ขนาดโกงยังแพ้ ไหนว่าพรรคนี้สะอาดนักหนา
กกต.แจกใบแดง ส.ส.ปชป. จ.ลำพูน ทุจริตเลือกตั้งกกต. มีมติเพิกถอนสิทธิ นายบรรจง วิพรหมชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 2 จ. ลำพูน เนื่องจากพบว่าทุจริตเลือกตั้ง17 มิถุนายน 2556 เวลา 19:29 น.นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.56 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายบรรจง วิพรหมชัย ผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งดำเนินคดีอาญาต่อนายบรรจง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้งทั้งนี้ ได้มีผู้ยื่นเรื่องคัดค้านนายบรรจง จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำพูน เขตเลือกตั้งที่ 2 ในการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 26 ส.ค.55 ที่ผ่านมา ในข้อหาให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองอย่างไรก็ตามไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากนายบรรจง ไม่ได้รับเลือกเป็นส.ส. เพราะคะแนนมาเป็นที่ 2 แพ้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย คือนายรังสรรค์ มณีรัตน์
มีใครเคยเห็นหัวหน้าพรรคคนดีออกมาขอโทษประชาชนที่ปล่อยให้เกิดการโกงการเลือกตั้งอย่างนี้หรือเปล่า
ขนาดปากว่าตาขยิบยังไม่เคยทำ จะให้เชื่อว่าหางส่ายแต่หัวไม่กระดิก เชื่อได้หรือ?
ยังอีก ยังทำเป็นไม่เห็นนนน แล้วหัวหน้าพรรคแดงนั่นมันใครวะ ไม่เห็นออกมาขอโทษมั่ง
นี่ขนาดไอ่ที่พูดถึง มีแต่พวกสอบตกนะ
ทีของตัวเองสอบได้แล้วโดนใบแดงไม่เห็นจะพูดถึง ทุ้ยย
nnnn43, on 17 Jun 2013 - 22:20, said:
อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นให้มาก
กลยุทธ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ส.ส.เพื่อไทย จ.สุรินทร์ ถูกศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี หลังพบแจกเงินจูงใจคนไปลงคะแนน
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของ นายกลยุทธ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 5 ปี หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากพบว่า นายกลยุทธ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (1)
ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า นายกลยุทธ ได้ปราศรัยหาเสียงจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์มาลงคะแนนเสียงให้ตนเอง ด้วยการให้เงินแก่ผู้มาฟังการปราศรัย ไม่ใช่การอบรมและจัดหาบุคคลมาช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ดังที่ นายกลยุทธ อ้าง โดยตามระเบียบของ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงนั้น ผู้สมัครสามารถจัดฝึกอบรมให้บุคคลช่วยหาเสียงได้ แต่ต้องแจ้งรายชื่อและจำนวนบุคคลให้ กกต. ทราบโดยบุคคลดังกล่าวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้ง เช่น ช่วยแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัคร หรือช่วยเรื่องการจัดปราศรัยได้ แต่กรณีของ นายกลยุทธ นั้น ไม่พบว่าผู้ที่ได้รับเงินไปได้รับมอบหมายให้ไปช่วยแจกแผ่นพับ เพื่อประชาสัมพันธ์ตัวผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง และยังไม่ได้แจ้งรายชื่อ และจำนวนบุคคลที่มาช่วยหาเสียงให้ กกต. จังหวัดสุรินทร์ ได้รับทราบ
นอกจากนี้ เนื้อหาที่ นายกลยุทธ ปราศรัยก็ไม่ใช่การให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้ง หรือกฎหมายการเลือกตั้ง ตามที่ นายกลยุทธ อ้าง หากแต่ให้ข้อมูลเรื่องพรรคเพื่อไทย นโยบายพรรค และให้ผู้ฟังการปราศรัยช่วยลงคะแนนให้ ดังนั้น การที่ นายกลยุทธ อ้างว่าเป็นการปราศรัยให้ผู้สนใจสมัครเป็นบุคคลผู้ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง จึงไม่น่าเชื่อถือ ศาลจึงพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี