เรื่องที่น่าวิตกที่สุดเรื่องหนึ่งสำหรับเมืองไทยทุกวันนี้ ได้แก่เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รักษา กฎหมาย โดยเฉพาะตำรวจ หน้าที่ของตำรวจคือสอดส่องดูแลป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย และหาก มีก็ต้องจับกุมเอาตัวผู้กระทำความผิดมาเพื่อฟ้องร้องให้ศาลลงโทษ... ที่ว่าน่าวิตกที่สุดก็เพราะว่าในระยะนี้มีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นติด ๆ กันหลายครั้ง ที่แสดงว่า ตำรวจอาจจะกำลังไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน โดยจงใจหรือไม่ก็ตาม
กรณีผู้สวมหน้ากากสีขาวชุมนุมในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ เดือนนี้ แล้วถูกคน สวมเสื้อแดงขัดขวางและกลุ้มรุมทำร้ายจนบางคนได้รับบาดเจ็บ เป็นกรณีล่าสุด หนึ่งสัปดาห์ก่อน หน้านั้น ที่อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เมื่อวันศุกร์ที่ ๘ มิถุนายน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวที ปราศรัย “ผ่าหาความจริง” คนเสื้อแดงได้ยกพวกไปก่อกวนขัดขวาง และใช้ของแข็งยิงและขว้างปา ผู้ที่กำลังชุมนุมฟังการปราศรัย จนบางคนได้รับบาดเจ็บ ในกรณีเดียวกัน คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคุณชวน หลีกภัย ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกคนเสื้อแดงขัดขวาง จนกระทั่งต้องล้มเลิกการเดินทางไปร่วมปราศรัยที่จังหวัดลำพูน ขณะเกิดเหตุทั้งที่ลำพูนและที่เชียงใหม่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ เป็นที่อนุมานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเพื่อรักษาความสงบ แต่ครั้นเมื่อความไม่สงบเกิดขึ้น ตำรวจก็ปฏิบัติหน้าที่อย่าง หละหลวมหรือเหลาะแหละ ที่สำคัญก็คือตำรวจมิได้เข้าป้องกันมิให้มีการทำร้ายร่างกายกัน สาเหตุที่ตำรวจไม่กล้าทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิก็คงเป็นเพราะว่า คนเสื้อแดงที่ไปขัดขวาง การปราศรัยของพรรคประชาธิปไตยที่ลำพูน และขัดขวางการชุมนุมของคนสวมหน้ากากขาวที่ เชียงใหม่นั้นเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และสนับสนุน (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
... รัฐบาลคือผู้บังคับบัญชาของตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ตำรวจลืมไปว่าหน้าที่ในการรักษากฎหมายของตำรวจนั้น ไม่มียกเว้นผู้ใด หากทำผิดกฎ หมายถึงจะเป็นนายเป็นผู้บังคับบัญชาของตน ตำรวจก็จะต้องรักษากฎหมายและบังคับใช้กฎหมายด้วยการจับกุม ความบกพร่องของตำรวจจะเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือลังเลใจก็ตาม สมัยนี้สาธารณชนเห็น และมีการบันทึกไว้ทุกขั้นตอน โดยกล้องถ่ายภาพวงจรปิด หรือโดยกล้องที่ติดอยู่กับโทรศัพท์มือถือ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ลำพูนและเชียงใหม่นั้น ได้รับการบันทึกและถ่ายทอดออนไลน์ และเผยแพร่ไปทั่วโลกในทันที...
... การไม่ปฏิบัติหน้าที่เป็นความผิดทางอาญาและมีอายุความ ในขณะนี้ผู้เสียหายอาจจะ หวาดกลัวและไม่กล้าแจ้งความกล่าวโทษตำรวจฐานไม่ปฏิติหน้าที่ แต่ต่อไปเมื่อพรรคเพื่อไทย และ รัฐบาลชุดนี้หมดอำนาจ ก็ยังอาจมีผู้รื้อฟื้นกล่าวโทษ ตำรวจอาจตกเป็นจำเลย และถูกลงโทษตาม กฎหมายได้... ที่สำคัญไม่น้อยกว่าโทษทางอาญานั้นคือโทษทางสังคม เพราะการละเลยจงใจไม่ปฏิบัติหน้า ที่ของตำรวจ ย่อมทำให้ประชาชนเสื่อมคลายความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อตำรวจ และเมื่อหวังพึ่งตำ รวจไม่ได้ ในที่สุดบางคนบางพวกก็อาจตัดสินใจช่วยตัวเอง ด้วยการตอบโต้ผู้ที่ขัดขวางรังแกหรือ ทำร้ายเขา ตามวิธีที่เขาเห็นสมควร...
... การจลาจลและสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเมื่อไม่มีผู้รักษากฎหมายครับ...
สิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรปฏิบัติโดยเร็วที่สุด จึงได้แก่การกำชับและสั่งการให้ ตำรวจรักษา กฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นธรรม และโดยไม่ต้องกลัวว่าผู้ละเมิดกฎหมายจะเป็นใคร สังกัดพรรคใด ถ้าหากเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพิกเฉย หรือลังเลใจไม่กล้าสั่งการ ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องตัดสินใจเอง เหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นที่ลำพูนและที่เชียงใหม่ก็จะเกิดขึ้นอีก และอาจลุกลามไป จนกลายเป็นการใช้กำลังปะทะต่อสู้กัน ถึงตอนนั้นตำรวจก็จะจำเป็นต้องใช้วิธีปราบจลาจล ความ เสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองอาจร้ายแรงกว้างขวางเกินคาด สงสารบ้านเมือง เป็นห่วงบ้านเมือง ต้องตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการรักษากฎหมายและบังคับ ใช้กฎหมายอย่างฉับพลันและเคร่งครัด...