http://www.posttoday...วหาย2-98ล้านตัน
"วราเทพ"แจ้งครม.พบตัวเลขปริมาณข้าวในสต๊อกของพาณิชย์-อนุกรรมการปิดบัญชีข้าวต่างกัน 2.98 ล้านตัน ลั่นหากข้าวหายต้องมีคนรับผิดชอบ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีมติรับทราบผลการสรุปตัวเลขการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลปีแรก หรือ โครงการข้าวนาปี ปีการผลิต 2554/55 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก นาปรัง ปี 2556 ของนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ วันที่ 31 ม.ค.2556 พบว่ามีผลการขาดทุนในปีแรก 1.36 แสนล้านบาท
ในการประชุม นายวราเทพ รายงานครม.ว่า ปริมาณสต๊อกข้าวสารของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวฯ และปริมาณข้าวสารที่กระทรวงพาณิชย์แจ้ง แตกต่างกัน 2.98 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งต้องตรวจสอบว่าข้าวสารอยู่ที่ไหน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) สั่งให้มีการตรวจสอบสต็อกข้าวสารในโกดังกลางภายใน 30 วัน
หลังการประชุม นายวราเทพตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวว่าข้าวที่หายไปนั้นอยู่ที่ไหน นายวราเทพขอรับไปหาหาข้อมูล
อย่างไรก็ตามนายวราเทพกล่าวว่า “หากมีข้าวหาย ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ”
นายวราเทพ อธิบายอีกว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีแรก มีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 21.78 ล้านตัน สีแปรสภาพเป็นข้าวสารได้ 13.42 ล้านตัน และพบว่าปริมาณข้าวสารที่อนุกรรมการปิดบัญชีฯแจ้งไว้ มีปริมาณสูงกว่าปริมาณข้าวสารของกระทรวงพาณิชย์ประมาณ 3 แสนตัน
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.2556 มีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 9.9 ล้านตัน และมีการสีแปรสภาพข้าวเปลือก 7 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นปริมาณข้าวสาร 4.2 ล้านตัน แต่ปรากฏว่ามีการส่งมอบข้าวสารเข้าโกดังกลางเพียง 1.7 ล้านตันเท่านั้น เหลือข้าวสารที่ยังไม่ได้ส่งมอบประมาณ 2.6 ล้านตัน
นายวราเทพ ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีแรกมีการจ่ายเงินในโครงการ 3.37 แสนล้านบาท แม้ว่าจะมีผลขาดทุน 1.36 แสนล้านบาท แต่พบว่าชาวนาที่นำข้าวเปลือกเข้าโครงการได้เงินเพิ่ม 4,000 บาทต่อตัน หรือคิดเป็นเงิน 8.71 หมื่นล้านบาท ส่วนชาวนาที่ไม่ได้นำข้าวเข้าโครงการได้เงินเพิ่ม 2,500 บาทตัน หรือ 2.84 หมื่นล้านบาท สรุปแล้วมีชาวนาได้เงินเพิ่ม 1.15 แสนล้านบาท
ผู้สื่อข่าวมีการซักถามนายวราเทพว่า หากคิดเฉพาะเงินที่จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวที่ชาวนาได้เงินเพิ่มขึ้น 8.71 หมื่นล้านบาท แต่ผลขาด
ทุนอยู่ที่ 1.36 แสนล้านบาทนั้น เงิน 4.97 หมื่นล้านบาท ตกอยู่กับใคร
นายวราเทพ กล่าวว่า เงินที่หายไปนั้น เป็นค่าบริหารจัดการ
แต่นักข่าวซักถามต่ออีกว่า แต่ในเอกสารปรากฏว่า มีการระบุเงินค่าจ้างโรงสีแปรสภาพข้าวอยู่ที่ 10,875 ล้านบาท ทำให้นายวราเทพ ชี้แจงไม่ได้ว่า เงินส่วนที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาทใครได้ประโยชน์
นักข่าวถามว่า มูลค่าข้าวสารในสต็อกที่ระบุว่ามีมูลค่า 1.55 แสนล้านบาท คิดจากปริมาณข้าวคงค้างในสต็อกกี่ตัน นายวราเทพ ตอบว่า “ขอประสานข้อมูลกับกระทรวงพาณิชย์ก่อน”
เมื่อถามว่า ข้าวสารที่มีการขายออกไปและมีการระบุว่ามีมูลค่า 5.91 หมื่นล้านบาท เป็นการขายข้าวกี่ตัน ราคาเท่าใด ขณะที่ นายวราเทพ ไม่สามารถตอบคำถามดังกล่าวได้
ด้าน นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 มีการระบายข้าวจนถึงเดือนมี.ค.2556 เป็นเงินจำนวน 76,001 ล้านบาท และจนถึงเดือนก.ย.2556 คาดว่าจะมีการระบายข้าวเป็นเงิน 73,082 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1.47 แสนล้านบาท
รายงานข่าวจากที่ประชุมครม. กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้รายงานผลการประชุมกขช.ให้ครม.รับทราบ จากนั้นนายวราเทพ ได้รายงานผลการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว และเป็นคนรายงานต่อที่ประชุมครม.เองว่า มีข้าวสารที่รัฐบาลจำนำมาจากเกษตรกรหายไปจากสต็อก 2.98 ล้านตัน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าข้าวจำนวนนี้อยู่ที่ไหน
สารภาพสิ้นไส้...จ่ายไปหลายแสนล้านเงินถึงชาวนาแปดหมื่นกว่าล้าน...***บริหารกันเก่งจริง ๆ
เรื่องข้าวหาย...ผมขออย่างเดียวอย่าให้่ท่านอำมาตย์เต้นรับผิดชอบ ตอนแดงเผาเมืองก็รับผิดชอบไปทีแระ
ตอนนี้ มันรัฐมนตรีช่วย...ถ้าต้องรับผิดชอบอีกต้องเป็นรัฐมนตรีแล้ว
แต่สุดท้ายเชื่อผมเหอะ เดี๋ยวมันต้องหาวิธีแถจนได้ว่าข้าวไม่ได้หายไปไหน
Edited by 55555, 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:21.