เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานว่า กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่มีปัญหารถติดที่สุดในโลก เพราะใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชม. แต่เคลื่อนตัวได้เพียง 1 กม.เท่านั้น ขณะที่กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซียใช้เวลา 30 นาที เคลื่อนตัว 2 กม. สาเหตุเพราะช่องทางการจราจรของรถเมล์สาธารณะน้อย อีกทั้งมีรถส่วนตัวสะสมบนท้องถนนจำนวนมาก
ทั้งนี้เมื่อ 10 ปีก่อน กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เคยประสบปัญหาเลวร้ายกว่ากรุงเทพฯ เมื่อผู้สื่อข่าวในฟิลิปปินส์ เผยแพร่ข้อมูลว่าต้องใช้เวลาเดินทางถึง 8 ชม.ตั้งแต่เวลา 17.30- 01.30 น. ในวันต่อมา เพราะรถติดบนท้องถนน ทำให้รัฐบาลนั่งไม่ติดต้องออกมาเร่งแก้ปัญหาโดยการลดการใช้รถส่วนตัวจากเลขท้ายทะเบียน ให้เลขคี่วิ่งในวันคี่ เลขคู่ต้องหยุดวิ่ง พอถึงวันคู่ก็ให้เลขคู่วิ่ง เลขคี่ต้องหยุดวิ่ง จนสภาพการจราจรดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ก็เป็นคนหนึ่งที่เผชิญปัญหารถติดขัดสาหัสในกรุงเทพฯ เช่นกัน จึงได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @KentBKK เมื่อเวลา 06.53 น. วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า "On course for beating my record for time spent in car in BKK in one day : nearly 6 hours" หมายถึง วันนี้ได้สร้างสถิตใหม่ โดยใช้เวลาอยู่ในรถบนท้องถนนของกรุงเทพมหานคร นานเกือบ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ มีมานานแล้ว แต่ล่าสุดวิกฤติหนักทำให้รถติดอัมพาตในกรุงเทพฯ ยิ่งขึ้นเพราะรัฐบาลออกนโยบายลดภาษีรถคันแรก ทำให้มีรถใหม่เพิ่มขึ้นบนท้องถนนมหาศาล ขณะที่สภาพถนนเท่าเดิม และไม่มีมาตรการรองรับ แม้จะมีทางด่วนรองรับ แต่ช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็นก็มีสภาพการจราจรหนาแน่น ขณะที่รถไฟฟ้าก็ยังไม่ครอบคลุมถึงการเดินทาง ทำให้รถตู้ รถจยย. รับจ้างผุดขึ้นมาเป็นทางเลือกให้ประชาชนใช้เดินทางช่วงที่ถนนเต็มพรืดไปด้วยรถส่วนตัว
ด้านนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า ตอนนี้ปัญหารถติดไม่น่าแปลกใจเลย สาเหตุเดียวคือนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ออกมาทำให้รถเพิ่มทันตาในท้องถนนกรุงเทพฯถึง 7 แสนคัน การขยายผิวจราจรเพิ่มทำได้ยากเพราะพื้นที่หมดแล้ว เวนคืนก็ยากลำบากมากเพราะประชาชนไม่ยอม ระบบขนส่งมวลชนรองรับก็น้อย อีกทั้งเส้นทางไม่ครอบคลุมพอให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถสาธารณะ ในอดีตฝนตกรถติดจะสอดคล้องกัน แต่ปัจจุบันฝนตกแค่ทำให้ความเร็วเฉลี่ยของรถลดลง เพราะถนนลื่น ไปได้ช้าลง แต่ปัจจุบันเป็นเพราะรถส่วนตัวยึดถนนหมดแล้ว
ขณะที่นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขณะนี้กทม.และรัฐบาลอยู่ระหว่างสร้างรถไฟฟ้าหลายสาย ผิวการจราจรหลายสายถูกแบ่งเป็นช่องทางก่อสร้าง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถติดขัดมากขึ้น และติดล็อกเป็นวงแหวนกระทบไปทั่ว ขอให้ประชาชนอดทน อีก 3-5 ปีเมื่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จจะช่วยเพิ่มโครงข่ายรถไฟฟ้าเป็น 120 กม. จากที่มีอยู่ 60 กม. การจราจรจะคลี่คลายลง.
ที่มา - http://www.dailynews...thailand/212209
PS. ถ้าอ่านแล้ว ขออภัยด้วยครับ
เปิดเผยตัวอีกแล้วสินะ สื่ออำมาตย์