64 ความเห็นในกระทู้นี้

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

มีเพื่อนสมาชิกแนะนำว่า ตั้งกระทู้ใหม่เลยดีกว่า  ผมเห็นควรด้วย

เพราะน่าจะเป็นประเด็นที่ช่วยกันถก ช่วยกันวิเคราะห์ได้ ทั้งทางโลก ทางธรรม ทางการเมือง

 

โดยต้นกำเนิดมาจากกระทู้นี้ครับ  

http://webboard.seri...่วยกันฉุ/page-2

 

 

ไร้สีไร้กลิ่น, on 08 Jun 2013 - 22:15, said:

ไม่รู้จะอยู่ในประเด็นกระทู้รึเปล่า

เรื่องเท่งเขาจะชอบฝ่ายไหนก็เป็นสิทธิ์ของเขา เขาจะทำการลบหลู่หรือไม่ตัวเขาเองจะรู้อยู่แก่ใจ ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้น

 

ในหลวงทรงมีศีลธรรม มีบารมีมาก ใครล่วงเกินย่อมมีอันเป็นไป

 

แม้แต่ยิ่งลักษณ์เองก็เป็นคนที่มีบารมีมาก มีผู้เตือนว่าคนที่คิดจะโค่นล้มยิ่งลักษณ์ ระวังจะเหลือแต่เกงใน

 

คิดซะว่าเป็นการเตือนสติ ผมเองก็ใช่ว่าฟังมาแค่นั้นแล้วจะทำให้ชอบตระกูลนี้ได้(ยกเว้นบรรพบุรุษเค้าที่ เคยสร้างคุณงามความดี ดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น) แต่ก็ทำให้ลดความเคียดแค้นชิงชังลงได้ ลดความวิตกกังวลว่าบ้านเมืองจะพินาศล่มจมลงได้ ผมเองก็ได้แต่หวังว่าสักวันพวกคุณจะได้พบเจอท่านแล้วจะได้สบายใจอย่างผมบ้าง แต่ก็เปรียบเหมือนสิ่งมีค่าที่สุดเราย่อมรักษาไว้ไม่บอกให้ใครรู้เพราะเกรงกลัวภยันตราย ฉันใดก็ฉันนั้น ผมก็แค่จะมาบอกให้ได้สบายใจกัน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งที่ผมพูดเองครับ

 

 

สิ่งที่ผมเชื่อและศรัทธาไม่ได้เป้นจากตัวยิ่งลักษณ์เพราะผมยังไม่เห็นข้อดีของเธอ(หรือเพราะอคติบังตาก็ไม่ทราบ) แต่ผมเคารพศรัทธาผู้มีบารมีท่านนี้ ซึ่งท่านช่วยเหลือมาหลายรัฐบาลไม่ได้เกี่ยงว่าเป็นฝ่ายไหน แต่ถึงเวลานี้มันเป็นยุคของยิ่งลักษณ์และท่านก็เตือนผมมาแบบนี้ ผมอาจจะเชื่อคนง่ายก็ได้ แต่ผมแค่หวังดีกับชาวเสรีไทยจึงได้มาเตือน

 

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เพิ่มเติมข้อมูลจากคุณ asawinee ประกอบการถกครับ

 

 

ขออภัย จขกท. ที่ต้องพาออกทะเล เรื่องยิ่งลักษณ์

 

แม้แต่ยิ่งลักษณ์เองก็เป็นคนที่มีบารมีมาก มีผู้เตือนว่าคนที่คิดจะโค่นล้มยิ่งลักษณ์ ระวังจะเหลือแต่เกงใน

 

 

อ่านข้อความนี้แล้ว ทำให้นึกถึงกระทู้นี้

http://webboard.seri...-ยิ่งรักมหาเทพ/

มีลิงค์ประกอบhttp://community.tha...iuaoeana-ocnua/

 

ซึ่ง มีผู้กล่าวอ้างว่าปฏิบัติกรรมฐานจนหยั่งรู้ รู้เอง เห็นเองว่า ยิ่งลักษณ์เป็นผู้มีบารมีสูงส่ง ในอดีตชาติคือ

• พระนางจามเทวี
• พระศรีสุริโยทัย
• เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน
• และท้ายสุดคือ พระนางเรือล่ม

โอ้ว.... สอดคล้องกันดีแท้กับความเห็นของคุณไร้สีไร้กลิ่นที่ว่านางเป็นผู้มีบารมี ใครก็มิอาจต่อกรได้

 

 

การรับผลบุญในอดีตชาติของน้องปู..ยิ่งรัก ชินวัตร

Started by tuenum , Feb 11 2012 10:15 PM

 

Posted 11 February 2012 - 10:15 PM

ต้องเรียนให้ทุกท่านทราบก่อนว่า  เรื่องที่ผมเขียนนี้เป็นปัจจัตตัง ปฎิบัติกรรมฐาน(สมาธิ)ให้ถึงขั้นเมื่อไร  ถ้าบุญบารมีถึงระดับ  จะรู้เอง เห็นเอง ในจิต  ฟ้าคงจะกำหนดไว้แล้วว่าให้ผม นาย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ (phonsak) เป็นผู้รู้และเป็นเปิดเผยความจริงอันลี้ลับเรื่องนี้

ผมเป็นผู้มีความสามารถในการติดต่อกับโลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่านถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง

ผมก็เป็นผู้ถอดจิตได้คนหนึ่ง   วันนึงเจ้าแม่กวนอิมมาบอกผมว่า...อ่านที่ผมจดบันทึกไว้แล้วกัน

  
พลศักดิ์ ถาม เจ้าแม่กวนอิม ตอบ... วันที่ 4 กค. 2011

เจ้าแม่กวนอิม    เธอจำได้ไหม  เมื่อปีที่แล้ว  เราบอกเธอว่า  ผู้หญิงจะครองเมือง  ก็ผู้หญิงที่ชนะเลือกตั้งคนนี้ยังไง  เป็นนายกหญิงคนแรก  และเป็นนายกหญิงที่อายุน้อยที่สุด   จะเป็นผู้นำประเทศพ้นจากหายนะ  เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง 

พลศักดิ์   ตอนนั้นผมนึกว่า  ท่านหมายถึงราชวงค์ ว่าจะมีผู้หญิงครองเมือง  เรื่องนายกหญิง  หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ทำนายไว้แล้วเรื่อง"นารีขี่ม้าขาว" 

เจ้าแม่กวนอิม    เราเป็นคนบอก หลวงพ่อฤาษี เรื่องนี้เอง

แล้วเจ้าแม่กวนอิมก็เล่าถึงประวัติในอดีตชาติของนายกสาวสวย ทรงเสน่ห์ ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู)ให้ฟังว่า  ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5

ต่อมาผมก็ไปเจอข้อเขียนของคุณWebsnow (เว็บมาสเตอร์พลังจิต) ที่มีความสามารถทางจิตเช่นเดียวกัน คุณเว็บสโนว์ระบุว่า แม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) คือ  ผู้หญิงไทยในอดีต ที่บรรลุธรรมเป็นเจ้าแม่กวนอิม  และเป็นอวตาร หรือเป็นองค์เดียวกับ เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน  

อวตารในที่นี้หมายความว่า เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน, ซึ่งเป็นอวตารของกวนอิมพันมือ, เป็นอาจารย์สอนธรรมในจิตให้กับแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) จนศิษย์กลายเป็นแบบเดียวกับอาจารย์ คือเป็นกวนอิม

หลังจากนั้น  ผมก็ได้ไปอ่านข้อเขียนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ระบุว่า   ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค)ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง อาทิ เป็น เป็นพระนางจามเทวี เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....อ้างอิง คำสอนพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

เรื่องชักน่าสนใจแล้ว  ผมก็เลยสอบถามความจริงเรื่องนี้ดู  โดยถามพระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร  เจ้าแม่กวนอิมท่านconfirmกับผมว่า ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) เป็นคนไทยที่เป็นกวนอิม  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  

เมื่อเรื่องมันกระจ่างชัดแบบนี้ว่า แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  คือเป็นอวตารต่อเนื่องจากกวนอิมเมี่ยวซ่าน ซึ่งเป็นอวตารสายตรงจากกวนอิมพันมือ  คราวนี้คงจำกันได้ว่า...

พระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร เคยบอกผมตอนยิ่งรัก(น้องปู)เพิ่งเป็นนายกใหม่ๆว่า  ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู).... ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5  ข้อมูลนี้ไปตรงกับที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเขียนว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค) ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง ... เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม) คือใครรู้ไหมครับ   สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม)เป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่  คือ  เป็นเมียร.5 นั่นเอง  

ผมคงขอค้างเรื่องนี้ไว้แค่นี้ก่อน  จะมาเขียนตอนจบอีกทีในคราวหน้า  จะมาอธิบายว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)คือ กวนอิมคนไทย  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือ ที่ต่อเนื่องมาจากกวนอิมเมี่ยวซ่านก็จริง  แต่น้องปู(ยิ่งรัก)ไม่ใช่กวนอิมนะจ๊ะ  
  

Edited by tuenum, 11 February 2012 - 10:17 PM.

 

 

 

มาเพิ่มครับ

Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:03.

[แอบดูที่รูเดิม]

บอกแล้วว่าอย่าไปกินหญ้านาอื่น เค้าฉีดยาฆ่าหญ้าอยู่ เจือกไปกิน

เป็นไงหล่ะ เมาหญ้าจนเพ้อ...

[wat]

  _...

 

_{อานนท์ ! ... เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคล ใครเล่าจะพึงรู้เหตุนั้นได้นอกจากตถาคต...}

_{อานนท์ ! เพราะเหตุนั้นแหละ... เธอทั้งหลายอย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล และอย่าได้ถือประมาณในบุคคล เพราะผู้ถือประมาณในบุคคลย่อมทำลายคุณวิเศษของตน...}

 

_{... "เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้"...}

 

 _{ถ้าคนที่บอกเยี่ยงนั้นแม่มไม่บ้า ก็สติแตกไปแล้วล่ะขอรับ... มันเป็นอนิจจังทั้งนั้น...}  

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เพิ่มเติมข้อมูลจากคุณ asawinee กรณีคุณไร้สีฯอ้างว่าทวดของยิ่งลักษณ์เคยเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น

http://www.dharma-ga...im-hist-301.htm

 

๔๐. หลวงปู่หลอด ปโมทิโต

ผมขออนุญาตเขียนถึง หลวงปู่หลอด ปโมทิโต สักตอนนะครับ ปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๔๙) ท่านมีอายุ ๙๑ ปี ครองวัดสิริกมลาวาส หรือวัดใหม่เสนานิคม เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ สมณศักดิ์ของท่านคือพระครูปราโมทย์ธรรมธาดา

ที่ต้องเขียนถึงหลวงปู่หลอด เพราะท่านเป็นสหธรรมิกเคยร่วมธุดงค์กับ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ในหลายที่ และเป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ต่อจากองค์หลวงปู่สิม

ประเด็นที่เขียนถึง ก็ต้องการชี้ให้เห็นแนวทางปฏิบัติของพระป่า ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากองค์พระอาจารย์ใหญ่ คือ หลวงปู่มั่นภูริทตฺโต สืบทอดมาถึง หลวงปู่สิม หลวงปู่หลอด และวัดป่าสายกรรมฐานส่วนใหญ่ในปัจจุบัน (ที่ยังไม่กลายพันธุ์)

ข้อความต่อไปนี้ ผมคัดลอกมาจากหนังสือชื่อ “ปโมทิตเถรบูชา” ซึ่งเป็นชีวประวัติ ธรรมปฏิปทา และโอวาทธรรม ของ หลวงปู่หลอด ปโมทิโต โดยตรง

ข้อความที่ผมคัดลอกมานี้ อยู่ภายใต้หัวข้อว่า “จำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี” ส่วนคำว่า “หลวงปู่” ก็หมายถึงหลวงปู่หลอดนะครับ ดังนี้ : -

...จากนั้นหลวงปู่ (หลวงปู่หลอด) ท่านก็ย้ายไปพำนักอยู่เพื่อศึกษาปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

ที่แห่งนี้หลวงปู่ได้เคยเล่าถึงอยู่ครั้งหนึ่งว่า

“วัดนี้ ปู่ย่าของนายกฯ (ท่านนายกทักษิณ ชินวัตร) เป็นโยมอุปัฏฐาก คือ เถ้าแก่ชินวัตร (นายเชียง) และ คุณแม่แสง

คุณแม่แสงนี้เป็นคนปฏิบัติธรรมนะ ทำได้ดีและสม่ำเสมอทีเดียวเลย

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ อาตมาจึงได้จำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมฯ (พรรษาที่ ๑๑ ของหลวงปู่หลอด) แทนพระอาจารย์สิม พุทฺธาจาโรเนื่องจากท่านอาจารย์ไปจำพรรษาที่ตึกของแม่เลี้ยงดอกจันทร์ กิรติปาล (คิวริเปอล์ Queสipel) สามีของแม่เลี้ยงเป็นชาวต่างชาติ

โดยการนิมนต์ของ เจ้าชื่น สิโรรส เพราะเจ้าของบ้านได้อพยพหลบภัยไปอยู่ที่อื่น ทั้งบ้านหลังนี้ให้ร้างไว้

บ้านหลังนี้ใหญ่มากนะ ตั้งอยู่ที่ถนนดอยสุเทพ (ปัจจุบันคือสำนักงานวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)่

ทุกวัน เวลาประมาณ ๕ โมงเย็น โยมจะออกมาได้พระสวดมนต์ ฟังเทศน์ และฝึกสมาธิที่วัด

พรรษานี้มีพระที่อยู่จำพรรษารวมกันคือ พระอาจารย์น้อย สุภโร, พระอาจารย์กุศล กุสลจิตโต, พระอาจารย์อาล และอาตมา (หลวงปู่หลอด) เท่านั้น

ภายในพรรษานี้เราตกลงกันว่า พวกเราจะร่วมกันทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นด้วยกัน ส่วนการทำความเพียรนั้น ก็แยกกันทำและจะไม่นอนทอดหลังจนตลอดภายในพรรษา...”

 

 

http://www.dharma-ga...-mun-pic-02.htm

 

"ธรรมสถาน" ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร ได้เที่ยวจาริกบำเพ็ญสมณธรรม

ภายหลังกลายเป็น "มงคลสถาน" ให้กุลบุตรกุลธิดาได้ดำเนินรอยตามปฏิปทาของท่าน

วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ท่านพระอาจารย์มั่นได้รับกิจนิมนต์จากศรัทธาญาติโยมอำเภอสันกำแพง ท่านได้มาพักอยู่วัดโรงธรรมสามัคคีประมาณ ๒๐ กว่าวัน ซึ่งท่านมาเพียงลำพังองค์เดียว

ต่อมาหลวงปู่กู่ ธมฺมทินฺโน และหลวงปู่กว่า สุมโน ได้เคยมาพำนักที่วัดโรงธรรมสามัคคีด้วย

 

[ทรงธรรม]

เพื่อนกัน ทั้งนั้น อะครับ

 

บางที ก็ การแสดงความเห็น ของเขา

 

ก็เป็น ความคิดส่วนตัว ซึ่ง เวบบอร์ด ของเรา ก็เปิดพื้นที่

 

ให้แสดงความเห็น ได้โดย อิสระ อยู่แล้ว

 

 

โดยส่วนตัว ผมมักจะ ฟัง ๆ เอาไว้ นะครับ

 

ความคิดของคน ของใคร ก็ของมัน ไม่อยากให้ เพื่อน ๆ

 

หลาย ๆ คน ไปดูถูก ความคิด ของใคร คนใดคนหนึ่ง น่ะครับ

 

 

ส่วนจะเชื่อหรือไม่ เราแต่ละคน ก็มี วิจารณญาณ กันเอง อยู่แล้ว

 

รักกันไว้ ดีกว่า ครับ

 

หนักนิด เบาหน่อย อภัยให้กัน

 

เราไม่มอง สิ่งที่เรา คิดต่างกัน เป็นเรื่อง ซีเรียส เรา ก็ไม่ ซีเรียส น่ะครับ

 

 

สำหรับผม ไม่ยอม อยู่แค่ คนเดียวนะ ทักษิณ

 

รายนั้น มัน ยอมความไม่ได้ เพราะ ไม่รู้จัก ว่าตัวเอง "ผิด" จริง ๆ สักที

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

^

^

ช่วยอ่านข้อความในกระทู้ผมด้วยเน้อ

"เพราะน่าจะเป็นประเด็นที่ช่วยกันถก ช่วยกันวิเคราะห์ได้ ทั้งทางโลก ทางธรรม ทางการเมือง"

 

 

อยากทราบเป็นความรู้ว่า 

1. "ผู้มีบารมี สามารถเกิดมาเป็นคนปัญญาทึบได้จริงๆหรือ

2. "ผู้มีบารมี ต้องไม่ถูกตั้งข้อสงสัย ไม่ถูกห้ามปรามในความผิด" เลยหรือ

3. "ต้นตระกูลสร้างวัด เป็นโยมอุปัฎฐากพระอรหันต์" สามารถส่งบุญบารมีถึงลูกหลานได้จริงหรือ

4. "ผู้มีบารมีในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติทำร้ายสถาบัน เนรคุณแผ่นดิน" แตะต้องไม่ได้หรือ  ผู้แตะต้องต้องมีอันเป็นไปหรือ

5. "เมื่อนำเสนอประเด็น ทุกคนต้องรับฟัง ห้ามตั้งคำถาม ห้ามสงสัย ห้ามเห็นต่าง" เพราะเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นหรือ

 

 

เหล่านี้คือวัตถุประสงค์ครับ

 

การถกกันไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันนะครับ  ใครมีหลักฐานอะไรก็ว่ามา

จะได้ทำข้อสงสัยให้กระจ่าง

 

ไม่อย่างนั้น การหลบอยู่เบื้องหลังคำว่า "มีบารมี ห้ามล้มล้าง จะเหลือแต่กางเกงใน" กับ "เพื่อนกันอย่าทะเลาะกันเลย"

เราก็ไม่สามารถเติบโตทางความคิดได้นะครับ  เป็นคนแคระในทางปัญญากันเลย

Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:26.

[Kaizer]

เปิดผิดเวปป่าววะเนี่ย


...

 

 

ต่อให้มีบุญญาบารมีมากมายมหาศาล เอาแต่ใช้มันก็มีวันหมดบ้าง

 

ถามว่ามีนายกคนไหนโดนด่าว่า ไอ้โง่ E-Ngo บ้าง ขนาดบรรหาร จิ๋วยังไม่เคยเลยนะ (มีแต่จิ๋วอัลไซเมอร์)

 

มีบุญที่สุด คือเกาะซากสังขารของพี่มันได้เป็นนายก จากนั้นก็เสื่อมบารมีเป็น E-Ngo

 

ว่าด้วยเรื่องการดูถูก ผมไม่เคยเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผีป่าศาลเจ้า เคยมาหมดแล้ว ก็ยังเห็นอยู่เป็นปกติ เห็นอย่างเดียว ... ตีนคน

 

จะมีอันเป็นไป ไม่ใช่เพราะบารมียิ่งลักษณ์หรอก จะโดนประชาธิปไตยดักอุ้มน่ะสิ 

 

ขนาดคนมีของ(ตำแหน่ง ชื่อเสียง)ยังโดน แล้วคนไม่มีของแบบเราๆท่านๆ ระวังโดนตะกวดงาบไปแดรก

[พระฤๅษี]

>>>> ๕๕๕๕๕๕  ผึ้งน้อย ๆๆๆ ฯฯฯฯ

....ยอม ๆ ๆ ๆ ๆ  ๕๕๕๕๕๕.............

....อ่านแล้ว...ปลง...สาธุ..เจริญพร..!!!

[ดอน]

เอาแล้วเว้ยเอ้ย...  ต้องนั่งทางในโพสต์  กันมั่งละวะ

[ter162525]

^

^

ช่วยอ่านข้อความในกระทู้ผมด้วยเน้อ

"เพราะน่าจะเป็นประเด็นที่ช่วยกันถก ช่วยกันวิเคราะห์ได้ ทั้งทางโลก ทางธรรม ทางการเมือง"

 

 

อยากทราบเป็นความรู้ว่า 

1. "ผู้มีบารมี สามารถเกิดมาเป็นคนปัญญาทึบได้จริงๆหรือ  อดีต มีสูงมีต่ำ บารมีสูงก็หาใช้ว่าไม่เคยทำกรรมใดๆ มาหรือไม่ต้องรับกรรมชั่วใด เพราะการสั่งสมมานั้นต่างกันไป บารมีจะเป็นถึงพระอรหัตน์แต่กลับหลงผิดฆ่าคนเป็นผักปลาก็มีให้เห็นแล้ว หรือแม้แต่พระจลุปันถกที่ก่อนเป็นพระอรหันต์ ท่องแม้แต่มนต์บทเดียวไม่ได้

 

2. "ผู้มีบารมี ต้องไม่ถูกตั้งข้อสงสัย ไม่ถูกห้ามปรามในความผิด" เลยหรือ ไม่ใช่แน่นอนครับ บารมีมากแค่ไหน ถ้าทำกรรมเลวก็คือเลวครับ ก็ต้องได้รับกรรมเลวครับ

 

3. "ต้นตระกูลสร้างวัด เป็นโยมอุปัฎฐากพระอรหันต์" สามารถส่งบุญบารมีถึงลูกหลานได้จริงหรือ  เราทุกคนนั้นมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เราเกิดมาแต่เนื่องจากกรรม การเกี่ยวเนื่องของกรรมนั้นมีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แจ้ง แต่ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่าคนเราเกิดมาทุกคนที่เกี่ยวเนื่องพบเจอมีความเกี่ยวเนื่่องกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทมิตรสหาย หรือแม้แต่ศัตรู ปูย่าตายาย ทำไว้ กรรมก็จะชักนำ มาให้เกี่ยวเนื่องกันได้ เคยไหมที่ได้ยินคำว่าลูกรับกรรม พ่อแม่ทุกข์ใจทั้งทั้งที่พ่อแม่เป็นคนก่อแต่ลูกก็ต้องมีผลส่วนนั้นติดมาด้วยมันเลยมาผูกกัน  กรรมมันพันมั่วยิ่งกว่าใยแมงมุมอีก แต่แค่ชักมานะครับ ใครทำไรต่อจากนี้ก็เรื่องคนๆนั้น เช่น ชาติก่อนเคยมีวาสนาเกี่ยวเนื่องกันมาเคยช่วยเหลืออุปการะกันมา ประกอบกับเคยทำกรรมดีบริจาคทานไว้มากมาย ชาตินี้ก็เกิดมาเป็นญาติพี้น้องช่วยเหลือเกื้อกลูกัน บวกกับที่เคยบริจาคมามายอาจชักนำมาให้เกิดในตระกลูร่ำรวยโดยที่อีกฝ่ายทำไว้ให้ก็ได้

 

4. "ผู้มีบารมีในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติทำร้ายสถาบัน เนรคุณแผ่นดิน" แตะต้องไม่ได้หรือ  ผู้แตะต้องต้องมีอันเป็นไปหรือ เลวก็คือเลว ดีก็คือดี แยกกันว่าแตะต้องได้หรือไม่ แต่ การกระทำใดๆ ที่เกียวเนื่องมันจะเป็นเวรกันต่อไปมากกว่าครับ ไม่ใช่ว่าแตะต้องไม่ได้ หรือแตะต้องแล้ว ต้องมีอันเป็นไป ถ้าเรายึดหลักของความดี ไม่ใช่การจองเวร คนที่ไม่สมควรแตะต้องเลยนั้น คือพระอริยะตั้งแต่ โสดาบันขึ้นไป ครับ เพราะท่านพวกนี้มีแต่ขึ้นอย่างเดียว แต่พระอริยะ เขาไม่ทำแบบนี้แน่ๆ ดังนั้นจะทำบารมีมามากแค่ไหน ถ้าทำเลวก็คือเลวครับ  เราต้องไม่ แตะต้อง ด้วยอคติหรือจองเวรล้างผลาญ จะมีเพียงแค่เวรต่อกันเท่านั้นที่จะก่อเกิดขึ้นครับ

 

5. "เมื่อนำเสนอประเด็น ทุกคนต้องรับฟัง ห้ามตั้งคำถาม ห้ามสงสัย ห้ามเห็นต่าง" เพราะเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นหรือ

 

 

เหล่านี้คือวัตถุประสงค์ครับ

 

การถกกันไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันนะครับ  ใครมีหลักฐานอะไรก็ว่ามา

จะได้ทำข้อสงสัยให้กระจ่าง

 

ไม่อย่างนั้น การหลบอยู่เบื้องหลังคำว่า "มีบารมี ห้ามล้มล้าง จะเหลือแต่กางเกงใน" กับ "เพื่อนกันอย่าทะเลาะกันเลย"

เราก็ไม่สามารถเติบโตทางความคิดได้นะครับ  เป็นคนแคระในทางปัญญากันเลย

Edited by ter162525, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:45.

[galaxy2]

ดูคนให้ดูปัจจุบันครับ....มนุษย์ทุกคนเกิดมาที่มีบุญมากก็มี มากมาย บารมีมากก็มีมากมาย ไม่ใช่แต่ ชินหมาวัด  ที่เกิดมาเสพบุญ เสพตำแหน่งเท่านั้นหรอก..แต่ถ้าเกิดมาเสพบุญตำแหน่ง แล้วไม่ทำดีต่อ มันก็ ถูกด่าว่า เหี้.ยย  อัปปรีย์ต่อประเทศ   ได้ทั้งนั้น มีนรกเป็นที่พึ่งต่อไป  ......มันเป็นเรื่องของวัฏฏะ ดีๆชั่วๆ  แต่ตอนนี้ ผมเชื่อว่ามันชั่วกันเกือบทั้งโครต

[จีรนุช]

เบื่อคำว่า ได้ยินมาว่า มีคนบอกว่า  เรื่องเล่าในเเวดวง   เพราะฉะนั้นใครอยากจะสนใจคุยกันในเรื่องเหล่านี้ก็ตามสบาย

[นิติรั่ว]

 

เพิ่มเติมข้อมูลจากคุณ asawinee ประกอบการถกครับ

 

 

ขออภัย จขกท. ที่ต้องพาออกทะเล เรื่องยิ่งลักษณ์

 

แม้แต่ยิ่งลักษณ์เองก็เป็นคนที่มีบารมีมาก มีผู้เตือนว่าคนที่คิดจะโค่นล้มยิ่งลักษณ์ ระวังจะเหลือแต่เกงใน

 

 

อ่านข้อความนี้แล้ว ทำให้นึกถึงกระทู้นี้

http://webboard.seri...-ยิ่งรักมหาเทพ/

มีลิงค์ประกอบhttp://community.tha...iuaoeana-ocnua/

 

ซึ่ง มีผู้กล่าวอ้างว่าปฏิบัติกรรมฐานจนหยั่งรู้ รู้เอง เห็นเองว่า ยิ่งลักษณ์เป็นผู้มีบารมีสูงส่ง ในอดีตชาติคือ

• พระนางจามเทวี
• พระศรีสุริโยทัย
• เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน
• และท้ายสุดคือ พระนางเรือล่ม

โอ้ว.... สอดคล้องกันดีแท้กับความเห็นของคุณไร้สีไร้กลิ่นที่ว่านางเป็นผู้มีบารมี ใครก็มิอาจต่อกรได้

 

 

การรับผลบุญในอดีตชาติของน้องปู..ยิ่งรัก ชินวัตร

Started by tuenum , Feb 11 2012 10:15 PM

 

Posted 11 February 2012 - 10:15 PM

ต้องเรียนให้ทุกท่านทราบก่อนว่า  เรื่องที่ผมเขียนนี้เป็นปัจจัตตัง ปฎิบัติกรรมฐาน(สมาธิ)ให้ถึงขั้นเมื่อไร  ถ้าบุญบารมีถึงระดับ  จะรู้เอง เห็นเอง ในจิต  ฟ้าคงจะกำหนดไว้แล้วว่าให้ผม นาย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ (phonsak) เป็นผู้รู้และเป็นเปิดเผยความจริงอันลี้ลับเรื่องนี้

ผมเป็นผู้มีความสามารถในการติดต่อกับโลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่านถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง

ผมก็เป็นผู้ถอดจิตได้คนหนึ่ง   วันนึงเจ้าแม่กวนอิมมาบอกผมว่า...อ่านที่ผมจดบันทึกไว้แล้วกัน

  
พลศักดิ์ ถาม เจ้าแม่กวนอิม ตอบ... วันที่ 4 กค. 2011

เจ้าแม่กวนอิม    เธอจำได้ไหม  เมื่อปีที่แล้ว  เราบอกเธอว่า  ผู้หญิงจะครองเมือง  ก็ผู้หญิงที่ชนะเลือกตั้งคนนี้ยังไง  เป็นนายกหญิงคนแรก  และเป็นนายกหญิงที่อายุน้อยที่สุด   จะเป็นผู้นำประเทศพ้นจากหายนะ  เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง 

พลศักดิ์   ตอนนั้นผมนึกว่า  ท่านหมายถึงราชวงค์ ว่าจะมีผู้หญิงครองเมือง  เรื่องนายกหญิง  หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ทำนายไว้แล้วเรื่อง"นารีขี่ม้าขาว" 

เจ้าแม่กวนอิม    เราเป็นคนบอก หลวงพ่อฤาษี เรื่องนี้เอง

แล้วเจ้าแม่กวนอิมก็เล่าถึงประวัติในอดีตชาติของนายกสาวสวย ทรงเสน่ห์ ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู)ให้ฟังว่า  ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5

ต่อมาผมก็ไปเจอข้อเขียนของคุณWebsnow (เว็บมาสเตอร์พลังจิต) ที่มีความสามารถทางจิตเช่นเดียวกัน คุณเว็บสโนว์ระบุว่า แม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) คือ  ผู้หญิงไทยในอดีต ที่บรรลุธรรมเป็นเจ้าแม่กวนอิม  และเป็นอวตาร หรือเป็นองค์เดียวกับ เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน  

อวตารในที่นี้หมายความว่า เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน, ซึ่งเป็นอวตารของกวนอิมพันมือ, เป็นอาจารย์สอนธรรมในจิตให้กับแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) จนศิษย์กลายเป็นแบบเดียวกับอาจารย์ คือเป็นกวนอิม

หลังจากนั้น  ผมก็ได้ไปอ่านข้อเขียนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ระบุว่า   ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค)ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง อาทิ เป็น เป็นพระนางจามเทวี เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....อ้างอิง คำสอนพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

เรื่องชักน่าสนใจแล้ว  ผมก็เลยสอบถามความจริงเรื่องนี้ดู  โดยถามพระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร  เจ้าแม่กวนอิมท่านconfirmกับผมว่า ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) เป็นคนไทยที่เป็นกวนอิม  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  

เมื่อเรื่องมันกระจ่างชัดแบบนี้ว่า แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  คือเป็นอวตารต่อเนื่องจากกวนอิมเมี่ยวซ่าน ซึ่งเป็นอวตารสายตรงจากกวนอิมพันมือ  คราวนี้คงจำกันได้ว่า...

พระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร เคยบอกผมตอนยิ่งรัก(น้องปู)เพิ่งเป็นนายกใหม่ๆว่า  ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู).... ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5  ข้อมูลนี้ไปตรงกับที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเขียนว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค) ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง ... เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม) คือใครรู้ไหมครับ   สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม)เป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่  คือ  เป็นเมียร.5 นั่นเอง  

ผมคงขอค้างเรื่องนี้ไว้แค่นี้ก่อน  จะมาเขียนตอนจบอีกทีในคราวหน้า  จะมาอธิบายว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)คือ กวนอิมคนไทย  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือ ที่ต่อเนื่องมาจากกวนอิมเมี่ยวซ่านก็จริง  แต่น้องปู(ยิ่งรัก)ไม่ใช่กวนอิมนะจ๊ะ  
  

Edited by tuenum, 11 February 2012 - 10:17 PM.

 

 

 

มาเพิ่มครับ

 

เดี๋ยวสักพักก็เป็น เทวีอาเธน่า ไม่ก็เจ้าแม่อุมาเทวี อวตารมา ฟุ้งซ่านกันจริงๆๆพวกแดงเนี่ย

[RaRa]

 

เพิ่มเติมข้อมูลจากคุณ asawinee ประกอบการถกครับ

 

 

ขออภัย จขกท. ที่ต้องพาออกทะเล เรื่องยิ่งลักษณ์

 

แม้แต่ยิ่งลักษณ์เองก็เป็นคนที่มีบารมีมาก มีผู้เตือนว่าคนที่คิดจะโค่นล้มยิ่งลักษณ์ ระวังจะเหลือแต่เกงใน

 

 

อ่านข้อความนี้แล้ว ทำให้นึกถึงกระทู้นี้

http://webboard.seri...-ยิ่งรักมหาเทพ/

มีลิงค์ประกอบhttp://community.tha...iuaoeana-ocnua/

 

ซึ่ง มีผู้กล่าวอ้างว่าปฏิบัติกรรมฐานจนหยั่งรู้ รู้เอง เห็นเองว่า ยิ่งลักษณ์เป็นผู้มีบารมีสูงส่ง ในอดีตชาติคือ

• พระนางจามเทวี
• พระศรีสุริโยทัย
• เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน
• และท้ายสุดคือ พระนางเรือล่ม

โอ้ว.... สอดคล้องกันดีแท้กับความเห็นของคุณไร้สีไร้กลิ่นที่ว่านางเป็นผู้มีบารมี ใครก็มิอาจต่อกรได้

 

 

การรับผลบุญในอดีตชาติของน้องปู..ยิ่งรัก ชินวัตร

Started by tuenum , Feb 11 2012 10:15 PM

 

Posted 11 February 2012 - 10:15 PM

ต้องเรียนให้ทุกท่านทราบก่อนว่า  เรื่องที่ผมเขียนนี้เป็นปัจจัตตัง ปฎิบัติกรรมฐาน(สมาธิ)ให้ถึงขั้นเมื่อไร  ถ้าบุญบารมีถึงระดับ  จะรู้เอง เห็นเอง ในจิต  ฟ้าคงจะกำหนดไว้แล้วว่าให้ผม นาย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ (phonsak) เป็นผู้รู้และเป็นเปิดเผยความจริงอันลี้ลับเรื่องนี้

ผมเป็นผู้มีความสามารถในการติดต่อกับโลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่านถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง

ผมก็เป็นผู้ถอดจิตได้คนหนึ่ง   วันนึงเจ้าแม่กวนอิมมาบอกผมว่า...อ่านที่ผมจดบันทึกไว้แล้วกัน

  
พลศักดิ์ ถาม เจ้าแม่กวนอิม ตอบ... วันที่ 4 กค. 2011

เจ้าแม่กวนอิม    เธอจำได้ไหม  เมื่อปีที่แล้ว  เราบอกเธอว่า  ผู้หญิงจะครองเมือง  ก็ผู้หญิงที่ชนะเลือกตั้งคนนี้ยังไง  เป็นนายกหญิงคนแรก  และเป็นนายกหญิงที่อายุน้อยที่สุด   จะเป็นผู้นำประเทศพ้นจากหายนะ  เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง 

พลศักดิ์   ตอนนั้นผมนึกว่า  ท่านหมายถึงราชวงค์ ว่าจะมีผู้หญิงครองเมือง  เรื่องนายกหญิง  หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ทำนายไว้แล้วเรื่อง"นารีขี่ม้าขาว" 

เจ้าแม่กวนอิม    เราเป็นคนบอก หลวงพ่อฤาษี เรื่องนี้เอง

แล้วเจ้าแม่กวนอิมก็เล่าถึงประวัติในอดีตชาติของนายกสาวสวย ทรงเสน่ห์ ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู)ให้ฟังว่า  ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5

ต่อมาผมก็ไปเจอข้อเขียนของคุณWebsnow (เว็บมาสเตอร์พลังจิต) ที่มีความสามารถทางจิตเช่นเดียวกัน คุณเว็บสโนว์ระบุว่า แม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) คือ  ผู้หญิงไทยในอดีต ที่บรรลุธรรมเป็นเจ้าแม่กวนอิม  และเป็นอวตาร หรือเป็นองค์เดียวกับ เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน  

อวตารในที่นี้หมายความว่า เจ้าแม่กวนอิมเมี่ยวซ่าน, ซึ่งเป็นอวตารของกวนอิมพันมือ, เป็นอาจารย์สอนธรรมในจิตให้กับแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) จนศิษย์กลายเป็นแบบเดียวกับอาจารย์ คือเป็นกวนอิม

หลังจากนั้น  ผมก็ได้ไปอ่านข้อเขียนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ระบุว่า   ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค)ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง อาทิ เป็น เป็นพระนางจามเทวี เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....อ้างอิง คำสอนพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

เรื่องชักน่าสนใจแล้ว  ผมก็เลยสอบถามความจริงเรื่องนี้ดู  โดยถามพระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร  เจ้าแม่กวนอิมท่านconfirmกับผมว่า ท่านแม่ศรี (พรรณวดีศรีโสภาค) เป็นคนไทยที่เป็นกวนอิม  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  

เมื่อเรื่องมันกระจ่างชัดแบบนี้ว่า แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)เป็นอวตารของกวนอิมพันมือจริง  คือเป็นอวตารต่อเนื่องจากกวนอิมเมี่ยวซ่าน ซึ่งเป็นอวตารสายตรงจากกวนอิมพันมือ  คราวนี้คงจำกันได้ว่า...

พระโพธิสัตว์กวนอิมประทานพร เคยบอกผมตอนยิ่งรัก(น้องปู)เพิ่งเป็นนายกใหม่ๆว่า  ยิ่งรัก ชินวัตร(น้องปู).... ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนี้ ในอดีตชาติเคยเป็น "พระศรีสุริโยทัย"  ชาติสุดท้ายเป็นเมียร.5  ข้อมูลนี้ไปตรงกับที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเขียนว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค) ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์หลายครั้ง ... เป็นพระศรีสุริโยทัย และพระชาติสุดท้าย คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม).....

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม) คือใครรู้ไหมครับ   สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ (พระนางเรือล่ม)เป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่  คือ  เป็นเมียร.5 นั่นเอง  

ผมคงขอค้างเรื่องนี้ไว้แค่นี้ก่อน  จะมาเขียนตอนจบอีกทีในคราวหน้า  จะมาอธิบายว่า  แม่ศรี(พรรณวดีโสภาค)คือ กวนอิมคนไทย  เป็นอวตารของกวนอิมพันมือ ที่ต่อเนื่องมาจากกวนอิมเมี่ยวซ่านก็จริง  แต่น้องปู(ยิ่งรัก)ไม่ใช่กวนอิมนะจ๊ะ  
  

Edited by tuenum, 11 February 2012 - 10:17 PM.

 

 

 

มาเพิ่มครับ

 

 

ผมรู้สึกสะท้อนใจทุกครั้ง ที่มีคนบางพวก อวดอ้างตัวเองแบบนี้...ว่า

 

สามารถติดต่อกับ โลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  

 

พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่าน

 

ถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง........ผมว่ามันคือ "ปาหี่ จำอวด หลอกเงิน" เท่านั้นเอง

 

ต่อให้เป็นผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่ถ้าทำเยี่ยงนี้ มันเป็นการ "อวดอุตริวิชา" ก็คงจะต้องถึงกาลเสื่อมถอยเป็นแน่แท้ !!!

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...นั่นไง แม่นจริงๆ ด้วย รู้ได้ไงว่าเราไม่สบายใจ - คนที่ไปหาหมดู จะอุทาน แบบนี้แทบทุกราย

 

( แต่ว่ามันคือ จิตวิทยา ขั้นพื้นฐานทั่วๆ ไป นั่นเอง คนสบายใจดีที่ไหนต้องไปหาที่พึ่งทางใจ แบบหมอดูกันหล่ะครับ !!! )

 

 

ส่วนเรื่อง "ทรงเจ้าเข้าผี" นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมไม่เคยเชื่อถือ หรือ นับถือเรื่องแบบนี้เลย เพราะดูแล้ว เหมือนคนทรงไปลบหลู่ดวงวิญญาณซะมากกว่า

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง นิดนึงครับ...ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนผมอยู่คนนึง จะชอบเรื่องประมาณว่า "ทรงเจ้าเข้าผี" อะไรทำนองนี้มาก จนเข้าเส้นเลย...ก็มาชวนผมไป

 

ผมพยายามปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มาครั้งนี้ เพื่อนคนนี้รบเร้าและแสดงความน่าสงสาร ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ด้วยความที่สงสารเพื่อน

 

ก็เลยยอมเดินทางไปด้วยกัน แถวๆ ย่าน ถนนบรมราชชนนี เป็นตำหนักทรงเจ้า เขียนไว้ด้านหน้าว่า "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" ( ขอใช้เป็นนามแฝง นะครับ )

 

มาถึง ไอ้เพื่อนผมก็เดินนำหน้าเข้าไป พร้อมกับฉุดดึงผมเข้าไปด้วยกัน ในตำหนักนั้นก็เหมือนที่อื่นๆ ทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะครับ มีข้าวของเฟอร์นิเจอร์และ

 

เครื่องประดับตำหนักต่างๆ นาๆ ให้ดู "ขลัง" และ "วังเวง" กลิ่นควันธูปและกำยาน ลอยกระจายไปทั่วบริเวณโถงตำหนักด้านในที่มี ผู้คนนั่งคอยอยู่

 

จากนั้นก็จะมี เจ้าหน้าที่ของตำหนักมาสอบถาม เพื่อแจก "บัตรคิว" ...ผมนึกในใจ เออ มีการบริหารจัดการที่ดีแฮะ ( แต่ทำไมไม่ตั้งตู้กดบัตรคิว ซะเลย !!! )

 

ผมต้องชวนเพื่อนผมออกมารอด้านนอก เพราะแสบตา และ แสบจมูก กับ กลิ่นภายในห้องโถงนั้นเป็นอย่างมาก ( ไม่รู้ว่าพวกที่นั่งคอย ทนอยู่กันได้อย่างไร ?? )

 

ยังดีที่หน้าตำหนัก มีสนามหญ้าและมีร้านขาย "กาแฟสด" ( ครบวงจรจริงๆ ) ผมเลยชวนเพื่อน ไปนั่งดื่มกาแฟฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงคิว...ตามหมายเลขบนบัตรคิว

 

ใช้เวลรออยู่พอสมควร ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ประกาศเรียก จึงได้เข้าไปหา "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" ( ผมไม่แน่ใจ เพราะระบุเพศที่แน่นอนไม่ได้ ...!!! )

 

ด้วยความที่นั่งรอมานาน Where where is a Where where ( ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ) ....ผมก็เลยเข้าไปกับ ไอ้เพื่อนตัวแสบ ซะหน่อยก็แล้วกัน จะได้ช่วยมันฟังไปด้วย

 

ก็เจอคำถามยอดฮิต เป็นคำถามแรก...จากนั้น "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่น..ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนผม ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ต้องการถามเพื่อแก้ไข ( เพื่อความสบายใจ )

 

ใช้เวลาในการสนทนา ไม่เกิน 10 นาที ...!!! ( ครับ ไม่เกิน 10 นาที แต่ ให้รอตั้ง 2 -3 ชั่วโมง ) จากที่ได้ฟัง "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" แนะนำวิธีแก้ไข เพื่อนผมก็มีสีหน้า

 

และ ท่าทางคลายความกังวลมาได้ระดับหนึ่ง และแล้ว "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ" ..จากนั้น ผมและเพื่อน ก็กลับออกมาจาก "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" กัน

 

ระหว่างทางที่เดินทางกลับ เพื่อนผม ก็จะคอยถามทบทวนกับผมว่า ต้องซื้ออะไรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหามั่ง ก็นั่งทบทวนกันมาในรถแต่เหมือนจะ "ไม่ครบถ้วน ทุกอย่างตามที่ได้รับมา"

 

เอาหล่ะสิ...เพื่อนผม ก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไรมั้ง เอาเท่าที่จำได้ ก็คงพอได้มั้ง....แต่ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังไงมันก็ไม่ยอม จะต้องเอาให้ครบให้ได้ !!!

 

ขับรถกันมาถึงย่านบางนา-สำโรง บังเอิญเหลือเกิน ได้เจอ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" อีกสาขาหนึ่ง ผมเลยชวนเพื่อน เข้าไปสอบถามกันเลยว่าอะไรที่พวกเราจำไม่ได้ จะได้ครบ....!!!

 

โชคดี ของพวกผม ที่ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" สาขานี้ คนไม่เยอะเหมือนที่ สาขา ถนนบรมราชชนนี รอไม่เกิน 15 นาที ก็ได้เข้าไปหา และพูดคุยเพื่อสอบถาม กับ "เจ้าแม่โซฟี".....!!!

 

แต่คนที่ เป็นร่างทรง ของที่นี่เป็น ผู้หญิงร่างเล็กวัยกลางคน...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะเพิ่งจะเจอกันมาเมื่อตะกี้เอง ( ประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ) ...ผมเลยเปิดฉากเลยว่า

 

"สวัสดีครับเจ้าแม่ จำผมได้ไหมครับ เมื่อกี๊ที่คุยกันที่ ตำหนักบรมราชชนนี พวกผมลืมไปว่า "ของที่ต้องนำไปใช้แก้ไข" มีอะไรบ้าง ???"............เจ้าแม่โซฟี ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่ก ....

 

และ แสดงอาการอึกอัก เหมือนมีอะไรติดในลำคอ ตอบอะไรไม่ออก พร้อมทำหน้างงๆ ปนสงสัย และเริ่มมองหา เจ้าหน้าที่ ไปรอบๆ ตัว...ผม ก็เลยย้ำถามไปอีกครั้ง

 

"อ้าว...เมื่อกี๊ เจ้าแม่ยังบอกให้เพื่อนผมไปหาซื้อของ มาใช้แก้เคล็ด อยู่เลย ทำไมตอนนี้ ถึงไม่บอกหล่ะครับว่า ต้องใช้อะไรมั่ง...???"  จากนั้น....เจ้าแม่โซฟี ก็ลุก เดินหนี ไปในทันที

 

ผมกับเพื่อน ก็เดินตามออกมาด้านนอก ทั้งเจ้าแม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ วิ่งเตลิด กันไปหมด ผู้คนที่มานั่งรออีก 3-4 กลุ่มก็ตกใจไปด้วย สงสัยคงคิดว่าผมเป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" กระมังครับ !!!

 

ผมเห็นเพื่อนผม ทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็ หัวเราะออกมาในที่สุด ผมก็สสบายใจขึ้นมาในทันที.....จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเพื่อน ที่ถนนเทพารักษ์ ตลอดทางเราทั้งคู่ นั่งคุยไปหัวเราะกันไป

 

ก่อนลงจากรถ เพื่อนผมหันมาบอกกับผมว่า ".......ทำไมเจ้าแม่ จำพวกเราไม่ได้ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ" เพื่อนผม พูดออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ และ เดินเข้าโรงงานไปแบบสบายใจสุดๆ

 

......แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไป โดยไม่ต้องพึ่ง ของแก้เคล็ดแก้ยอกใดๆ เพื่อนผมก็ดำเนินธุรกิจ ของมันไปแบบ ระมัดระวัง ตามเดิม

 

ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ เป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติก ย่านถนนเทพารักษ์ ชอบทำบุญทำทาน กับสิ่งที่มองเห็น และ ไม่เคยเชื่อเรื่อง "ทรงเจ้า-เข้าผี" อะไรนั่นอีกเลย .................จบแล้วครับ

 

 

ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ

[isa]

เรื่องบุญบารมีในอดีตชาติ ปุถุชนอย่างเราๆคงไม่มีความสามารถพอที่จะไปติดตามดูได้

 

แต่ผมเชื่อดังนี้ครับ
 

1. คำว่า "มาสว่าง-ไปสว่าง"  "มามืด-ไปมืด" และสุดท้าย "มาสว่าง-ไปมืด" เป็นความจริง และความมืดที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ
"ปัญญามืดจนมองไม่เห็นว่าหนทางที่ตัวเองมุ่งหน้าไปนั้น...มืดยิ่งกว่า!"

 

2. มีพุทธพจน์ตอบคำถามที่ว่า "ทำไมบางคนทำบาปเล็กน้อยก็ไปนรก แต่บางคนทำบาปใหญ่
แต่ก็ยังไม่เป็นอะไร...?"

ท่านเฉลยไว้ประมาณว่า "คนบางคนนั้นทำบุญไว้น้อย เมื่อทำบาปเล็กน้อยก็พาไปนรกได้
เหมือนภาชนะใบน้อยลอยน้ำ เพียงใส่หินก้อนเล็กๆลงไปก็จม ขณะที่บางคนทำบุญเก่ามามาก
เหมือนเรือลำใหญ่ลอยน้ำ แม้ใส่หินใหญ่ลงไปมากก็ยังไม่จม"
 

...แต่ตรงนี้ก็มีข้อที่พึงตระหนักไว้ก็คือ
 

-          ถึงแม้เรือลำใหญ่แค่ไหน แต่หากใส่ก้อนหินมากพอเรือลำนั้นก็จมได้
 

-          ปุถุชนอย่างเราๆคงไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าแคมเรือลำนั้นมันยังสูงกว่าน้ำ
หรือมันแปล้น้ำเต็มทีแล้ว เพียงเศษกรวดก้อนเดียวก็ถ่วงให้มันจมได้ทันที
 

-          กรรมที่กระทำกับแผ่นดินอย่างการฉ้อราษฎร์บังหลวง การเบียดเบียนกษัตริย์ผู้มีพระคุณ
การเบียดเบียน ใส่ใคล้คนดีที่ซื่อสัตย์สุจริต การร่วมมือกับผู้ที่บ่อนทำลายศาสนา ล้วนเป็นกรรมอันหนัก เป็นก้อนหินก้อนมหึมาทั้งสิ้น

 

...จากการสนทนากับผู้ศึกษาธรรมหลายๆท่าน ตรงกันข้ามกับความเชื่อของคนทั่วไป "กรรมทันตา..." นั้น
ปกติจะไม่ค่อยส่งผลกับคนชั่วชนิดร้ายกาจแบบทันที แต่มักจะส่งผลกับคนเลวชนิดที่บุญน้อยๆเสียมากกว่า
และที่สำคัญก็คือจะส่งผลกับคนดี โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรมที่แค่ทำผิดนิดเดียวเป็นโดนแค่ชั่วไม่ทันข้ามวัน
อาจดูเหมือนเป็นการอยุติธรรม แต่จริงๆแล้วเป็นการป้องกันคนดีๆไปอบายโดยการ "ตัดไฟแต่ต้นลม"
ดังนั้นนักปฏิบัติจริงๆจึงยากที่จะทำผิดบาปหนักถึงขั้นลงอบายได้ สมกับคำที่ "ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม"
เพียงแต่ป้องกันในรูปแบบต่างกับที่คนทั่วๆไปเชื่อเท่านั้นเอง

 

ต่างกับคนชั่วชนิดร้ายกาจที่เหมือนระบบเขาจะหลอกให้ตายใจ ให้ยิ่งทำชั่วร้ายกาจขึ้นไปเรื่อยๆ
จนหันมาทำดีอีกไม่ได้เลย แค่จะประกอบการงานตามปกติสามัญชนก็ขาดทุนเจ๊งบ๊ง มีทางเดียวก็คือโกง
โกหก ยิ่งโกงหนักก็ยิ่งก้าวหน้าในการโกง เชี่ยวชาญในการทำชั่ว ก็ยิ่งถลำลึกลงไปทุกทีจนถอนตัวไม่ขึ้น
แม้กัลยาณมิตรหลายๆคนจะช่วยกันเตือน แต่ก็ยากจะเปลี่ยนใจให้เห็นแสงสว่างได้อีก...
และเมื่อลงต่ำไปแล้ว ก็คงลงต่ำชนิดสุดๆ คงยากที่จะโผล่มาในพุทธกาลข้างหน้า นั่นแล...

Edited by isa, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:09.

[kabokaboh]

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ

 

สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

[Satan for Vendetta]

คนที่คิดว่า นางยิ่งลักษณ์ เป็นผู้มี..... (ละอายที่จะพิมพ์) เป็นคนที่มีความคิดอุบาทว์มากค่ะ

คนที่มีบุญบารมีนั้น จะต้อง

1. รู้ว่าใครคือบิดามารดาผู้ให้กำเนิด
2. ไม่สมสู่ก่อนถึงวัยอันเหมาะสม
3. ซื่อสัตย์และให้เกียรติคู่ของตนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
4. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทั้งหน้าที่ของครอบครัวและหน้าที่การงาน
5. มีความซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม ทั้งในที่รโหฐาน และต่อหน้าสาธารณะ

อีนี่ fail ทุกข้อ

[คำปู้จู้]

ตายไปก็ดับสูญ ไม่มีเกิดใหม่หรอก (ความคิดส่วนตัว)

แต่หลักคำสอนต่างๆ  มีไว้ให้เราคิดว่า ในชาตินี้ที่เกิดมา ควรทำดี

เป็นการปลูกฝังสิ่งดีในหัว ให้คิดดี ทำดี พูดดี ตัวเรามีความสุข


ถ้าทุกคนทำได้ ตามคำสอนของศาสนานั้น ๆ  เราก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใคร

เพราะทุกคนทำดีให้ตัวเองมีความสุข คนอื่นก็ไม่เดือดร้อน สังคมเล็กๆสงบ สังคมใหญ่ ทั้งหมดก็สงบ


หากแต่เป็นพวกที่ใช้ความเชื่อ การปลูกฝังเหล่านี้

มาแอบอ้าง สร้างเรื่องต่อเติม เพื่อให้คนที่มีศรัทธา ที่เชื่อเรื่องเหล่านี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

หลงเชื่อ สิ่งที่ตัวเองแอบอ้าง แล้วนำมาต่อเติม

แล้วหาผลประโยชน์จากศรัทธาของคนเหล่านี้ 


หากมีบารมี ใยต้องหนีสภา และนักข่าว


 

[คนทุกที่]

อย่างยิ่งลักษณ์นี่น่าจะเคยเป็นพระนางตอ-แห_ซะล่ะมากกว่า

[Bookmarks]

เอาแล้วเว้ยเอ้ย...  ต้องนั่งทางในโพสต์  กันมั่งละวะ

มารห่มผ้าเหลืองพวกนี้ อาจจะเอาไปฝันเปียกก็ได้นะครับ 

 

Edited by Bookmarks, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:26.

[wat]

คนที่คิดว่า นางยิ่งลักษณ์ เป็นผู้มี..... (ละอายที่จะพิมพ์) เป็นคนที่มีความคิดอุบาทว์มากค่ะ

คนที่มีบุญบารมีนั้น จะต้อง

1. รู้ว่าใครคือบิดามารดาผู้ให้กำเนิด
2. ไม่สมสู่ก่อนถึงวัยอันเหมาะสม
3. ซื่อสัตย์และให้เกียรติคู่ของตนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
4. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทั้งหน้าที่ของครอบครัวและหน้าที่การงาน
5. มีความซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม ทั้งในที่รโหฐาน และต่อหน้าสาธารณะ

อีนี่ fail ทุกข้อ

 

  อันนี้เจ็บจริง ไม่ต้องใช้แสตนอินด์ขอรับ... กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

[ter162525]

 

 

สามารถติดต่อกับ โลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  

 

พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่าน

 

ถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง........ผมว่ามันคือ "ปาหี่ จำอวด หลอกเงิน" เท่านั้นเอง

 

ต่อให้เป็นผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่ถ้าทำเยี่ยงนี้ มันเป็นการ "อวดอุตริวิชา" ก็คงจะต้องถึงกาลเสื่อมถอยเป็นแน่แท้ !!!

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...นั่นไง แม่นจริงๆ ด้วย รู้ได้ไงว่าเราไม่สบายใจ - คนที่ไปหาหมดู จะอุทาน แบบนี้แทบทุกราย

 

( แต่ว่ามันคือ จิตวิทยา ขั้นพื้นฐานทั่วๆ ไป นั่นเอง คนสบายใจดีที่ไหนต้องไปหาที่พึ่งทางใจ แบบหมอดูกันหล่ะครับ !!! )

 

 

ส่วนเรื่อง "ทรงเจ้าเข้าผี" นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมไม่เคยเชื่อถือ หรือ นับถือเรื่องแบบนี้เลย เพราะดูแล้ว เหมือนคนทรงไปลบหลู่ดวงวิญญาณซะมากกว่า

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง นิดนึงครับ...ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนผมอยู่คนนึง จะชอบเรื่องประมาณว่า "ทรงเจ้าเข้าผี" อะไรทำนองนี้มาก จนเข้าเส้นเลย...ก็มาชวนผมไป

 

ผมพยายามปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มาครั้งนี้ เพื่อนคนนี้รบเร้าและแสดงความน่าสงสาร ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ด้วยความที่สงสารเพื่อน

 

ก็เลยยอมเดินทางไปด้วยกัน แถวๆ ย่าน ถนนบรมราชชนนี เป็นตำหนักทรงเจ้า เขียนไว้ด้านหน้าว่า "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" ( ขอใช้เป็นนามแฝง นะครับ )

 

มาถึง ไอ้เพื่อนผมก็เดินนำหน้าเข้าไป พร้อมกับฉุดดึงผมเข้าไปด้วยกัน ในตำหนักนั้นก็เหมือนที่อื่นๆ ทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะครับ มีข้าวของเฟอร์นิเจอร์และ

 

เครื่องประดับตำหนักต่างๆ นาๆ ให้ดู "ขลัง" และ "วังเวง" กลิ่นควันธูปและกำยาน ลอยกระจายไปทั่วบริเวณโถงตำหนักด้านในที่มี ผู้คนนั่งคอยอยู่

 

จากนั้นก็จะมี เจ้าหน้าที่ของตำหนักมาสอบถาม เพื่อแจก "บัตรคิว" ...ผมนึกในใจ เออ มีการบริหารจัดการที่ดีแฮะ ( แต่ทำไมไม่ตั้งตู้กดบัตรคิว ซะเลย !!! )

 

ผมต้องชวนเพื่อนผมออกมารอด้านนอก เพราะแสบตา และ แสบจมูก กับ กลิ่นภายในห้องโถงนั้นเป็นอย่างมาก ( ไม่รู้ว่าพวกที่นั่งคอย ทนอยู่กันได้อย่างไร ?? )

 

ยังดีที่หน้าตำหนัก มีสนามหญ้าและมีร้านขาย "กาแฟสด" ( ครบวงจรจริงๆ ) ผมเลยชวนเพื่อน ไปนั่งดื่มกาแฟฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงคิว...ตามหมายเลขบนบัตรคิว

 

ใช้เวลรออยู่พอสมควร ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ประกาศเรียก จึงได้เข้าไปหา "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" ( ผมไม่แน่ใจ เพราะระบุเพศที่แน่นอนไม่ได้ ...!!! )

 

ด้วยความที่นั่งรอมานาน Where where is a Where where ( ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ) ....ผมก็เลยเข้าไปกับ ไอ้เพื่อนตัวแสบ ซะหน่อยก็แล้วกัน จะได้ช่วยมันฟังไปด้วย

 

ก็เจอคำถามยอดฮิต เป็นคำถามแรก...จากนั้น "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่น..ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนผม ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ต้องการถามเพื่อแก้ไข ( เพื่อความสบายใจ )

 

ใช้เวลาในการสนทนา ไม่เกิน 10 นาที ...!!! ( ครับ ไม่เกิน 10 นาที แต่ ให้รอตั้ง 2 -3 ชั่วโมง ) จากที่ได้ฟัง "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" แนะนำวิธีแก้ไข เพื่อนผมก็มีสีหน้า

 

และ ท่าทางคลายความกังวลมาได้ระดับหนึ่ง และแล้ว "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ" ..จากนั้น ผมและเพื่อน ก็กลับออกมาจาก "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" กัน

 

ระหว่างทางที่เดินทางกลับ เพื่อนผม ก็จะคอยถามทบทวนกับผมว่า ต้องซื้ออะไรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหามั่ง ก็นั่งทบทวนกันมาในรถแต่เหมือนจะ "ไม่ครบถ้วน ทุกอย่างตามที่ได้รับมา"

 

เอาหล่ะสิ...เพื่อนผม ก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไรมั้ง เอาเท่าที่จำได้ ก็คงพอได้มั้ง....แต่ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังไงมันก็ไม่ยอม จะต้องเอาให้ครบให้ได้ !!!

 

ขับรถกันมาถึงย่านบางนา-สำโรง บังเอิญเหลือเกิน ได้เจอ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" อีกสาขาหนึ่ง ผมเลยชวนเพื่อน เข้าไปสอบถามกันเลยว่าอะไรที่พวกเราจำไม่ได้ จะได้ครบ....!!!

 

โชคดี ของพวกผม ที่ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" สาขานี้ คนไม่เยอะเหมือนที่ สาขา ถนนบรมราชชนนี รอไม่เกิน 15 นาที ก็ได้เข้าไปหา และพูดคุยเพื่อสอบถาม กับ "เจ้าแม่โซฟี".....!!!

 

แต่คนที่ เป็นร่างทรง ของที่นี่เป็น ผู้หญิงร่างเล็กวัยกลางคน...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะเพิ่งจะเจอกันมาเมื่อตะกี้เอง ( ประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ) ...ผมเลยเปิดฉากเลยว่า

 

"สวัสดีครับเจ้าแม่ จำผมได้ไหมครับ เมื่อกี๊ที่คุยกันที่ ตำหนักบรมราชชนนี พวกผมลืมไปว่า "ของที่ต้องนำไปใช้แก้ไข" มีอะไรบ้าง ???"............เจ้าแม่โซฟี ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่ก ....

 

และ แสดงอาการอึกอัก เหมือนมีอะไรติดในลำคอ ตอบอะไรไม่ออก พร้อมทำหน้างงๆ ปนสงสัย และเริ่มมองหา เจ้าหน้าที่ ไปรอบๆ ตัว...ผม ก็เลยย้ำถามไปอีกครั้ง

 

"อ้าว...เมื่อกี๊ เจ้าแม่ยังบอกให้เพื่อนผมไปหาซื้อของ มาใช้แก้เคล็ด อยู่เลย ทำไมตอนนี้ ถึงไม่บอกหล่ะครับว่า ต้องใช้อะไรมั่ง...???"  จากนั้น....เจ้าแม่โซฟี ก็ลุก เดินหนี ไปในทันที

 

ผมกับเพื่อน ก็เดินตามออกมาด้านนอก ทั้งเจ้าแม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ วิ่งเตลิด กันไปหมด ผู้คนที่มานั่งรออีก 3-4 กลุ่มก็ตกใจไปด้วย สงสัยคงคิดว่าผมเป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" กระมังครับ !!!

 

ผมเห็นเพื่อนผม ทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็ หัวเราะออกมาในที่สุด ผมก็สสบายใจขึ้นมาในทันที.....จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเพื่อน ที่ถนนเทพารักษ์ ตลอดทางเราทั้งคู่ นั่งคุยไปหัวเราะกันไป

 

ก่อนลงจากรถ เพื่อนผมหันมาบอกกับผมว่า ".......ทำไมเจ้าแม่ จำพวกเราไม่ได้ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ" เพื่อนผม พูดออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ และ เดินเข้าโรงงานไปแบบสบายใจสุดๆ

 

......แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไป โดยไม่ต้องพึ่ง ของแก้เคล็ดแก้ยอกใดๆ เพื่อนผมก็ดำเนินธุรกิจ ของมันไปแบบ ระมัดระวัง ตามเดิม

 

ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ เป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติก ย่านถนนเทพารักษ์ ชอบทำบุญทำทาน กับสิ่งที่มองเห็น และ ไม่เคยเชื่อเรื่อง "ทรงเจ้า-เข้าผี" อะไรนั่นอีกเลย .................จบแล้วครับ

 

 

ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ

 

 

จริงแล้วเรื่องพวกนี้มีอยู่ครับ หลอกลวงก็เยอะ ผมเคยเห็นเข้าจริง กับตัวมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ปี 1 คนรู้จักที่บ้านย่า เป็นคนรู้จักของลุงตอนบวชเป็นพระเข้ากุมารอยู่ (แต่ตอนนี้บ้าไปแล้วเพราะไปทำอะไรผิดครู(ผิดข้อห้ามของครู) เลยเข้าหลอกบ้าง สุดท้าย บ้า จริง) ช่วงนั้นน่าจะเข้าจริง เพราะลุงผมเขาเล่าให้ย่าฟัง แล้วพวกผมได้ยินแล้วเหมือนพูดถึงกุมารมากเขาเลย อยากเล่นด้วย    ครั้งที่ 2 ตอนบวช อันนี้คนตายเข้าเมียตัวเอง และ กุมารเข้าเจ้าอาละวาส

 

วิธีสักเกตุง่ายๆ ครับ ชักกระตุก ปลอมแน่นอน ของจริงอ้วกลมไม่เกิน 3 ครั้ง

Edited by ter162525, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:44.

[Emolution]

อีปูกระหรี่ดอกทอง จบป่ะ

[GuoJia]

ผู้มีบารมีอย่าง "ยิ่งลักษณ์" ที่ใครบังอาจล้มล้างจะเหลือแต่กางเกงใน

เป็นสนับสนุนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง

 

ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อย หล่อนกำลังสร้างบารมีเพื่อจะได้เป็นนายกฯอยู่ใช่ไหม

[Bookmarks]

บารมีของเจ๊ปู จะสู้คนนี้ได้มั้ยฮะ   งวดหน้าได้เป็นนายกแน่เลย 

 

[Bookmarks]

 

 

 

สามารถติดต่อกับ โลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  

 

พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่าน

 

ถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง........ผมว่ามันคือ "ปาหี่ จำอวด หลอกเงิน" เท่านั้นเอง

 

ต่อให้เป็นผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่ถ้าทำเยี่ยงนี้ มันเป็นการ "อวดอุตริวิชา" ก็คงจะต้องถึงกาลเสื่อมถอยเป็นแน่แท้ !!!

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...นั่นไง แม่นจริงๆ ด้วย รู้ได้ไงว่าเราไม่สบายใจ - คนที่ไปหาหมดู จะอุทาน แบบนี้แทบทุกราย

 

( แต่ว่ามันคือ จิตวิทยา ขั้นพื้นฐานทั่วๆ ไป นั่นเอง คนสบายใจดีที่ไหนต้องไปหาที่พึ่งทางใจ แบบหมอดูกันหล่ะครับ !!! )

 

 

ส่วนเรื่อง "ทรงเจ้าเข้าผี" นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมไม่เคยเชื่อถือ หรือ นับถือเรื่องแบบนี้เลย เพราะดูแล้ว เหมือนคนทรงไปลบหลู่ดวงวิญญาณซะมากกว่า

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง นิดนึงครับ...ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนผมอยู่คนนึง จะชอบเรื่องประมาณว่า "ทรงเจ้าเข้าผี" อะไรทำนองนี้มาก จนเข้าเส้นเลย...ก็มาชวนผมไป

 

ผมพยายามปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มาครั้งนี้ เพื่อนคนนี้รบเร้าและแสดงความน่าสงสาร ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ด้วยความที่สงสารเพื่อน

 

ก็เลยยอมเดินทางไปด้วยกัน แถวๆ ย่าน ถนนบรมราชชนนี เป็นตำหนักทรงเจ้า เขียนไว้ด้านหน้าว่า "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" ( ขอใช้เป็นนามแฝง นะครับ )

 

มาถึง ไอ้เพื่อนผมก็เดินนำหน้าเข้าไป พร้อมกับฉุดดึงผมเข้าไปด้วยกัน ในตำหนักนั้นก็เหมือนที่อื่นๆ ทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะครับ มีข้าวของเฟอร์นิเจอร์และ

 

เครื่องประดับตำหนักต่างๆ นาๆ ให้ดู "ขลัง" และ "วังเวง" กลิ่นควันธูปและกำยาน ลอยกระจายไปทั่วบริเวณโถงตำหนักด้านในที่มี ผู้คนนั่งคอยอยู่

 

จากนั้นก็จะมี เจ้าหน้าที่ของตำหนักมาสอบถาม เพื่อแจก "บัตรคิว" ...ผมนึกในใจ เออ มีการบริหารจัดการที่ดีแฮะ ( แต่ทำไมไม่ตั้งตู้กดบัตรคิว ซะเลย !!! )

 

ผมต้องชวนเพื่อนผมออกมารอด้านนอก เพราะแสบตา และ แสบจมูก กับ กลิ่นภายในห้องโถงนั้นเป็นอย่างมาก ( ไม่รู้ว่าพวกที่นั่งคอย ทนอยู่กันได้อย่างไร ?? )

 

ยังดีที่หน้าตำหนัก มีสนามหญ้าและมีร้านขาย "กาแฟสด" ( ครบวงจรจริงๆ ) ผมเลยชวนเพื่อน ไปนั่งดื่มกาแฟฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงคิว...ตามหมายเลขบนบัตรคิว

 

ใช้เวลรออยู่พอสมควร ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ประกาศเรียก จึงได้เข้าไปหา "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" ( ผมไม่แน่ใจ เพราะระบุเพศที่แน่นอนไม่ได้ ...!!! )

 

ด้วยความที่นั่งรอมานาน Where where is a Where where ( ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ) ....ผมก็เลยเข้าไปกับ ไอ้เพื่อนตัวแสบ ซะหน่อยก็แล้วกัน จะได้ช่วยมันฟังไปด้วย

 

ก็เจอคำถามยอดฮิต เป็นคำถามแรก...จากนั้น "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่น..ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนผม ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ต้องการถามเพื่อแก้ไข ( เพื่อความสบายใจ )

 

ใช้เวลาในการสนทนา ไม่เกิน 10 นาที ...!!! ( ครับ ไม่เกิน 10 นาที แต่ ให้รอตั้ง 2 -3 ชั่วโมง ) จากที่ได้ฟัง "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" แนะนำวิธีแก้ไข เพื่อนผมก็มีสีหน้า

 

และ ท่าทางคลายความกังวลมาได้ระดับหนึ่ง และแล้ว "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ" ..จากนั้น ผมและเพื่อน ก็กลับออกมาจาก "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" กัน

 

ระหว่างทางที่เดินทางกลับ เพื่อนผม ก็จะคอยถามทบทวนกับผมว่า ต้องซื้ออะไรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหามั่ง ก็นั่งทบทวนกันมาในรถแต่เหมือนจะ "ไม่ครบถ้วน ทุกอย่างตามที่ได้รับมา"

 

เอาหล่ะสิ...เพื่อนผม ก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไรมั้ง เอาเท่าที่จำได้ ก็คงพอได้มั้ง....แต่ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังไงมันก็ไม่ยอม จะต้องเอาให้ครบให้ได้ !!!

 

ขับรถกันมาถึงย่านบางนา-สำโรง บังเอิญเหลือเกิน ได้เจอ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" อีกสาขาหนึ่ง ผมเลยชวนเพื่อน เข้าไปสอบถามกันเลยว่าอะไรที่พวกเราจำไม่ได้ จะได้ครบ....!!!

 

โชคดี ของพวกผม ที่ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" สาขานี้ คนไม่เยอะเหมือนที่ สาขา ถนนบรมราชชนนี รอไม่เกิน 15 นาที ก็ได้เข้าไปหา และพูดคุยเพื่อสอบถาม กับ "เจ้าแม่โซฟี".....!!!

 

แต่คนที่ เป็นร่างทรง ของที่นี่เป็น ผู้หญิงร่างเล็กวัยกลางคน...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะเพิ่งจะเจอกันมาเมื่อตะกี้เอง ( ประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ) ...ผมเลยเปิดฉากเลยว่า

 

"สวัสดีครับเจ้าแม่ จำผมได้ไหมครับ เมื่อกี๊ที่คุยกันที่ ตำหนักบรมราชชนนี พวกผมลืมไปว่า "ของที่ต้องนำไปใช้แก้ไข" มีอะไรบ้าง ???"............เจ้าแม่โซฟี ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่ก ....

 

และ แสดงอาการอึกอัก เหมือนมีอะไรติดในลำคอ ตอบอะไรไม่ออก พร้อมทำหน้างงๆ ปนสงสัย และเริ่มมองหา เจ้าหน้าที่ ไปรอบๆ ตัว...ผม ก็เลยย้ำถามไปอีกครั้ง

 

"อ้าว...เมื่อกี๊ เจ้าแม่ยังบอกให้เพื่อนผมไปหาซื้อของ มาใช้แก้เคล็ด อยู่เลย ทำไมตอนนี้ ถึงไม่บอกหล่ะครับว่า ต้องใช้อะไรมั่ง...???"  จากนั้น....เจ้าแม่โซฟี ก็ลุก เดินหนี ไปในทันที

 

ผมกับเพื่อน ก็เดินตามออกมาด้านนอก ทั้งเจ้าแม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ วิ่งเตลิด กันไปหมด ผู้คนที่มานั่งรออีก 3-4 กลุ่มก็ตกใจไปด้วย สงสัยคงคิดว่าผมเป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" กระมังครับ !!!

 

ผมเห็นเพื่อนผม ทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็ หัวเราะออกมาในที่สุด ผมก็สสบายใจขึ้นมาในทันที.....จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเพื่อน ที่ถนนเทพารักษ์ ตลอดทางเราทั้งคู่ นั่งคุยไปหัวเราะกันไป

 

ก่อนลงจากรถ เพื่อนผมหันมาบอกกับผมว่า ".......ทำไมเจ้าแม่ จำพวกเราไม่ได้ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ" เพื่อนผม พูดออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ และ เดินเข้าโรงงานไปแบบสบายใจสุดๆ

 

......แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไป โดยไม่ต้องพึ่ง ของแก้เคล็ดแก้ยอกใดๆ เพื่อนผมก็ดำเนินธุรกิจ ของมันไปแบบ ระมัดระวัง ตามเดิม

 

ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ เป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติก ย่านถนนเทพารักษ์ ชอบทำบุญทำทาน กับสิ่งที่มองเห็น และ ไม่เคยเชื่อเรื่อง "ทรงเจ้า-เข้าผี" อะไรนั่นอีกเลย .................จบแล้วครับ

 

 

ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ

 

 

จริงแล้วเรื่องพวกนี้มีอยู่ครับ หลอกลวงก็เยอะ ผมเคยเห็นเข้าจริง กับตัวมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ปี 1 คนรู้จักที่บ้านย่า เป็นคนรู้จักของลุงตอนบวชเป็นพระเข้ากุมารอยู่ (แต่ตอนนี้บ้าไปแล้วเพราะไปทำอะไรผิดครู(ผิดข้อห้ามของครู) เลยเข้าหลอกบ้าง สุดท้าย บ้า จริง) ช่วงนั้นน่าจะเข้าจริง เพราะลุงผมเขาเล่าให้ย่าฟัง แล้วพวกผมได้ยินแล้วเหมือนพูดถึงกุมารมากเขาเลย อยากเล่นด้วย    ครั้งที่ 2 ตอนบวช อันนี้คนตายเข้าเมียตัวเอง และ กุมารเข้าเจ้าอาละวาส

 

วิธีสักเกตุง่ายๆ ครับ ชักกระตุก ปลอมแน่นอน ของจริงอ้วกลมไม่เกิน 3 ครั้ง

 

ผมเคยเห็น คนเข้าทรง นั่งเก้าอี้ตอกตะปูเป็นร้อยตัว ตูดไม่ทะลุครับ คนเข้าทรงบอกผมว่า เอ็งก็ตอกตะปูให้มันถี่ๆ สิว่ะ กางเกงเอ็งก็ยัดกระดาษแข็งใส่ตูดเยอะๆ เวลานั่ง นั่งเบาๆ อย่ากระแทก คนเข้าทรงเป็นพ่อเพื่อนผมเอง    เคล็ดไม่ลับ  

[A DESIGN FOR LIFE]

ถ้าเป็นผู้มีฝารมีมากล่ะก็ไม่แน่ 

[ter162525]

 

 

 

 

สามารถติดต่อกับ โลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  

 

พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่าน

 

ถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง........ผมว่ามันคือ "ปาหี่ จำอวด หลอกเงิน" เท่านั้นเอง

 

ต่อให้เป็นผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่ถ้าทำเยี่ยงนี้ มันเป็นการ "อวดอุตริวิชา" ก็คงจะต้องถึงกาลเสื่อมถอยเป็นแน่แท้ !!!

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...นั่นไง แม่นจริงๆ ด้วย รู้ได้ไงว่าเราไม่สบายใจ - คนที่ไปหาหมดู จะอุทาน แบบนี้แทบทุกราย

 

( แต่ว่ามันคือ จิตวิทยา ขั้นพื้นฐานทั่วๆ ไป นั่นเอง คนสบายใจดีที่ไหนต้องไปหาที่พึ่งทางใจ แบบหมอดูกันหล่ะครับ !!! )

 

 

ส่วนเรื่อง "ทรงเจ้าเข้าผี" นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมไม่เคยเชื่อถือ หรือ นับถือเรื่องแบบนี้เลย เพราะดูแล้ว เหมือนคนทรงไปลบหลู่ดวงวิญญาณซะมากกว่า

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง นิดนึงครับ...ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนผมอยู่คนนึง จะชอบเรื่องประมาณว่า "ทรงเจ้าเข้าผี" อะไรทำนองนี้มาก จนเข้าเส้นเลย...ก็มาชวนผมไป

 

ผมพยายามปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มาครั้งนี้ เพื่อนคนนี้รบเร้าและแสดงความน่าสงสาร ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ด้วยความที่สงสารเพื่อน

 

ก็เลยยอมเดินทางไปด้วยกัน แถวๆ ย่าน ถนนบรมราชชนนี เป็นตำหนักทรงเจ้า เขียนไว้ด้านหน้าว่า "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" ( ขอใช้เป็นนามแฝง นะครับ )

 

มาถึง ไอ้เพื่อนผมก็เดินนำหน้าเข้าไป พร้อมกับฉุดดึงผมเข้าไปด้วยกัน ในตำหนักนั้นก็เหมือนที่อื่นๆ ทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะครับ มีข้าวของเฟอร์นิเจอร์และ

 

เครื่องประดับตำหนักต่างๆ นาๆ ให้ดู "ขลัง" และ "วังเวง" กลิ่นควันธูปและกำยาน ลอยกระจายไปทั่วบริเวณโถงตำหนักด้านในที่มี ผู้คนนั่งคอยอยู่

 

จากนั้นก็จะมี เจ้าหน้าที่ของตำหนักมาสอบถาม เพื่อแจก "บัตรคิว" ...ผมนึกในใจ เออ มีการบริหารจัดการที่ดีแฮะ ( แต่ทำไมไม่ตั้งตู้กดบัตรคิว ซะเลย !!! )

 

ผมต้องชวนเพื่อนผมออกมารอด้านนอก เพราะแสบตา และ แสบจมูก กับ กลิ่นภายในห้องโถงนั้นเป็นอย่างมาก ( ไม่รู้ว่าพวกที่นั่งคอย ทนอยู่กันได้อย่างไร ?? )

 

ยังดีที่หน้าตำหนัก มีสนามหญ้าและมีร้านขาย "กาแฟสด" ( ครบวงจรจริงๆ ) ผมเลยชวนเพื่อน ไปนั่งดื่มกาแฟฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงคิว...ตามหมายเลขบนบัตรคิว

 

ใช้เวลรออยู่พอสมควร ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ประกาศเรียก จึงได้เข้าไปหา "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" ( ผมไม่แน่ใจ เพราะระบุเพศที่แน่นอนไม่ได้ ...!!! )

 

ด้วยความที่นั่งรอมานาน Where where is a Where where ( ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ) ....ผมก็เลยเข้าไปกับ ไอ้เพื่อนตัวแสบ ซะหน่อยก็แล้วกัน จะได้ช่วยมันฟังไปด้วย

 

ก็เจอคำถามยอดฮิต เป็นคำถามแรก...จากนั้น "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่น..ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนผม ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ต้องการถามเพื่อแก้ไข ( เพื่อความสบายใจ )

 

ใช้เวลาในการสนทนา ไม่เกิน 10 นาที ...!!! ( ครับ ไม่เกิน 10 นาที แต่ ให้รอตั้ง 2 -3 ชั่วโมง ) จากที่ได้ฟัง "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" แนะนำวิธีแก้ไข เพื่อนผมก็มีสีหน้า

 

และ ท่าทางคลายความกังวลมาได้ระดับหนึ่ง และแล้ว "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ" ..จากนั้น ผมและเพื่อน ก็กลับออกมาจาก "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" กัน

 

ระหว่างทางที่เดินทางกลับ เพื่อนผม ก็จะคอยถามทบทวนกับผมว่า ต้องซื้ออะไรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหามั่ง ก็นั่งทบทวนกันมาในรถแต่เหมือนจะ "ไม่ครบถ้วน ทุกอย่างตามที่ได้รับมา"

 

เอาหล่ะสิ...เพื่อนผม ก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไรมั้ง เอาเท่าที่จำได้ ก็คงพอได้มั้ง....แต่ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังไงมันก็ไม่ยอม จะต้องเอาให้ครบให้ได้ !!!

 

ขับรถกันมาถึงย่านบางนา-สำโรง บังเอิญเหลือเกิน ได้เจอ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" อีกสาขาหนึ่ง ผมเลยชวนเพื่อน เข้าไปสอบถามกันเลยว่าอะไรที่พวกเราจำไม่ได้ จะได้ครบ....!!!

 

โชคดี ของพวกผม ที่ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" สาขานี้ คนไม่เยอะเหมือนที่ สาขา ถนนบรมราชชนนี รอไม่เกิน 15 นาที ก็ได้เข้าไปหา และพูดคุยเพื่อสอบถาม กับ "เจ้าแม่โซฟี".....!!!

 

แต่คนที่ เป็นร่างทรง ของที่นี่เป็น ผู้หญิงร่างเล็กวัยกลางคน...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะเพิ่งจะเจอกันมาเมื่อตะกี้เอง ( ประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ) ...ผมเลยเปิดฉากเลยว่า

 

"สวัสดีครับเจ้าแม่ จำผมได้ไหมครับ เมื่อกี๊ที่คุยกันที่ ตำหนักบรมราชชนนี พวกผมลืมไปว่า "ของที่ต้องนำไปใช้แก้ไข" มีอะไรบ้าง ???"............เจ้าแม่โซฟี ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่ก ....

 

และ แสดงอาการอึกอัก เหมือนมีอะไรติดในลำคอ ตอบอะไรไม่ออก พร้อมทำหน้างงๆ ปนสงสัย และเริ่มมองหา เจ้าหน้าที่ ไปรอบๆ ตัว...ผม ก็เลยย้ำถามไปอีกครั้ง

 

"อ้าว...เมื่อกี๊ เจ้าแม่ยังบอกให้เพื่อนผมไปหาซื้อของ มาใช้แก้เคล็ด อยู่เลย ทำไมตอนนี้ ถึงไม่บอกหล่ะครับว่า ต้องใช้อะไรมั่ง...???"  จากนั้น....เจ้าแม่โซฟี ก็ลุก เดินหนี ไปในทันที

 

ผมกับเพื่อน ก็เดินตามออกมาด้านนอก ทั้งเจ้าแม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ วิ่งเตลิด กันไปหมด ผู้คนที่มานั่งรออีก 3-4 กลุ่มก็ตกใจไปด้วย สงสัยคงคิดว่าผมเป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" กระมังครับ !!!

 

ผมเห็นเพื่อนผม ทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็ หัวเราะออกมาในที่สุด ผมก็สสบายใจขึ้นมาในทันที.....จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเพื่อน ที่ถนนเทพารักษ์ ตลอดทางเราทั้งคู่ นั่งคุยไปหัวเราะกันไป

 

ก่อนลงจากรถ เพื่อนผมหันมาบอกกับผมว่า ".......ทำไมเจ้าแม่ จำพวกเราไม่ได้ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ" เพื่อนผม พูดออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ และ เดินเข้าโรงงานไปแบบสบายใจสุดๆ

 

......แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไป โดยไม่ต้องพึ่ง ของแก้เคล็ดแก้ยอกใดๆ เพื่อนผมก็ดำเนินธุรกิจ ของมันไปแบบ ระมัดระวัง ตามเดิม

 

ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ เป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติก ย่านถนนเทพารักษ์ ชอบทำบุญทำทาน กับสิ่งที่มองเห็น และ ไม่เคยเชื่อเรื่อง "ทรงเจ้า-เข้าผี" อะไรนั่นอีกเลย .................จบแล้วครับ

 

 

ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ

 

 

จริงแล้วเรื่องพวกนี้มีอยู่ครับ หลอกลวงก็เยอะ ผมเคยเห็นเข้าจริง กับตัวมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ปี 1 คนรู้จักที่บ้านย่า เป็นคนรู้จักของลุงตอนบวชเป็นพระเข้ากุมารอยู่ (แต่ตอนนี้บ้าไปแล้วเพราะไปทำอะไรผิดครู(ผิดข้อห้ามของครู) เลยเข้าหลอกบ้าง สุดท้าย บ้า จริง) ช่วงนั้นน่าจะเข้าจริง เพราะลุงผมเขาเล่าให้ย่าฟัง แล้วพวกผมได้ยินแล้วเหมือนพูดถึงกุมารมากเขาเลย อยากเล่นด้วย    ครั้งที่ 2 ตอนบวช อันนี้คนตายเข้าเมียตัวเอง และ กุมารเข้าเจ้าอาละวาส

 

วิธีสักเกตุง่ายๆ ครับ ชักกระตุก ปลอมแน่นอน ของจริงอ้วกลมไม่เกิน 3 ครั้ง

 

ผมเคยเห็น คนเข้าทรง นั่งเก้าอี้ตอกตะปูเป็นร้อยตัว ตูดไม่ทะลุครับ คนเข้าทรงบอกผมว่า เอ็งก็ตอกตะปูให้มันถี่ๆ สิว่ะ กางเกงเอ็งก็ยัดกระดาษแข็งใส่ตูดเยอะๆ เวลานั่ง นั่งเบาๆ อย่ากระแทก คนเข้าทรงเป็นพ่อเพื่อนผมเอง    เคล็ดไม่ลับ  

 

ธรรมดาครับหลักวิทยาศาตร์ มันเป็นแบบนั้นได้อยู่แล้วครับ ลองนั่งตะปูแค่ 4 ตัว ต่อให้ลองกระดาษก้นก็ทะลุครับ  แต่ถ้าเป็นร้อยตัว แค่เ็จ็บก้นครับ

[mOOgrOb'pm']

ผมยอมฉิบหายครับ แต่ประเทศผมต้องไม่ฉิบหาย .....

 

ไปตายซะอีปู

[ขุนพลชิน]

ผู้มีอำนาจฝั่งมารสิไม่ว่า

[Bookmarks]

 

 

 

 

 

สามารถติดต่อกับ โลกวิญญาณ(ปรโลก)ได้  โลกวิญญาณ(ปรโลก)นี้เป็นโลกแห่งภวังค์จิต  หรือโลกแห่งจิตใต้สำนึก  

 

พระพุทธองค์เข้าไปรู้เรื่องราวในอดีตชาติทุกชาติ  รู้เรื่องโลก จักรวาล พูดคุยกับเทพพรหมทุกชั้นได้  โดยพระองค์ท่าน

 

ถอดจิตหรือไม่ถอดจิตเข้าไปดูในภวังค์จิต  หรือดูโลกแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง........ผมว่ามันคือ "ปาหี่ จำอวด หลอกเงิน" เท่านั้นเอง

 

ต่อให้เป็นผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่ถ้าทำเยี่ยงนี้ มันเป็นการ "อวดอุตริวิชา" ก็คงจะต้องถึงกาลเสื่อมถอยเป็นแน่แท้ !!!

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...นั่นไง แม่นจริงๆ ด้วย รู้ได้ไงว่าเราไม่สบายใจ - คนที่ไปหาหมดู จะอุทาน แบบนี้แทบทุกราย

 

( แต่ว่ามันคือ จิตวิทยา ขั้นพื้นฐานทั่วๆ ไป นั่นเอง คนสบายใจดีที่ไหนต้องไปหาที่พึ่งทางใจ แบบหมอดูกันหล่ะครับ !!! )

 

 

ส่วนเรื่อง "ทรงเจ้าเข้าผี" นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมไม่เคยเชื่อถือ หรือ นับถือเรื่องแบบนี้เลย เพราะดูแล้ว เหมือนคนทรงไปลบหลู่ดวงวิญญาณซะมากกว่า

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง นิดนึงครับ...ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนผมอยู่คนนึง จะชอบเรื่องประมาณว่า "ทรงเจ้าเข้าผี" อะไรทำนองนี้มาก จนเข้าเส้นเลย...ก็มาชวนผมไป

 

ผมพยายามปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มาครั้งนี้ เพื่อนคนนี้รบเร้าและแสดงความน่าสงสาร ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ด้วยความที่สงสารเพื่อน

 

ก็เลยยอมเดินทางไปด้วยกัน แถวๆ ย่าน ถนนบรมราชชนนี เป็นตำหนักทรงเจ้า เขียนไว้ด้านหน้าว่า "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" ( ขอใช้เป็นนามแฝง นะครับ )

 

มาถึง ไอ้เพื่อนผมก็เดินนำหน้าเข้าไป พร้อมกับฉุดดึงผมเข้าไปด้วยกัน ในตำหนักนั้นก็เหมือนที่อื่นๆ ทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะครับ มีข้าวของเฟอร์นิเจอร์และ

 

เครื่องประดับตำหนักต่างๆ นาๆ ให้ดู "ขลัง" และ "วังเวง" กลิ่นควันธูปและกำยาน ลอยกระจายไปทั่วบริเวณโถงตำหนักด้านในที่มี ผู้คนนั่งคอยอยู่

 

จากนั้นก็จะมี เจ้าหน้าที่ของตำหนักมาสอบถาม เพื่อแจก "บัตรคิว" ...ผมนึกในใจ เออ มีการบริหารจัดการที่ดีแฮะ ( แต่ทำไมไม่ตั้งตู้กดบัตรคิว ซะเลย !!! )

 

ผมต้องชวนเพื่อนผมออกมารอด้านนอก เพราะแสบตา และ แสบจมูก กับ กลิ่นภายในห้องโถงนั้นเป็นอย่างมาก ( ไม่รู้ว่าพวกที่นั่งคอย ทนอยู่กันได้อย่างไร ?? )

 

ยังดีที่หน้าตำหนัก มีสนามหญ้าและมีร้านขาย "กาแฟสด" ( ครบวงจรจริงๆ ) ผมเลยชวนเพื่อน ไปนั่งดื่มกาแฟฆ่าเวลา เพื่อรอให้ถึงคิว...ตามหมายเลขบนบัตรคิว

 

ใช้เวลรออยู่พอสมควร ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ประกาศเรียก จึงได้เข้าไปหา "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" ( ผมไม่แน่ใจ เพราะระบุเพศที่แน่นอนไม่ได้ ...!!! )

 

ด้วยความที่นั่งรอมานาน Where where is a Where where ( ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ) ....ผมก็เลยเข้าไปกับ ไอ้เพื่อนตัวแสบ ซะหน่อยก็แล้วกัน จะได้ช่วยมันฟังไปด้วย

 

ก็เจอคำถามยอดฮิต เป็นคำถามแรก...จากนั้น "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่น..ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนผม ได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ต้องการถามเพื่อแก้ไข ( เพื่อความสบายใจ )

 

ใช้เวลาในการสนทนา ไม่เกิน 10 นาที ...!!! ( ครับ ไม่เกิน 10 นาที แต่ ให้รอตั้ง 2 -3 ชั่วโมง ) จากที่ได้ฟัง "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" แนะนำวิธีแก้ไข เพื่อนผมก็มีสีหน้า

 

และ ท่าทางคลายความกังวลมาได้ระดับหนึ่ง และแล้ว "พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ" ..จากนั้น ผมและเพื่อน ก็กลับออกมาจาก "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" กัน

 

ระหว่างทางที่เดินทางกลับ เพื่อนผม ก็จะคอยถามทบทวนกับผมว่า ต้องซื้ออะไรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหามั่ง ก็นั่งทบทวนกันมาในรถแต่เหมือนจะ "ไม่ครบถ้วน ทุกอย่างตามที่ได้รับมา"

 

เอาหล่ะสิ...เพื่อนผม ก็เริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไรมั้ง เอาเท่าที่จำได้ ก็คงพอได้มั้ง....แต่ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังไงมันก็ไม่ยอม จะต้องเอาให้ครบให้ได้ !!!

 

ขับรถกันมาถึงย่านบางนา-สำโรง บังเอิญเหลือเกิน ได้เจอ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" อีกสาขาหนึ่ง ผมเลยชวนเพื่อน เข้าไปสอบถามกันเลยว่าอะไรที่พวกเราจำไม่ได้ จะได้ครบ....!!!

 

โชคดี ของพวกผม ที่ "ตำหนักเจ้าแม่โซฟี" สาขานี้ คนไม่เยอะเหมือนที่ สาขา ถนนบรมราชชนนี รอไม่เกิน 15 นาที ก็ได้เข้าไปหา และพูดคุยเพื่อสอบถาม กับ "เจ้าแม่โซฟี".....!!!

 

แต่คนที่ เป็นร่างทรง ของที่นี่เป็น ผู้หญิงร่างเล็กวัยกลางคน...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะเพิ่งจะเจอกันมาเมื่อตะกี้เอง ( ประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ) ...ผมเลยเปิดฉากเลยว่า

 

"สวัสดีครับเจ้าแม่ จำผมได้ไหมครับ เมื่อกี๊ที่คุยกันที่ ตำหนักบรมราชชนนี พวกผมลืมไปว่า "ของที่ต้องนำไปใช้แก้ไข" มีอะไรบ้าง ???"............เจ้าแม่โซฟี ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่ก ....

 

และ แสดงอาการอึกอัก เหมือนมีอะไรติดในลำคอ ตอบอะไรไม่ออก พร้อมทำหน้างงๆ ปนสงสัย และเริ่มมองหา เจ้าหน้าที่ ไปรอบๆ ตัว...ผม ก็เลยย้ำถามไปอีกครั้ง

 

"อ้าว...เมื่อกี๊ เจ้าแม่ยังบอกให้เพื่อนผมไปหาซื้อของ มาใช้แก้เคล็ด อยู่เลย ทำไมตอนนี้ ถึงไม่บอกหล่ะครับว่า ต้องใช้อะไรมั่ง...???"  จากนั้น....เจ้าแม่โซฟี ก็ลุก เดินหนี ไปในทันที

 

ผมกับเพื่อน ก็เดินตามออกมาด้านนอก ทั้งเจ้าแม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ วิ่งเตลิด กันไปหมด ผู้คนที่มานั่งรออีก 3-4 กลุ่มก็ตกใจไปด้วย สงสัยคงคิดว่าผมเป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" กระมังครับ !!!

 

ผมเห็นเพื่อนผม ทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็ หัวเราะออกมาในที่สุด ผมก็สสบายใจขึ้นมาในทันที.....จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเพื่อน ที่ถนนเทพารักษ์ ตลอดทางเราทั้งคู่ นั่งคุยไปหัวเราะกันไป

 

ก่อนลงจากรถ เพื่อนผมหันมาบอกกับผมว่า ".......ทำไมเจ้าแม่ จำพวกเราไม่ได้ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ" เพื่อนผม พูดออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ และ เดินเข้าโรงงานไปแบบสบายใจสุดๆ

 

......แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไป โดยไม่ต้องพึ่ง ของแก้เคล็ดแก้ยอกใดๆ เพื่อนผมก็ดำเนินธุรกิจ ของมันไปแบบ ระมัดระวัง ตามเดิม

 

ปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ เป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติก ย่านถนนเทพารักษ์ ชอบทำบุญทำทาน กับสิ่งที่มองเห็น และ ไม่เคยเชื่อเรื่อง "ทรงเจ้า-เข้าผี" อะไรนั่นอีกเลย .................จบแล้วครับ

 

 

ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ

 

 

จริงแล้วเรื่องพวกนี้มีอยู่ครับ หลอกลวงก็เยอะ ผมเคยเห็นเข้าจริง กับตัวมา 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน ปี 1 คนรู้จักที่บ้านย่า เป็นคนรู้จักของลุงตอนบวชเป็นพระเข้ากุมารอยู่ (แต่ตอนนี้บ้าไปแล้วเพราะไปทำอะไรผิดครู(ผิดข้อห้ามของครู) เลยเข้าหลอกบ้าง สุดท้าย บ้า จริง) ช่วงนั้นน่าจะเข้าจริง เพราะลุงผมเขาเล่าให้ย่าฟัง แล้วพวกผมได้ยินแล้วเหมือนพูดถึงกุมารมากเขาเลย อยากเล่นด้วย    ครั้งที่ 2 ตอนบวช อันนี้คนตายเข้าเมียตัวเอง และ กุมารเข้าเจ้าอาละวาส

 

วิธีสักเกตุง่ายๆ ครับ ชักกระตุก ปลอมแน่นอน ของจริงอ้วกลมไม่เกิน 3 ครั้ง

 

ผมเคยเห็น คนเข้าทรง นั่งเก้าอี้ตอกตะปูเป็นร้อยตัว ตูดไม่ทะลุครับ คนเข้าทรงบอกผมว่า เอ็งก็ตอกตะปูให้มันถี่ๆ สิว่ะ กางเกงเอ็งก็ยัดกระดาษแข็งใส่ตูดเยอะๆ เวลานั่ง นั่งเบาๆ อย่ากระแทก คนเข้าทรงเป็นพ่อเพื่อนผมเอง    เคล็ดไม่ลับ  

 

ธรรมดาครับหลักวิทยาศาตร์ มันเป็นแบบนั้นได้อยู่แล้วครับ ลองนั่งตะปูแค่ 4 ตัว ต่อให้ลองกระดาษก้นก็ทะลุครับ  แต่ถ้าเป็นร้อยตัว แค่เ็จ็บก้นครับ

 

ใช่ครับ แต่มีคนเชื่อพ่อเพื่อนผมด้วยนะครับ 

[Nabie]

ผมรู้จักหมอดูคนนึงนะ ผมเคยถามว่าช่วยคนเยอะทำไมไม่รวย  เขาบอกว่า คนมีวิชาถ้าอวดหรือหลอกหรือเรียกร้อง เข้า3ข้อนี่เมื่อไร ของมันจะเสื่อม 

คนที่มาหาเขาก็ลำบากอยู่แล้วเราจะเรียกร้องไปอีกทำไม  เขาอยากจะให้อะไรให้เท่าไรก็แล้วแต่เขา  เขาไม่ลำบากแต่ก็ไม่รวย

ผมถึงไม่ค่อยเชื่อพวกหมอดูที่ดังๆที่ิิออกข่าวออกทีวีสักเท่าไร

[wat]

บารมีของเจ๊ปู จะสู้คนนี้ได้มั้ยฮะ   งวดหน้าได้เป็นนายกแน่เลย 

 

 

  ถ้าโรคจิตพอกันคงได้ขอรับ... แต่ถ้าบอกว่าอีนี่เป็นเจ้าแม่ฯมาเกิดนี่... ไอ้เหียกทำโม๊ะไชยะ พยาธิไชพระศาสนาแม่มบอกมันเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิดก็คงจะจริงแล้วล่ะขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ

[Bookmarks]

ผมรู้จักหมอดูคนนึงนะ ผมเคยถามว่าช่วยคนเยอะทำไมไม่รวย  เขาบอกว่า คนมีวิชาถ้าอวดหรือหลอกหรือเรียกร้อง เข้า3ข้อนี่เมื่อไร ของมันจะเสื่อม 

คนที่มาหาเขาก็ลำบากอยู่แล้วเราจะเรียกร้องไปอีกทำไม  เขาอยากจะให้อะไรให้เท่าไรก็แล้วแต่เขา  เขาไม่ลำบากแต่ก็ไม่รวย

ผมถึงไม่ค่อยเชื่อพวกหมอดูที่ดังๆที่ิิออกข่าวออกทีวีสักเท่าไร

หมอดูดังๆ อย่างอีกระบังลมมันชอบไปดูบ่อยๆ จ่ายเป็นหมื่นนะครับ 

[ter162525]

ผมรู้จักหมอดูคนนึงนะ ผมเคยถามว่าช่วยคนเยอะทำไมไม่รวย  เขาบอกว่า คนมีวิชาถ้าอวดหรือหลอกหรือเรียกร้อง เข้า3ข้อนี่เมื่อไร ของมันจะเสื่อม 

คนที่มาหาเขาก็ลำบากอยู่แล้วเราจะเรียกร้องไปอีกทำไม  เขาอยากจะให้อะไรให้เท่าไรก็แล้วแต่เขา  เขาไม่ลำบากแต่ก็ไม่รวย

ผมถึงไม่ค่อยเชื่อพวกหมอดูที่ดังๆที่ิิออกข่าวออกทีวีสักเท่าไร

ที่ผมเคยเจอ ของจริงก็แบบนี้แหละครับ เงินใส่พาน 13 บาท นอกนั้นจะให้อะไรก็ให้ อาจารย์ที่เขารับมาสั่งไว้ให้เรียกเท่านี้ครับ

ให้อะไรก้ได้แม้แต่กล้วยลูกเดียว แต่เงินใส่พานต้อง 13 บาท

[Bookmarks]

ไปล้างกรรมให้ตัวเองที่ศรีลังกา ยังใช้เงินภาษีชาวบ้านมาผลาญเล่น คิดว่าบาปกรรมมันจะล้างได้หรือ ทัวร์ 3 วัดฟรี เงินไม่ต้องจ่ายเอง

 

 

[กรรมกรไอที]

ทำเป็นเล่นไป ท่าน นา...ยก เป็นถึง น้องสาว(จำศัพท์ไม่ได้ล่ะ)

 

ของ เจ้ามูลเมือง เชียวนะเออ....

 

คริ คริ

[phoosana]

ผมไม่เชื่อเรื่องเจ้าแม่กวมอิม เพราะไม่เคยปรากฏในพระไตรปิฎกของฝ่ายเถรวาท
ข้อความที่ที่เกี่ยวกับอดีตชาติของยิ่งลักษณ์ เคยอ่านผ่านตามาก่อน ตามที่คุณผึ้งน้อยเอามาให้ชมนั่นแหละ
แต่ไม่ได้คิดอะไรก็คงพวกอวดอ้างอิทธฤทธิ์ โดยหวังผลทางการเมือง
 
อีกอย่างยิ่งลักษณ์คงไม่ค่อยได้สั่งสมปัญญาบารมีชาตินี้ถึงได้***นัก
อดีตส่วนอดีต ปัจจุบันใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้นแน่นอน

Edited by phoosana, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:17.

[kwan_kao]

 

 

 

 

 

 

อย่างเช่น หมอดูต่างๆ ก็จะมีถามคำถามยอดฮิตกันเลยซึ่งเป็น แพทเทิร์น เดียวกันทุกสำนัก เมื่อมีคนไปหาหมอดู หมอดูก็จะทักก่อนเลยว่า

 

"มีอะไรไม่สบายใจ มาเหรอ??"...

 

 

 

"พ่อหมอ หรือ แม่หมอ" นั่นก็หันมาทางผม พร้อมกับ เอ่ยถาม คำถามเปิดตัว สุดฮิต มาที่ผม.....แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆไป

 

เพราะผมดันทะลึ่ง ตอบไปว่า "ตอนนี้ผมสบายดีครับ แล้วก็ยังไม่มี อะไรที่จะถามครับ ไว้มีแล้วจะถามอีกทีนะครับ"

 

ทำไม่หนูน้อย RaRa ไม่ยักจะเจอคำว่า

 

"เอ็งไม่เชื่อข้า  ไม่ศรัทธาในตัวข้า

แต่คิดจะมาลองของข้า  มาลบหลู่ข้า ใช่มั๊ย"     

[phoebus]

ไปไม่รอดแร้วก็มาอ้างว่าเป็นผู้มีบุญ

 

อีแบบนี้สมัยก่อน เขาเรียก ผีบุญ นะ 

 

 

ต้องโดนประหารสถานเดียว

 

 

แค่นี้แหระ

 

 

 

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ผมยอมฉิบหายครับ แต่ประเทศผมต้องไม่ฉิบหาย .....

 

ไปตายซะอีปู

^^

ชอบตรงนี้

[เหล่าฮู]

ถ้าคนดีจริงๆมาโค่น ไม่มีใครปกป้องได้ แต่ดันเป็นคนแอบแฝง กลุ่มผลประโยชน์ และผู้สนับสนุนอยากให้ปชป เป็น รบ มาโค่น ด้วยเจตนาไม่บริสุทธ ย่อมมีอันเป็นไป

[ควันหลง]

ถ้าคนดีจริงๆมาโค่น ไม่มีใครปกป้องได้ แต่ดันเป็นคนแอบแฝง กลุ่มผลประโยชน์ และผู้สนับสนุนอยากให้ปชป เป็น รบ มาโค่น ด้วยเจตนาไม่บริสุทธ ย่อมมีอันเป็นไป

 

เจตนาไม่บริสุทธิ์นี่อะไรหรือครับ 

Edited by ควันหลง, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:45.

[เหล่าฮู]

 

ถ้าคนดีจริงๆมาโค่น ไม่มีใครปกป้องได้ แต่ดันเป็นคนแอบแฝง กลุ่มผลประโยชน์ และผู้สนับสนุนอยากให้ปชป เป็น รบ มาโค่น ด้วยเจตนาไม่บริสุทธ ย่อมมีอันเป็นไป

 

เจตนาไม่บริสุทธิ์นี่อะไรหรือครับ 

 

พวกหวังผลในบุญไงครับ ไม่ได้ทำบุญด้วยความเสียสละ ความโลภของตัวเอง

[ควันหลง]

 

 

ถ้าคนดีจริงๆมาโค่น ไม่มีใครปกป้องได้ แต่ดันเป็นคนแอบแฝง กลุ่มผลประโยชน์ และผู้สนับสนุนอยากให้ปชป เป็น รบ มาโค่น ด้วยเจตนาไม่บริสุทธ ย่อมมีอันเป็นไป

 

เจตนาไม่บริสุทธิ์นี่อะไรหรือครับ 

 

พวกหวังผลในบุญไงครับ ไม่ได้ทำบุญด้วยความเสียสละ ความโลภของตัวเอง

 

 

แล้วเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะอยากได้ 300/15,000 นี่โลภป่ะครับ 

[chaidan]

ถ้าคนดีจริงๆมาโค่น ไม่มีใครปกป้องได้ แต่ดันเป็นคนแอบแฝง กลุ่มผลประโยชน์ และผู้สนับสนุนอยากให้ปชป เป็น รบ มาโค่น ด้วยเจตนาไม่บริสุทธ ย่อมมีอันเป็นไป

เชื่อเหรอครับ ?

 

 

ปล. หุ่นเชิดซะขนานนี้มันจะมีปัญญา ไปสร้างบุญบารมีอะไร...

       แ่ง มุขเดียวกับโคตรพี่มันเลย จำได้ไหมใครมันอ้างว่าเป็น "พระเจ้าตาก"...

     

Edited by chaidan, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:06.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

 

พวกหวังผลในบุญไงครับ ไม่ได้ทำบุญด้วยความเสียสละ ความโลภของตัวเอง

 

 

แล้วเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะอยากได้ 300/15,000 นี่โลภป่ะครับ 

 

 

 

เป็นไงล่ะ  โดนสวนหน้าหงายเลย

สม

[V for Macaw]

โห เอา ร.5 มาอ้างนี่ช่างกล้านะครับ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

โห เอา ร.5 มาอ้างนี่ช่างกล้านะครับ

 

คาดว่าเพราะรู้ดีว่าคนไทยเทิดทูนร.5 มาก

 

สังเกตไหมครับ ไอ้น้าชายมันก็โหนพระเจ้าตากสิน

 

เลือกมาแต่ละองค์ คัดแล้วทั้งนั้นว่าได้ "จิตวิทยามวลชน"