ถ้าพวกไพร่แดงมันแน่จริง ก็ให้มันแสดงตัวออกมาเลย ติดธงแดงไว้หน้าบ้าน ใส่เสื้อควายแดงเวลาออกจากบ้าน ติดสัญลักษณ์ควายแดงหรืออะไรก็แล้วแต่ที่แสดงออกว่าข้านี่แหล่ะควายแดงตัวจริง เปิดหน้าออกมาเลย
อยากรู้จริงๆว่าใครกันแน่ ที่ไม่แน่จริง
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่่ง
เอากันแบบให้ชัดๆไม่ต้องแอบต้องแอ๊บ ไม่ต้องอาย
บ้านใหนสีแดงติดธงหน้าบ้าน บ้านใหนไม่ติดคือไม่ใช่เสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางการปรามคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อ ต้านกลุ่มหน้ากากขาวบ้างหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การกระทำใด ๆ ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการยั่วยุหรือไม่ หากเดินหน้าต่อ จากนี้ไปไม่จำเป็นต้องมีเฉพาะคนเสื้อแดง อาจจะเป็นกลุ่มอื่น เช่นกลุ่มคนเสื้อหลากสี หรือกลุ่มใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางและไม่เชื่อกับความคิดเห็นของท่าน ก็จะมีการออกมาต่อต้านแบบนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลทุกกลุ่มในการออกมาแสดง ความเห็นจุดยืนทางการเมือง แต่จะต้องไม่เป็นไปในลักษณะล่วงละเมิดต่อผู้อื่นและเลยกรอบกฎหมายกำหนด การล่วงละเมิดไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใดหากผิดต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
“รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่สบายใจและกังวลในทุกครั้งที่มีการปะทะกัน ของกลุ่มประชาชน ไม่ว่าจะกลุ่มหน้ากากขาวหรือเสื้อสีใดก็ล้วนเป็นคนไทย เป็นพี่น้องร่วมชาติ ดังนั้นการกระทำใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นน้ำผึ่งหยดเดียว ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะอย่างรุนแรงและ การเผชิญหน้า ไม่ว่าจะกลุ่มใดต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ และผมไม่เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไปทำอะไรใครก็ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด”
http://www.manager.c...D=9560000072276
การต่อต้านของประชาชน
พลเอกสุจินดา คราประยูร ได้ให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า ตนและสมาชิกในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจะไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ใด ๆ แต่ภายหลังได้มารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งไม่ตรงกับที่เคยพูดไว้ เหตุการณ์นี้ จึงได้เป็นที่มาของประโยคที่ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" และเป็นหนึ่งในชนวนให้ฝ่ายที่คัดค้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำการเคลื่อนไหวอีกด้วย
การรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกสุจินดา ดังกล่าว นำไปสู่การเคลื่อนไหวคัดค้านต่าง ๆ ของประชาชน รวมถึงการอดอาหารของ ร้อยตรีฉลาด วรฉัตร และ พลตรีจำลอง ศรีเมือง (หัวหน้าพรรคพลังธรรมในขณะนั้น) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ที่มีนาย
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เป็นเลขาธิการ ตามมาด้วยการสนับสนุนของพรรคฝ่ายค้านประกอบด้วยพรรคประชาธิปัตย์, พรรคเอกภาพ, พรรคความหวังใหม่และพรรคพลังธรรม โดยมีข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และเสนอว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง
หลังการชุมนุมยืดเยื้อตั้งแต่เดือนเมษายน เมื่อเข้าเดือนพฤษภาคม รัฐบาลเริ่มระดมทหารเข้ามารักษาการในกรุงเทพมหานคร และเริ่มมีการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารใน บริเวณราชดำเนินกลาง ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งในคืนวันที่ 17 พฤษภาคม ขณะที่มีการเคลื่อนขบวนประชาชนจากสนามหลวงไปยังถนนราชดำเนินกลางเพื่อไปยัง หน้าทำเนียบรัฐบาล ตำรวจและทหารได้สกัดการเคลื่อนขบวนของประชาชน เริ่มเกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางจุด และมีการบุกเผาสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง จากนั้นเมื่อเข้าสู่วันที่ 18 พฤษภาคม รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานครและให้ทหารทำหน้าที่รักษา ความสงบ แต่ได้นำไปสู่การปะทะกันกับประชาชน มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในบริเวณถนนราชดำเนินจากนั้นจึงเข้าสลาย การชุมนุมในเข้ามืดวันเดียวกันนั้น ตามหลักฐานที่ปรากฏมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน
เวลา 15.30 นาฬิกา ของวันที่ 18 พฤษภาคม ทหารได้ควบคุมตัวพลตรีจำลอง ศรีเมือง จากบริเวณที่ชุมนุมกลางถนนราชดำเนินกลาง และรัฐบาลได้ออกแถลงการณ์หลายฉบับและรายงานข่าวทางโทรทัศน์ของรัฐบาลทุกช่อง ยืนยันว่าไม่มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่การชุมนุมต่อต้านของประชาชนยังไม่สิ้นสุด เริ่มมีประชาชนออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพ โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมมีการตั้งแนวป้องกันการปราบปรามตามถนนสายต่าง ๆ ขณะที่รัฐบาลได้ออกประกาศจับแกนนำอีก 7 คน คือ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ, นางสาวจิตราวดี วรฉัตร และนายวีระ มุสิกพงศ์ โดยระบุว่าบุคคลเหล่านี้ยังคงชุมนุมไม่เลิก และยังปรากฏข่าวรายงานการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในหลายจุดและ เริ่มเกิดการปะทะกันรุนแรงมากขึ้นในคืนวันนั้นในบริเวณถนนราชดำเนิน
19 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางได้ และควบคุมตัวประชาชนจำนวนมากขึ้นรถบรรทุกทหารไปควบคุมไว้พลเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ย้ำว่าสถานการณ์เริ่มกลับสู่ความสงบและไม่ให้ประชาชนเข้าร่วม ชุมนุมอีก แต่ยังปรากฏการรวมตัวของประชาชนใหม่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงในคืนวันเดียวกัน และมีการเริ่มก่อความไม่สงบเพื่อต่อต้านรัฐบาลโดยกลุ่มจักรยานยนต์หลาย พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เช่นการทุบทำลายป้อมจราจรและสัญญาณไฟจราจร
วันเดียวกันนั้นเริ่มมีการออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจาก ตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของประชาชน ขณะที่สื่อของรัฐบาลยังคงรายงานว่าไม่มีการสูญเสียชีวิตของประชาชน แต่สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานภาพของการสลายการชุมนุมและการทำร้ายผู้ ชุมนุม หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยบางฉบับเริ่มตีพิมพ์ภาพการสลายการชุมนุม ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีการตรวจและควบคุมการเผยแพร่ข่าวสารทางสื่อมวลชน เอกชนในประเทศ
ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ ด้วยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางในเขตตัวเมือง เป็นนักธุรกิจหรือบุคคลวัยทำงาน ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์ 14 ตุลา ในอดีต ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นนิสิต นักศึกษา ประกอบกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือที่ เพิ่งเข้ามาในประเทศไทย และใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสารในครั้งนี้ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬนี้จึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อนึงว่า "ม็อบมือถือ"
http://th.wikipedia..../wiki/พฤษภาทมิฬ
อนุสรณ์เกิดช้าไป 40 ปี ควรเป็นโฆษกรัฐบาลถนอม-ประภาส ยุคสมัยเทคโนโลยีการรายงานข่าวยังด้อยคุณภาพและจำกัด.....
อนุสรณ์ กลัวไพร่เสื้อแดงทำร้ายหน้ากากขาว คนหลากสี และ ผู้ชมเวที'ผ่าความจริง'จะเป็น"น้ำผึ่งหยดเดียว" ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์พ่ายแพ้มวลชน "ม๊อบมือถือ"และ"โซเชียลเน็ทเวิร์ค".......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
Edited by ปุถุชน, 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:02.