Jump to content


Photo
- - - - -

หากท่านเป็นนักบัญชีภาครัฐ จะคำนวนอย่างไรให้จำนำข้าวขาดทุนน้อยที่สุด


  • Please log in to reply
22 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:27

  คือผมไม่เข้าใจระบบบัญชีมากนัก  จะว่าไปหลายท่านในที่นี้ด้วยเลยขอรบกวนเพื่อนสมาชิกที่มีความเข้าใจในระบบบัญชีอธิบายทีครับ  ขอภาษาง่ายๆนะ

 

 ปัจจุบันมีหลายภาคส่วนคำนวนผลกำไรขาดทุนของโครงการจำนำข้าว ต่างคนต่างใช่ข้อมูลต่างที่มาแต่คำนวนได้ 2 แสนล้านทั้งสิ้น

 

 ทางภาครัฐเองก็เคยหลุดตัวเลข 2 แสนล้านเช่นกันโดยคุณสุภา ก่อนเธอจะถูกย้าย.............

 

 ปัจจุบันภาครัฐกำลังคำนวนและยืนยันว่าไม่ถึง 2 แสนล้าน  ผมขอเดา(และน่าจะเดาถูก) มันคือการปั่นตัวเลขทางบัญชี การแต่งบัญชี

 

 เลยรบกวนเพื่อนๆที่มีความรู้ด้านบัญชีว่า  หากท่านต้องแต่งตัวเลขท่านจะทำอย่างไร อะไร

 

 อยากรู้ไว้ดักคอ..............

 

 ขอบคุณครับ



#2 ชายน้ำ

ชายน้ำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,256 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:39

จนท.ที่เข้ามารับหน้าที่แทนเกิดตกใจ ไฟเลยไหม้เอกสารหลักฐานหมดครับ



#3 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:42

วันนี้เท่าที่ฟังๆคือ การไม่ใช่ราคาตลาด เมื่อซื้อมาแต่ยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน หักแค้ค่าเสื่อม



#4 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:52

วันนี้เท่าที่ฟังๆคือ การไม่ใช่ราคาตลาด เมื่อซื้อมาแต่ยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน หักแค้ค่าเสื่อม

ก็ถูกแล้วนี

ขาดทุน = ราคาขาย < ราคาซื้อ

กำไร = ราคาขาย > ราคาซื้อ

ถ้ายังไม่ได้ขายแล้วมันจะขาดทุนได้ไง

รัฐบาลก็แค่บอกว่าไม่ได้ขาดทุน เพราะข้าวยังขายไม่ออก ที่บอกว่าขายออกนั้นเป็น white lie



#5 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:53

วันศุกร์แล้วก็ยังไม่มีคำตอบออกมา

สงสัยดึงเรื่องอย่างเดียว หวังให้คนลืม

ไม่ทวงถาม แล้วก็พ่นว่า "เรื่องเก่าๆ"



#6 Pisit Putwanphen

Pisit Putwanphen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 69 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:21

ผมเองก็พึ่งจบบัญชีมาใหม่ๆในปีนี้ครับ ถ้าเป็นผมล่ะก็จะใช้วิธี ดังนี้

 

1.  บันทึกข้อมูล แต่จงใจจัดผิดประเภท เช่น มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจริงในระหว่างงวด แต่จงใจบันทึกให้อยู่ในรูปของค่าใช้จ่ายล่วงหน้าหมวดสินทรัพย์ ทำให้งบกำไรขาดทุน มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าความเป็นจริง 

 

2. สร้างเอกสารปลอมขึ้นมา เช่น สร้างเอกสารใบสั่งซื้อปลอมขึ้น แค่นี้ก็ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ลูกหนี้เพิ่มขึ้นตาม เพราะฉะนั้นถ้าจะทำต้องทำให้ใกล้ปลายปี เพราะ ลูกหนี้จะได้ไม่คงค้างนานมากนัก ซึ่งสามารถส่งผลต่อการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

 

3. ถ้ามีรายการเกิดขึ้นระหว่างงวดก็ไม่ต้องไปบันทึก เช่น พวกค่าใช้จ่ายในการดูแลข้าวระหว่างขาย ก็ไม่ต้องไปบันทึกมัน

 

ประมาณนี้มั้งครับ



#7 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:38

บันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายตกหล่นครับ ข้าวในสต๊อกไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็บันทึกให้ข้าวมีจำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง ข้าวที่ขายก็ทำราคาให้สูงขึ้น อันนี้ทำง่ายๆ เวลาคนจับได้ ก็แหลอย่างเีดียว



#8 SpikyMoss

SpikyMoss

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,061 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:47

นักบัญชีทั่วโลกไม่ว่าจะทำงานให้กับที่ใดต้องยึดหลักการบัญชีที่นักบัญชีเรียกว่า Generally Accepted Accounting Principles: GAAP เหมือนกันอยู่ในสายเลือดค่ะ

 

หมายถึง แนวคิดหรือวิีธการที่นักบัญชีเห็นพ้องต้องกันเป็นส่วนใหญ่ในการปฏิบัติทางการบัญชีกับเหตุการณ์หรือรายการทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นว่าจะบันทึกบัญชีเมื่อใด มูลค่าเท่าใดและเสนอ รายงานในงบการเงินอย่างไร ประกอบด้วย ประเพณีนิยม (Conventions) กฎ ข้อบังคับ (Rules) และ วิธีปฏิบัติ (Procedures) ที่จำเป็นเพื่อกำหนดว่าสิ่งใดเป็นแนวปฏิบัติ (Practice) ทางการบัญชีที่รับรอง หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปของไทยปัจจุบันมาจากประเทศอังกฤษและอเมริกาผ่านทางตำราเรียนทางบัญชีและอาจารย์ทางบัญชีที่สำเร็จมาจาก 2 ประเทศนี้

ข้อสมมติฐานทางการบัญชีของไทย ได้แ่ก่
1.หลักการใช้หน่วยเงินตรา (Monetary unit assumption)
2.หลักความเป็นหน่วยงานของกิจการ(Business entity assumption)
3.หลักการใช้หลักฐานอันเที่ยงธรรม(Objectivity assumption)
4.หลักรอบเวลา(Periodicity assumption)

 

 

5.หลักการดำรงอยู่ของกิจการ(Going-Concern assumption)
6.หลักราคาทุน(Cost assumption)
7.หลักการเกิดขึ้นของรายได้(Revenue Realization assumption)
8.หลักการจับคู่รายได้กับค่าใช้จ่าย(Matching assumption)
9.หลักเงินค้าง(Accrual assumption)
10.หลักความสม่ำเสมอ(Consistency assumption)
11.หลักความระมัดระวัง(Conservation assumption)

 

นักบัญชีจะมองสถานการณ์ในแง่ร้ายไว้ก่อนเสมอ และต้องมีการบันทึกบัญชีสม่ำเสมอตามกฎ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมาอ้างว่า "ต้องรอให้จบโครงการจึงจะทราบผลกำไร-ขาดทุน" เพราะเราสามารถประมาณการได้ว่าสินค้าที่มีอยู่มีทั้งหมดอยู่เท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ กำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้นไปแล้วเท่าไหร่ และประมาณการกำไร/ขาดทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ทั้งหมดเท่าไหร่ 


ถ้าคิดประเมินประมาณการกำไรขาดทุนไม่ได้ไม่มีค่ะ ดูตัวอย่างจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์สิคะจะแสดงข้อมูลต่อสื่อเสมอว่าปีนี้คาดการณ์กำไร/ขาดทุนเท่าไหร่อะไรอย่างนี้  แล้วโครงการจำนำข้าวก็ต้องใช้หลักวิธีปฏิบัติเหมือนกั

ตอบกระทู้ข้างบน: นักบัญชีที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตัวเองตามหลัก GAAP ข้างบน ไม่สามารถทำการคำนวณให้จำนำข้าวขาดทุนน้อยที่สุดค่ะ เพราะหลัก conservative ทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย (ไว้ก่อน) ค่ะ


รังเกียจประชาธิปไตยจอมปลอมของระบอบทักษิณ


#9 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:23

ถ้าตั้งใจตอบแล้วจะมีคนมาป่วนแบบกระทู้ค่าเงินป่าวเนี่ย  ^_^  ^_^  ^_^

 

เอาวิธีการที่ถูกต้องก่อนนะครับ......วิธีการคำนวณที่ถูกต้องคือเราต้องวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือด้วย"ราคาทุน"หรือ"มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ" แล้วแต่มูลค่าใดจะต่ำกว่า
 
ในขณะที่มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ หมายถึง จํานวนเงินสุทธิที่กิจการคาดว่าจะได้รับจากการขายสินค้า (คือรายได้ที่คาดว่าจะขายได้นั่นเอง  ไม่ว่าจะซื้อมาแพงแค่ไหน  แต่คาดว่าจะขายได้ในราคาตลาดที่ต่ำกว่าราคาซื้อ  ก็ต้องคิดที่ราคาตลาด)
 
ทีนี้ลองยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ  สมมติว่าตุ้นทุนจำนวนข้าวคือ 15000 บาทต่อตัน  มีข้าวใน Stock จำนวน 10 ล้านตัน
ต้นทุนของสินค้าคงเหลิอคือ 15,000 x 10,000,000 =  150,000,000,000 (หนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท) 
 
แต่สมมติให้ราคาตลาดโลกที่เค้าขายๆ กันในปัจจุบันคือตันละ 10,000 บาท ดังนั้นมูลค่าสุทธิที่จะได้รับจากการขายคือ 10,000 x 10,000,000 =  100,000,000,000 (หนึ่งแสนล้านบาท) 
 
ซึ่งกฎทางบัญชีในเรื่องการรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายนั้น
มูลค่าที่ลดลงของสินค้าคงเหลือเนื่องจากการปรับมูลค่าให้เท่ากับมูลค้าสุทธิที่จะได้รับ รวมทั้งผลขาดทุนทั้งหมดที่เกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย (แปลง่ายๆคือ ส่วนต่างระหว่างราคาทุนกับราคาที่ขายได้ต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทันที)
 
ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคือ 150,000,000,000 - 100,000,000,000 = 50,000,000,000 (คือขาดทุนไปแล้ว ห้าหมื่นล้านนั่นเอง)
* ตัวเลขผมสมมติมานะครับ *
 
ในขณะที่วิธีการที่จะลดการขาดทุนส่วนนี้  
ง่ายๆเลยคือวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือด้วยราคาทุนเลย (คือซื้อมา แสนห้าหมื่นล้าน  ก็คิดไปเลยว่ามูลค่าคือแสนห้าหมื่นล้าน  ทั้งๆที่ไม่มีใครในโลกยอมซื้อที่ราคา 15,000 บาท/ตัน แน่ๆ) อันนี้เป็นวิธีที่คนทั่วโลกไม่ยอมรับนะครับ (ยกเว้นพวกเสื้อแดง)
 
ถ้าใครเคยจับหุ้น PTT คงจะคุ้นวิธีการวัด Stock นะ เพราะจะเห็นว่ามีรายการขาดทุนจากการสต๊อกน้ำมัน ซึ่งสาเหตุก็เป็นอย่างที่บอกมาเนี่ยแหละ
 
 
 
อ้างอิง
มาตรฐานการบัญชี
 
 
 
ยาวมากกกก  อ่านกันมั๊ยอ่ะ


#10 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:38

ตอบแบบ เสมียน บัญชี ปวส ลูก กระจ๊อก ก็แล้วกัน นะครับ

 

ผมจำไม่ได้ ตอนเรียน บัญชี รัฐบาล ตอน ปวส 1

 

ว่า รัฐบาล อนุญาต ให้มี หนี้สูญ หรือเปล่าครับ

 

แต่ตาม สามัญสำนัก ไม่น่าจะมีได้นะ

 

ถ้าใหญ่ขนาด รัฐบาล ยังมีหนี้สูญ นี่ก็แย่แล้ว

 

 

ถ้าไม่ใช้ ตัวนี้ ยากครับ

 

เพราะ หนี้สูญ จะมีการบันทึกยอดขายแล้ว

 

แต่ บันทึกเป็น ลูกหนี้ ด้านสินทรัพย์

 

แล้วถ้าเก็บ เงินลูกหนี้ ไม่ได้ นาน ๆ เข้า ค่อยตัดเป็น หนี้สูญ

 

ซึ่งกว่า จะถึงตอนนั้น รัฐบาลนี้ เผ่นแน่บ ไปแล้ว ก็ได้

 

 

ซึ่งระหว่างนี้ จะมีการบันทึกเป็น รายได้ ทำให้ กำไร สูงขึ้น

 

แต่เงิน ก็ รู้ ๆ อยู่ ว่าเก็บไม่ได้ หรอก นอกจาก ยายอึ่งอ่างยักษ์ จะคาย ออกมานะ (ไม่หยาบ นะ mod นะ ฮะ ๆ )

 

 

การตีราคาตลาด ของ สินค้าคงเหลือ ให้สูงขึ้น ก็เป็นไปได้

 

แต่ มันต้องโชว์ ราคาต่อหน่วย แค่ เด็ก ป.6 ก็น่าจะมองออกแล้ว ว่า ราคามันใช่หรือไม่

 

 

การลดค่าใช้จ่าย มันก็ได้ อยู่ แต่เงิน ที่ save ได้ จากการลดค่าใช้จ่าย

 

ก็ต้องคืนหลวงนะ ก็ต้องไปแงะ จากปาก ยายอึ่งอ่างยักษ์ อยู่ดี อะ ฮะ ๆ

 

 

สรุป ยากมาก กรณีนี้

 

เคยเห็น แต่ make ค่าใช้จ่าย ให้สูงขึ้น

 

แต่นาน ๆ จะเห็น make รายได้ให้สูงขึ้น หรือ make ค่าใช้จ่าย ให้ลดลง


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#11 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:42

การบันทึกสินค้าคงคลังทางบัญชี มีแค่ 3 แบบ

 

 1. FIFO   (First in First Out )  คือว่า สินค้า 5 ชิ้น  ต้นทุนที่ราคา 10 8 7 6 5 บาท   

                                                        ขายไป 3 ชิ้น ที่ราคา   9 8 7 บาท   รวม รายได้  24 บาท

                                                         ต้นทุนขาย ก็จะเอา สินค้าต้นทุนที่รับเข้ามาหักออกก่อน ได้   10+8+7  =  25 บาท  ดังนั้นขาดทุน 1 บาท

                                                          สิ้นค้าคงเหลือ = 6+5 = 11  บาท

 

2. LIFI( Last In First Out)    เข้าหลังออก่อน   จากโจทย์เดียวกัน   ต้นทุนขายจะเปลี่ยนเป็น 7+6+5 =  18 บาท

 

                                                                   จะมีกำไร 6 บาท สินค้าคงเหลือ มี 18 บาท

 

3. วิธีค่าเฉลี่ย                    ดังน้นต้นทุนต่อหน่วย =  10+8+7+6+5=  36/5=  7.2 บาทต่อหน่วย

 

                                                   ขายไป24 บาท ต้นทุน 7.2*3=  21.6   ขาดทุน .6 บาท  สินค้าคงเหลือ   14.4 บาท

 

จริงๆ งบ กำไร งบดุล ยังไม่เท่า งบกระแสเงินสด

 

ผมอยากให้ดู  กระแสเงินสดมากกว่า 

 

 

เท่าที่ตามข่าวมา ราคาตลาดของข้าว ไม่เคยขายได้มากกว่าราคาจำนำ  ดังนั้น มัน เสกตัวเลข ปั้นตัวเลขแน่ๆ หรือไม่ก็คงมีวิธีทางด้านบัญชีที่ผมไม่เคยเรียนมาอาจจะเป็นวิธีการที่ค้นพบใหม่ ในยุคนี้  ซึ่งไม่แน่ อาจจะได้ รางวัลโนเบิล แบบสมัย ทฤษฏี CAPM ที่โด่งดังในอดีต   น่าดีใจที่รัฐบาลปู นำแต่เรื่องดีๆ ในไทยครับ


Edited by puggi, 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:45.


#12 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:02

ถามย้อนกันนิด  ตอนนี้การคำนวนของแต่ละที่มีกี่ที่  และแต่ละที่คำนวนว่าขาดทุนเท่าไร

 

และเขาคำนวนจากอะไร เมื่อไม่มีตัวเลขจริงในมือ

 

และโอกาศคลาดเคลื่อนของคนนอกที่คำนวนมีมากแค่ไหน



#13 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:12

ตั้งลูกหนี้ขายข้าวล่วงหน้าขึ้้นมา เช่น บอกว่า มี TOR หรืออะไรก็แล้วแต่ จะขายข้าวให้ เอธิโอเปีย  หนึ่งแสนตัน ตันละ หมื่นหก

ุถึงเวลาขายไม่ได้จริง ค่อยหักล้างบัญชีนี้ออก 

แล้วค่อยตั้งลูกค้าจากดาวอังคารขึ้นมาใหม่

โชว์แต่บัญชีอย่างเดียว


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#14 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:39

ตั้งลูกหนี้ขายข้าวล่วงหน้าขึ้้นมา เช่น บอกว่า มี TOR หรืออะไรก็แล้วแต่ จะขายข้าวให้ เอธิโอเปีย  หนึ่งแสนตัน ตันละ หมื่นหก
ุถึงเวลาขายไม่ได้จริง ค่อยหักล้างบัญชีนี้ออก 
แล้วค่อยตั้งลูกค้าจากดาวอังคารขึ้นมาใหม่
โชว์แต่บัญชีอย่างเดียว


วิธีการนี้เหมาะสมที่สุด
แดงรับได้

#15 สมชายสายชม

สมชายสายชม

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,564 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:58

ผลดำเนินการปี ๕๔/๕๕ พวกรัฐมนตรีมันคำนวณตัวเลขขาดทุน "สามหมื่นกว่าล้านบาท"

 

แต่เจ้าพนักงานของกระทรวงพานิชย์คำนวณได้ "แสนกว่าล้านบาท" ตัวเลขต่างกัน

 

"เก้าหมื่นกว่าล้านบาท"  ทำไมมาตรฐานการบัญชีถึงได้ต่างกันอย่างมากมาย 

 

มันน่าจะจ้างนักตรวจสอบบัญชีมืออาชีพจากบริษัทเอกชนมาตรวจ

 

ส่วนวิธีที่จะทำให้ตัวเลขขาดทุนน้อยที่สุด คือ ให้ทำประกันอัคคีภัยไว้ทุกโกดังเก็บข้าว

 

แล้วสั่งให้เผาเพื่อเอาเงินประกัน

...


ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ หลงจู๊ ผู้รับเหมา นายทุน และนักการเมือง เป็นเจ้าของโฉนด

 

คนชั่วที่ชอบใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างว่า "มาจากการเลือกตั้ง"

ก็ไม่ต่างกับพระปลอมที่นำ "จีวร" มาห่มเพื่อหลอกชาวบ้าน


#16 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:40

เลื่อนตำแหน่ง ให้เงินใต้โต๊ะ ย้ายคนที่อยู่ตรงข้ามออก เอาคนของรัฐบาลมาทำงานแทน คำนวณให้ขาดทุนน้อยไม่ยากเลย  :lol:



#17 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:44

>>> อ๋อ..!! ง่ายมาก  ไอ้โจ๊ก แถ ไปตาม

... ความถนัด....บุนซ้ง..คันหู..!!!!๕๕๕



#18 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:09

เท่าที่อ่านอีกกระทู้

 

มั่วสูตรไม่ไหว  ยอมให้สงสัยแล้วเปลี่ยนวิธ๊.................เอวัง


Edited by sigree, 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:51.


#19 P For Vendetta

P For Vendetta

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 10 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:13

คนมันหน้าด้านอยู่แล้ว ....ก็เพิ่มยอดขายเลยดื้อ...เพิ่มลูกหนี้....แต่งตัวเลขสต็อกให้ตัวเงินสูงขึ้น(มีหลายวิธี)....ฯลฯ ทั้งหมดนี้ใครจะตรวจสอบเจอ คนกันเองทั้งนั้นใครไม่ใช่คนกันเองก็ทำให้เป็น

 

คนกันเอง...หรือไม่ก็ย้่ายไปซะ......

 

ถ้ามีจุดไหนถูกจับได้ก็ให้อ้างว่าลงบัญชีผิด.....



#20 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:15

ตกแต่งตัวเลขไม่ยากหรอกครับ

 

แต่ความจริงก็คือความจริง

 

โกหกวันนี้ความจริงจะปรากฎภายหน้า

 

โดนจี้เข้าความจริงจะปรากฎมาเอง

 

 

 

 

แต่ยังไงก็คงต้องตกแต่งกันหน่อย

 

สิ่งที่คาดหวังจากการตกแต่งก็คือ

 

ภายหน้าจะลืมๆเรื่องโกหกนี้กันไปเอง

 

 

ท่านๆ จะลืมกันหรือเปล่า แค่นั้นเอง


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#21 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:58

ผมจะเอายอดขายทั้งหมด ไปลงใส่ปีแรก อ้างว่าข้าวที่ขายเป็นข้าวจากโครงการจำนำปีแรก จึงต้องลงรายได้เป็นของ ส่วนของปีนี้ยังไม่ต้องปิด อ้างว่าต้องรอรับรู้รายได้จากปีหน้าก่อน เพื่อลดตัวเลขการขาดทุนสะสมลง



#22 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:27

 

วันนี้เท่าที่ฟังๆคือ การไม่ใช่ราคาตลาด เมื่อซื้อมาแต่ยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน หักแค้ค่าเสื่อม

ก็ถูกแล้วนี

ขาดทุน = ราคาขาย < ราคาซื้อ

กำไร = ราคาขาย > ราคาซื้อ

ถ้ายังไม่ได้ขายแล้วมันจะขาดทุนได้ไง

รัฐบาลก็แค่บอกว่าไม่ได้ขาดทุน เพราะข้าวยังขายไม่ออก ที่บอกว่าขายออกนั้นเป็น white lie

 

 

 

บุญทรงบอกยิ่งลักษณ์ได้.....

เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ต้องการความจริงว่า'ขาดทุน'มหาศาล.....!

ถามพนักงานบัญชีร้านค้า'โชวห่วย'ก็รู้....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#23 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:30

ตกแต่งตัวเลขไม่ยากหรอกครับ

 

แต่ความจริงก็คือความจริง

 

โกหกวันนี้ความจริงจะปรากฎภายหน้า

 

โดนจี้เข้าความจริงจะปรากฎมาเอง

 

 

 

 

แต่ยังไงก็คงต้องตกแต่งกันหน่อย

 

สิ่งที่คาดหวังจากการตกแต่งก็คือ

 

ภายหน้าจะลืมๆเรื่องโกหกนี้กันไปเอง

 

 

ท่านๆ จะลืมกันหรือเปล่า แค่นั้นเอง

 

 

 

ถ้าตกแต่งแล้ว

ไม่ยอมให้ตรวจสอบให้ถูกต้อ ง

ไม่ต้องตกแต่งให้เสียเวลา...

แค่บอกว่า'ความลับของราชการ'......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน