เอกยุทธ อัญชันบุตร คลุกคลีอยู่กับอำนาจเงิน อำนาจการเมืองมายาวนาน แต่ยังไงเขาก็ยอมรับกับเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทว่าเป็น นักการเมืองไม่ได้ นักการเมือง...ต้องมีฟอร์ม ต้องมีลีลา แต่เขาเป็นพวกสุขนิยม นอนตื่นสาย ตามใจตัวเอง นึกจะไปกิน อะไรก็ไป
ในสายตาเพื่อนฝูง เอกยุทธ เป็นคนไม่ถึงกับดิบ แต่คลาสสิกแบบตามใจตัวเอง เพื่อนอยากกินอะไรก็บอก เดี๋ยวเอกยุทธก็จัดให้ตามใจเพื่อน แต่เพื่อนก็ไม่มีอะไรตอบแทนนอกจากความจริงใจ ความสนุกสนานเฮฮา ตามประสาเพื่อนกัน
การเงิน การลงทุน น่าจะเป็นกิจกรรมหลักในชีวิต ชีวิตปกติเอกยุทธจะนั่งดูโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา ดูข้อมูลหุ้น ข้อมูลธนาคาร สถาบันการเงิน เอาแค่ข้อมูลที่ดูในโทรศัพท์ที่มีในตัวก็ปาเข้าไป 4-5 เครื่อง
ถามว่าใช้อะไรกันนักหนา ที่เห็นเครื่องเล็กๆ ยี่ห้ออาจไม่คุ้นตา แต่ขอบอกว่า เป็นยี่ห้อที่คนทั่วไปคงไม่ใช้แน่ สนนราคาเครื่องละหลักหลายแสนบาท
ช่วงท้ายสุดที่เจอกัน ถามถึงแนวคิดทางการเมือง อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร?
“เอกยุทธแนวทหารเลยนะ คล้ายๆกับว่าบ้านเมืองมันปรับปรุงไม่ได้หรอก แล้วเอาเข้าจริงๆก็ไม่เห็นจะรักพรรคการเมืองที่เป็นข่าวสนับสนุนจริงๆเสียด้วย บอกว่าใจไม่ถึง เค็ม ใจดำ ไม่ได้เรื่อง ก็ถามต่อไปแล้วสนับสนุนทำไม...ก็พูดกลับมาว่า ไม่มีใครนี่จะมาตั้งพรรคการเมืองเองก็เหนื่อย...”
เขาอาจจะมีความรู้สึกว่า เลือกตั้งไปก็สู้ไม่ได้ สถานการณ์แบบนี้ไม่ไหวแน่ ที่ผ่านมาหลายคน หลายพรรคเอกยุทธ อาจจะเคยสนับสนุนอยู่บ้าง โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีแนวคิดดีๆต่อประเทศชาติเอกยุทธจะชื่นชมมาก แต่ด้วยความแรงส่วนตัว ทั้งถ้อยคำและบทความเว็บไซต์อินไซด์เดอร์ หรือเฟซบุ๊ก ถือว่าน่ากลัวมาก จะเห็นว่าเวลามีคนโพสต์ก็โต้ตอบสวนกันรุนแรง
นับตั้งแต่โพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คประเด็น “ผู้หญิงเหนือ” เพื่อนๆพี่ๆหลายคนออกอาการรับไม่ไหว แม้ว่าคู่สนทนาจะบอกว่าไม่ได้เจตนาก็ตามที แต่ยังไงก็เป็นการเหมารวมอยู่ดี ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นหลักที่ทำให้เอกยุทธไม่กล้ามานั่งที่ประจำ บริเวณสวนน้ำตก โรงแรมโฟร์ซีซั่น...
ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็จะมองด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ อาจมีภรรยา คนใกล้ชิด มีญาติเป็นชาวเหนือ เมื่อไม่นานมานี้เองราวๆเดือนที่แล้วมีโอกาสไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นก็ยังเดินถามกัปตันว่าเอกยุทธ มาบ้างไหม เสียงตอบกลับมาบอกว่า...“คุณเอก ไม่ได้มาเลย หายไปนานเลยตั้งแต่มีข่าว”
ตอนหลังก็ไม่มีที่นั่งอยู่แล้ว อาศัยว่ามีเงิน จะไปที่ไหนก็ได้ ทั้งที่ปกติจะต้องนั่งตามโรงแรมใหญ่ๆเท่านั้น ใครจะคิดว่าร้านอาหารธรรมดาเขาก็จะไป...เคยถามมีโรงแรมแบบโฟร์ซีซั่นไหม เขาจะเป็นอย่างนี้
“เอกยุทธถือว่าแปลก มุมคิดทางการเมืองก็ไม่ได้ทำให้เขาคบเสื้อเหลืองแบบปักหลักรักกันกอดคอกัน ที่เห็นก็มีเพื่อนเสื้อแดงที่รักใคร่ชอบพอกันเหมือนกัน เหมือนกับว่าไม่ได้ปักหลักอยู่กับสีใดสีหนึ่ง”
เคยถาม ก็บอกว่า “ไม่เห็นเป็นไร เอาไว้คุย ก็มันเพื่อนกัน...เสื้อจะสีไหน อยู่พรรคไหนก็ไม่เกี่ยว เป็นความพอใจส่วนตัว”
ความสูญเสียครั้งนี้ถือว่าน่าเห็นใจ ไม่น่าพลาด
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่ามีตื้นลึกหนาบางอย่างไร ไม่รู้ว่าจะมีกลุ่มขบวนการที่หมายอุ้มเอาชีวิตจริงๆหรือเปล่า...หรือว่าจะมีใครอยู่เบื้องหลัง ใหญ่โตแค่ไหนบ้างหรือไม่ แต่ที่เห็นเป็นข่าวเรื่องนี้ถูกโยงให้ไปเกี่ยวพันกับอำนาจการเมืองอยู่เหมือนกัน
คนระดับนี้ไม่น่าจะจบชีวิตง่ายๆเพราะแค่อาชญากรรมธรรมดา “เอกยุทธ อัญชันบุตร” ฉายา “เจ้าพ่อลอนดอน” ถือว่าไม่ธรรมดา มีอิทธิพลพอสมควร ฐานะการเงินก็ร่ำรวย มีทีมรักษาความปลอดภัยพร้อม
ประเด็นสำคัญใครที่ทำอย่างนี้แล้วอย่าคิดว่าจะอยู่รอดง่ายๆ ถ้าเอาเงินไปแล้ว ปล่อยตัวมาเชื่อว่าทีมอุ้มก็ต้องตายเรียบ ดูผิวเผินหน้าตาแต่ละคนอายุยังน้อย จะกล้าทำกันเพียงลำพังเชียวหรือ?
“...อาจจะมีการจัดฉาก เพราะบางเรื่องที่เอกยุทธกำลังจะพูดออกมา ไม่แน่ว่าอาจจะนำไปสู่การทำรัฐประหารก็เป็นได้”
ฉายา “เจ้าพ่อลอนดอน” หรือที่หลายคนรู้จัก...“ป๊อด เจ้าพ่อลอนดอน”
คำว่าเจ้าพ่อลอนดอน แน่นอนว่าต้องมีที่มาที่ไป แต่ไม่ชัดเจนนักว่านอกจากดำเนินธุรกิจร่ำรวย โด่งดังแล้ว เบื้องหลังคำว่าเจ้าพ่อจะมีอะไรอื่นอีกหรือเปล่า
เอกยุทธ อัญชันบุตร หรือคนไทยที่ลอนดอนรู้จักในชื่อ “จอร์จ ตัน” เจ้าของร้านอาหารกำทอง และเป็นเจ้าของห้าง โอเรียนเต็ล ซิตี้ตั้งอยู่ในย่านที่มีคนเอเชียอยู่หนาแน่น ทั้งไทย จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฯลฯ
ชื่อ “จอร์จ ตัน” เป็นชื่อภาษาอังกฤษที่ตั้งขึ้นเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจ ง่ายต่อการเรียกและจดจำ เอกยุทธเลยตั้งชื่อนี้มาจากชื่อเล่น “ป๊อด” เลยมาเป็น “จอร์จ” ส่วน “ตัน” มาจากภาษาแต้จิ๋ว มีคนใช้เยอะและเรียกง่าย
ร้านกำทองในลอนดอนเป็นตึกแถวกว้างประมาณ 4 คูหา ร้านอาหารมีเฉพาะชั้นล่าง ชั้นบนไม่เกี่ยว ร้านนี้ตั้งอยู่ย่านถนนควีนส์เวย์ เยื้องๆกับร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นชื่อดัง
ส่วนห้าง โอเรียนเต็ล ซิตี้ เป็นห้างที่ค่อนข้างใหญ่ คล้ายๆบิ๊กซี... โลตัสบ้านเรา มี 2 ชั้นตั้งอยู่บนเนื้อที่ 11 เอเคอร์ คำนวณกันเอาเองว่าเท่าไหร่ เพราะ 1 เอเคอร์เท่ากับ 2.5 ไร่ การจัดพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน...ส่วนห้างใช้พื้นที่ 7 เอเคอร์ ที่เหลืออีก 4 เอเคอร์ช่วงเวลานั้นตั้งใจว่าจะทำโครงการจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัย
เพื่อขาย
ราคาที่ดินในลอนดอนวันนั้น เอกยุทธ คุยว่า ตกประมาณเอเคอร์ละ 200 ล้านบาทขึ้นไป...คิดแต่ที่ดิน 11 เอเคอร์ที่มีอยู่ในมือ ก็มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว
บรรยากาศในห้าง วางขายสินค้ามากมายหลายอย่าง เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน พืช ผัก ผลไม้ แบบเดียวกับซุปเปอร์มาร์เกตบ้านเรา
สังคมเมืองนอกในหมู่คนไทยด้วยกัน แม้ว่าจะเหมือนสังคมทั่วไปมีความอิจฉา ริษยากันอยู่ในที แต่ทุกคนก็ช่วยเหลือกัน ใครเดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือ ถ้าช่วยได้ ก็จะช่วย
เมื่อช่วยได้ ช่วยได้มากขึ้น นานวันเข้าก็จะเป็นที่รู้กัน ใครที่มีเรื่องเดือดร้อนก็จะเข้ามาหา “จอร์จ ตัน”...ทำให้ชื่อจอร์จตันรู้จักกันอย่างกว้างขวาง อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ป๊อด...หรือ...จอร์จ ตัน กลายเป็นเจ้าพ่อลอนดอนในท้ายที่สุด
ประเด็นสำคัญในวงการนักเล่นหุ้นเล่นเงินแถบเอเชีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ว่ากันว่าเอ่ยชื่อ “จอร์จ ตัน” ถ้าใครไม่รู้จักก็ถือว่าเป็นมือใหม่ เพราะเขาทำเงินได้เยอะ
เอกยุทธ อัญชันบุตร...พ่อมดการเงิน รู้ดีว่าคนอาชีพนี้ค่อนข้างโหดร้าย “รอเขาเจ๊ง ตอนตลาดเจ๊ง...ถึงจะเป็นตลาดของเรา จำเอาไว้เลยว่าช่วงที่โดนโจมตีเป็นช่วงที่ดีของเฮดจ์ฟันด์...ถ้าเศรษฐกิจดี ปกติเราจะหากินไม่ได้เลย...คือเราจะไปต่อได้เมื่อมันไม่แข็งแรง”
น่าเสียดายที่วันนี้ “จอร์จ ตัน” หรือ “ป๊อด เจ้าพ่อลอนลอน” คงเหลือไว้เพียงชื่อและความทรงจำเท่านั้น
http://www.thairath....ge1scoop/351558