Jump to content


Photo
- - - - -

แต่งบัญชีซุกขาดทุน! สั่ง ธกส.แยกตัวเลขนอกงบฯเวียนเทียนส่งเทกระโถนแจง!


  • Please log in to reply
16 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:35

10570_636208399742194_1276958597_n.jpg

 

“ยิ่งลักษณ์” ซื้อเวลาโยน “วราเทพ” แจงจำนำ ทั้งที่ประชุมบ้านพิษณุโลกเพิ่งตั้ง “โต้ง” เป็นพีอาร์หมาดๆ ใบ้กินตัวเลขขาดทุนที่รับได้ บอกเพียงให้สมดุล “บุญทรง” ส่อแววตายเดี่ยวถูกปูบี้หนัก เริ่มเล่นแร่แปรธาตุ อนุมัติรวม “นาปี-นาปรัง” เป็นชุดเดียว พร้อมให้ใช้เงินขายสินค้าเกษตรทั้งกระบิมาอุ้มข้าว ซ้ำร้ายสั่ง ธ.ก.ส.แยกบัญชีนอกงบประมาณ ไม่ต้องตั้งสำรองสินทรัพย์เสี่ยง “เต้น” ยังตอบไม่ได้ขายข้าว 1.2 แสนล้านให้ใคร “ธีระชัย” ซัด พณ.แถลงหลอกลวง ชี้ตัวเลขขาดทุนหักสต็อกแล้ว วงการค้าข้าวเชื่อข้อมูลเจ๊ง 2.6 แสนล้านบาท

ตัวเลขการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดยังคงเป็นปริศนาอยู่ โดยล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดกำแพงเพชรว่า ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าต่างกระทรวงต่างชี้แจง กระทรวงพาณิชย์จะพูดเพียงว่าขายข้าวได้จำนวนเท่าไร กระทรวงการคลังบอกว่าขายข้าวได้เงินเท่าไร แล้วประชาชนจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อขายข้าวแล้วภาพรวมเป็นอย่างไร จนทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จึงมอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานราชการ ข้อมูลจากสาธารณชนทั้งหมด เพื่อนำมาประมวลนำเสนอข้อเสนอแนะให้เกิดความชัดเจน ทั้งที่ในการประชุมที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งตั้งทีมประชาสัมพันธ์ โดยมอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.การคลังดูแลเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

เมื่อถามว่า รัฐบาลยังยืนยันจะเดินหน้าในโครงการรับจำนำข้าวใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ตัวนโยบายถือเป็นนโยบายที่ดี ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลเข้าใจข้อห่วงใยต่างๆ จึงได้ให้ทุกหน่วยงานรวบรวมข้อมูล และให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กลับไปพิจารณาต่อไปว่า การรับจำนำข้าวในวันข้างหน้าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น ให้เป็นไปตามข้อห่วงใยทุกข้อลงไปในรายละเอียดในเชิงปฏิบัติต่อไป ซักต่อว่า การเปิดเผยตัวเลขช้าจะเป็นผลลบต่อรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่เป็น ตัวเลขก็คือตัวเลข ทุกอย่างอยู่ในระบบบัญชี เป็นฐานข้อมูลของรัฐอยู่แล้ว ส่วนปัญหาการทุจริต รัฐบาลได้ตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งหากพบการทุจริตก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนข้อโต้แย้งต่างๆ เรื่องก็อยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน ขอให้แยกกัน เมื่อถามว่า คิดว่าตัวเลขขาดทุนควรอยู่ที่เท่าไรที่เกษตรกรอยู่ได้ เศรษฐกิจประเทศอยู่ได้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูความสมดุล ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ หลังรวบรวมข้อมูลและประเมินเพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะต่างๆ แต่เมื่อถามว่า ได้เวลาปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์หรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้แถลงผลประชุม ครม.ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ได้รายงานยอดเงินในโครงการจำนำที่โอนผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโดยตรง 618,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดรวมตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2554 ถึงวันที่ 31 พ.ค.56 และมีปริมาณข้าวเปลือก 39.1 ล้านตัน ซึ่งที่ประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ถามถึงการชี้แจงตัวเลขการดำเนินโครงการ ซึ่งนายบุญทรงยอมรับว่า ยังคงมีข้อมูลที่สับสนบ้าง และได้ให้ กขช.รับผิดชอบเรื่องข้อมูลทั้งหมด ซึ่ง กขช.จะประชุมในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ จึงต้องรอผลสรุปออกมาอย่างไร ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมีข้อมูลเป็นตัวเลขมาเลยหรือไม่ นอกจากนี้ นายบุญทรงยังเสนอให้มีคนกลางเป็นผู้ให้ข้อมูลและชี้แจงต่อสาธารณะ
อ้างวราเทพเคยเป็น รมช.พณ. นายธีรัตถ์กล่าวว่า นายกฯ ได้มอบให้นายกิตติรัตน์เป็นคนกลาง แต่นายกิตติรัตน์เห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ จึงเสนอนายวราเทพเพราะเคยเป็น รมช.พาณิชย์ด้วย จึงเชื่อว่าจะทำหน้าที่ดังกล่าวได้ นายวราเทพกล่าวว่า จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะของหน่วยงาน ทั้งภาคราชการและภาคประชาชน เพื่อสรุปและประมวลผลเสนอต่อ ครม. ซึ่งนายกฯ ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาทำงาน แต่เมื่อเป็นเรื่องสำคัญและอยู่ในความสนใจจึงต้องทำให้เร็วที่สุด “อยากเรียนว่าความจริงคือความจริง รัฐบาลไม่สามารถหนีความจริงไปได้ ไม่ว่าใครก็ตาม” นายวราเทพตอบคำถามเรื่องการจำนำข้าวมีผลต่อรัฐบาลหรือไม่

ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุม ครม.ว่า ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้รวมปริมาณและวงเงินของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ในครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เข้าด้วยกัน เพื่อให้การดำเนินการยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะปริมาณการรับจำนำภายใต้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 เกือบเต็มกรอบ 15 ล้านตัน ทำให้ ธ.ก.ส.หยุดจ่ายเงินให้เกษตรกร จึงให้ พณ.เสนอขอขยายกรอบปริมาณและกรอบวงเงินต่อ กขช.เพื่อพิจารณาและเสนอ ครม.เพื่อทราบต่อไป ส่วนการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 2 มีเพียงล้านตัน  และเมื่อสิ้นสุดน่าจะอยู่ที่ 7 ล้านตัน ซึ่งไม่เกินกรอบ 22 ล้านตัน

เล่นแร่แปรธาตุ ธ.ก.ส.

นายภักดีหาญส์กล่าวต่อว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ได้ใช้เงินหมุนเวียนเกือบเต็ม 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุน ธ.ก.ส. 9 หมื่นล้านบาท และเงินกู้สถาบันการเงิน 4.1 แสนล้านบาท โดยเพื่อให้โครงการมีสภาพคล่องและบริหารเงินได้มีประสิทธิภาพ จึงกำหนดให้นำเงินที่ได้จากการระบายผลผลิตทางการเกษตรตั้งแต่ปี 2554/55 เป็นต้นไป ไปชำระคืนเงินทุนแก่ ธ.ก.ส. 9 หมื่นล้านบาทให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงค่อยชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อให้ ธ.ก.ส.สามารถนำเงินทุนกลับมาใช้หมุนเวียนสำหรับการดำเนินโครงการปีการผลิต 2555/56 ได้ และ ธ.ก.ส.สามารถสำรองจ่ายเงินกู้ชั่วคราวไปก่อนระหว่างรอเงินระบายข้าวได้ โดยให้คิดอัตราเงินชดเชยเงินต้นทุนและค่าบริหารโครงการอัตราเดิม โดยกำหนดให้ พณ.ตกลงกับ ธ.ก.ส.เป็นคราวๆ ไป นอกจากนี้ ครม.มีมติให้ ธ.ก.ส.แยกตัวเลขโครงการรับจำนำข้าวออกจากการดำเนินการตามปกติ โดยให้แยกเป็นบุญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ และบันทึกเป็นภาระผูกพันนอกงบประมาณ เพื่อทราบผลกระทบการดำเนินโครงการและขอชดเชยความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และ ธ.ก.ส.ไม่ต้องรวมผลการดำเนินโครงการจากเงินทุนที่ได้จากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ เป็นสินทรัพย์เสี่ยง

รายงานข่าวจาก ครม.สัญจรแจ้งว่า ในการประชุมเรื่องดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้สอบถามนายบุญทรง ถึงวัตถุประสงค์และสาเหตุที่ต้องรวมการรับจำนำข้าวนาปีกับนาปรังไว้ในครั้งเดียวกัน แตกต่างจากครั้งก่อนๆ ซึ่งนายบุญทรงชี้แจงนานกว่า 10 นาที ซึ่งนายกฯ นั่งฟังพร้อมแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ และได้ซักถามหลายครั้ง แต่นายบุญทรงไม่สามารถตอบให้เข้าใจได้ และมีสีหน้าเคร่งเครียด จนกระทั่งนายกิตติรัตน์, นายวราเทพ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ต้องช่วยชี้แจง กระทั่งนายกฯ เข้าใจ จากนั้นนายกฯ จึงได้มอบหมายให้นายวราเทพรับผิดชอบชี้แจงเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเคยเป็นอดีต รมช.การคลัง และเคยรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณมาแล้ว นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการจัดเสวนาจำนำข้าวสัญจร ที่ จ.พิษณุโลกว่า ได้รับการตอบรับน่าพอใจ โดยชาวนาตัวจริงพึงพอใจโครงการ และพร้อมสนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินโครงการต่อไป ครั้งต่อไปจะจัดที่ จ.อุบลราชธานี ภายในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะวกกลับมาในพื้นที่ภาคกลางอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่การยื้อเวลา แต่เป็นเวทีทำความเข้าใจ

ขายข้าว 1.2 แสน ล.ตอบไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีสมาคมชาวนาไทย เรียกร้องให้เปิดเผยตัวเลขขาดทุน นายณัฐวุฒิตอบเหมือนตอนแถลงข่าวที่กระทรวงพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ว่า ไม่ใช่เรื่องความลับ รัฐบาลไม่มีเจตนาปกปิด เพียงแต่กระบวนการทำงานยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องรอ กขช. และเมื่อซักถึงเงิน 1.2 แสนล้านบาทที่ขายข้าวได้และคืน ธ.ก.ส.แล้วนั้น มีรายละเอียดอย่างไร นายณัฐวุฒิก็ตอบว่า ตรงนี้อยู่ในส่วนคณะทำงานระบายข้าว ไม่ได้เข้าไปดูข้อมูลตรงนั้น แต่คิดว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่ง คณะทำงานเรื่องการระบายข้าวคงอธิบายความชัดเจนเรื่องนี้ วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงสถานการณ์การเมือง และเห็นว่านโยบายจำนำข้าวเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจและกำลังโจมตี จึงเสนอให้รัฐบาลเร่งชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องประโยชน์ที่ชาวนาจะได้รับ และเศรษฐกิจในภาพรวม

ส่วนนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตัวเลขที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ใช้แถลงข่าว เป็นตัวเลขจากรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยืนยันที่มาที่ไปได้ แต่ที่แปลกคือ รัฐบาลมีข้อมูลในมือ แต่กลับทำหน้าที่เหมือนฝ่ายค้านราวกับไม่มีข้อมูล ตอนนี้เหมือนว่าคนเป็นนายกฯ กลายเป็นนายอภิสิทธิ์ ที่รู้ว่ามีความเสียหายในโครงการ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้เลย ในขณะที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถหักล้างข้อมูลของพรรคได้ ทำได้เพียงดิสเครดิตแทนที่จะชี้แจงข้อมูลต่อประชาชน นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ปชป. ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยแนบคำสั่ง กขช.ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แต่งตั้งอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้นายบุญทรงและนายณัฐวุฒิถึงกับไปไม่เป็น  เพราะบทสรุปชัดเจนว่าเสียหายอย่างมาก ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวนายกฯ เป็นคนลงนามแต่งตั้งเอง ถ้าไม่ฟังก็ไม่ต้องแต่งตั้งอีก และให้ประกาศว่าขาดทุนเท่าไหร่ไปเลย

       
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง และประธาน ธ.ก.ส. ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงการแถลงข่าวของ พณ.ในเรื่องการขาดทุนในโครงการว่าคิดไม่ได้ เพราะยังมีสต็อกข้าวอยู่ว่า เป็นการบิดเบือน หลอกตัวเลข เพราะในทางบัญชี หากมีสต็อกเหลืออยู่ในมือ ก็ต้องหักสต็อกออกไปก่อนจึงได้ตัวเลขขาดทุน ซึ่งได้สอบถามคนในคณะกรรมการปิดบัญชีแล้ว ได้รับคำยืนยันชัดเจนว่า ตัวเลขขาดทุนที่คำนวณนั้นได้หักสต็อกออกไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมา นายธีระชัยยังได้โพสต์ความเห็นทางวิชาการ ระหว่างการจำนำและประกันราคาข้าว ซึ่งสรุปว่า วิธีประกัน รัฐขาดทุนเท่าไหร่ ชาวนาก็ได้ประโยชน์เท่านั้นเต็มๆ แต่วิธีจำนำ รัฐขาดทุนเท่าไหร่ ชาวนาได้ประโยชน์เพียงบางส่วน ที่เหลือจะตกหล่นเบี้ยบ้ายรายทาง แถมบางส่วนออกไปนอกประเทศ ส่วนที่ตกหล่นไปนี้ นอกจากสร้างภาระแก่ผู้เสียภาษีโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้เกิดขึ้นในแวดวงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ประโยชน์ที่ไม่ควรได้จากขบวนการรับจำนำอีกด้วย

ส่วนภาคเอกชน เช่น นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เสนอว่า รัฐบาลควรทบทวนโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาล 2556/57 ใหม่ โดยปรับลดเพดานราคารับจำนำจากตันละ 1.5 หมื่นบาท เหลือ 1-1.1 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมมะลิจากรับ 2 หมื่นบาท เหลือ 1.6-1.7 หมื่นบาท รวมทั้งปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด เป็นจำกัดปริมาณการรับซื้อให้สอดคล้องกับผลผลิตทางการเกษตรกรจริง “การรับจำนำข้าวฤดูกาล 2554/55 และฤดูกาล 2555/56 น่าจะสะท้อนความจริงให้กับรัฐบาลได้แล้ว ว่าเป็นราคาที่นำตลาดมากเกินไป ทำให้เกิดปัญหามากมายจากการขายข้าวไม่ออก และขาดทุนจำนวนมาก ทำให้เกิดภาระการคลังของประเทศ” นายชูเกียรติกล่าว 

วงการข้าวเชื่อเจ๊ง 2.6 แสนล.

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวกล่าวว่า วงการค้าข้าวได้ตั้งข้อสังเกตตัวเลขการขาดทุนโครงการ 2.6 แสนล้านบาท  ตามที่คณะกรรมการปิดบัญชีจัดทำ น่าจะเชื่อถือได้ เนื่องจากกระทรวงการคลังใช้หลักเกณฑ์คำนวณจากสต็อกที่รัฐบาลรับจำนำเข้ามา กับปริมาณข้าวที่รัฐบาลต้องระบายออกไปในราคาตลาด แม้ พณ.จะระบุว่าสต็อกยังจำหน่ายไม่หมด แต่หากนำสัญญาซื้อข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่เคยระบุว่าขายข้าวไปแล้ว 7.3 ล้านตัน ขาดทุนตันละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท หรือขาดทุน 7.3 หมื่นล้านบาท เมื่อมาเทียบกับข้าวในสต็อก หากขายทั้งหมดก็ขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท

สำหรับการทำหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อบริษัท มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสนั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยอมรับว่า ยังไม่สามารถทำหนังสือชี้แจงการขาดทุนจากโครงการรับจำนำให้มูดีส์ได้ เพราะอยู่ระหว่างพยายามหาข้อมูลที่ชัดเจนให้ได้ก่อน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเช่นกันว่า ต้องรอให้กระทรวงการคลังสรุปตัวเลขการดำเนินงานกับกระทรวงพาณิชย์ให้ตรงกันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนขึ้นอีก และต้องยึดเรื่องมาตรฐานทางบัญชีให้ตรงกันด้วย ส่วนผลขาดทุนจะเป็นเท่าไร จะตรงกันหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งสำคัญน้อยกว่าการทำบัญชีของโครงการให้ตรงกัน และเป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือของโครงการ

วันเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบโครงการประกันราคาข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ หลังพบว่าโครงการดังกล่าวขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท และส่อทุจริต ซึ่งนายพร้อมพงศ์ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือเป็นการแก้ลำเรื่องจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ทำในฐานะเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ที่ตรวจสอบหลายเรื่อง

 

http://www.thaipost....ws/110613/74863


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#2 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:43

เจริญจริงๆ รัฐบาลอีโง่


ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#3 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:09

อดีต รมว.คลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก เทียบประกันราคาข้าวกับรับจำนำ ฟันธงชาวนาได้ประโยชน์มากกว่า แถมไม่เป็นภาระงบประมาณ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala เรื่อง "เปรียบเทียบจำนำข้าวกับประกันราคา" ว่า ผมขอให้ความเห็นทางวิชาการ เปรียบเทียบจำนำข้าวกับประกันราคา ว่านโยบายไหนดีกว่ากัน

ขอเริ่มต้นว่า ผมไม่ขัดข้องที่จะมีการช่วยเหลือชาวนา แต่ที่ผ่านมา การถกเถียงเรื่องนี้มีการปะปนประเด็นกันไปมา จนทำให้เข้าใจเรื่องได้ยาก พูดกันที่ไร ก็อารมณ์เสีย ด่ากันไปๆ มาๆ ทำให้มองประเด็นวิชาการไม่ชัด

เรื่องนี้มี 2 มิติซ้อนกันอยู่

มิติที่หนึ่ง คือการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ทุกคนเห็นด้วยนั้น วิธีการที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการประกัน หรือการจำนำ คำถามคือ วิธีนั้นก่อภาระต่อรัฐเป็นเงินเท่าใด และรัฐจะเอาเงินจากไหมมาใช้เพื่อช่วยเหลือชาวนา

เงินที่จะใช้ช่วยเหลือชาวนานั้น จะใช้เงินจากการเก็บภาษีต่างๆ เพิ่มขึ้น หรือจะใช้เงินจากการเพิ่มหนี้สาธารณะ

ในมิตินี้ ถ้าใช้เงินจากการเก็บภาษี ก็จะไม่กระทบเครดิตของประเทศ แต่ถ้าใช้เงินจากหนี้ อาจจะกระทบเครดิตของประเทศอย่างแรง

ประเด็นหลักในมติที่หนึ่ง ก็คือ จะต้องมีการประเมินตัวเลขขาดทุน และประเมินภาระต่อรัฐ ให้ถูกต้องน่าเชื่อถือ และต้องชี้แจงให้ชัดว่าภาระดังกล่าว รัฐบาลจะหาเงินจากไหนมาใช้รองรับโครงการนี้

ถ้าไม่เปิดเผยตัวเลข หรือให้ตัวเลขที่ไม่น่าเชื่อถือ บริษัทจัดอันดับเครดิตและนักเศรษฐศาสตร์ ก็จะประเมินกันเอง และหากขาดทุนถึงขั้นที่ประเทศถูกเตือนหนักๆ หรือถูกลดเครดิต ก็จะไม่ต่างอะไรกับสถาบันระดับโลก เขาให้ vote of no confidence แก่รัฐบาล

ดังนั้น ในมิติที่หนึ่งนี้ ไม่ว่าวิธีจำนำข้าวหรือประกันราคา ต้องมีคำตอบเรื่องภาระของรัฐ และต้องมีการเปิดเผยข้อมูลเหมือนๆกัน

มิติที่สอง คือถามว่าวิธีการช่วยเหลือชาวนา วิธีใดที่ทำให้เงินผ่านไปถึงมือชาวนาเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่ากัน ในมิติที่สองนี้ ผมต้องอธิบายอย่างระมัดระวังมาก เพราะมิฉะนั้น ผู้อ่านจะคิดว่าผมเอนเอียงในด้านการเมือง

ผมได้เข้าอบรมหลักสูตร ปปร. รุ่นที่ 12 ที่สถาบันพระปกเกล้าในปี 2551/2552 และได้พบ ดร ธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ธกส. เราปรึกษากันแล้ว เห็นว่าโครงการจำนำข้าวที่ดำเนินการไปหลายครั้งในอดีตนั้น ทำให้เกิดภาะต่อรัฐอย่างมาก ไม่คุ้มกับผลดีที่ตกแก่ชาวนา

เราสองคนจึงได้ร่วมกันทำเอกสารวิชาการขึ้น ร่วมกันเสนอแนวคิด ให้รัฐบาลในอนาคต ควรจะใช้วิธีประกันราคา แทนการจำนำ เอกสารดังกล่าวเผยแพร่ต่อสื่อในปี 2552 และมีหนังสือพิมพ์บางฉบับได้นำไปอ้างอิงด้วย

ดังนั้น ในวันนี้ ที่ผมพูดถึงวิธีประกันราคา จึงยืนยันได้ว่าไม่ใช่การพูดเพื่อเข้าข้างพรรคประชาธิปัตย์


ทั้งนี้ ภายหลังที่ได้มีการเผยแพร่เอกสารวิชาการดังกล่าว ต่อมาเมื่อ ปชป. เข้ามาเป็นรัฐบาล ปชป. ก็ได้เปลี่ยนไปใช้นโยบายประกันรายได้ ซึ่งมีหลักคิดคล้ายคลึงกับที่เราเสนอในเอกสารวิชาการ

แต่ผมขอยืนยันว่า ปชป. ไม่เคยติดต่อสอบถามหรือพูดคุยกับผม ไม่ว่าในเรื่องเอกสารวิชาการ หรือในเรื่องโครงการประกันรายได้ของ ปชป. แต่อย่างใด และผมไม่ทราบว่า ปชป. ได้อ่านเอกสารวิชาการของผมหรือไม่ด้วยซ้ำ

กลับมาในประเด็นว่าวิธีการใด (ก) เม็ดเงินจะผ่านไปถึงมือชาวนามากกว่ากัน และ (ข) วิธีใดจะก่อภาระแก่รัฐน้อยกว่ากัน

ในเรื่อง (ก) เม็ดเงินน้้น ทั้งสองวิธี เงินผ่านไปถึงมือชาวนา

ในการเปรียบเทียบ ผู้อ่านต้องทำใจเป็นธรรมเสียก่อนนะครับ ท่านต้องยกเอาความรักเกลียดชอบชังทางการเมืองออกไปเสียก่อนชั่วคราว จึงจะเข้าใจแง่มุมทางวิชาการ

การเปรียบเทียบ ต้องเริ่มต้น ด้วยสมมุติฐาน ว่ามีการตั้งระดับการช่วยเหลือที่เท่ากันเสียก่อน คือ กรณีรับจำนำ ก็รับในราคา 15,000 บาทต่อตัน กรณีประกันราคา ก็ประกันในราคา 15,000 บาทต่อตัน

ถ้าคิดแบบง่ายๆ โดยยังไม่ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ มากมาย การประกันย่อมมีโอกาสทำให้เม็ดเงิน ผ่านไปถึงมือชาวนาเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่าแน่นอน

เพราะวิธีการประกันนั้น ทำได้ง่ายกว่า ขั้นตอนน้อยกว่า

(1) ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่ำกว่า (2) ไม่ปวดหัวเรื่องหาสถานที่เก็บข้าว (3) ไม่กังวลเรื่องข้าวหาย (4) ไม่ต้องเสียเงินให้แก่ชาวนาเขมร ชาวนาลาว และต่อไปชาวนาพม่า (5) ไม่มีการเวียนเทียนข้าว (6) ไม่มีสต๊อกลม (7) ไม่มีข้าวเสื่อมสภาพ (8) โรงสีไม่สามารถกดราคาแก่ชาวนาโดยอ้างว่าข้าวมีคุณภาพต่ำ (9) โรงสีไม่สามารถขยักเงินแก่ชาวนาโดยอ้างว่าข้าวมีความชื้นสูง (10) ไม่มีข้อครหาว่ารัฐขายข้าวในราคาถูกเกินไป หรือ (11) ขายแบบ G to G ทั้งที่ไม่ใช่ หรือ (12) ขายให้แก่พรรคพวกโดยเลี่ยงไม่มีการประมูลแข่งราคากันตามระเบียบราชการ

ถ้าหากวิธีจำนำจะเหนือว่าวิธีประกัน ก็เฉพาะในเรื่อง (ข) ในประเด็นว่าวิธีจำนำ อาจจะก่อภาระแก่รัฐน้อยกว่าก็ได้

ถามว่าจะก่อภาระต่อรัฐน้อยกว่าได้อย่างไร

แนวคิดของผู้ที่สนับสนุนเรื่องนี้ คือหวังว่า การที่รัฐกักตุนเก็บข้าวเอาไว้แต่ผู้เดียว จะทำให้ราคาตลาดโลกสูงขึ้น จึงเท่ากับ จะเอากำไรของผู้ส่งออกมาเป็นของรัฐ และบีบให้ประชากรโลกต้องยอมซื้อข้าวในราคาที่แพงขึ้น เพื่อลดภาระของรัฐ

ความหวังดังกล่าวจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อปริมาณข้าวในตลาดโลกจากแหล่งอื่นมีไม่มากนัก

แต่ในขณะนี้ การปลูกข้าวเพื่อส่งออกได้ขยายวงไปหลายประเทศแล้ว ไม่ว่าเวียดนาม อินเดีย และต่อไป พม่าก็จะเป็นแหล่งที่สำคัญ

นอกจากนี้ เนื่องจากโกดังเก็บข้าวในไทย ไม่ได้มีการลงทุนแบบมาตรฐานโลก ข้าวที่เก็บจึงเสื่อมสภาพเร็ว ยิ่งเก็บนาน ก็ยิ่งขายได้ราคาต่ำลงๆ

และถึงแม้การกักตุนสต๊อกเอาไว้ สมมุติอาจจะมีผลทำให้ราคาตลาดโลกสูงขึ้นก็ตาม ราคาที่สูงขึ้น จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ตราบที่รัฐบาลไทยยังกักตุนข้าวเอาไว้เท่านั้น แต่เนื่องจากสต๊อกข้าวไทยมีปริมาณมหาศาล ดังนั้น เมื่อใดที่รัฐบาลไทยนำข้าวออกขาย ราคาในตลาดโลกก็จะลดลง

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมจึงเห็นว่าการประกันจะทำให้เม็ดเงิน ผ่านลงไปถึงมือชาวนา เต็มเม็ดเต็มหน่วย กว่าการจำนำมาก

วิธีประกัน รัฐขาดทุนเท่าไหร่ ชาวนาก็ได้ประโยชน์เท่านั้น เต็มๆ

แต่วิธีจำนำ รัฐขาดทุนเท่าไหร่ ชาวนาได้ประโยชน์เพียงบางส่วน ที่เหลือ จะตกหล่น เบี้ยบ้ายรายทาง แถมบางส่วนออกไปนอกประเทศ

ส่วนที่ตกหล่นไปนี้ นอกจากจะสร้างภาระแก่ผู้เสียภาษีโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดี ให้เกิดขึ้นในแวดวงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ประโยชน์ที่ไม่ควรได้จากขบวนการจำนำอีกด้วยครับ

http://www.posttoday...าดีกว่าจำนำข้าว

 

 

จำได้ว่าลางๆว่า ปปช. เห็นคล้อยตามที่จะให้รัฐบาลใช้วิธีการประกันแทนจำนำ

เพราะโกงได้ยาก ลมมันเปลี่ยนทิศแล้วหรือ ฮ่าๆๆ เอาพวกโกงมานั่งเป็นรองประธาน

มันจะจับพวกเดียวกันหรือ


Edited by phoosana, 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:12.

We love fender.

#4 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:34

ถามสั้นๆ ง่าย ธกส จะล้มไหม? ผมไม่มีหนี้หรือเงินในนั้น แต่ 1 ธนาคารล้มมักโยงไกลเกินใครคิด ยังจำคราว BBC ได้
กลัวๆไงไม่รู้
  • wat likes this

#5 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:42

ถามสั้นๆ ง่าย ธกส จะล้มไหม? ผมไม่มีหนี้หรือเงินในนั้น แต่ 1 ธนาคารล้มมักโยงไกลเกินใครคิด ยังจำคราว BBC ได้
กลัวๆไงไม่รู้

 

:huh:  กระพ๊มมีบัตรออมทรัพย์อยู่ตั้งพันนึงแน่ะขอรับ...

 

:(  เกิดถูกเงินล้านมา ไม่มีจ่ายแหงๆ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#6 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:44

ธกส ถือหุ้นใหญโดยกระทรวงการคลัง 99.74% ถ้าเจ้งแปลว่ารัฐเจ๊ง ประเทศเจ๊ง


We love fender.

#7 yaijung1

yaijung1

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 580 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:48

ธกส ถือหุ้นใหญโดยกระทรวงการคลัง 99.74% ถ้าเจ้งแปลว่ารัฐเจ๊ง ประเทศเจ๊ง

 

ก็ถูกต้องครับ  เพราะรัฐบาลถังแตกแล้วในปัจจุบัน  รอดูต่อไปครับ ผมคนหนึ่งละที่อวยพรให้ท่านนายกปู เป็นนายกสมัยที่สองได้และอยู่ครบวาระ   รับรองต่อไปพรรคนี้สูญพันธุ์ไปเองแน่นอน



#8 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:44

นักการเมือง มาโกงแล้วก็ไป

 

ส่วนคนที่บรรลัย...ผอ.ธกส. ครับ

 

ไม่เซ็นต์ ก็ไม่ได้ ...เซ็นต์ไป ก็เตรียมตัว..!!! -_- -_-


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#9 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:04

แต่งเสร็จนโยบายจำนำข้าวอาจได้กำไร พวกสลิ่ม เงิบ งง แน่ๆ :lol:


ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#10 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:45

ตายละ ถ้า ธกส เจ๊ง นี่

 

ชาวนา ชาวรากหญ้าเตรียมตัวตายกันได้

 

ทุกวันนี้อยู่ได้ เพราะเงิน ธกส ทั้งนั้น

 

โอ้วววววววววววววววววววว

 

ไหนควายแดง มาแถสิ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#11 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:51

เอาน่าเป็นกำลังใจให้ว่าจะซุกเก่งขนาดไหน

 

จากประสบการณ์ข่าวดังแบบนี้รอดยากว่ะ

 

ทางที่ดีบ่องตงไปเลยดีกว่า :lol:


การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#12 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:19

ถ้า ธกส.เจ๊ง จะเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#13 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:38

บัญชีพาณิชย์จะแต่งยังไงก็ได้ครับ

แต่บัญชีคลังมันแต่งกันไม่ได้

ลองทำดูดิหวานหมูสนง.ตรวจเงินแผ่นดินเค้าเลยล่ะ


กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#14 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:27

ตายละ ถ้า ธกส เจ๊ง นี่

 

ชาวนา ชาวรากหญ้าเตรียมตัวตายกันได้

 

ทุกวันนี้อยู่ได้ เพราะเงิน ธกส ทั้งนั้น

 

โอ้วววววววววววววววววววว

 

ไหนควายแดง มาแถสิ

 

ถ้า ธกส. เจ๊งจริง ก็บอกไปว่า เจ๊งเพราะนโยบายประกันราคา ของ ปชป. สิครับ

ง่ายจุงเบย

^_^


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#15 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:19

ต่อไปราคาข้าว จะไม่มีวันได้โงหัวอี่กแล้ว

 

หล้งจากมีสต๊อค รอขายอีกหลายสิบล้านตัน

 

นโยบายรับจำนำข้าว ทำลายตลาดข้าววายป่วงหมดแล้ว

 

ถือเป็นเวรกรรมชาวนาไทย ที่เห็นดีเห็นงามไปกับพวกมัน

 

จะกลับมาทำโครงการประกัน ก็ทำยากกว่าเดิมอีก

 

เพราะตอนนี้ ราคาปุ๋ย ยาค่าแมลง ค่าแรงเก็บเกี่ยวก็สูง

 

ผมว่าอย่าไปกังวลกับมันมากเลย...

 

ถึงตอนนี้แล้ว  ปล่อยให้พวกมันทำบ้านเมืองชิ บ หายไปเถอะ

 

จะได้รู้กันด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาสั่งอธิบายกันปากเปียก ปากแฉะ

 

แล้วชาวบ้านก็กลับไปโง่กันเหมือนเดิม

 

:( 



#16 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:39

 

ตายละ ถ้า ธกส เจ๊ง นี่

 

ชาวนา ชาวรากหญ้าเตรียมตัวตายกันได้

 

ทุกวันนี้อยู่ได้ เพราะเงิน ธกส ทั้งนั้น

 

โอ้วววววววววววววววววววว

 

ไหนควายแดง มาแถสิ

 

ถ้า ธกส. เจ๊งจริง ก็บอกไปว่า เจ๊งเพราะนโยบายประกันราคา ของ ปชป. สิครับ

ง่ายจุงเบย

^_^

 

 

น่านสิครับ

 

สลิ่มอย่างผมก้อเงิบเบย

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#17 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:58

คำถามง่ายๆ ว่า ขายข้าวไปในราคาเท่าไหร่ ขายไปมากน้อยขนาดไหน

 

 

แต่ตอบไม่ได้...แต่ไปทำเรื่องที่คนอื่นไม่สนใจ

 

 

หรือว่ามันฟังภาษาไทยไม่ค่อยรู้เรื่องกัน

 

 

 

:lol: 






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน