ผกก.แก่งหางแมวเผย "จ่ายักษ์" ยังไม่เปิดปากซัดทอดผู้จ้างวานสังหารกำนันแดง พร้อมระบุมีคดีก่อการร้ายติดตัว เชื่อมโยงกับแกนนำ นปช. "อภิสิทธิ์" ชี้เหตุชุมนุมแดง 53 มีกลุ่มติดอาวุธสาเหตุสำคัญทำให้เกิดความสูญเสีย "ชวนนท์" จี้กองปราบฯ กุมตัว หวั่นถูกอุ้มปิดปากเพราะกุมความลับ 6 ศพวัดปทุมฯ ขณะที่ "จตุพร" ชิ่ง ยืมปาก "ธิดา" บอกไม่ใช่คนสนิท แต่ยอมรับเป็นการ์ดเสื้อแดงจริง
มีความคืบหน้ากรณีการสังหารกำนันแดง หรือนายบุญจริง พินิจ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณบ้านพักที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการ์ด นปช. ล่าสุด พ.ต.อ.โสภณ ศิริมาจันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งหางแมว กล่าวว่า คนร้ายที่เหลืออยู่คือ นายศรชัย ศรีดี ยังไม่ยอมเปิดปากให้การถึงผู้ว่าจ้างมายิงกำนันแดงแต่อย่างไร พ.ต.อ.โสภณระบุว่า ประเด็นการสังหารกำนันแดงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมุ่งประเด็นทางการเมืองท้องถิ่นเป็นหลัก ส่วนเรื่องที่ดินเป็นประเด็นรอง แต่จากการสืบหาข่าวเชิงลึกพบว่านายศรชัย ศรีดี เป็นการ์ดเสื้อแดงจริง และประเด็นที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกับแกนนำคนเสื้อแดงอย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 1 ในผู้ต้องหา 3 รายที่บาดเจ็บ มีความใกล้ชิดกับแกนนำเสื้อแดงทั้ง 2 คน ถึงขนาดเคยไปประกันตัวให้ในคดีทำร้ายทหารที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2552 คือ นายศรชัย ศรีดี ทหารพรานค่ายปักธงชัย หรือจ่ายักษ์เล็ก
ทั้งนี้ จ่ายักษ์เล็กเคยร่วมเป็นการ์ดเสื้อแดงตั้งแต่การเคลื่อนไหวในปี 2552 และในปี 2553 นอกจากนั้นสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยังถ่ายภาพจ่ายักษ์เล็กแต่งกายเลียนแบบทหารพกอาวุธปืนอยู่บนรถไฟฟ้าในช่วงการชุมนุมปี 2553 และยังเป็นคนเดียวกับที่บุกไปช่วยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ที่โรงแรมเอสซีปาร์คด้วย โดยจ่ายักษ์เล็กถูกมองว่าคือหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธที่แฝงตัวในการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งแกนนำมีส่วนรับรู้ด้วย นอกจากนี้ มีรายงานว่าจ่ายักษ์เล็กมีหมายจับติดตัวจำนวน 3 หมาย หนึ่งในนั้นมีคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในข้อหาก่อการร้าย
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากสิ่งที่ปรากฏออกมา เป็นการตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าคำปฏิเสธของแกนนำคนเสื้อแดง หรือแม้แต่รัฐบาลที่พยายามจะบอกว่าการชุมนุมเมื่อปี 2553 เป็นการชุมนุมโดยสงบนั้น มันไม่เป็นความจริง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่พวกเราพูดมาตลอดว่าตัวปัญหาที่ทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นนั้นก็คือการมีผู้ที่ติดอาวุธ ซึ่งวันนี้ถ้าใครมีจิตใจเป็นธรรม ต้องยอมรับว่ามีกลุ่มติดอาวุธปะปนอยู่กับผู้ชุมนุม แล้วมีการยิง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสีย “รัฐบาลที่แล้วและผมก็ชี้แจงมาตลอด ก็เป็นความจริงว่ามันมีกองกำลังติดอาวุธ ที่แม้ว่าการสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้คำว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย แต่ที่จริงแล้วทราบฝ่าย และชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายใคร ซึ่งสร้างความรุนแรง อย่างที่มีเหตุผลว่าทำไมมันจึงมีคดีก่อการร้ายเกิดขึ้นมา อันนี้คือประเด็นครับ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้กองบังคับการกองปราบปรามเร่งดำเนินการจับกุมนายศรชัย ศรีดี หรือจ่ายักษ์ มาสอบสวนเพิ่มเติม เพราะเกรงว่าความปลอดภัยของนายศรชัย จะอยู่ในขั้นอันตราย เนื่องจากนายศรชัยเป็นผู้กุมความลับ ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 52-53 โดยเฉพาะเหตุการณ์เสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนารามฯ เขาระบุว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควรเรียกตัวนายศรชัย มาสอบสวน เพราะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี เพื่อเปิดเผยว่าประเทศไทยถูกใครทำร้ายในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งจะเป็นการยืนยันว่าการชุมนุมเมื่อปี 52-53 ไม่ได้เป็นไปด้วยความสงบปราศจากอาวุธ “ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในวันที่มีการจับกุมคนร้าย ที่สังหารนายบุญจริงนั้น ล้วนแต่เคยเป็นการ์ด นปช. ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลังจากสลายการชุมนุม การ์ด นปช.เหล่านี้ก็กลับไปประกอบอาชีพเป็นมือปืน ติดอาวุธ และนี่จะถือเป็นหลักฐานที่เห็นชัดว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นอย่างไร” นายชวนนท์กล่าว
ขณะที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า นายจตุพรฝากให้มาพูดถึงการจับกุมนายศรชัย ศรีดี หรือจ่ายักษ์เล็ก อดีตการ์ด นปช. ที่มีความพยายามเชื่อมโยงว่าเป็นคนสนิทของนายจตุพร สำหรับนายศรชัยนั้น ยอมรับว่าเป็นการ์ด นปช.ในการชุมนุม มีประชาชนจำนวนมาก จึงมีการ์ดอาสาจำนวนมาก โดยนายจตุพรได้นำนายศรชัยไปมอบตัวคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ประกันตัว ส่วนข่าวที่บอกว่าเป็นคนสนิทนายจตุพร ต้องขอปฏิเสธด้วยว่าไม่เป็นความจริง โดยแกนนำแต่ละคนไม่ได้รู้ในรายละเอียดทุกเรื่อง เพียงแต่เรามีหลักการร่วมกันเท่านั้น
http://www.thaipost....ws/060613/74621