Jump to content


Photo
- - - - -

ตะลึง! ข้าวสต๊อกรัฐเหลือบานเบอะ 17 ล้านตัน สวนทางรัฐขี้โม้ขายหมดแล้ว!!!


  • Please log in to reply
39 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:26

556000007150101.JPEG

 

 ตะลึง! อคส.ปูดเอง สต๊อกข้าวรัฐเหลือบานเบอะ 17 ล้านตัน ทั้งๆ ที่รัฐบาลคุยโตโอ้อวดว่าขายหมดแล้ว โอดค่าดูแลข้าวเพิ่มเป็นดอกเห็ด เตรียมของบรัฐอีก 2 พันล้านไว้จ่าย ส่วนโกดังเก็บข้าวยังขาดอีก 1 ล้านตัน เปิดรับสมัครอีก
       
       นายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณสต็อกข้าวสารของรัฐบาลในส่วนที่ อคส. ดูแลมีประมาณ 17-18 ล้านตันข้าวสาร โดยเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำนาปี 54/55 ประมาณ 2.3 ล้านตัน จากโครงการรับจำนำนาปรัง ปี 55 ประมาณ 7.2 ล้านตัน และจากโครงการรับจำนำนาปีปี 55/56 ประมาณ 8 ล้านตัน แต่มีภาระผูกพันที่ต้องขายให้แก่กรมราชทัณฑ์ และนำมาผลิตเป็นข้าวถุงออกขายประมาณ 2 ล้านตัน ทำให้เหลือสต็อกประมาณ 15 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปลายข้าว และข้าวท่อน 7 ล้านกว่าตัน เป็นข้าวสาร 7 ล้านตัน ซึ่งมีบางส่วนเป็นภาระผูกพันสำหรับขายข้าวจีทูจีของรัฐบาล
       
        สำหรับค่าใช้จ่ายที่ อคส.ต้องจ่ายในการเก็บรักษาข้าวประมาณเดือนละ 100 บาทต่อตัน เช่น ค่าแบกหามของกรรมการกระสอบละ 3 บาท หรือตันละ 30 บาท ค่าผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว 16 บาทต่อตัน ค่ารมยา อบยา 6 บาทต่อตันต่อเดือน โดยมีการรมยาทุก 2 เดือนครั้ง เป็นค่าใช้จ่ายตันละ 12 บาทต่อตันต่อ 2 เดือน และค่าเบี้ยประกัน ซึ่งคิดประมาณ 10% ของมูลค่าราคาข้าวที่จำนำและแปรเป็นข้าวสาร ซึ่งข้าวขาว 5% ตกตันละ 17,000-18,000 บาท หรือเป็นค่าเบี้ยประกันประมาณตันละ 1,700-1,800 บาท
       
        “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว
       
        นายสมศักดิ์กล่าวว่า จากที่ อคส.เคยดำเนินโครงการรับจำนำมาตั้งแต่ปี 44 ถึงปัจจุบัน พบว่าขณะนี้มีการเก็บสต็อกในจำนวนมากพอสมควร โดยปี 44-50 มีสต็อกค้างประมาณ 12 ล้านตัน โดยสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ช่วงปี 2551 ที่มีนายกอบศักดิ์ สภาวสุ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ระบายออกไปเลย ต่อมาในสมัยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นรองนายกรัฐมนตรี มีการระบายออกไปประมาณ 4-5 ล้านตัน แต่สมัยรัฐบาลนี้เพียง 3 โครงการ มีสต็อกถึง 17-18 ล้านตัน เป็นเพราะมีการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ผิดกับรัฐบาลก่อนๆ ที่กำหนดปริมาณรับจำนำไว้ที่ 4-5 ล้านตันเท่านั้น ทำให้ตัวเลขสต็อกมีสูง
       
        ส่วนโกดังเก็บสต๊อกข้าวรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำขณะนี้ ยังขาดพื้นที่เก็บอีก 1 ล้านตันข้าวสาร แต่เชื่อว่าจะสามารถรับสมัครโกดังกลางได้ทันกับการปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ฤดูกาล 2555/56 ที่จะสิ้นสุดโครงการ 30 ก.ย.นี้

 

http://www.manager.c...D=9560000068297

 

-_-  สิบเจ็ดล้านตัน... ตันละหมื่นห้า...  แฟร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#2 Bot V Mask

Bot V Mask

    ตัว V อยู่กลางหน้าผาก

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,185 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:38

ขนาดไฟไหม้ไปเยอะแล้วยังเหลือขนาดนี้เลยรึ :o



#3 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:41

สิบเจ็ดล้านตัน แค่ค่าเก็บรักษาก็หมดไปเป็นหมื่นล้านบาทแล้ว แบ่งกันให้โรงสีโรงละกี่ร้อยล้านแล้วล่ะ

#4 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:54

ด๋าวดูบุญโกงยอดซาลาเปาแถ ลง พรุ่งนี้เกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว พ่วงด้วยประกันราคาข้าวจากรัฐบาลก่อน
น่าจะมีรายการโยนขี้ใส่ฝ่ายตรงข้าม อีกแล้วครับท่าน

เลือกคนโง่ โกง here มาบริหาร
เป็นการทำร้ายชาติ
เผาบ้านตัวเอง

#5 PHOENiiX

PHOENiiX

    ปู 4ssโกงชาวนา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,226 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:01

ค่าเก็บรักษาข้าว อีกตันละ 100 บาทต่อเดือน 24 เดือนก็ ตันละ 2,400 บาท เฉลี่ยข้าวมาใหม่ ข้าวเก็บเก่า อาจจะได้ประมาณ 1,000 / ตัน ต้นทุนต่อตันที่จำนำก็กลายเป็นประมาณ 16,000 บาทแล้ว ยิ่งเก็บนานต้นทุนยิ่งเพิ่ม


Edited by PHOENiiX, 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:44.


#6 conservative

conservative

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 762 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:12

งานนี้ข้าราชการประจำคงมีคนโดนย้ายอีกเป็นแน่

#7 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:17

ข้าวในสต๊อกของรัฐบาลถ้าดูแลอย่างดี

ตราบใดเราไม่ขายออกไปก็ไม่ขายทุน

โต้งฝากมาบอก :lol:


ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#8 หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,167 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:18

ฟังความข้างเดียว ?



#9 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:19

ฟังความข้างเดียว ?

ฟ้องเลย ฟ้องเลย  :D



#10 ปู ออสการ์

ปู ออสการ์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 268 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:26

ขายหมด ????? ........ เผาหมดแล้วต่างหาก   :angry:  :angry:  :angry: 


จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด                 จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง

จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง       จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร            ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา      ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป

#11 grand_v

grand_v

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 841 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:28

สงสัย จะโดนเด้งอีกราย 



#12 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:35

อ้าว ตัวใครตัวมันแล้วงานนี้ ทั้งมู้ดี้ ทั้ง ไอเอ็มเอฟ ตอนนี้เริ่มทำงานแล้ว หลังจาก 2 สำนักนี้ ปล่อยให้รัฐบาลนี้ขี้โม้มา 2 ปี ว่าจะขายข้าวได้กำไรแน่นอน อย่างที่อีเม้ยมันพูดว่า ข้าวไทยใครๆ ก็อยากได้ เจอ 2 สำนักนี้ถาม รัฐบาลนี้ถึงกับดิ้นพล่านเลย  :D



#13 V for Macaw

V for Macaw

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 641 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:38

เห้อ สงสารคนที่เขาอุตส่าปลูกกันด้วยความเหนื่อยยากจริงๆ


ฉันมาที่บอร์ดแห่งนี้ เพื่อหยุดระบอบทักษิณ


#14 กากจริงไรจริง

กากจริงไรจริง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,172 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:43

เห้อ สงสารคนที่เขาอุตส่าปลูกกันด้วยความเหนื่อยยากจริงๆ

ส่วนนึงก็ชาวนาประเทศเพื่อนบ้าน



#15 นิจนิรันดร์

นิจนิรันดร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,191 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:47

ฟังความข้างเดียว ?

:D



#16 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:58

ฟังความข้างเดียว ?

 

 

             “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

^_^  อ่านภาษาคนออก ก็ไปถามตามสังกัดที่เค้าว่าไปสิขอรับ... ไม่ก็หัดตั้งกระทู้เองหน่อย อย่าใช้สั นดานเดียวกับนายเมริงท่าน... เที่ยวตีกินชาวบ้านเค้าน่ะขอรับ...

 

^_^  คงฟังภาษาคนออกนะขอรับ... เห็นหลายทู้แล้ว... โดยเฉพาะของกระพ๊ม...


Edited by wat, 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:59.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#17 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:07

ติดปีกอีกแล้ว

นโยบายอีโง่

#18 kukkuk

kukkuk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 932 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:11

ถ้าบอกว่า44-50 มีข้าวค้างโกดัง12ล้านตัน
สมัยพิสิดปี51 ไม่ได้ระบายเลย
ปี52ไตรงค์ระบายไป5ล้านตัน

สรุป ถึงยุคยิงลัก 12-5=7 เป้นของที่ค้างมาก่อน
แสดงว่าของยิ่งลัก มีภาระจายจองเก่า 7 ล้านตัน
และรับของใหม่เข้ามา

ถ้าตอนนี้ค้าง17 ล้านตัน ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ระบายเลย อาจจะต้องระบายของเดิม 7 ล้าน และของใหม่พอสมควร

ผมเข้าใจถูกป่าวนี้

#19 หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,167 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:13

 

ฟังความข้างเดียว ?

 

 

             “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

^_^  อ่านภาษาคนออก ก็ไปถามตามสังกัดที่เค้าว่าไปสิขอรับ... ไม่ก็หัดตั้งกระทู้เองหน่อย อย่าใช้สั นดานเดียวกับนายเมริงท่าน... เที่ยวตีกินชาวบ้านเค้าน่ะขอรับ...

 

^_^  คงฟังภาษาคนออกนะขอรับ... เห็นหลายทู้แล้ว... โดยเฉพาะของกระพ๊ม...

 

ก็ถึงบอกไงฟังความข้างเดียว ก่อนหน้านี่ หน่วยงานในกระทรวง ก็แสดงความเห็นไปคนละอย่าง

 

มันต้องให้เขาสรุปๆกันมาเป็นเนื้อเดียว นั่นแหละจะได้ีรับความจริง

 

ผมตีกินยังไงเหรอ 



#20 อ่อนโลก

อ่อนโลก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 681 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:31

รอฟังข่าว เฟาเม่า ได้เลย ^ ^

#21 so what?

so what?

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,807 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:57

อีปลวกยังงงๆอยู่ครับ ว่าด่ากรูเรื่องไรกันหว่า

 

 

 

ประเทศไทยเป็นแหล่งอาหารโลก ... นะคร้าาาาาาา

 

มีข้าวสำรองเป็นสิบๆล้านตัน เลี้ยงคนได้ทั้งโลกคร้าาาาาาาาาาา



#22 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:08

 

 

ฟังความข้างเดียว ?

 

 

             “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

^_^  อ่านภาษาคนออก ก็ไปถามตามสังกัดที่เค้าว่าไปสิขอรับ... ไม่ก็หัดตั้งกระทู้เองหน่อย อย่าใช้สั นดานเดียวกับนายเมริงท่าน... เที่ยวตีกินชาวบ้านเค้าน่ะขอรับ...

 

^_^  คงฟังภาษาคนออกนะขอรับ... เห็นหลายทู้แล้ว... โดยเฉพาะของกระพ๊ม...

 

ก็ถึงบอกไงฟังความข้างเดียว ก่อนหน้านี่ หน่วยงานในกระทรวง ก็แสดงความเห็นไปคนละอย่าง

 

มันต้องให้เขาสรุปๆกันมาเป็นเนื้อเดียว นั่นแหละจะได้ีรับความจริง

 

ผมตีกินยังไงเหรอ 

 

ข้างบน เกิน 3 บรรทัด แดง งง  

ถ้าเป็นคนในตะกูลชิน ออกมาพูด แดงเคลิ้มเขียว ฟังความข้างเดี่ยวไม่มีอยู่ในหัวสมอง :lol:

22336.JPG

 

 

 

 

ิ้


Edited by nnnn43, 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:14.

ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#23 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:17

เดี๋ยวโดนย้ายแบบรองปลัดคลังหรอก

 

:lol: 



#24 V for Macaw

V for Macaw

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 641 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:24

 

เห้อ สงสารคนที่เขาอุตส่าปลูกกันด้วยความเหนื่อยยากจริงๆ

ส่วนนึงก็ชาวนาประเทศเพื่อนบ้าน

 

55555555+ อันนี้น่าเจ็บใจเข้าไปใหญ่ครับ T T

ขายไม่ออกก็ยังจะแถกันอยู่นั่นแหละ 


ฉันมาที่บอร์ดแห่งนี้ เพื่อหยุดระบอบทักษิณ


#25 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:34

:angry: เหลือมาตั้งแต่สมัยมาร์คชั่งไข่ซิ่นะ...


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#26 PHOENiiX

PHOENiiX

    ปู 4ssโกงชาวนา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,226 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:49

 

ฟังความข้างเดียว ?

 

 

             “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

^_^  อ่านภาษาคนออก ก็ไปถามตามสังกัดที่เค้าว่าไปสิขอรับ... ไม่ก็หัดตั้งกระทู้เองหน่อย อย่าใช้สั นดานเดียวกับนายเมริงท่าน... เที่ยวตีกินชาวบ้านเค้าน่ะขอรับ...

 

^_^  คงฟังภาษาคนออกนะขอรับ... เห็นหลายทู้แล้ว... โดยเฉพาะของกระพ๊ม...

 

 

  สำหรับค่าใช้จ่ายที่ อคส.ต้องจ่ายในการเก็บรักษาข้าวประมาณเดือนละ 100 บาทต่อตัน

 

“ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน

 

ทั้งหมดกี่ล้านตันล่ะ

 

 

 

 

เพิ่มให้เผื่อควายจะกลายเป็นคนได้



#27 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:24

:angry: เหลือมาตั้งแต่สมัยมาร์คชั่งไข่ซิ่นะ...

 

พอดีอ่านเจอความเห็นนี้ครับ :huh:

 

 โดยปี 44-50 มีสต๊อกค้างประมาณ 12 ล้านตัน โดยสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ช่วงปี 2551 ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ระบายออกไปเลย

ข้าวตั้งแต่ปี 44 สมัยทักษิณ จนปี 50 และ 51 ไม่อยากนึกสภาพข้าวที่เก็บนานๆตั้งแต่ปี 44 จะระบายยังไงใครจะเอา  .............ตอบความเห็นที่ 16 ครับ http://www.manager.c...D=9560000068297

บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่

#28 dTone

dTone

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 418 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:38

 

 

ฟังความข้างเดียว ?

 

 

             “ตอนนี้ อคส.ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าวประมาณตันละ 20 บาทต่อเดือน ซึ่งของนาปรังปี 55 จ่ายไปแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท ของนาปี ปี 55/56 จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท และคาดว่าจะต้องเก็บข้าวต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะขายได้ ซึ่งจะมีการตั้งงบค่าใช้จ่ายไว้เป็นปีต่อไป ซึ่งอคส.ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณจ่ายขาดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

^_^  อ่านภาษาคนออก ก็ไปถามตามสังกัดที่เค้าว่าไปสิขอรับ... ไม่ก็หัดตั้งกระทู้เองหน่อย อย่าใช้สั นดานเดียวกับนายเมริงท่าน... เที่ยวตีกินชาวบ้านเค้าน่ะขอรับ...

 

^_^  คงฟังภาษาคนออกนะขอรับ... เห็นหลายทู้แล้ว... โดยเฉพาะของกระพ๊ม...

 

ก็ถึงบอกไงฟังความข้างเดียว ก่อนหน้านี่ หน่วยงานในกระทรวง ก็แสดงความเห็นไปคนละอย่าง

 

มันต้องให้เขาสรุปๆกันมาเป็นเนื้อเดียว นั่นแหละจะได้ีรับความจริง

 

ผมตีกินยังไงเหรอ 

 

ถ้าฟัง 2 ข้างแล้วจะให้น้ำหนักไปทางไหนดีครับ

คนนึงบอกระบายไม่ได้ เป็นรอง ผอ. อคส. ดูคลังสินค้าโดยตรง

(คาดการ)อีกคนนึงบอกระบายได้แล้ว เป็นรัฐมนตรี ดูอะไรยังไม่รู้ครับเพราะยังไม่เกิด

 

ผมต้องเชื่อรัฐมนตรีรึเปล่าครับเพราะเขาตำแหน่งสูงกว่า

 

ทำให้ผมนึกถึงกรีซเลยตอนรัฐบาลตบแต่งตัวเลขเพื่อกู้เพิ่ม



#29 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:40

ชิส์ส์ส์ ....  เบื่อแมงวาป ชอบจับผิดหยุมหยิม ...

 

ข้าวมันก็ต้องมีขายได้บ้างเหลือค้างสต็อคบ้างตามกระแสธุรกิจ

 

แล้วที่ค้างสต็อค 17 ล้านตันนี้ มันก็เริ่มค้างสต็อคมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีโน่นแล้ว

 

แมงวาปไม่รู้อะไรแล้วชอบเอามาจับผิดหยุมหยิมท่านรัดทะมนตรีและพรรคเพื่อควายของพวกเราว่ะ

 

ปล.เข้ามาช่วยเสื้อแดงแถ แถ่ด แถ่ด แถ่ด ....  :P :P :P


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#30 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:36

โต้งบอก 17 ล้านตันแล้วไง?

 

image002_opt.gif

 


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#31 nornoo

nornoo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,578 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:04

โต้งบอก 17 ล้านตันแล้วไง?

 

คิดนึกว่าเป็นหุ้นมั่ง ไม่ขาย ไม่ขาดทุน



#32 Somebody

Somebody

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,938 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:19

กระทู้ไหนที่มีคำว่า"ข้าว"
แดงไม่ค่อยโผล่มาหรอก :D

Edited by Somebody, 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:14.


#33 mrmax45

mrmax45

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 58 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:04

หวังว่าคงขายออกและไม่เน่าให้เป็นภาระของรัฐบาลอื่นที่ต้องหางบมาทำลายทิ้งอีกเหมือน โครงการจำนำลำไย น่ะ



#34 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:20

หวังว่าคงขายออกและไม่เน่าให้เป็นภาระของรัฐบาลอื่นที่ต้องหางบมาทำลายทิ้งอีกเหมือน โครงการจำนำลำไย น่ะ

 

อย่าไปขุดมาเลยครับ แค่นี้ก็ดิ้นกันพร่าดๆแล้ว <_<

 

ย้อนรอยนโยบายแทรกแซงราคาลำไย กับการปราบคอร์รัปชั่นของ "ไทยรักไทย"

มติชนรายวัน วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9946

ปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำลำไยในภาคเหนือตั้งแต่ปี 2545 เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากสำหรับการศึกษาด้าน "นโยบายสาธารณะ" ของรัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย(ทรท.) เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีปัญหาตั้งแต่การก่อตัวของนโยบายและการนำนโยบายไปปฏิบัติ มีผลประโยชน์แอบแฝงระหว่างกลุ่ม หัวคะแนนพ่อค้า ข้าราชการ และนักการเมืองภาคเหนือหลายคน ซึ่งมีส่วนได้-เสียโดยตรงกับการขาดทุนจากการขาย และชดเชยการรับจำนำลำไย

เฉพาะปี 2545 ความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยมีรายงานจากหน่วยงานของทางราชการเป็นการภายในว่า โครงการดังกล่าวมีการทิ้งสัญญาทำให้ลำไยค้างสต๊อคสูงถึง 56,503 ตัน เพราะแทรกแซงด้วยการรับซื้อลำไยมากถึง 80,664 ตัน อีกทั้งซื้อในราคาสูงถึงกิโลกรัม(กก.)ละ 72 บาท ในขณะที่ตลาดขณะนั้นมีราคาเพียง กก.ละ 52 บาทเท่านั้น และการทิ้งสัญญาทำให้ลำไยราคาตกเหลือเพียง กก.ละ 40-45 บาท ขาดทุนชัดเจนทันทีเกือบ 30 บาท/กก. เป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ประกอบกับการรับซื้อยังต้องคำนวณรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากอัตราดอกเบี้ยชดเชย ค่าเช่าคลังสินค้า ค่าบริหารจัดการ และการเสื่อมสภาพของลำไยจากขบวนการทุจริต ซื้อแพงแต่ขายเลหลังถูกๆ การเวียนเทียนและอบลำไยผี ทุจริตในขั้นตอนอื่นๆ อีก ความเสียหายในครั้งนี้น่าจะสูงกว่า 3,000 ล้านบาท

เดิมเมื่อปี 2545 มีการปลูกลำไยกันมาก มีผลผลิตสูงประมาณ 390,700 ตัน เพิ่มจากปี 2544 ที่มีเพียง 190,000 ตัน ราคาที่เคยขาย กก.ละ 25-30 บาท จึงตกลงเหลือประมาณ 15-17 บาท นักการเมืองจากกระทรวงเกษตรฯ และกลุ่มหัวคะแนน ส.ส.ภาคเหนือส่วนใหญ่ จึงรวมตัวกันผลักดันจนคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2545 ให้แทรกแซงรับจำนำลำไยและมาตรการอื่นๆ

จุดเริ่มต้นดำเนินการกันอย่างปกติ มีการใช้เงินกู้ซื้อเตาอบลำไยและค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 980 ล้านบาท ให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า(อ.ค.ส.) ออกใบประทวนรับฝากลำไยอบแห้ง และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เป็นผู้รับจำนำใบประทวนดังกล่าว กำหนดเป้าหมายครั้งแรกไว้เพียง 35,000 ตัน

ปัญหาผิดปกติได้เกิดขึ้นทันทีในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งที่ 3 เมื่อนักการเมืองจากกระทรวงเกษตรฯ ได้ผลักดันให้รับจำนำลำไยอบแห้งในราคาสูงถึง กก.ละ 72 บาท สำหรับเกรดเอเอ ในขณะที่ตลาดราคาเพียง กก.ละ 52 บาท

เหมือนเจตนาเปิดช่องโหว่ให้มีการกอบโกย ตักตวงผลประโยชน์ โดยระดมลำไยทุกประเภท แม้แต่ลำไยร่วงที่อบแห้งไม่ได้ ควรคัดทิ้ง ยังเอามาจำนำกับทางราชการ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังขยายเวลารับซื้อ ขยายการปริมาณรับจำนำเพิ่มหลายครั้ง

จากครั้งแรก 35,000 ตัน เพิ่มปริมาณเป็น 60,000 ตัน และผลักดันเป็น 70,000 ตัน จนครั้งสุดท้ายเดือนกันยายน 2545 ไปๆ มาๆ ปริมาณรับจำนำทั้งหมดเพิ่มสูงถึง 80,664 ตัน มูลค่ารวมประมาณ 5,500 ล้านบาท มีวิธีการซ้ำๆ ซากๆ หลายๆ ครั้ง

การทุจริตน่าจะเกิดขึ้นจากหลายฝ่าย มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกรูปแบบ ผิดสังเกตชัดเจน อาทิ ปริมาณลำไยอบแห้งที่ชาวบ้านนำมาจำนำมีมากเกินปกติ มีการนำลำไยที่ควรคัดทิ้งมาอบแห้ง และปริมาณลำไยอบแห้งจำนวนมากใช้วิธีการสวมสิทธิ ใช้ชื่อชาวบ้านแต่ไม่ใช่ของชาวบ้านจริง

บางหน่วยงานของรัฐได้สุ่มสอบถามชาวบ้านถึง 250 ราย กว่าครึ่งยอมรับว่ามีการสวมสิทธิจริง ได้ค่าตอบแทนรายละ 2,000-4,000 บาท มีการร่วมมือกันเป็นขบวนการ ทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ อ.ต.ก. อ.ค.ส. ธ.ก.ส. และผู้ประกอบการ อีกทั้งพบว่าคุณภาพ เกรด ราคา ปริมาณ น้ำหนักของลำไยที่รับจำนำ ไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้ง

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่รัฐมีหลักฐานชัดเจนพบว่ามีสต๊อคลมในคลังของผู้รับฝาก 2 ราย ในนาม บจ.หยิงหม่า อินเตอร์เทรด และ บจ.นอร์ทเทอร์น เอนเตอร์ไพรส์(จ.ลำพูน) ส่วน บจ.ที.อี.อินเตอร์เนชั่นแนล(จ.เชียงใหม่) รับจำนำลำไยเกรดต่ำ แต่แจ้งเท็จเป็นลำไยเกรดสูง อีกทั้งพบว่าผิดสัญญาอีกหลายเรื่อง เช่น เก็บนอกสถานที่ ไม่ใส่กล่องตามที่ตกลงไว้ มีการจ่ายเงินลัดคิวให้ได้จำนำก่อน เป็นต้น เมื่อนำลำไยเสื่อมคุณภาพมาจำนำ ยิ่งเก็บนานก็ยิ่งเสียหาย

การตรวจสอบทำได้น้อยมาก ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่เกือบทุกหน่วยงานที่มีส่วนได้เสียต่างร่วมกันปิดบัง กีดกันการตรวจสอบตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุที่สำคัญที่สุดคือการตั้งราคารับจำนำไว้สูงมาก เป็นช่องทางให้หาประโยชน์กัน มีทั้งพ่อค้า หัวคะแนน เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

การรับจำนำลำไยสูงถึง 80,963 ตัน หลุดจำนำ 61,397 ตัน และการขายลำไยให้เอกชน 5 ราย รวม 43,801 ตัน โดยมี หจก.เอ็มแอนด์แอนด์ ทรานสปอร์ต รายเดียวรับซื้อสูงถึง 36,425 ตัน

มีการดำเนินการกันหละหลวมมาก วางหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ครบ เกิดปัญหาทิ้งสัญญา เรียกร้องไม่ได้ เพราะปล่อยให้เอกชนยื่นได้ ทั้งๆ ที่มีทุนจดทะเบียนน้อยมาก ทุกอย่างดูเหมือนหละหลวมไปหมด ความเสียหายโดยรวมจึงน่าจะสูงกว่า 3,000 ล้านบาทแน่นอน

ส่วนปี 2546 แม้มีบทเรียนเสียหายหลายครั้งชัดเจน แทนที่รัฐบาลจะมองในแง่ความคุ้มทุน หรือผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็นเกณฑ์ แต่ยังดึงดันกัน มีการผลักดันจากรัฐมนตรีที่มีฐานเสียงในภาคเหนือหลายคน ผลักดันให้มีการรับจำนำลำไยในราคาสูงเหมือนปี 2545 มีการรับจำนำเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 20,000 ตัน ทำให้ประสบปัญหาเกษตรกรทิ้งจำนำ เพราะราคาตลาดต่ำกว่าราคารับจำนำ

ข้อสังเกตคือ ขณะที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง พยายามตรวจสอบการทุจริตของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเต็มที่ แต่ทั้งๆ ที่ปัจจุบันกลไกของรัฐทุกหน่วยงาน ทุกฝ่าย โดยเฉพาะทหาร และตำรวจ มีอำนาจพร้อมเบ็ดเสร็จ หากไม่ตั้งใจเลือกปฏิบัติ(Double Standard) น่าจะตรวจสอบได้ไม่ยากว่ามีหัวคะแนน ส.ส. นักการเมืองภาคเหนือ ใครบ้างที่ส่อทุจริตเกี่ยวข้องหรือเป็นตัวการ

หากวิเคราะห์ตาม "ทฤษฎีนโยบายสาธารณะ" ก็น่าจะเรียกได้ว่าโครงการแทรกแซงราคารับจำนำลำไยเป็น "Rent" ซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นการ่วมมือของ "ขบวนการพ่อค้าหัวคะแนน นักการเมือง และข้าราชการ" ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงร่วมกัน

เรื่องนี้แม้แต่บุคคลระดับนายอนันต์ ดาโลดม ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯของวุฒิสภา ซึ่งผ่านงานในกระทรวงเกษตรฯ เคยเป็นถึงระดับอธิบดี ได้ท้วงติงถึงช่องโหว่หลายประการอย่างชัดเจน แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไม ครม.ทั้งคณะในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีมติเมื่อ 22 มิถุนายน 2547 ให้ใช้งบฯอีก 4,000 ล้านบาท ในการรับซื้อลำไยมาอบแห้งอีก 260,000 ตัน

ทั้งมีทางออกไว้ชัดเจน ให้ใช้วิธีจ่ายเงินช่วยเหลือทดแทนโดยตรงกับเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เหมือนที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศที่เจริญแล้ว ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป สมมุติหากคำนวณได้ว่าราคาลำไยที่ทำให้เกษตรกรคุ้มทุน กก.ละ 15 บาท แต่ตลาดราคาตกเหลือเพียง 12 บาท รัฐก็จ่ายชดเชยโดยตรงให้รายย่อยที่ปลูกไม่เกิน 10 ไร่ กก.ละ 3 บาท สมมุติผลผลิตทั้งปี 500 ล้าน กก. ใช้เงินอย่างมากก็ไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ประหยัดไปถึง 2,500 ล้านบาท และไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุนหรือรั่วไหลเหมือนที่ผ่านๆ มา

ที่สำคัญ ลำพังหัวคะแนน ส.ส. รัฐมนตรีภาคเหนือที่เกี่ยวข้องบางคน อาจปล่อยให้เกิดเรื่องเสียหายที่ประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลให้เกิดขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีสถานะเพียงแค่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักการเมืองภาคเหนือเท่านั้น หากยังมีสถานะเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศอยู่ด้วย

เรื่องนี้เกิดในสมัยนักการเมืองภาคเหนือควบคุมนโยบายเรื่อยมา ตั้งแต่ก่อนหน้านายสมศักดิ์ เทพสุทิน มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆ คนจึงพิสมัยกระทรวงเกษตรฯเป็นยิ่งนัก หลักฐานค่อนข้างชัดเจนขนาดนี้ ย่อมกระทบต่อเกียรติภูมิของ พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะคนเหนือเป็นอย่างยิ่ง

หากนายกรัฐมนตรีมีความกล้าที่จะทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏโดยไม่เลือกปฏิบัติ เจตนาทำเพื่อส่วนรวมตามนโยบายปราบปรามการคอร์รัปชั่นจริง อย่างน้อย พ.ต.ท.ทักษิณก็จะได้ชื่อว่าเป็น "มือปราบคอร์รัปชั่น" คนหนึ่ง ที่นอกจากจะเก่ง ฉลาด และกล้าแล้ว ยังจริงใจและกล้าตัดวงจรของพวกอโคจรด้วย ทั้งๆ ที่เคยอยู่ใกล้หรือใต้ร่มเงาชายคาเดียวกัน

 

เลิกแทรกแซงลำไยเถอะ

คอลัมน์ จอดป้ายประชาชื่น  วุฒิ สรา wutsara2000@yahoo.com  มติชนรายวัน วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9960

น่าเห็นใจคุณหญิงหน่อย "สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" รมว.เกษตรฯ ที่จะต้องรับภาระทำความสะอาดเรื่องเหม็นเก่าๆ ที่ยังคาราคาซังในกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะเรื่องลำไยที่ยังแก้ไม่ตก

เป็นลำไยจากผลพวงการแทรกแซงราคาของรัฐตั้งแต่ปี 2545 จนถึง 2547 ขณะเดียวกัน ก็ต้องรับมือกับลำไยฤดูใหม่ในปี 2548 ที่เริ่มทยอยออกมาแล้ว

ปัญหาลำไยอบแห้งในปี 2545 จำนวน 2.3 หมื่นตัน ที่คณะกรรมการนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ยอมสูญเงินร่วมพันล้านบาท ให้ทำลายทิ้ง

แม้ คชก.จะให้เหตุผลการทำลายว่าเป็นลำไยเสื่อมคุณภาพ และเพื่อป้องกันการนำมาหมุนเวียนในโครงการปี 2546 ปี 2547 และปี 2548 แต่ก็ยังมีเสียงครหาตามมาว่า เป็นการเผาทำลายหลักฐานหรือเปล่า?

อย่างไรก็ตาม แม้ คชก.จะมีมติให้ทำลายลำไยอบแห้งปี 2545 นานแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการทำลาย...เพราะเหตุใด

เพราะลำไยอบแห้งปี 2545 มีแต่ลม เหลืออยู่จริงไม่กี่ตัน จึงต้องหาอะไรมาเผาแทนหรือไม่

หรือเพราะลำไยปี 2545 ไม่ได้เสื่อมคุณภาพจริง เนื่องจากเมื่อปี 2547 มีการเปิดประมูลขายลำไยล็อตนี้ และมีการตรวจเช็คสต๊อค จึงมีการนำเอาลำไยคุณภาพดีในปี 2546 และปี 2547 มาสวมแทนเพื่อตบตารัฐบาล แต่สุดท้ายก็ล้มประมูลไป ดังนั้น ลำไยปี 2545 จึงกลายเป็นลำไยคุณภาพดี

ด้วยเหตุนี้หรือไม่ จึงต้องประวิงเวลาการทำลายลำไยปี 2545

ขณะที่ลำไยอบแห้งปี 2546 และ 2547 ที่ควรเป็นลำไยคุณภาพดี กลายเป็นเสื่อมคุณภาพแทน

ด้วยเหตุนี้หรือไม่ ถึงทำให้โครงการแลกลำไยอบแห้งปี 2546-2547 จำนวน 6.4 หมื่นตัน กับการแลกรถหุ้มเกราะ 120 คัน จากประเทศจีน มูลค่ากว่า 2,093 ล้านบาท ต้องหยุดชะงัก

เนื่องจากบริษัท ฟูเจี้ยน หรงเจียง ซึ่งเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้าครั้งนี้ ยังไม่ยอมวางเงินค้ำประกัน 10% ของมูลค่าสินค้าแลกเปลี่ยน หรือ 209 ล้านบาท และขอเข้าตรวจสอบสภาพลำไยว่ามีคุณภาพดีจริง

แค่เรื่องลำไยเก่าที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก็ปวดหัวแทนคุณหญิงหน่อยแล้ว แต่ลำไยฤดูใหม่ปี 2548 ที่กำลังจะทยอยออกมานี้จะทำให้คุณหญิงหน่อยต้องปวดหัวมากขึ้นไปอีก

ทั้งปริมาณผลผลิตที่จะมากกว่า 6 แสนตัน เนื่องจากในภาคเหนือมีฝนตกชุก ซึ่งจะทำให้ลำไยสุกเร็ว และผลผลิตจะทะลักออกมาพร้อมๆ กัน ตลาดไม่สามารถรองรับได้ทัน

ที่บอกว่าจะเน้นระบายเป็นลำไยสด โดยเฉพาะขายภายในประเทศก็อาจกระจายไม่ทั่วถึง และคนจะกินไม่ทัน

ส่วนตลาดต่างประเทศ ที่ประกาศว่าสามารถหาตลาดจีนรองรับได้แล้วกว่า 1 แสนตัน และจีนอาจใจดีซื้อเพิ่มอีก 2 แสนตันนั้น ก็ยังไม่มีสัญญาผูกมัดชัดเจน เป็นแค่บันทึกความเข้าใจที่ยังเลื่อนลอย

อย่าลืมว่าจีนก็มีการปลูกลำไย โดยเฉพาะที่กวางโจว และกวางสี และปีนี้จะมีผลผลิตมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า หรือกว่า 1-2 ล้านตัน ซึ่งจะเริ่มออกสู่ตลาด ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้ และคงทำให้ลำไยไทยเข้าไปทำตลาดยากขึ้น

นอกจากนี้ ลำไยเก่ายังค้างสต๊อคอยู่เต็มโกดัง เมื่อลำไยฤดูใหม่ออกมาก็ไม่มีที่เก็บ รวมทั้งตระกร้าพลาสติคที่บรรจุลำไยก็มีไม่พอ

ยิ่งกว่านั้นก็คือ กระทรวงเกษตรฯยังไม่ได้เสนอโครงการแทรกแซงลำไยฤดูใหม่ที่เป็นรูปธรรมให้ คชก.พิจารณา ทั้งๆ ที่ลำไยเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว

ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นเพราะความผิดพลาดในอดีตเมื่อสิบปีก่อน ที่นักการเมืองบางคนอยากหาเสียง อยากหากิน จึงผลักดันโครงการแทรกแซงราคาลำไย ทำให้ระบบการค้าบิดเบี้ยว ชาวสวนก็นิสัยเสียไม่ยอมรับราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ตามภาวะตลาด ขณะที่พ่อค้าก็ไม่กล้าทำการค้าปกติ เพราะกลัวรัฐจะเข้ามาแทรกแซง เลยรอหากินกับรัฐแทน ทำให้วงการค้าลำไยกลายเป็นวงจรอุบาทว์มาจนถึงขณะนี้

อยากฝากและอยากหวังว่าในปีหน้า หากจะช่วยเหลือชาวสวนลำไยก็ควรดูแลตั้งแต่ต้น หากเห็นว่าผลผลิตจะล้นตลาดก็ให้ทำลายผลลำไยที่ยังมีขนาดเล็กๆ อย่ารอให้เป็นผลใหญ่ออกมา ซึ่งจะทำให้จัดการยาก

แต่ทางที่ดีที่สุดคือ รัฐควรถอยห่างออกมา และปล่อยให้วงการลำไยกลับไปอยู่กลไกตลาดตามปกติ ให้เกษตรกรยอมรับความจริงกับราคาผลผลิตตามกลไกตลาด

อย่าหวังหาเสียงกับชาวสวนลำไย แล้วเอาเงินงบประมาณไปทิ้งเป็นพันๆ ล้านเหมือนที่ผ่านๆ มาเลย


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#35 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:58

ชิส์ส์ส์ ....  เบื่อแมงวาป ชอบจับผิดหยุมหยิม ...

 

ข้าวมันก็ต้องมีขายได้บ้างเหลือค้างสต็อคบ้างตามกระแสธุรกิจ

 

แล้วที่ค้างสต็อค 17 ล้านตันนี้ มันก็เริ่มค้างสต็อคมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีโน่นแล้ว

 

แมงวาปไม่รู้อะไรแล้วชอบเอามาจับผิดหยุมหยิมท่านรัดทะมนตรีและพรรคเพื่อควายของพวกเราว่ะ

 

ปล.เข้ามาช่วยเสื้อแดงแถ แถ่ด แถ่ด แถ่ด ....  :P :P :P

 

-_-  บังเอิญจักกาพัดจิ๋งซีให้กระพ๊มมาตรวจสอบน่ะขอรับ... เห็นว่าไปพาดพิงทางวุยก๊กว่าจะมีการซื้อขายครั้งใหญ่แบบเก๋าเจี๊ยะ... ท่านเลยมาเข้าฝันให้ดูให้โหน่ย...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#36 อิสระภาพ

อิสระภาพ

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 77 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:59

โต้งบอก 17 ล้านตันแล้วไง?

 

ข้าวนะจ๊ะ  ไม่ใช่น้ำมัน ไอ้ตูดหมึก



#37 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:18

ถ้าจำไม่ผิด สมัย ปชป ประกันราคาข้าว 

 

โกดังเรามีข้าวเหลือ แค่พอบริโภคในประเทศในระยะเวลา6 เดือนนะครับ

 

น่าจะประมาณ2 ล้านตัน  

 

ปชป เป็นคนเคลียร์เรื่องโกดังข้าวให้หมดเองด้วย จากนโยบาย จำนำสมัย ไอ้หมัก ไอ้ชายตู้เย็น



#38 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:24

รอ



#39 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:42

ถ้าบอกว่า44-50 มีข้าวค้างโกดัง12ล้านตัน
สมัยพิสิดปี51 ไม่ได้ระบายเลย
ปี52ไตรงค์ระบายไป5ล้านตัน

สรุป ถึงยุคยิงลัก 12-5=7 เป้นของที่ค้างมาก่อน
แสดงว่าของยิ่งลัก มีภาระจายจองเก่า 7 ล้านตัน
และรับของใหม่เข้ามา

ถ้าตอนนี้ค้าง17 ล้านตัน ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ระบายเลย อาจจะต้องระบายของเดิม 7 ล้าน และของใหม่พอสมควร

ผมเข้าใจถูกป่าวนี้

ที่ KUKKUK ยกมานี่ เป็นความจริงหรือ

มีค้างมาตั้งแต่ปีก่อนๆ ถึง 12 ล้านเลยเหรอ


แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#40 wizard

wizard

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 693 posts

ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:06

 

ก็ถึงบอกไงฟังความข้างเดียว ก่อนหน้านี่ หน่วยงานในกระทรวง ก็แสดงความเห็นไปคนละอย่าง

 

มันต้องให้เขาสรุปๆกันมาเป็นเนื้อเดียว นั่นแหละจะได้ีรับความจริง

 

ผมตีกินยังไงเหรอ

 

รอชาติหน้ามั้ง วันนี้มันยังไม่ยอมสรุปยอดเลย

 

หรือไม่ก็คงรอให้แม้วตายก่อน ตอถึงจะยอมผุดขึ้นมา


Edited by wizard, 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:06.





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน