วันที่ 12 มิ.ย. 2556 นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ในฐานะทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี กรณีการอุ้มฆ่านายเอกยุทธว่า ตนเชื่อว่าการสังหารครั้งนี้มีผู้บงการ ทำกันเป็นทีม มีเสธ. มีการเมืองอยู่เบื้องหลังร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่ใช่ตนเชื่อคนเดียว ญาติของนายเอกยุทธก็เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน สังเกตได้ว่าศพของนายเอกยุทธถูกบีบคอ ตาถลน ลิ้นจุกปาก ลำพังนายสันติภาพ คนขับรถรูปร่างเล็กกว่าไม่มีทางบีบคอจนตาถลนอย่างนี้ได้
เดิมทีตนตั้งประเด็นไว้ คือ 1. ไล่พนักงานออก 3 คน แต่พอดูศักยภาพแล้วไม่มีปัญญาทำแบบนี้ 2. โยงการเมือง แล้วในที่สุดฆ่าแล้วไม่เอาเงิน จะให้ตนคิดอย่างไร มันมีเหตุผลหรือไม่ มันต้องได้รับเงินส่วนอื่น หรือได้รับคำสั่งมา
นายสุวัตรกล่าวต่อว่า บรรทัดฐานที่ตนได้มา คือ นายเอกยุทธถูกอุ้มตั้งแต่ร้านครัวกระแต โดยนายสันติภาพไปส่งนายเอกยุทธกินข้าว แล้ววิ่งรถออกไปรับทีมฆ่ามาซ่อนไว้หลังรถ จากนั้นกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง และจอดรถในลักษณะพร้อมวิ่งออกทันที
โดยบรรทัดฐานตรงนี้ต้องมีการทำงานเป็นทีมและไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะแม้แต่เงิน 5 ล้านบาท นายสันติภาพได้ไปทั้งหมด แสดงว่ามีทีมหนึ่งที่ประสงค์ต่อชีวิต ดังนั้นคนที่บีบคอนายเอกยุทธมีจำนวน 4-5 คน หลังจากที่นายเอกยุทธเปิดประตูรถวิ่งหนี มีการวิ่งตามไปบีบคอ และนำศพขึ้นรถไป ซึ่งเป็นไปตามที่นายสันติภาพพูดกับตน
นายสุวัตรกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่ายากที่ตำรวจจะสาวถึงผู้บงการ เพราะมีคำสั่งมาว่าอย่าให้โยงไปทางการเมือง ให้เป็นประเด็นการชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่นอกจากเราจะมีหลักฐาน ซึ่งฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่บ้านนายเอกยุทธได้บันทึกภาพไว้ทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้คนร้ายต้องถอดไป แล้วถ้าตำรวจตามมาได้ลุ้นเลยมีใครบ้างในขบวนการ แต่ตำรวจจะใช้ความพยายามหรือไม่ ถ้าไม่ใช้ความพยายาม ตนมีหลักฐานอีกอันหนึ่งซึ่งต้องบอกให้เขาไปเอามา เพราะฮาร์ดดิสก์นี้เป็นกล้องวงจรปิด แล้วนายเอกยุทธสามารถดูผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้นหน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่บริษัท แม้จะเอาตัวนี้ออกไป ยังมีอยู่ เมื่อเอามาแล้วจะยืนยันเลยว่ามีใครในขบวนการอุ้มบ้าง แล้วทีมนี้มหากาฬ อุ้มแล้วกลับไปบ้านเปิดแอร์อยู่สบาย ตี 3 ค่อยออก มันไม่ธรรมดา
นอกจากนี้ อีกสิ่งที่หายไป คือ โทรศัพท์ของนายสันติภาพ ที่ใช้ติดต่อกับกลุ่มคนร้ายตลอดเวลาที่อยู่ร้านครัวกระแต บัดนี้ตำรวจยังไม่ได้โทรศัพท์เครื่องนั้นมา
นายสุวัตรกล่าวอีกว่า อยากให้สังคมจับตาว่าทีมฆ่ามีกี่คน แล้วทีมฆ่าโยงไปถึงใคร เหตุใดฆ่าแล้วไม่เอาทรัพย์อะไรเลย โดยให้นายสันติภาพทั้งหมด แล้วฆ่าทำไม แล้วรับเงินจากใครให้มาฆ่า ไล่ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ แต่เรื่องนี้เจอตอแน่ แต่เราก็รู้ว่ามันเกิดจากอะไร อย่างที่เอเอสทีวีสรุปว่าอาจเพราะวิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมถึง การเรื่อง ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ และเรื่องการเอาเงินภาษีไปโต้คลื่นสวาทที่มัลดีฟส์ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันสร้างความโกรธแค้น เลยจะอุ้มฆ่าไม่ให้พบศพเหมือนทนายสมชาย แต่กรณีนี้เจอศพ
นายสุวัตรกล่าวด้วยว่า สำหรับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บํารุง ตนจะคุยด้วย บอกให้ไปหาฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดมาให้ได้ ตนไม่มีอำนาจรัฐอาศัย แค่ความร่วมมือติดต่อบริษัทต่างๆ ยังได้หลักฐานมา ฉะนั้นคนมีอำนาจรัฐสามารถออกหมายเรียก ออกหมายค้น ต้องทำได้ดีกว่าตนมาก
“ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ว่าเดี๋ยวนี้ใครอยากพูดอะไรก็พูด อยากผลาญงบประเทศก็ทำ อยากฆ่าใครก็ฆ่า สมัยพี่ 2,500 ศพ มารุ่นน้อง ใครอยู่ตรงข้ามอุ้มฆ่า แบบนี้ไม่ถูก แล้วอย่านึกว่าคนไม่สู้ มันต้องสู้” นายสุวัตรกล่าวปิดท้าย.
http://www.manager.c...D=9560000071128
)/, on 13 Jun 2013 - 07:19, said:
เหมือนได้แค่รู้... แต่ทำอะไรไม่ได้... เพราะรู้ๆกันอยู่... แม่มหนาด้านกันขนาดไหน... โกงชาติแทบวอดวาย ยังเจื่อกมาสอนชาวบ้านเฉย... อย่าให้มีการโกง...
