"เสรีภาพนิสิตนักศึกษาในพระปรมาภิไธย"
#1
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 17:33
#2
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:30
#3
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:49
"เสรีภาพนิสิตนักศึกษาในพระปรมาภิไธย"
ถ้าไม่มีเสรีภาพแล้วจะจัดเสวนาได้หรือ?
จัดเสวนาได้แสดงว่ามีเสรีภาพอยู่แล้ว
--- จบข่าว ---
#4
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:27
มีอุดมการณ์ครับ แต่คิดผิดครับ ไม่มีใครสนใจผมเลย แถมยังรังเกียจอีกต่างหาก
เพื่อนไม่อยากคบเพราะเขาบอก ไอ้นี้คุยไม่รู้เรื่อง หาแฟนไม่ได้เพราะผู้หญิงกลัว
เขาคิดว่าบ้า เริ่มสังเกตตนเองมาเรื่อย ๆ จึงรู้ว่าที่จริงแล้ว
เราคือคนมีปัญหาที่เข้าสังคมปกติเขาไม่ค่อยได้ก็เลยอยากทำอะไรให้เขาสนใจให้เขา
มองว่าเราเป็นคนจริงจังกับชีวิต มีอุดมการณ์สูงส่ง เมื่อมองเห็นดังนั้น จึงเลิกเลยครับ
กลัวเป็นคนมีปัญหา
#5
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:42
เพราะแนวคิดเดิม ๆ ตัวอย่างเดิม ๆ มันค่อนข้างน่าเบื่อ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่างานนี้จะมีข้อมูลใหม่หรือเปล่า?
แต่ที่แน่ๆคือ คนแก่ที่ชื่ออำพล คงมีการยกตัวอย่างขึ้นแน่ ๆ
เอาเป็นว่าผมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ล่ะกัน เคยโพสไว้นานแล้ว...
ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมศึกษางานเขียนและงานวิจัยเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มาหลายชิ้น ทั้งเป็นงานเขียนต้องห้ามและไม่ต้องห้าม...
สมัยนี้งานเขียนที่วิจารณ์พระหากษัตริย์มีเพียบครับ เลือกหาอ่านได้ตั้งแต่หนังสือถึงวิทยานิพนธ์เลยทีเดียว
(สำหรับวิยานิพนธ์รู้สึกว่าโดนเขียนจนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วมั้ง)
เอาเป็นว่าในงานวิชาการที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์มีจำนวนมากครับ
ซึ่งผมเคยอ่านแล้วส่วนใหญ่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้องค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะการบอกข้อมูลอ้างอิงที่มีการอ้างอิงตั้งแต่ระดับเอกสารชั้นต้น จนถึงชั้นรอง แถมมีการอ้างอิงการสัมภาษณ์ที่ถูกต้องตามหลักงานวิจัย
แต่คนบางกลุ่มที่อยู่ในลัทธิต่อต้าน Loyalist (อันที่จริงกลุ่มแนวๆนี้มีมานานในประวัติศาสตร์แล้วนะ แต่พึ่งจะโด่งดังไม่กี่ปีนี้เอง)
พวกนั้นส่วนใหญ่ใช้เหตุผลที่ไม่ได้มองหลักความเป็นจริงว่า พระมหากษัตริย์ไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศตั้งแต่ยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
และพวกนั้นไม่ได้เข้าใจหลักธรรมชาติของมนุษย์ เพราะมนุษย์ทุกคนมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งรอบตัวมนุษย์นั้นทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ
ดังนั้นตามตรรกะของมนุษย์ย่อมต้องมองข้อดีมากกว่าข้อเสีย และที่สำคัญมนุษย์ต้องทำดีมากกว่าการทำไม่ดี!!!
ส่วนใหญ่งานเขียนของกลุ่มนั้นผมเคยอ่านหลายครั้ง ซึ่งผมชอบถามกับตัวเองว่า 'ข้อมูลนี้อ้างอิงจากไหน มีหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือหรือไม่!?'
มันก็เหมือนกับว่า... ผมขอยกตัวอย่าง คุณ A พูดกล่าวหาคุณ B ว่าอย่างโน้นอย่างนี้โดยไม่มีหลักฐาน คุณ A โดนคดีหมิ่นคุณ B
แต่ถ้าคุณ A พูดกับคุณ B ด้วยเหตุผลและหลักฐานอ้างอิง อาจไม่โดนคดีหมิ่นก็ได้ครับ
ผมบอกได้เลยว่าบางคนที่ต่อต้านมาตรา 112 บางคนยังไม่เคยอ่านงานเขียนวิจารณ์พระมหากษัตริย์เลยแม้แต่งานเดียว...
แต่มาต่อต้านมาตรานี้โดยบอกว่าไม่มีสิทธิและเสรีภาพ?....
อืม...ผมขอยกตัวอย่างหนึ่ง คนที่พูดวิจารณ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ก็เหมือนกับนักหนังสือพิมพ์หรือคนเขียนนิตยสารซุบซิบดารา
ถ้านักหนังสือพิมพ์หรือคนเขียนนิตยสารซุบซิบดาราใช้จินตนาการเขียนเรื่องราวต่างๆโดยไม่ใช่เรื่องจริง
เขาอาจจะโดนฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทได้ครับ ซึ่งกรณีนี้มีตัวอย่างมากมายครับ อย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุลโดนฟ้องหลายคดีไปแล้ว
หรือดาราอย่างคุณสุวนันท์ คงยิ่ง(กบ) ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเป็นต้น...
ทั้งหมดนี้ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยนะ
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ หนังสือต้องห้ามมีนามว่า "The King Never Smile"
ผมสงสัยว่าทำไมเล่มนี้ถึงเป็นหนังสือต้องห้าม? ผมอ่านไปสัก 2 รอบพอสรุปได้คือ...
1. ชื่อของหนังสือไม่เหมาะสม
2. เนื้อหาค่อนข้าง "ตรง" เกินไปจนสุ่มเสี่ยงการฟ้องร้องได้ ยกตัวอย่าง บทที่ 4 ของหนังสือเล่มนี้ชื่อ ...
ถ้าใครเคยอ่านบทที่ 4 ขอบอกว่าช่วงท้ายๆของบทที่ 4 เนื้อหาพุ่งตรงมาก แถมบอกว่าสิ่งนี้เป็นข่าวลือและเป็นทฤษฎีอีกต่างหาก...
และที่สำคัญ ตอนสรุปบทที่ 4 มีการเขียนเหมือน ... เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้???
ผมจึงไม่แปลกใจทำไมถึงเป็นหนังสือต้องห้าม ...
และไม่แปลกใจด้วยว่าทำไมถึงโดนฟ้องร้อง ...
ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการกลั่นแกล้งคนบริสุทธิ์โดยใช้มาตรานี้...อันที่จริงเกือบทุกมาตราก็กลั่นแกล้งได้เหมือนกันแหละครับ
ถ้าใครดู "รายการคุยกับแพะ" ก็รู้แล้ว หรือเรื่องการจับลิขสิทธิ์ในร้านคอมพิวเตอร์ที่มีการกลั่นแกล้งเพียบ ทำไมไม่ไปเรียกร้องให้แก้กฏหมายลิขสิทธิ์บ้าง?
ผมพูดตามตรงนะครับว่า กฏหมายไม่ผิด แต่มันผิดอยู่ที่คนใช้กฏหมาย
สำหรับเรื่องคนจะรักหรือไม่รักสถาบัน ผมว่ามันเป็นธรรมชาติสิทธิของบุคคลครับ
เพราะเหรียญมีสองด้าน มีรักยอมมีเกลียด มีสุขย่อมมีทุกข์ มีดำย่อมมีขาว อื่นๆ
แต่ถ้าไม่รักสถาบัน ผมว่าอยู่เงียบๆดีกว่าครับ อย่าแสดงออก เพราะมันจะเกิดเรื่องได้
มันก็เหมือนกับว่า ต้องมีมารยาททางสังคม กล่าวคือเข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตามครับ
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#6
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:45
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#7
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 23:25
#8
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 23:43
ต้องมีมารยาททางสังคม กล่าวคือเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ"
ไอ้ตรงนี้ไง ที่ผมบอกว่าเมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี้แหละ เพราะมันเป็นลักษณะของคนมีปัญหาในสังคม
คนปกติมันไม่มีหรอกครับที่อยู่ดี ๆ จะไม่ชอบหน้าคนโน้นคนนี้ การชอบหรือไม่ชอบมันต้อง
มีเหตุ ถามว่าพวกนี้มีเหตุอะไร ถ้าเขาอยู่บ้าน วันดีคืนดีเขาก็รู้สึกไม่ชอบหน้าคนข้างบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่มี
สาเหตุอะไรกับคนข้างบ้านเขาจะเป็นคนปกติไหม พื้นฐานทางครอบครัว การยอมรับจากสังคมคือปัญหา
ของคนพวกนี้ เขาจึงเลือกวิธีที่จะกระทำบางเรื่องบางอย่างให้สังคมมองว่าเขาก็มีความสำคัญ ผม
คิดว่าเขาไม่คิดอะไรได้มากกว่านี้ ยกเว้นไอ้ตัวการที่น่าจะมีวาระแฝงเร้นตามความคิดที่ฝังหัวอยู่
#9
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 00:50
"ถ้าไม่รักสถาบันผมว่าอยู่เงียบ ๆ ดีกว่าครับ อย่าแสดงออกเพราะมันจะเกิดเรื่องได้มันก็เหมือนกับว่า
ต้องมีมารยาททางสังคม กล่าวคือเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ"
ไอ้ตรงนี้ไง ที่ผมบอกว่าเมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี้แหละ เพราะมันเป็นลักษณะของคนมีปัญหาในสังคม
คนปกติมันไม่มีหรอกครับที่อยู่ดี ๆ จะไม่ชอบหน้าคนโน้นคนนี้ การชอบหรือไม่ชอบมันต้อง
มีเหตุ ถามว่าพวกนี้มีเหตุอะไร ถ้าเขาอยู่บ้าน วันดีคืนดีเขาก็รู้สึกไม่ชอบหน้าคนข้างบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่มี
สาเหตุอะไรกับคนข้างบ้านเขาจะเป็นคนปกติไหม พื้นฐานทางครอบครัว การยอมรับจากสังคมคือปัญหา
ของคนพวกนี้ เขาจึงเลือกวิธีที่จะกระทำบางเรื่องบางอย่างให้สังคมมองว่าเขาก็มีความสำคัญ ผม
คิดว่าเขาไม่คิดอะไรได้มากกว่านี้ ยกเว้นไอ้ตัวการที่น่าจะมีวาระแฝงเร้นตามความคิดที่ฝังหัวอยู่
ปัญหาสังคมก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่งเช่นกันครับ และอีกปัญหาหนึ่งคือลัทธิ(ประหลาด) ยกตัวอย่างลัทธิ Anti-Loyalist ครับ
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#10
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 03:04
ทำไมไม่ไปเรียน ม.ชินวัตรล่ะครับ
จะได้อยู่ใต้ตรีนไอ้แม้วแทน
แถมได้รับปริญญาบัตร
จาก ทักษิณหมาราษฏร์ เชียวนะ
#11
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:48
"ถ้าไม่รักสถาบันผมว่าอยู่เงียบ ๆ ดีกว่าครับ อย่าแสดงออกเพราะมันจะเกิดเรื่องได้มันก็เหมือนกับว่า
ต้องมีมารยาททางสังคม กล่าวคือเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ"
ไอ้ตรงนี้ไง ที่ผมบอกว่าเมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี้แหละ เพราะมันเป็นลักษณะของคนมีปัญหาในสังคม
คนปกติมันไม่มีหรอกครับที่อยู่ดี ๆ จะไม่ชอบหน้าคนโน้นคนนี้ การชอบหรือไม่ชอบมันต้อง
มีเหตุ ถามว่าพวกนี้มีเหตุอะไร ถ้าเขาอยู่บ้าน วันดีคืนดีเขาก็รู้สึกไม่ชอบหน้าคนข้างบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่มี
สาเหตุอะไรกับคนข้างบ้านเขาจะเป็นคนปกติไหม พื้นฐานทางครอบครัว การยอมรับจากสังคมคือปัญหา
ของคนพวกนี้ เขาจึงเลือกวิธีที่จะกระทำบางเรื่องบางอย่างให้สังคมมองว่าเขาก็มีความสำคัญ ผม
คิดว่าเขาไม่คิดอะไรได้มากกว่านี้ ยกเว้นไอ้ตัวการที่น่าจะมีวาระแฝงเร้นตามความคิดที่ฝังหัวอยู่
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือคอลัมนิสต์ที่เพิ่งโชว์นมเหี่ยวๆดำๆ
#12
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 15:58
ผมไปฟังเสวนาที่เกี่ยวกับมาตรา 112 หลายงาน แต่ผมพูดตามตรงว่า...ข้อมููลไม่มีอะไรใหม่เท่าไรเลย
เพราะแนวคิดเดิม ๆ ตัวอย่างเดิม ๆ มันค่อนข้างน่าเบื่อ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่างานนี้จะมีข้อมูลใหม่หรือเปล่า?
แต่ที่แน่ๆคือ คนแก่ที่ชื่ออำพล คงมีการยกตัวอย่างขึ้นแน่ ๆ
เอาเป็นว่าผมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ล่ะกัน เคยโพสไว้นานแล้ว...
ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมศึกษางานเขียนและงานวิจัยเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มาหลายชิ้น ทั้งเป็นงานเขียนต้องห้ามและไม่ต้องห้าม...
สมัยนี้งานเขียนที่วิจารณ์พระหากษัตริย์มีเพียบครับ เลือกหาอ่านได้ตั้งแต่หนังสือถึงวิทยานิพนธ์เลยทีเดียว
(สำหรับวิยานิพนธ์รู้สึกว่าโดนเขียนจนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วมั้ง)
เอาเป็นว่าในงานวิชาการที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์มีจำนวนมากครับ
ซึ่งผมเคยอ่านแล้วส่วนใหญ่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้องค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะการบอกข้อมูลอ้างอิงที่มีการอ้างอิงตั้งแต่ระดับเอกสารชั้นต้น จนถึงชั้นรอง แถมมีการอ้างอิงการสัมภาษณ์ที่ถูกต้องตามหลักงานวิจัย
แต่คนบางกลุ่มที่อยู่ในลัทธิต่อต้าน Loyalist (อันที่จริงกลุ่มแนวๆนี้มีมานานในประวัติศาสตร์แล้วนะ แต่พึ่งจะโด่งดังไม่กี่ปีนี้เอง)
พวกนั้นส่วนใหญ่ใช้เหตุผลที่ไม่ได้มองหลักความเป็นจริงว่า พระมหากษัตริย์ไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศตั้งแต่ยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
และพวกนั้นไม่ได้เข้าใจหลักธรรมชาติของมนุษย์ เพราะมนุษย์ทุกคนมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งรอบตัวมนุษย์นั้นทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ
ดังนั้นตามตรรกะของมนุษย์ย่อมต้องมองข้อดีมากกว่าข้อเสีย และที่สำคัญมนุษย์ต้องทำดีมากกว่าการทำไม่ดี!!!
ส่วนใหญ่งานเขียนของกลุ่มนั้นผมเคยอ่านหลายครั้ง ซึ่งผมชอบถามกับตัวเองว่า 'ข้อมูลนี้อ้างอิงจากไหน มีหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือหรือไม่!?'
มันก็เหมือนกับว่า... ผมขอยกตัวอย่าง คุณ A พูดกล่าวหาคุณ B ว่าอย่างโน้นอย่างนี้โดยไม่มีหลักฐาน คุณ A โดนคดีหมิ่นคุณ B
แต่ถ้าคุณ A พูดกับคุณ B ด้วยเหตุผลและหลักฐานอ้างอิง อาจไม่โดนคดีหมิ่นก็ได้ครับ
ผมบอกได้เลยว่าบางคนที่ต่อต้านมาตรา 112 บางคนยังไม่เคยอ่านงานเขียนวิจารณ์พระมหากษัตริย์เลยแม้แต่งานเดียว...
แต่มาต่อต้านมาตรานี้โดยบอกว่าไม่มีสิทธิและเสรีภาพ?....
อืม...ผมขอยกตัวอย่างหนึ่ง คนที่พูดวิจารณ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ก็เหมือนกับนักหนังสือพิมพ์หรือคนเขียนนิตยสารซุบซิบดารา
ถ้านักหนังสือพิมพ์หรือคนเขียนนิตยสารซุบซิบดาราใช้จินตนาการเขียนเรื่องราวต่างๆโดยไม่ใช่เรื่องจริง
เขาอาจจะโดนฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทได้ครับ ซึ่งกรณีนี้มีตัวอย่างมากมายครับ อย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุลโดนฟ้องหลายคดีไปแล้ว
หรือดาราอย่างคุณสุวนันท์ คงยิ่ง(กบ) ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเป็นต้น...
ทั้งหมดนี้ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยนะ
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ หนังสือต้องห้ามมีนามว่า "The King Never Smile"
ผมสงสัยว่าทำไมเล่มนี้ถึงเป็นหนังสือต้องห้าม? ผมอ่านไปสัก 2 รอบพอสรุปได้คือ...
1. ชื่อของหนังสือไม่เหมาะสม
2. เนื้อหาค่อนข้าง "ตรง" เกินไปจนสุ่มเสี่ยงการฟ้องร้องได้ ยกตัวอย่าง บทที่ 4 ของหนังสือเล่มนี้ชื่อ ...
ถ้าใครเคยอ่านบทที่ 4 ขอบอกว่าช่วงท้ายๆของบทที่ 4 เนื้อหาพุ่งตรงมาก แถมบอกว่าสิ่งนี้เป็นข่าวลือและเป็นทฤษฎีอีกต่างหาก...
และที่สำคัญ ตอนสรุปบทที่ 4 มีการเขียนเหมือน ... เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้???
ผมจึงไม่แปลกใจทำไมถึงเป็นหนังสือต้องห้าม ...
และไม่แปลกใจด้วยว่าทำไมถึงโดนฟ้องร้อง ...
ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการกลั่นแกล้งคนบริสุทธิ์โดยใช้มาตรานี้...อันที่จริงเกือบทุกมาตราก็กลั่นแกล้งได้เหมือนกันแหละครับ
ถ้าใครดู "รายการคุยกับแพะ" ก็รู้แล้ว หรือเรื่องการจับลิขสิทธิ์ในร้านคอมพิวเตอร์ที่มีการกลั่นแกล้งเพียบ ทำไมไม่ไปเรียกร้องให้แก้กฏหมายลิขสิทธิ์บ้าง?
ผมพูดตามตรงนะครับว่า กฏหมายไม่ผิด แต่มันผิดอยู่ที่คนใช้กฏหมาย
สำหรับเรื่องคนจะรักหรือไม่รักสถาบัน ผมว่ามันเป็นธรรมชาติสิทธิของบุคคลครับ
เพราะเหรียญมีสองด้าน มีรักยอมมีเกลียด มีสุขย่อมมีทุกข์ มีดำย่อมมีขาว อื่นๆ
แต่ถ้าไม่รักสถาบัน ผมว่าอยู่เงียบๆดีกว่าครับ อย่าแสดงออก เพราะมันจะเกิดเรื่องได้
มันก็เหมือนกับว่า ต้องมีมารยาททางสังคม กล่าวคือเข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตามครับ
ถูกต้อง เห็นด้วยทุกประการ ครับ เลย สงสัย ไอ้ พวกตัว เ หี้ย ตัว5 ทั้งหลายรวมในนี้ด้วย ว่า มาตรา 112 ไปฆ่าพ่มรึงหรอ
#14
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 17:55
แค่เห็นชื่อกลุ่มก็แทบจะเห็นไส้แล้วว่าต้องการอะไร
#15
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:04
หน้าตามันในเฟตจะถูกสังคมตราหน้าว่าหนักแผ่นดินตราบชั่วฟ้าดินสลาย จบไม่สวยนะ 555
#16
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:07
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#17
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:38
ฟังคำตอบก็ "****" แล้ว ถ้าวิจารณ์อย่างสุจริต สังคมเขาจะไปตราหน้าหาพระแสงอะไร
#18
ตอบ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:44
หรือการวิจารณ์เรื่องส่วนตัวด้วยหรือ เพราะถ้ารวมด้วยคุณไม่ต้องจัดเสวนาหรอก ลองไปวิจารณ์ตามสไตล์ของคุณกับ
คนข้างบ้านดูว่าจะติดคุกไหม
#19
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 16:46
#20
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 16:57
ตกลงยกเลิกบางมาตราในรัฐธรรมนูญ 2550 เนี่ย เอาหลักอะไรมายกครับ อ. ทวีเกียรติถามวันก่อนยังไม่ตอบเลย อย่าเงียบดิ เดี๋ยวเสียฟอร์ม รู้ไหม
#21
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 02:12
#22
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 02:12
#23
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 02:19
ยังกะคอมมิวนิสต์เลยแหะ Orz...
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#24
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 15:45
#25
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 16:01
ถ้าเป็นประชาธิปไตย (แต่ปาก) อย่างที่พวกมันถวิลหาแบบเกาหลีเหนือ จะได้มาเห่าหอนอย่างนี้ไหม
#26
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 16:23
ช่วยประชาสัมพันธ์ จุฬาแดง
#27
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:50
ถ้าจะอ้างประชาธิปไตยโดยการเหยียบย้ำสถาบันฯ ก็อย่ามาทำกิจการอะไรที่จุฬาฯ เลยนะ เสื่อม เนรคุณผู้ก่อตั้งสถานศึกษาชัดๆ
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#28
ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:29
ปัญหามันอยู่ที่นิยมคอมมิวนิสต์แต่ทะเลึ่งมาเรียกหาประชาธิปไตย เรียกร้องหาสิทธิเสรีภหาพ นี่มันคอมมิวนิสต์ภาษาอะไร
คนนิยมคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยก็มีครับ แต่นิยมเพราะความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยสู้คนอื่นไม่ได้
เลยเอาคอมมิวนิสต์มาเป็นอุดมการณ์ให้ดูเก๋ ๆ แล้วเดินแหกปากเรียกหาประชาธิปไตย เลยไม่รู้ว่า
เป็นคอมมิวนิสต์พันธ์ไหน ผมไม่อยากดูถูกคนพวกนี้ว่าถ้าได้เป็นคอมมิวนิสต์สมใจอยากแล้ว จะไป
ได้สักกี่น้ำ พวกลูกพี่เขาที่เคยทิ้งอุดมการณ์ตะเกียกตะกายออกจากป่ามาไม่ควรทำบาปโดยปลุกผีคอมมิวนิสต์
ให้คนเหล่านี้หลงเชื่ออีก เพราะตัวเองรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันเพ้อเจ้อ อย่าเอาความผิดหวังในสังคมของตนมาหลอกเด็ก
เพราะปัจจุบันคอมมิวนิสต์มันจบไปแล้วไม่มีใครมาเผยแพร่ลัทธินี้แล้ว ที่เป็นอยู่ก็คือพวกคอมมิวนิสต์พันธ์ทางครับ