มันเป็นความคิดของอ้ายทักกี้ ณ ดูไบ มานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยเป็นรัฐบาลรอบแรก
อวดเก่ง ราคาคุย ดื้อด้าน ว่า ข้าวจะสามารถทำการควบคุมและกำหนดราคาเองได้เหมือนน้ำมัน จะทำเป็น cartel เหมือนกลุ่มโอเปก
โดยพยายามที่จะผนวกข้าวไทย ข้าวเวียดนาม ข้าวเขมร มากำหนดราคาตลาดโลก เพราะเห็นว่าประเทศไทยและเพื่อนบ้านมีผลผลิตสำหรับการส่งออกมากกว่าทั่วโลกในขณะนั้น
เลยกล้าที่จะออกนโยบายกำหนดราคาเกินเพดานการจำนำให้แก่ชาวนา และมากกว่าราคาจริงของตลาดโลกอยู่มาก เพราะเชื่อว่าเก่ง สามารถดันราคาเองได้
ปัญหาก็คือ ข้าวมันไม่เหมือนน้ำมัน คือ
1. ชาวโลกไม่ได้กินข้าวกันทุกคน หรือทุกประเทศ บางประเทศเขากินถั่ว ข้าวโพด มัน ข้าวสาลี ฯลฯ เป็นหลัก (เช่นเดียวกันกับในไทยเอง ปกติกินข้าว อยู่ดีๆ อ้ายทักกี้หลอกให้ไปกินหญ้าซะงั้น)
2. ราคาข้าวแพงขึ้น เขาทดแทนกินอาหารแป้งประเภทอื่นๆ ได้ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Substitute (แปลให้สำหรับพวกแดงโง่ๆ ในเวปนี้)
3. ข้าวสามารถปลูกได้เกือบทั่วโลก ได้ทุกทวีป ยิ่งหากราคาดี รัฐบาลของแต่ละประเทศเขาก็จะสนับสนุนให้มีการปลูกมากขึ้น เกิดการแข่งขันมากขึ้น มีปริมาณมากขึ้น
4. ข้าวที่ดีที่สุดในโลก สำหรับผู้บริโภค ไม่ใช่ข้าวไทย (หลายประเทศเขานิยมข้าวแข็ง ไม่ใช่ข้าวนิ่ม) อันนี้ เป็นข้อเท็จจริง หาข้อมูลได้จาก google
5. ประเทศผู้ผลิต มีหลายประเทศ ผลิตได้มากกว่าไทย แต่มีปริมาณการบริโภคภายในประเทศเขาเยอะ และ/หรือบางประเทศเขากำหนดเป็นยุทธศาสตร์ก่อน เพราะหากเกิดสงคราม ประชาชนเขายังจะมี
กินต่อไปมักเป็นนโยบายให้มีการขายภายในก่อนพิจารณาการส่งออก
6. เผอิญยิ่งเป็นความซวยของอ้ายทักกี้ ณ ดูไบ บางประเทศที่เคยผลิตได้ไม่เพียงพอและไม่ค่อยมีการส่งออก กลับผลิตได้เกินความต้อง เลยมีส่งออกมามากกว่าปกติ เช่นอินเดีย หรือบางประเทศผลิต
ได้มากขึ้น เลยส่งออกมาด้้มราคาให้ได้มากขึ้น เพราะไทยไม่ไปขาย ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพต่ำกว่า แต่เขาขายในราคาที่ต่ำกว่า เช่นเวียดนาม หลักเศรษฐศาสตร์ปกติ supply vs
demand ปริมาณมากขึ้นมื่อเทียบกับความต้องการคงที่ราคาต้องตกลงแน่นอน
7. ในปัจจุบันมีวิวัฒนาการทางเทคโนโยลีการผลิต ที่ให้ผลผลิต yield ได้มากขึ้น ใช้น้ำน้อยลง แถมมีพันธุกรรมข้าวที่หอมเพื่อมาแข่งตลาดข้าวหอมของไทยมากขึ้น เช่น ในสหรัฐฯ
8. ตลาดที่เคยกินข้าวหอมไทย ถือเป็นตลาดบน ราคาขยับแพงมากเกินกว่าตลาดจะรับได้ หันไปกินข้าวปากีสถาน ข้าวอินเดีย แม้ตอนแรกอาจจะบอกว่า รส กลิ่น ไม่ถูกใจ แต่กินไปกินไป ก็ชินเอง แถมราคาถูกกว่า
โดยสรุป นอกจากทำลายมูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไป กว่ามากกว่า 2 แสนล้านต่อปี ทำลายภาคการผลิตและระบบการจำนำ แทนที่จะให้มีการกำหนดราคาที่เหมาะสมกับตลาดให้แก่ชาวนาผู้ปลูก และในขณะเดียวกันไม่เอาเปรียบผู้บริโภคคนไทยด้วยกันเอง เพราะคนไทยต้องกินข้าวกันอยู่ทุกวัน หยุดให้มีการพัฒนาภาคการผลิตเนื่องจากชาวนาจะรอการจำนำราคาที่สูงผิดไปกว่าความจริง สร้างความเคยชินเป็นลักษณะระบบรัฐสวัสดิการเหมือนประเทศสังคมนิยม (มีประเทศไหนบ้างที่เป็นระบอบสังคมนิยมและสามารถคุยได้ว่ามีศักยภาพการผลิตที่ดี)
อุดหนุนผิดวิธี ต้องใช้เงินมาก ดินพอกหางหมู ไม่ยอมรับว่าทำผิด และแต่ดื้อดานทำต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งสูญเสียมากขึ้นอีก ตอนนี้ไม่มีโรงเก็บข้าวอีก เงินหมดที่จะหมุนเวียนเพราะไม่ได้ขายใคร สูญเสียตลาดต่างประเทศที่ได้สร้างฐานด้านความเชื่อถือและคุณภาพไว้หมด
ภายใน 2 ปีที่่ผ่านมา สามารถคุยได้ว่า รัฐบาลชุดนี้่ได้สร้างความ ship หาย ไว้แบบประวิติศาสตร์ไทยต้องจารึกไว้ เพราะได้นายกฯ โง่ๆ ไม่รู้อะไรเลย ไม่รับผิดชอบ เที่ยวต่างประเทศลูกเดียว เพราะสนุก คนที่เข้ามาบริหารแต่งตั้งมาไม่ความสามารถเลย เพียงเพื่อการตอบแทนกระทำความชั่วไว้ให้ โกงให้ เป็นปากหมากัดแทนให้ และเป็นลูกจ้างที่ทำหน้าตามคำสั่งและดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง นี้นี้ขนาดไม่รวม การกู้เงิน 2 ล้านๆ การใช้เงินน้ำอีก 3.5 แสนล้าน ด้วยนะ ทำลายประเทศชาติได้ครบวงจรพอดี
อนาถดีแท้ๆ
Edited by nornoo, 22 June 2013 - 04:19.