาท" แต่การนัดชุมนุม นัดพบปะกันที่นั่นที่นี่ ย่อมเป็นการยากที่จะจัดการได้อย่างไร
ต่างจากการเดินทางไปประชุม ครม.สัญจร ที่ยากก็แค่สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านพาลูกบ้านมาพบปะกับนายกฯ ได้ชนิด บอกปุ๊บได้ปั๊บ
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยมั่นใจว่า ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งรัฐบาลนี้ได้
แม้กระทั่งกองทัพ ที่สุดท้ายตกอยู่ในวงล้อมของการเมือง จนวันนี้ก็ยากที่จะขยับตัว หรือสลัดพันธนาการบางอย่างที่ถูกร้อยรัดเอาไว้
รัดจนถูกมองว่า กองทัพไม่ทันเกมการเมือง!
แต่นั่นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ไปกระตุ้นให้กลุ่มหน้ากากขาว รวมทั้งกลุ่มไทยสปริง ออกมาขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชน
เพราะสุดท้ายพวกเขาก็เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ หาได้เกิดจากผู้อื่น หรือกองกำลังอื่นใดไม่
แม้กระทั่งการเคลื่อนขบวนจากท้องสนามหลวงเพื่อมาให้กำลังใจ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการ ที่เพิ่งได้รับคำพิพากษาจากศาลปกครองกลางสั่งให้รัฐบาลคืนความยุติธรรม กลับไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ให้กำลังใจ ก็เพื่อให้ต่อสู้กับอำนาจการเมือง
เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า เมื่อเกิดเรื่องลักษณะเช่นนี้ไม่ว่ากับใคร กลุ่มใด มวลชนกลุ่มที่ "ไม่เอารัฐบาล" จะเดินทางไปให้กำลังใจ ขยายเครือข่ายกลายเป็นพลังต่อต้านรัฐบาลมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีแกนนำ ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อน เพราะไม่สามารถผนึกแน่นจนต่อกรกับรัฐบาลได้ แต่ในอนาคต แม้จะไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นเช่นใด แต่สัญญาณก็พอจะเห็นแล้วว่า "ความไม่พอใจรัฐบาล" นั้น ได้เพิ่มขึ้น และกล้าแสดงตัวมากขึ้น
รอเพียงว่า วันใดที่เกิดจุดผิดพลาดบกพร่องของรัฐบาลที่ยิ่งใหญ่จนคนที่เหลือทนไม่ไหว รับไม่ได้ พร้อมใจกันลุกขึ้นมาเท่านั้น
ขยายปมร้อน โดยศรุติ ศรุตา http://www.komchadlu...ำเอาสะท้าน.html