Jump to content


Photo
- - - - -

ความเห็นส่วนตัวผมว่า จำนำดีกว่าประกัน ถ้า....


  • Please log in to reply
54 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:38

ราคามันสมเหตุสมผล  เป็นการจำนำจริงๆ  ไม่ใช่การรับซื้อที่ราคาสูงกว่าตลาด   หากจะยอมเสียเพื่อช่วยชาวนา  ก็รับซื้อในราคาที่เป็นธรรมกับชาวนานิดหน่อย  แบบช่วยๆ  กัน  หยวนๆ  ไม่หักค่าความชื้นโหดๆ เท่าเอกชนอะไรแบบเนี้ย  แล้วให้ชาวนามาไถ่คืนไปขายได้ได้อีกหากราคาตลาดโลกสูงขึ้น  มีการจำกัดโควตา  รายหัวไม่เกินกี่ตัน  เพื่อเน้นช่วยชาวนารายย่อยตัวเล็กจริงๆ  ไม่ใช่นายทุน  เจ้าของที่ดิน  ชาวนารวยๆ  ปลูกเยอะๆ  ส่วนที่จำนำไม่หมดก็ไปหาทางระบายเอาเอง  

 

แต่มันพลาดก็ตรง  ไปกำหนดราคา 15000  นี่ล่ะ  มันเวอร์เกิน  การจำนำทุกเมล็ด  ก็แทรกแซงตลาดมากเกินไป  สุดท้ายรัฐก็ขายไม่ได้ขาดทุนเป็นแสนล้าน

สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำอยู่  คือลดลงเหลือ 12000  กับจำกัดปริมาณรับจำนำ  ผมว่าถูกแล้ว  แต่ว่า......  มันผิดจังหวะโครตๆ   หากทำอย่างนี้แต่แรกอาจไม่มีอะไรเสียหายมากมาย   แต่ดันไปสัญญากับชาวนา 15000  ไปแล้ว  ต้นทุนก็พุ่งนำหน้าไปแล้ว  รัฐบาลเองก็เป็นตัวการด้วย  ทั้งน้ำมัน  แก๊ส  ค่าแรง  จะมาลด  หักดิบชาวนาตอนนี้

ก็เดือดร้อนดิ   เตรียมรับมือม๊อบชาวนาได้เลย  ยังไม่รู้เลยจะเอากันอย่างไรต่อไป

 

อีกอย่าง  นโยบายจำนำ  แม้ปรับให้สมเหตุสมผลแค่ไหน  มันก็เป็นเพียงแค่นโยบายช่วยเหลือ  เกษตรระยะสั้นเท่านั้น   มันอยู่เดี่ยวๆ  ไม่ได้  แต่มันต้องมีนโยบายการพัฒนาด้านการเกษตร  ระยะยาว  ควบคู่ด้วย  สิ่งที่รัฐบาลควรทำควบคู่ไปกับโครงการรับจำนำข้าวคือ  นโยบายอะไรก็ได้  ที่เน้นลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา  

มีการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน  และเป้าหมายเพื่อให้  ชาวนามีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ  โดยพึ่งพาการช่วยเหลือจากรัฐน้อยลงเรื่อยๆ  จนถึงจุดนึงที่รัฐไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออีก   หรือ  การยกเลิกจำนำข้าวไปเลยนั่นเอง 


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#2 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:51

รัฐบาลลิงแก้แห ... ไม่เคยวางแผนอะไร สักแต่ว่าทำไปก่อนแก้ทีหลัง ... เหมือนวิถีชีวิตของคะแนนเสียงที่เลือกรัฐบาลนี้มา  <_<


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#3 เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง

เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,247 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:53

ต้องมีรัฐบาล และข้าราชการที่ปลอดจากการทุจริตให้ได้ก่อนมังคะ


ทักษิณเป็นเทพเจ้าจริงๆนะ ไม่เชื่อถาม เสื้อแดง ดูสิ

#4 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:02

ก็รัฐบาลนี้วางแผนอะไรยาวๆ ไม่เป็นนี่ครับ

ดูอย่าง นิรโทษกรรมพี่ (หรือพ่อง) มันดูสิ

มีแต่แบบขอไปที กะว่าขึ้นมาปั๊บได้แน่นอน 

ไม่วางแผนกันเลย แล้วก็เหลวทุกงาน


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#5 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:04

*
POPULAR

ผมเห็นต่างครับ ประกัน ยังไงก็ดีกว่าครับ  แค่โจทย์ให้ ทั้ง จำนำ และประกัน ที่ 15000 บาท เท่ากัน

 

ประกัน เราไ่ม่เสียค่าเช่าโกดัง   ค่าปรับสภาพข้าว รมยา  จิปาถะต่างๆ

 

ในขณะที่จำนำ เราเสียตรงนี้ครับ และโกงกินกันง่าย

 

ประกัน แม้ว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยว เงินเข้ากระเป๋าชาวนาทันที  แต่จำนำ  ก็ อดแดรกกันไป

 

ประกัน ของ ปชป จำกัดโควต้าช่วยเหลือชาวนารายย่อย ให้ไม่เกิน 25 ตันหากจำไม่ผิด

 

ประกัน ไม่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน การแข่งขันทำได้ ซึ่งมีโอกาศสูงที่จะทำให้ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน เพราะเอกชน

 

จะแย่งซื้อข้าวจากโรงสี  เพราะรู้ว่ารัฐไม่มีสต็อกข้าวในมือ  แต่จำนำ หากว่าเอกชนรู้ว่ารัฐสต็อกข้าวบวม  จะเร่งซื้อทำไม่ รอซื้อของถูกจากรัฐดีกว่า ฯลฯ

 

ประกัน ราคา เราสามารถเก็บข้าวส่วนนึงไว้กินเองได้ แต่จำนำ เราต้องเอาข้าวไปขายเอาเงินมาซื้อข้าวกิน

 

ประกันราคา หากเราสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ได้เยอะขึ้น ก็คือกำไรล้วนๆ

 

สรุปยังไงประกันก็ดีกว่าครับ   แต่ยังมีรอยโหว่ที่ต้องอุด ตรงที่บางคนมาลงทะเบียน แต่ไม่ปลูกข้าว ตรงนี้ต้้องตรวจสอบแก้ไขกันต่อไป

 

เสียดายที่ชาวนาไทย มองสั้น  ทั้งที่ระบบประกันแก้ไขจุดรั่วไหล ก็จะเป็นระบบที่ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ยั่งยืนในระยะยาวแท้ๆ


Edited by puggi, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:34.


#6 i-mic

i-mic

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 74 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:04

ต้องมีรัฐบาล และข้าราชการที่ปลอดจากการทุจริตให้ได้ก่อนมังคะ

 

 ความหวังลึกๆก็อยากให้เป็นเช่นนั้น  แต่พอนึกถึงความจริง   ชาตินี้คงไม่มี   หายากยิ่งกว่า  งมเข็มในมหาสมุทร



#7 i-mic

i-mic

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 74 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:13

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  


Edited by i-mic, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:14.


#8 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:24

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

ไม่มีทางครับ ข้้าวไม่ใช่สินค้าที่จะกำหนดราคาได้  เราตั้้งแพง  คนอื่นก็ไปซื้อเวียดนาม จีน อินเดียได้

 

แต่ว่า ควรสนับสนุน ระะบบโรงสีชุมชน  ระบบเกษตรอินทรีย์ พวกนี้ลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าข้าวได้

 

แต่ ยากครับ ชาวนาไทย ส่วนใหญ่ แมร่งโครต ขี้เกียจ พอหว่านข้าว เสร็จ รอเก็บเกี่ยว แดรกเหล้าทุกวัน บิงโก เช้าเย็น แล้วมันจะได้อะไร

 

พวกนี้สมควรตายห่า ให้หมด



#9 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:28

ความเห้นผมนะ ยกเลิก โรงสีเอกชนทั้งหมด แล้วรัฐ ดำเนินการเองทั้งหมด


ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#10 ParaDon

ParaDon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,946 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:33

ความเห้นผมนะ ยกเลิก โรงสีเอกชนทั้งหมด แล้วรัฐ ดำเนินการเองทั้งหมด

 

ยกเลิก พวกวิสาหกิจแล้วเอากลับคืนมาด้วย

 

พวกการฯทั้งหลาย ยกเว้น การโกงไม่ต้องเอามา


" รัฐธรรมนูญไม่มีมาตราใด อนุญาติให้รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โกงบ้านกินเมืองได้โดยไม่ผิดกกหมาย "


#11 dTone

dTone

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 418 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:43

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

 

ผมชอบตรงเนี้ย

คือทำเป็นโรงสีกลาง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงสีชุมชน ตัดระบบร่วมมือกับโรงสี

จัดการบริหารเอง ผมว่าไปรอดนะ แต่ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย

ไม่ใช่ไม่แสวงหากำไร แต่ ไม่แสวงหากำไรที่มากจนเกินไป วินๆทั้ง 2 ฝ่าย



#12 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:44

ประเด็นคือ ราคาตลาด...

 

ผมมองจากหลักการตลาดทั่ว ๆ ไป

 

จะให้ราคาตลาดสูงขึ้น ต้องเอาข้่าวออกจากตลาดก่อน

 

ต้องไม่มีการโหมข้าวเข้าตลาด

 

การรับจำนำมันเหมือนกับการทุ่มข้าวเข้าตลาด (ก็เก็บไว้ที่ อคส. หรือ โรงสีที่เข้าร่วมนั่นแหละ)

 

การประมูลออกไปขาย หรือ ส่งออก ก็รู้ ๆกันอยู่ว่ามันมีการคอรัปชั่น (ทุกรัฐบาล)

 

ทำให้ราคาข้าวในหลายปี ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่

 

การประกัน มันเหมือนเป็นการกันข้าวออกจากตลาด

 

ชาวนาเลือกได้ว่าจะขายไม่ขาย เพราะมีเงินประกันรายได้ไว้สำรองไว้ใช้จ่ายอยู่แล้ว

 

เวลาชาวนาแต่ละคนเลือกจะขายหรือไม่ขาย ก็ทำไม่พร้อมกัน ตามแต่กำลังของแต่ละคน

 

ผมเสียดายมากกว่า เราต้องการเวลาอีกนิดเดียว (คาดว่าไม่เกิน 1 ปี หลังรัฐบาลมาร์ค) สต็อคก็จะลดลงไปจำถึงจุดที่มี่ไว้แค่ความจำเป็นแล้ว

 

ส่วนเรื่องไทยจะเป็นผู้กำหนดราคาข้าวเอง...ตอนนี้เลิกคิดได้แล้ว

 

ตลาดต่างประเทศ เริ่มเคยชิน และรับได้ กับข้าวเวียดนาม และ อินเดีย แล้ว


Edited by 55555, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:45.


#13 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:56

 

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

 

ผมชอบตรงเนี้ย

คือทำเป็นโรงสีกลาง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงสีชุมชน ตัดระบบร่วมมือกับโรงสี

จัดการบริหารเอง ผมว่าไปรอดนะ แต่ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย

ไม่ใช่ไม่แสวงหากำไร แต่ ไม่แสวงหากำไรที่มากจนเกินไป วินๆทั้ง 2 ฝ่าย

 

เป็นไปไม่ได้ครับ

ลองไปถามอาจารย์เจิมดูสิ

คนนั้นเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข้าวเลย เคยเรียนกะแกมา


แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#14 dTone

dTone

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 418 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:58

 

 

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

 

ผมชอบตรงเนี้ย

คือทำเป็นโรงสีกลาง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงสีชุมชน ตัดระบบร่วมมือกับโรงสี

จัดการบริหารเอง ผมว่าไปรอดนะ แต่ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย

ไม่ใช่ไม่แสวงหากำไร แต่ ไม่แสวงหากำไรที่มากจนเกินไป วินๆทั้ง 2 ฝ่าย

 

เป็นไปไม่ได้ครับ

ลองไปถามอาจารย์เจิมดูสิ

คนนั้นเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข้าวเลย เคยเรียนกะแกมา

 

 

ขออภัย ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน

 

ผมไม่รู้จักอ่ะครับ

 

ช่วยตบกะโหลกผมหน่อย T_T



#15 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:58

ประเด็นคือ ราคาตลาด...

 

ผมมองจากหลักการตลาดทั่ว ๆ ไป

 

จะให้ราคาตลาดสูงขึ้น ต้องเอาข้่าวออกจากตลาดก่อน

 

ต้องไม่มีการโหมข้าวเข้าตลาด

 

การรับจำนำมันเหมือนกับการทุ่มข้าวเข้าตลาด (ก็เก็บไว้ที่ อคส. หรือ โรงสีที่เข้าร่วมนั่นแหละ)

 

การประมูลออกไปขาย หรือ ส่งออก ก็รู้ ๆกันอยู่ว่ามันมีการคอรัปชั่น (ทุกรัฐบาล)

 

ทำให้ราคาข้าวในหลายปี ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่

 

การประกัน มันเหมือนเป็นการกันข้าวออกจากตลาด

 

ชาวนาเลือกได้ว่าจะขายไม่ขาย เพราะมีเงินประกันรายได้ไว้สำรองไว้ใช้จ่ายอยู่แล้ว

 

เวลาชาวนาแต่ละคนเลือกจะขายหรือไม่ขาย ก็ทำไม่พร้อมกัน ตามแต่กำลังของแต่ละคน

 

ผมเสียดายมากกว่า เราต้องการเวลาอีกนิดเดียว (คาดว่าไม่เกิน 1 ปี หลังรัฐบาลมาร์ค) สต็อคก็จะลดลงไปจำถึงจุดที่มี่ไว้แค่ความจำเป็นแล้ว

 

ส่วนเรื่องไทยจะเป็นผู้กำหนดราคาข้าวเอง...ตอนนี้เลิกคิดได้แล้ว

 

ตลาดต่างประเทศ เริ่มเคยชิน และรับได้ กับข้าวเวียดนาม และ อินเดีย แล้ว

ผมเสียดายเหมือนกันครับ สมัย ปชป  เราอุตส่าห์ เคลียร์ สต็อกข้าวออกเกือบหมดแล้ว

 

ปชป ต้องการแค่มีข้าวสารสำหรับกินในประเทศประมาณ 6 เดือนถึงปี แค่นั้น

 

เมื่อไม่มีสต็อก  ผุ้ส่งออก ต้องซื้อข้าวมาสต็อกแทน ราคาตลาดสูงขึ้นแน่นอน 

 

ข้อผิดพลาดคือ ปชป ยุบสภาเร็วไป เพราะคิดว่า ชาวนา จะรู้ถึงประโยชน์ของประกัน สุดท้าย ชาวนาเห็นเงินตาโต

 

ก็รับกรรมกันไป เพราะงวดนี้ แก้เรื่องสต็อกไม่ได้แน่ๆ  ยกเว้น  เผา  ให้ ไอ้เต้นมันจัดการ 55



#16 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:04

 

 

 

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

 

ผมชอบตรงเนี้ย

คือทำเป็นโรงสีกลาง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงสีชุมชน ตัดระบบร่วมมือกับโรงสี

จัดการบริหารเอง ผมว่าไปรอดนะ แต่ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย

ไม่ใช่ไม่แสวงหากำไร แต่ ไม่แสวงหากำไรที่มากจนเกินไป วินๆทั้ง 2 ฝ่าย

 

เป็นไปไม่ได้ครับ

ลองไปถามอาจารย์เจิมดูสิ

คนนั้นเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข้าวเลย เคยเรียนกะแกมา

 

 

ขออภัย ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน

 

ผมไม่รู้จักอ่ะครับ

 

ช่วยตบกะโหลกผมหน่อย T_T

 

อูยยยย

ขอโทษครับ ผมพูดสั้นเกินไป

 

ผมชอบเรียก อาจารย์เจิมศักดิ์ว่าอาจารย์เจิมครับ

อย่าพูดถึงตบกระโหลกอะไรเลยครับ

มันไม่ดี เพื่อนๆกันทั้งนั้น

 

คือการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์

ไม่มีหน่วยงานรัฐบาลไหนที่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ครับ

แม้แต่คอมมูนิสต์ก็ตาม


แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#17 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:12

ผมเห็นต่างครับ ประกัน ยังไงก็ดีกว่าครับ  แค่โจทย์ให้ ทั้ง จำนำ และประกัน ที่ 15000 บาท เท่ากัน

 

ประกัน เราไ่ม่เสียค่าเช่าโกดัง   ค่าปรับสภาพข้าว รมยา  จิปาถะต่างๆ

 

ในขณะที่จำนำ เราเสียตรงนี้ครับ และโกงกินกันง่าย

 

ประกัน แม้ว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยว เงินเข้ากระเป๋าชาวนาทันที  แต่จำนำ  ก็ อดแดรกกันไป

 

ประกัน ของ ปชป จำกัดโควต้าช่วยเหลือชาวนารายย่อย ให้ไม่เกิน 25 ตันหากจำไม่ผิด

 

ประกัน ไม่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน การแข่งขันทำได้ ซึ่งมีโอกาศสูงที่จะทำให้ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน เพราะเอกชน

 

จะแย่งซื้อข้าวจากโรงสี  เพราะรู้ว่ารัฐไม่มีสต็อกข้าวในมือ  แต่จำนำ หากว่าเอกชนรู้ว่ารัฐสต็อกข้าวบวม  จะเร่งซื้อทำไม่ รอซื้อของถูกจากรัฐดีกว่า ฯลฯ

 

สรุปยังไงประกันก็ดีกว่าครับ   แต่ยังมีรอยโหว่ที่ต้องอุด ตรงที่บางคนมาลงทะเบียน แต่ไม่ปลูกข้าว ตรงนี้ต้้องตรวจสอบแก้ไขกันต่อไป

        ผมเห็นด้วยครับ เส้นทางทำงานสั้น ...ยิ่งสั้นยิ่งโกงยาก /ตรวจสอบง่าย

         ไม่ทำลายระบบตลาด ..ถ้าใช้วิธีนี้ ตอนนี้ไทยก็น่าจะเป็นแชมป์ส่งออกอยู่

        ไม่ทำลายระบบการทำนาของชาวนา

        รัฐไม่ต้องเอาเงินก้อนมาทุ่ม

        ชาวนามีความมั่นใจว่า อย่างน้อยสินค้าตัวเองมีมูลค่าอย่างน้อย(ราคาประกัน) เป็นเงินเท่าไร

        ชาวนาไม่เดือดร้อนระบบการเงิน เช่นมีข้าว10ตัน ..เดือดร้อนก็ขาย5ตัน อีก5ตันเก็บไว้ดูราคารับซื้อ ถ้าพอใจก็ขาย

        ฝนแล้ง*น้ำท่วม ผลผลิตเจ๊ง ก็ยังได้เงินตามราคาประกัน ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใครมา

 

   ข้อด้อย นักการเมือง ข้าราชการ มีช่องทางโกงน้อย


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#18 กล้ากันเกรา

กล้ากันเกรา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 70 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:26

เห็นด้วยว่าประกันดีกว่าครับถึงแม้ว่าจะประกันถึง 15000 หรือ18000 รัฐบาลก็ยังเสียเงินภาษีน้อยกว่ากับจำนำ ค่าจัดการก็น้อยกว่าเงินกระเด็นเข้ากระเป๋าใครก็ยากกว่า
ในแง่ของชาวนาขายโรงสีได้เงินสดมาเลยยังพอเอามาจ่ายค่าปุ๋ยค่ายาที่เชื่อหรือที่กู้ ธกส มาลงทุนได้ก่อน จำนำนี่กว่าจะได้เงินดอกเดินไม่รู้เท่าไหร บางเจ้าต้องไปกู้มาลงทุนรอบใหม่ไปก่อนอีก เงินของชาวนาต้องกระเด็นไปให้ธนาคารกับพ่อค้าปุ๋ยยา เจ้าพ่อเงินกู้อีก โดนหลายต่อเลย

#19 tabbar

tabbar

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:27

ทู้ดีๆ ขอร้องกากแดงอย่ามาป่วนนะ

 

 

ดัน 


 '' Nobody Perfect ''


#20 Redulah

Redulah

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:31

ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "รับจำนำ" กับ "ประกัน"

 

รับจำนำ - นโยบายของเพื่อไทย เป็นการรับจำนำข้าวเปลือกที่ราคา 1.5หมื่นบาท

ประกัน - นโยบายของปชป. เป็นการ "ประกันรายได้" ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน

 

กรณีของการประกันรายได้ขั้นต่ำ หากขายได้เกินราคาที่ตั้งไว้ ไม่ต้องใช้เงินซักบาทไป subsidy เลย แต่ถ้าราคาตลาด ณ ตอนนั้นทำให้ขายได้ต่ำกว่ารายได้ที่ชาวนาจะได้รับก็ให้เป็นเงินไปเลย เพื่ออุดช่องว่าง

 

เห็นความต่างของนโยบายมั๊ยครับ



#21 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:35

ที่สำคัญ "ประกัน" รัฐไม่ต้องมีภาระในการระบายข้าวครับ ชาวนาช่วยกันขายของตัวเองในสต็อค 

ถ้า จำนำ รัฐเหมาซื้อเอง แล้วต้องเก็บเอง ขายเอง ซึ่ง "ขายข้าวล็อตใหญ่ ๆ " นี่มันไม่ง่ายเหมือน "ขายชาติ" นะครับ


Edited by Bourne, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:35.

ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#22 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:39

ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "รับจำนำ" กับ "ประกัน"

 

รับจำนำ - นโยบายของเพื่อไทย เป็นการรับจำนำ ซื้อ ข้าวเปลือกที่ราคา 1.5หมื่นบาท

ประกัน - นโยบายของปชป. เป็นการ "ประกันรายได้" ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน

 

กรณีของการประกันรายได้ขั้นต่ำ หากขายได้เกินราคาที่ตั้งไว้ ไม่ต้องใช้เงินซักบาทไป subsidy เลย แต่ถ้าราคาตลาด ณ ตอนนั้นทำให้ขายได้ต่ำกว่ารายได้ที่ชาวนาจะได้รับก็ให้เป็นเงินไปเลย เพื่ออุดช่องว่าง

 

เห็นความต่างของนโยบายมั๊ยครับ

  ถ้าประกาศ อย่างนี้ จะแตกต่างชัดเจน


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#23 dTone

dTone

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 418 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:39

 

 

 

 

ถ้า ลองคิดเล่นๆ    ถ้ารัฐ  มีโรงสีเอง    ส่ง ออกเอง  ตั้งเป็น  กรมโรงสีข้าวและการส่งออก  อะไรแบบนี้   ดูท่าน่าจะดีน่ะ   สามารถกำหมดราคา  ต่อรองได้   หรือไม่ก็ หาวิธีแปรรูปข้าวต่างๆ  ครบวงจร เทคโนโลยีทางด้านอาหารเมืองไทยก็เยอะ  อาจารย์ทางด้าน

อาหารก็เยอะ   เหมือนพวกโรงงานยาสูป  อะไรแบบนี้อ่ะ  ทำเองขายเอง    ท่าจะดีกว่านี้  

 

ผมชอบตรงเนี้ย

คือทำเป็นโรงสีกลาง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงสีชุมชน ตัดระบบร่วมมือกับโรงสี

จัดการบริหารเอง ผมว่าไปรอดนะ แต่ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย

ไม่ใช่ไม่แสวงหากำไร แต่ ไม่แสวงหากำไรที่มากจนเกินไป วินๆทั้ง 2 ฝ่าย

 

เป็นไปไม่ได้ครับ

ลองไปถามอาจารย์เจิมดูสิ

คนนั้นเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข้าวเลย เคยเรียนกะแกมา

 

 

ขออภัย ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน

 

ผมไม่รู้จักอ่ะครับ

 

ช่วยตบกะโหลกผมหน่อย T_T

 

อูยยยย

ขอโทษครับ ผมพูดสั้นเกินไป

 

ผมชอบเรียก อาจารย์เจิมศักดิ์ว่าอาจารย์เจิมครับ

อย่าพูดถึงตบกระโหลกอะไรเลยครับ

มันไม่ดี เพื่อนๆกันทั้งนั้น

 

คือการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์

ไม่มีหน่วยงานรัฐบาลไหนที่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ครับ

แม้แต่คอมมูนิสต์ก็ตาม

 

 

อืมครับ อาจารย์เจิมศักดิ์

 

ที่ว่าไม่มีหน่วยงานไหนในรัฐบาล เฉพาะในประเทศสารขันณ์นี้รึปล่าวครับ

 

ต้องไปหาบทความแกมานั่งอ่านเล่นแระ เพิ่มรอยหยักในสมองหน่อย



#24 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:43

แผนระยะยาวที่สุด คือ ถ้าประเทศนี้ปลูกข้าวแล้วยังเจ๊งอยู่เรื่อยๆ ก็ควรพิจารณาได้แล้วว่าประเทศนี้ไม่ควรปลูกข้าวอีกต่อไป เก็บเงินภาษีไว้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า แล้วไปซื้อข้าวเวียดนาม ข้างเขมรกิน น่าช่วยประหยัดเงินภาษีได้ดีกว่า ส่วนชาวนาถ้าไม่มีอะไรทำ ก็ให้ไปฝึกกรีดยางแทน เพราะขาดแคลนแรงงานกรีดยางเป็นจำนวนมาก รัฐบาลสนับสนุนโดยฝึกกรีดยางฟรี พร้อมที่พักอาหาร ถ้าไม่อยากกรีดยาง ไปฝึกงานก่อสร้างเพราะ โครงการก่อสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ ในประเทศนี้ยังต้องสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ลงแต่แรงไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องไปเป็นหนี้ค่าปุ๋ยค่ายา ทำนามาเท่าใหร่เอาไปจ่ายหนี้หมด ก็ไม่ต้องทำเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ลงแต่แรงไม่ต้องเสี่ยงเป็นหนี้ ส่วนที่นาก็ทำอย่างอื่นที่ไม่ต้องเป็นภาระกับประชาชนคนอื่นที่เสียภาษี หัก ณที่จ่าย ที่เริ่มอึดอัดกับภาระของประเทศที่ไม่มีวันจบวันสิ้น

#25 Redulah

Redulah

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:13

 

ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "รับจำนำ" กับ "ประกัน"

 

รับจำนำ - นโยบายของเพื่อไทย เป็นการรับจำนำ ซื้อ ข้าวเปลือกที่ราคา 1.5หมื่นบาท

ประกัน - นโยบายของปชป. เป็นการ "ประกันรายได้" ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน

 

กรณีของการประกันรายได้ขั้นต่ำ หากขายได้เกินราคาที่ตั้งไว้ ไม่ต้องใช้เงินซักบาทไป subsidy เลย แต่ถ้าราคาตลาด ณ ตอนนั้นทำให้ขายได้ต่ำกว่ารายได้ที่ชาวนาจะได้รับก็ให้เป็นเงินไปเลย เพื่ออุดช่องว่าง

 

เห็นความต่างของนโยบายมั๊ยครับ

  ถ้าประกาศ อย่างนี้ จะแตกต่างชัดเจน

 

อ่า...ถูกต้องครับ การจำนำจะมีระยะเวลาไถ่ถอน หากไม่มาไถ่ถอนก็จะถูกนำไปขายทอดตลาด

 

แต่นโยบาย พท. เป็นการรับ "ซื้อ" เพื่อไปขายทอดตลาด (ทอดตลาด = ราคาถูกกว่าตลาด)



#26 tu249cm

tu249cm

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,495 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:19

ฉนั้นคำว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นการตั้งชื่อที่ผิด ต้องใช้ว่าโครงการรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงกว่าตลาด


  • Gop likes this

“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”


#27 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:25

ก่อนหน้าที่จะมี "นโยบายจำนำข้าว" ของ รัฐบาลนี้ เกิดขึ้นมานั้น

 

ชาวนา ก็ยังทำนาได้ โดยใช้หลัก นโยบาย "การประกันรายได้"

 

อาจจะมีหนี้สินบ้าง แต่ก็คงเป็นเพราะ วินัยการใช้จ่าย ส่วนตัว

 

แต่ก็ไม่ถึงกับมากมายอะไร จนถึงกับโงหัวไม่ขึ้นแบบ ตอนนี้

 

จนมาถึง การประกาศ "นโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด 15000" อะไรนั่นแหล่ะ

 

ทำให้ "ชาวนาเริ่มเสียศูนย์" ตั้งแต่ตอนนั้น เป็นต้นมา เพราะมัวแต่คิดไปไกล

 

ถึงการ "จำนำข้าว 15000" โดยไม่ดูรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ภายในนโยบายนั้น

 

และ มัวแต่ฝันไปไกลถึงการต้อง "เร่งปลูกเร่งเก็บเกี่ยว" เพื่อนำไปจำนำให้ได้มากๆ

 

และ การจะเร่งผลผลิตให้ได้มากๆ เร็วๆ ก็จำเป็นต้องพึ่ง "ปุ๋ย และ เคมี" ต่างๆ นาๆ

 

แต่สุดท้าย เมื่อเร่งเก็บเกี่ยว ก็ไปเข้าทางของโรงสี ที่ร่วมมือกับรัฐ เรื่อง "ค่าความชื้น"

 

ทำให้ราคาที่ฝันไว้ ว่าจะได้เท่านั้น เท่านี้ - ไม่เป็นไปดังที่หวังและตั้งใจไว้ในตอนหาเสียง

 

แต่...การที่ชาวนา ไม่ได้ราคาตามที่หวังนั้น มันได้ทำลายอนาคตไปด้วย เพราะได้มีการ

 

"นำเอาเงิน อนาคต" มาใช้ไปก่อนหน้านี้ ในการ "เร่งปลูกเร่งเก็บ" ไปแล้วนั่นเอง.....!!!

 

สุดท้าย พอไม่ได้อย่างที่หวัง จะให้รัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องราคา แต่รัฐก็ไม่สามารถช่วยได้อีกแล้ว

 

ก็ถือซะว่า ให้ความหวังไปแล้ว ได้รับเลือกเข้ามาแล้ว และ ให้ราคาตามนั้นไปแล้ว ( แต่ทำไม่ได้เอง )

 

สุดท้ายจะมาร้องแรกแหกกระเชิง อะไรกัน ในเมื่อรัฐ สมประโยชน์ ทั้งเงิน - ทั้งตำแหน่ง ไปแล้ว......!!!

 

อย่าไปโทษใครเลยครับ...พวกชาวนาก็ควรจะโทษ พวกชาวนาด้วยกันเอง นั่นแหล่ะครับ ที่เลือกเอง

 

มัวแต่ ไปหลงคารม เพ้อฝัน ไปกับ นโยบายประชานิยมระยะสั้น กันเอง...แล้วก็โดนหลอก ลอยแพ กันเอง... -_- -_-

 

ขอบคุณครับ


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#28 PeaceMan

PeaceMan

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 513 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:45


จะจำนำ หรือ ประกันก็ยังไม่ใช่ การเเก้ที่ต้นเหตุหรอกครับ...
การจัดอบรมให้ทราบถึงวิธีการลดต้นทุน (โดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเเละยา นำเข้า) เพื่อเพิ่มกำไร เเละ ระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพเเบบยั่งยืน ต่างหากที่ รบ ควรจัดสรรให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังเเละทั่วถึง...
ในหลวงท่านทรงหาทางออกไว้ให้เเล้ว...



ถ้าอยากช่วยชาวนาด้วยความจริงใจจริงๆ
เเทนที่จะต้อง "ขาดทุนย่อยยับ" เป็นเเสนๆล้าน กับโครงการจำนำเนี่ย
ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า...
น่าเอาเงินที่ต้องเสียไปนั้น มาลงทุนกับ infrastructure ให้ระบบชลประทานที่ยั่งยืน
พร้อมทั้งตั้งศูยน์ส่งเสริม วิชาการการผลิตปุ๋ย+ยาชีวะภาพ เเละเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้ทั่วถึงเเละเต็มศักยภาพ
ชาวนา ไม่ต้องกลัวเเล้ง ไม่ต้องซื้อปุ๋ย+ยาเคมีนำเข้า เเสนเเพง สุขภาพก็ดีขึ้น ไม่ต้องเปลืองค่ารักษาพยาบาล
....สามารถ เพิ่มผลผลิต + ลดต้นทุน= เพิ่มกำไร
เพิ่มเงินใส่กระเป๋าชาวนาเเบบ"ยั่งยืน" ตามหลักที่พ่อหลวงชี้ทางให้ ไม่ดีกว่าหรือครับ...



#29 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:51

ไอ้ระบบจำนำแต่ชื่อนี่  มันได้เปลี่ยนรัดทะบานมาเป็นผู้ซื้อข้าวรายเดียวในประเทศไปเรียบร้อยแล้ว

แล้วคุณคิดว่าข้าราชการมันจะขายของเองเป็นไหมละ  มันไม่ต้องมาสนใจนี่ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่   ขายของสู้เอกชนเขาไม่ได้หรอก

พอตัวเองจะขายก็โดนเอกชน หักคอตาย ไม่ขายก็เน่าหมด


Edited by butadad, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:53.


#30 KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว

KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,030 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:51

จำนำ มันดีกว่า ... แต่ไม่ใช้การให้ราคา เท่า หรือ มากกว่า ราคาขาย .... จำนำไปสิ คิดสัก 70% ของราคาตลาด ก็ได้ อย่างน้อยชาวนา ก็สามารถนำเงินไปหมุ่นได้ แล้วก็เลิกผ่านพ่อค้าคนกลาง สักที ประเทศไทยมี สหกรณ์การเกษตร ไม่น้อย ก็จัดการสะ รวมตัวสะ เป็นโรงรับจำนำข้าว ให้เวลาเท่าใหร่ว่าไป ไม่ไถ่คืน ก็ถือว่า เป็นส่วนกลาง นำมาแปรรูป เป็นข้าวสาร ทำ Brand ตัวเองขายเองในประเทศ แล้วปัจจุบันละเป็นยังไง

 

ให้ราคาสูงก่าตลาด เกือบ 50% เค้าไม่เรียกจำนำแล้ว ใครจะมาไถ่คืน เหมือนเอาทองไปโรงรับจำนำ คิดดู ราคา 20000 ก่า ยังรับแค่ 17000-18000  แต่ ประเทศไทย จำนำ ทอง ราคา 20000 รับจำนำ ที่ 28000 เอาอะไรคิด รัฐต้องไปจ้างโกดัง โรงสี .... มาเก็บรักษา ค่า เก็บรักษาเท่าใหร่หรอ ไม่น้อยหรอก

 

เอาเงิน 5 แสนล้านที่ลงกับ จำนำข้าว ไปให้ เกษตรกร รวมตัวกันกู้ ทำโรงสี เองยังจะดีกว่าอีก


Edited by KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:52.


#31 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:04

เหอะ เหอะ  การรับจำนำข้าวนี่ ผมว่าแนวคิดดั้งเดิมของเขาคือ ต้องการช่วย

เหลือชาวนาที่ร้อนเงินมากกว่านะ เหมือนเรานั่นแหละเวลาร้อนเงินก็เอาสร้อย

หรือนาฬิกาไปจำนำ แต่ชาวนายุคก่อนอาจไม่มีสร้อย มีแต่ข้าวก็เลยให้เอาข้าว

ไปจำนำ เอาเงินมาใช้ก่อนเท่านั้น น่าจะเป็นการช่วยเหลือในลักษณะที่ราคาข้าว

มันต่ำ ถ้าชาวนาขายไปตอนนั้นอาจไม่มีกำไร หรือขาดทุน เมื่อรัฐเปิดโรงรับจำนข้าว

ก็เอาข้าวไปจำนำไว้ชั่วคราว จนเห็นว่าราคาข้าวมันสูงขึ้นแล้วค่อยมาถ่ายคืนเอาไป

ขายตามปกติ เพราะฉะนั้น ราคารับจำนำ ยังไงมันก็ไม่สูงจูงใจให้ชาวนาเอาไปจำนำ

หรอกครับ ยกเว้นรายที่ร้อนเงินแต่เสียดายข้าวที่จะขายไปเท่านั้น จึงจะเอาไปจำนำ

 

มันก็ดำเนินของมันมาตามปกตินั่นแหละครับ มีโกง มีข้าวค้างสต็อกเพราะจำนำขาด

มีข้าวเสื่อมคุณภาพ ในโกดังอยู่สม่ำเสมอ เพราะชาวนาก็บอก ข้าไม่ถ่ายคืนแล้ว รัฐ

ก็บอกว่าไม่ใช่ข้าวของข้า ขายได้ไม่ได้ก็ช่างถือว่าช่วยชาวนาไป

 

มาถึงยุค ปชป ก็คงนั่งคิดมาจนหัวแทบแตก ก็สรุปได้ว่า แบบนี้ไม่ไหวว่ะ ใช้วิธีประกัน

ราคาดีกว่า ประกันว่าชาวนาต้องขายข้าวได้เท่านั้นเท่านี้ ถ้าขายได้ไม่ตามที่ประกันไว้

รัฐจะจ่ายสมทบให้เท่าราคาที่ประกัน แต่ทำอยู่ได้สองปี ต้องยุบสภาด้วยปัญหาทางเทคนิค

 

เมื่อมีรัฐบาลใหม่ โครงการใหม่ แต่ใช้ชื่อเก่าว่า รับจำนำ แต่พฤติกรรมของโครงการมันไม่ใช่

มันเป็นการทุ่มซื้อข้าวมากักตุน จนต่างประเทศตกใจคิดว่า ไอ้นี่จะมาป่วนตลาดข้าวโลกหรือ

แต่ตกใจอยู่ได้ไม่นาน ก็กลายเป็นนั่งหัวเราะ หึ หึ แถมด้วยคำพูดว่า เกิดมาไม่เคยเห็นใครโง่

ขนาดนี้เลยว่ะ

 

คงแล้วแต่ชอบละครับ ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น แต่ถ้าจะตั้งโรงสีเอง ส่งออกเอง แปรรูปเอง

แบบครบวงจร ผมแนะนำ ให้ดู ปตท เป็นต้นแบบครับ เจริญเอ้า เจริญเอา เลย



#32 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:31

จำนำ มันดีกว่า ... แต่ไม่ใช้การให้ราคา เท่า หรือ มากกว่า ราคาขาย .... จำนำไปสิ คิดสัก 70% ของราคาตลาด ก็ได้ อย่างน้อยชาวนา ก็สามารถนำเงินไปหมุ่นได้ แล้วก็เลิกผ่านพ่อค้าคนกลาง สักที ประเทศไทยมี สหกรณ์การเกษตร ไม่น้อย ก็จัดการสะ รวมตัวสะ เป็นโรงรับจำนำข้าว ให้เวลาเท่าใหร่ว่าไป ไม่ไถ่คืน ก็ถือว่า เป็นส่วนกลาง นำมาแปรรูป เป็นข้าวสาร ทำ Brand ตัวเองขายเองในประเทศ แล้วปัจจุบันละเป็นยังไง

 

ให้ราคาสูงก่าตลาด เกือบ 50% เค้าไม่เรียกจำนำแล้ว ใครจะมาไถ่คืน เหมือนเอาทองไปโรงรับจำนำ คิดดู ราคา 20000 ก่า ยังรับแค่ 17000-18000  แต่ ประเทศไทย จำนำ ทอง ราคา 20000 รับจำนำ ที่ 28000 เอาอะไรคิด รัฐต้องไปจ้างโกดัง โรงสี .... มาเก็บรักษา ค่า เก็บรักษาเท่าใหร่หรอ ไม่น้อยหรอก

 

เอาเงิน 5 แสนล้านที่ลงกับ จำนำข้าว ไปให้ เกษตรกร รวมตัวกันกู้ ทำโรงสี เองยังจะดีกว่าอีก

      ขอแสดงความเห็นครับ

      "จำนำไปสิ คิดสัก 70% ของราคาตลาด ก็ได้"  ถ้าอย่างนั้นก็เข้าทาง ปชป. คือด้อยกว่าประกันราคา หรือประกันรายได้ก็ตาม

 

      สมมติให้ 70% คือราคาตันละหมื่น  ...ประกันก็คงอยู่แถวนี้ คือ7-80% ก็เป็นตันละหมื่นเหมือนกัน

 

       1. กรณีราคาตลาดเป็นตันละหมื่นห้า

          1.1 จำนำ 70% ...วิธีการยังไงต่อ

          1.2 การประกัน 70% (คงอยู่ราวนี้แหละ) ...ชาวนารับเงินจากโรงสี ตันละหมื่นห้า จบ

       2. กรณีราคาตลาดเหลือ 9000 

           2.1 จำนำ 70% ...วิธีการยังไงต่อ

           2.2 การประกัน ...รับเงินจากโรงสี เก้าพัน ..ทำเรื่องไปรับเงินจาก ธกส. อีกหนึ่งพัน

                **ชาวนาจะรอให้ราคาเกินเก้าพันหรือไม่ ก็ได้ ..ถ้าเดาผิด จนราคาตลาดเหลือ 7000 ชาวนาขายก็ยังได้ 10000 บาท

       3. กรณีนาล่มจม ไม่มีข้าวขาย

           3.1 จำนำ 70% ...ไม่ได้สักบาท

           2.2 การประกัน ...ก็ไปดูการประเมินว่า ตัวเองน่าจะได้ข้าวกี่เกวียน เอาจำนวนเกวียนคูณด้วยหมื่นเข้าไป

 

สรุปว่าการประกันนั้นแย่ นักการเมือง /ข้าราชการ และโรงสีไม่ชอบ โดยเฉพาะเจ๊กอดะ คงวิ่งเต้นต่อต้านจนผอมแหละ

*************

 

  ""เอาเงิน 5 แสนล้านที่ลงกับ จำนำข้าว ไปให้ เกษตรกร รวมตัวกันกู้ ทำโรงสี เองยังจะดีกว่าอีก"

     เงิน5แสน ล้านนี่ ทำคลองชลประทาน ได้รอบประเทศไหม?


Edited by IFai, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:38.

ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#33 ยิ่งรัก(โพย)

ยิ่งรัก(โพย)

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,420 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:33

กระทู้นี้คุณ puggi จัดเต็มถูกใจมาก  :lol:



#34 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:46

ผมเห็นต่างครับ ประกัน ยังไงก็ดีกว่าครับ  แค่โจทย์ให้ ทั้ง จำนำ และประกัน ที่ 15000 บาท เท่ากัน

 

ประกัน เราไ่ม่เสียค่าเช่าโกดัง   ค่าปรับสภาพข้าว รมยา  จิปาถะต่างๆ

 

ในขณะที่จำนำ เราเสียตรงนี้ครับ และโกงกินกันง่าย

 

ประกัน แม้ว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยว เงินเข้ากระเป๋าชาวนาทันที  แต่จำนำ  ก็ อดแดรกกันไป

 

ประกัน ของ ปชป จำกัดโควต้าช่วยเหลือชาวนารายย่อย ให้ไม่เกิน 25 ตันหากจำไม่ผิด

 

ประกัน ไม่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน การแข่งขันทำได้ ซึ่งมีโอกาศสูงที่จะทำให้ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน เพราะเอกชน

 

จะแย่งซื้อข้าวจากโรงสี  เพราะรู้ว่ารัฐไม่มีสต็อกข้าวในมือ  แต่จำนำ หากว่าเอกชนรู้ว่ารัฐสต็อกข้าวบวม  จะเร่งซื้อทำไม่ รอซื้อของถูกจากรัฐดีกว่า ฯลฯ

 

ประกัน ราคา เราสามารถเก็บข้าวส่วนนึงไว้กินเองได้ แต่จำนำ เราต้องเอาข้าวไปขายเอาเงินมาซื้อข้าวกิน

 

ประกันราคา หากเราสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ได้เยอะขึ้น ก็คือกำไรล้วนๆ

 

สรุปยังไงประกันก็ดีกว่าครับ   แต่ยังมีรอยโหว่ที่ต้องอุด ตรงที่บางคนมาลงทะเบียน แต่ไม่ปลูกข้าว ตรงนี้ต้้องตรวจสอบแก้ไขกันต่อไป

 

เสียดายที่ชาวนาไทย มองสั้น  ทั้งที่ระบบประกันแก้ไขจุดรั่วไหล ก็จะเป็นระบบที่ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ยั่งยืนในระยะยาวแท้ๆ

 

ในกรณีตั้งโจทย์ไว้ที่ 15000  ยังไงประกันก็ดีกว่า  เพราะราคานี้พิสูจน์แล้วว่ารัฐไม่สามารถขายข้าวได้แน่นอน

แต่ในกรณี  ที่เป็นราคาที่เหมาะสม  สมมุติว่าซัก 11000-12000  และสมมุติว่า  ราคานี้พอจะสามารถที่จะขายออกได้

รัฐจะขายข้าว  G2G  อะไรก็ว่าไป  รัฐน่าจะขายได้เงินบางส่วนกลับคืนมาได้หรือปล่าว?  หากโชคดีราคาตลาดโลกสูง

รัฐก็จะได้กำไร  กลับมาชดเชยในส่วนค่าบริหารจัดการได้  และการที่รัฐรับซื้อไปบางส่วนก็น่าช่วยดึงราคาข้าวภายใน

ให้สูงขึ้นให้ชาวนาที่เหลือสามารถขายข้าวได้ราคาสูงขึ้นด้วย   แต่ถ้าราคาตลาดโลกตกต่ำ   ก็ถือว่าช่วยชาวนาไป

รัฐก็ยอมขาดทุนบางส่วน  แต่ก็คงไม่หนักหนาเท่าตอนนี้

 

ประกันมันเหมือน  เงินละลายหายไปเลย  ไม่ได้อะไรกลับคืนมา  แต่จำนำยังพอมีลุ้นบ้าง  ตราบใดที่ไม่ตั้งราคาซะ over


Edited by annykun, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:48.

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#35 KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว

KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,030 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:47

 

จำนำ มันดีกว่า ... แต่ไม่ใช้การให้ราคา เท่า หรือ มากกว่า ราคาขาย .... จำนำไปสิ คิดสัก 70% ของราคาตลาด ก็ได้ อย่างน้อยชาวนา ก็สามารถนำเงินไปหมุ่นได้ แล้วก็เลิกผ่านพ่อค้าคนกลาง สักที ประเทศไทยมี สหกรณ์การเกษตร ไม่น้อย ก็จัดการสะ รวมตัวสะ เป็นโรงรับจำนำข้าว ให้เวลาเท่าใหร่ว่าไป ไม่ไถ่คืน ก็ถือว่า เป็นส่วนกลาง นำมาแปรรูป เป็นข้าวสาร ทำ Brand ตัวเองขายเองในประเทศ แล้วปัจจุบันละเป็นยังไง

 

ให้ราคาสูงก่าตลาด เกือบ 50% เค้าไม่เรียกจำนำแล้ว ใครจะมาไถ่คืน เหมือนเอาทองไปโรงรับจำนำ คิดดู ราคา 20000 ก่า ยังรับแค่ 17000-18000  แต่ ประเทศไทย จำนำ ทอง ราคา 20000 รับจำนำ ที่ 28000 เอาอะไรคิด รัฐต้องไปจ้างโกดัง โรงสี .... มาเก็บรักษา ค่า เก็บรักษาเท่าใหร่หรอ ไม่น้อยหรอก

 

เอาเงิน 5 แสนล้านที่ลงกับ จำนำข้าว ไปให้ เกษตรกร รวมตัวกันกู้ ทำโรงสี เองยังจะดีกว่าอีก

      ขอแสดงความเห็นครับ

      "จำนำไปสิ คิดสัก 70% ของราคาตลาด ก็ได้"  ถ้าอย่างนั้นก็เข้าทาง ปชป. คือด้อยกว่าประกันราคา หรือประกันรายได้ก็ตาม

 

      สมมติให้ 70% คือราคาตันละหมื่น  ...ประกันก็คงอยู่แถวนี้ คือ7-80% ก็เป็นตันละหมื่นเหมือนกัน

 

       1. กรณีราคาตลาดเป็นตันละหมื่นห้า

          1.1 จำนำ 70% ...วิธีการยังไงต่อ

          1.2 การประกัน 70% (คงอยู่ราวนี้แหละ) ...ชาวนารับเงินจากโรงสี ตันละหมื่นห้า จบ

       2. กรณีราคาตลาดเหลือ 9000 

           2.1 จำนำ 70% ...วิธีการยังไงต่อ

           2.2 การประกัน ...รับเงินจากโรงสี เก้าพัน ..ทำเรื่องไปรับเงินจาก ธกส. อีกหนึ่งพัน

                **ชาวนาจะรอให้ราคาเกินเก้าพันหรือไม่ ก็ได้ ..ถ้าเดาผิด จนราคาตลาดเหลือ 7000 ชาวนาขายก็ยังได้ 10000 บาท

       3. กรณีนาล่มจม ไม่มีข้าวขาย

           3.1 จำนำ 70% ...ไม่ได้สักบาท

           2.2 การประกัน ...ก็ไปดูการประเมินว่า ตัวเองน่าจะได้ข้าวกี่เกวียน เอาจำนวนเกวียนคูณด้วยหมื่นเข้าไป

 

สรุปว่าการประกันนั้นแย่ นักการเมือง /ข้าราชการ และโรงสีไม่ชอบ โดยเฉพาะเจ๊กอดะ คงวิ่งเต้นต่อต้านจนผอมแหละ

*************

 

  ""เอาเงิน 5 แสนล้านที่ลงกับ จำนำข้าว ไปให้ เกษตรกร รวมตัวกันกู้ ทำโรงสี เองยังจะดีกว่าอีก"

     เงิน5แสน ล้านนี่ ทำคลองชลประทาน ได้รอบประเทศไหม?

 

 

ครับผม คุณพูดมาก็ถูก ครับ

 

แต่ประเด็นก็คือว่า รัฐบาลนี้เค้าไม่เอา ประกันรายได้ .... ต่อให้ทักษิณตาย ยิ่งลักษณ์จดทะเบียนสมรส, เจ้ ด เข้าคอร์ดลดความอ้วน , เป็ดเลิกรู้ไปทุกเรื่อง, ณัฐวุฒิทำให้สินค้าราคาเกษตรราคาสูง , จตุพรได้เป็น รมต , โอ๊ตสอบ O-net เป็นที่หนึ่งของประเทศ

"พวกมันก็ไม่เอา ประกันรายได้"

 

ถ้าไม่เอาประกันรายได้ก็ต้อง คิดวิธีจำนำ ที่เกิดประโยชน์มากกว่า ...

 

ส่วนเรื่องน้ำท่วม ภัยแล้ง ... ปกติเค้าก็ออกมาปิดถนน ให้พักชำระนู้นเนี้ย เป็นประจำอยู่แล้ว เรียกว่า เป็น กิจวัตรไม่พอใจอะไร ปิดถนน ... รอแต่ ให้คนอื่นเอายิบยื่นโอกาศให้ สุดท้ายภาระก็ตกอยู่กับ "คนทั้งประเทศ"


Edited by KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:48.


#36 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:26

 

ผมเห็นต่างครับ ประกัน ยังไงก็ดีกว่าครับ  แค่โจทย์ให้ ทั้ง จำนำ และประกัน ที่ 15000 บาท เท่ากัน

 

ประกัน เราไ่ม่เสียค่าเช่าโกดัง   ค่าปรับสภาพข้าว รมยา  จิปาถะต่างๆ

 

ในขณะที่จำนำ เราเสียตรงนี้ครับ และโกงกินกันง่าย

 

ประกัน แม้ว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยว เงินเข้ากระเป๋าชาวนาทันที  แต่จำนำ  ก็ อดแดรกกันไป

 

ประกัน ของ ปชป จำกัดโควต้าช่วยเหลือชาวนารายย่อย ให้ไม่เกิน 25 ตันหากจำไม่ผิด

 

ประกัน ไม่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน การแข่งขันทำได้ ซึ่งมีโอกาศสูงที่จะทำให้ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน เพราะเอกชน

 

จะแย่งซื้อข้าวจากโรงสี  เพราะรู้ว่ารัฐไม่มีสต็อกข้าวในมือ  แต่จำนำ หากว่าเอกชนรู้ว่ารัฐสต็อกข้าวบวม  จะเร่งซื้อทำไม่ รอซื้อของถูกจากรัฐดีกว่า ฯลฯ

 

ประกัน ราคา เราสามารถเก็บข้าวส่วนนึงไว้กินเองได้ แต่จำนำ เราต้องเอาข้าวไปขายเอาเงินมาซื้อข้าวกิน

 

ประกันราคา หากเราสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ได้เยอะขึ้น ก็คือกำไรล้วนๆ

 

สรุปยังไงประกันก็ดีกว่าครับ   แต่ยังมีรอยโหว่ที่ต้องอุด ตรงที่บางคนมาลงทะเบียน แต่ไม่ปลูกข้าว ตรงนี้ต้้องตรวจสอบแก้ไขกันต่อไป

 

เสียดายที่ชาวนาไทย มองสั้น  ทั้งที่ระบบประกันแก้ไขจุดรั่วไหล ก็จะเป็นระบบที่ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ยั่งยืนในระยะยาวแท้ๆ

 

ในกรณีตั้งโจทย์ไว้ที่ 15000  ยังไงประกันก็ดีกว่า  เพราะราคานี้พิสูจน์แล้วว่ารัฐไม่สามารถขายข้าวได้แน่นอน

แต่ในกรณี  ที่เป็นราคาที่เหมาะสม  สมมุติว่าซัก 11000-12000  และสมมุติว่า  ราคานี้พอจะสามารถที่จะขายออกได้

รัฐจะขายข้าว  G2G  อะไรก็ว่าไป  รัฐน่าจะขายได้เงินบางส่วนกลับคืนมาได้หรือปล่าว?  หากโชคดีราคาตลาดโลกสูง

รัฐก็จะได้กำไร  กลับมาชดเชยในส่วนค่าบริหารจัดการได้  และการที่รัฐรับซื้อไปบางส่วนก็น่าช่วยดึงราคาข้าวภายใน

ให้สูงขึ้นให้ชาวนาที่เหลือสามารถขายข้าวได้ราคาสูงขึ้นด้วย   แต่ถ้าราคาตลาดโลกตกต่ำ   ก็ถือว่าช่วยชาวนาไป

รัฐก็ยอมขาดทุนบางส่วน  แต่ก็คงไม่หนักหนาเท่าตอนนี้

 

ประกันมันเหมือน  เงินละลายหายไปเลย  ไม่ได้อะไรกลับคืนมา  แต่จำนำยังพอมีลุ้นบ้าง  ตราบใดที่ไม่ตั้งราคาซะ over

 

ผมก็ยังแย้งอยู่ดีครับ ที่บอกว่าจำนำ ยังพอมีลุ้นบ้าง 

 

เอาแบบ บรรทัดสุดท้าย ยังไง ประกัน ก็เสียหายน้อยกว่าจำนำครับ

 

ระบบประกัน ที่ปชป ออกแบบไว้ คือ ระบบที่ ข้าวในสต็อก อคส มีแค่พอบริโภค ในช่วงระยะเวลารอเก็บเกี่ยว ฤดูกาลต่อไป

 

คราวนี้ หากราคามันตกต่ำ  หรือว่า โรงสี กับผู้ส่งออกข้าว จับมือกด ราคา  รัฐบาล ยังสามารถทำตัวเป็น Player อีกคนในตลาด

 

โดยเข้าไปแย่งซื้อข้าวในตลาด เพื่อดึงราคาขึ้นแข่งกับเอกชนได้ เพื่อสต็อก แค่สำหรับป้องกันปัญหาขาดแคลนได้ครับ แต่ว่า ยังไงราคาข้าวมันเป็นสินค้ามีราคากลางในตลาดโลกครับ ดังนั้นปัญหากดราคาชาวนาจะยาก

 

ตัวระบบประกัน มีข้อดีเยอะกว่าแน่นอน ไอ้ที่บอกว่า รัฐไม่มีข้าวติดมือ เสียเงินเปล่า เปรียบเทียบกับ รัฐมีข้าว

 

มหาศาลแต่ว่าขายไม่ได้ อย่างนี้ ผมไม่เอาดีกว่า เพราะเห็นๆอยู่ทุกวันนี้เป็นยังไง  นโยบายประกันราคา เจตนา

 

คือช่วยชาวนา รายย่อยครับ พวก ชาวนาแบบมีที่เป็นร้อยๆไร่ รัฐถือว่าพวกนี้ยืนได้แล้ว รัฐจะไม่ช่วยเหลือเต็ม 

 

ผมยืนยันว่า ต่อให้ราคา ประกัน หรือจำนำ ยืนที่ราคาไหนก็แล้วแต่  ประกันรายได้ จะเสียหายน้อยกว่าครับ ชาวนาได้ผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย

 

ที่อ้างตรง 15000 แค่ตัวเลขดัมมี่ จะเอา 11000  12000  ประกันก็ดีกว่าครับ แม้จะบอกว่า จำนใกล้เคียงราคาตลาด รัฐยังมีข้าวในมือ พอมากล้อมแกล้มตัวเลข

 

ต่างๆ ให้ขาดทุนน้อยลง  แต่ว่า ประกัน ไม่มีค่าโสหุ้ย พวกเช่าโกดัง เซอเวย์  ปรับปรุงข้าว จ้่างโรงสีสีข้าว โดยเสียผลประโยชน์จากเรื่องแกลบ ฯลฯ

 

การบอกว่า หากโชคดี ราคาตลาดโลกสูงกว่าราคาจำนำ รัฐก็ได้กำไร แต่ว่ารัฐเสียค่าโสหุ้ยไปแล้วนะครับ  ในขณะที่เป็นประกัน หากโชคดีราคา

 

ตลาดโลกสูง นั่นคือ  รัฐบาลไม่ต้องเสียเงินอะไรเลย พอมองเห็นความแตกต่างหรือยังครับ


Edited by puggi, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:45.


#37 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:36

ในแง่มุมของคนเสียภาษี  ยังไงประกันก็ดีกว่าอยู่แล้ว  เพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า   คอรัปชั่นน้อยกว่า  แต่ในมุมมองเกษตรกรล่ะ?  ประกันมันจะดีเทียบเท่ารึเปล่าวนะ

ผมค่อนข้างข้องใจกับระบบประกันอยู่นิดหน่อย  ตามนี้ครับ

 

- เวลาชาวนาเอาข้าวไปขาย  มักโดนโรงสีกดราคาลงต่ำๆ  กว่าปกติเพราะเขารู้ว่าชาวนาจะได้เงินชดเชยจากรัฐ  ชาวนาเห็นว่าคนเองได้เงินแล้ว  ก็ปล่อยให้เขากดเต็มที่  เอาเข้าจริงพวกโรงสีมันก็โกงรัฐทางอ้อมนั่นล่ะ  กดราคาเอาของถูกง่ายๆเลย

- รัฐจะจ่ายราคาส่วนต่างระหว่าง  ราคาประกัน- ราคาอ้างอิง  ใช่มั๊ยเอ่ย?  แต่เอาเข้าจริง  ราคาขายจริงส่วนใหญ่จะไม่เท่ากับราคาอ้างอิง  แต่น้อยกว่ามาก  ตามการกดราคาของโรงสี  ชาวนาเลยได้กำไรน้อยกว่าที่ควรเป็น  น้อยกว่าการรับจำนำข้าว  แถมจำนำมักให้ราคาสูงกว่าประกันอยู่แล้วอีก

- ระบบประกัน  ชาวนาอยู่ได้แน่  แต่จะไม่รวย  เพราะน้อยมากที่จะขายเกินราคาประกันได้  เนื่องจากการกดราคาของโรงสีอีกนั่นล่ะ  เว้นแต่ราคาตลาดโลกสูงเกินราคาประกันไปมาก

- เขาว่ากันว่าประกันทำให้ราคาข้าวตกต่ำลง  การคิดราคาเป็นผลผลิตต่อไร่ทำให้ความจูงใจให้เกษตกรการเพิ่มผลผลิตน้อยลง  เพราะทำได้เยอะก็ได้เท่าเดิม

 

ส่วนประเด็นทุจริต  สวมสิทธิ์  แจ้งพื้ที่เท็จ  อันนั้นเป็นเรื่องของระบบ  ที่ต้องแก้ไขกันต่อไป  เข้าใจและเชื่อว่าปชป.  คงทำได้


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#38 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:47

เหอะ เหอะ  ผมว่าถ้าเอามาเปรียบเทียบกันแบบ น้า Annykun นี่ มันอาจจะไม่ค่อย

ตรงเท่าใดนักนะครับ เพราะมันต่างกันโดยวัติถุประสงค์อยู่แล้ว

 

การประกันราคา ผมมองว่าเขามีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือชาวนาในวงกว้างจึงเน้น

รายเล็กรายน้อย และครอบคลุมไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

 

วิธีคำคิดราคาต่อไร่มันน่าจะใช้เฉพาะการประเมินความเสียหายนะ แต่ถ้าเป็นการ

ขายข้าวมันจะไปคิดต่อไร่ได้อย่างไร เพราะเขาต้องเอาข้าวไปขายจริง มีเท่าไรก็เท่านั้น

น่าจะเป็นการประเมินคนละกรณีกันนะครับ

 

การกดราคาของโรงสี ในเรื่องการจำนำเราก็ได้ยินกันอยู่ครับว่าถูกโรงสีกดราคาซึ่งไม่ใช่มี

เฉพาะการประกันราคา แต่ถ้าดูไปลึก ๆ แล้ว มันก็คือการหักค่าความชื้นและสิ่งเจือปนนันแหละ

 

ผมว่าเราต้องมองเหมือนกันว่า โรงสีมันไม่ได้มีอยู่โรงเดียว ถ้าโรงหนึ่งกดราคา อีกโรงหนึ่ง 

ไม่ได้กดราคา มันก็จะเกิดความแตกต่างในเรื่องราคาขายของชาวนา การชดเชยราคาประกัน

มันก็จะแตกต่างกัน มันก็จะเกิดความสงสัยและตรวจสอบตามมา โรงสีเขาจะเสี่ยงหรือครับ 

 

ส่วนเรื่องชาวนารวยหรือไม่นั้น ผมว่าทั้งสองวิธีนี้มันไม่ทำให้ชาวนารวยไปได้หรอกครับแต่ถ้า

ถามว่าวิธีไหนชาวนาได้เงินเยอะกว่า การรับจำนำแบบรัฐบาลนี้ ชาวนาได้เงินมากกว่าอยู่แล้วครับ

แต่สัดส่วนของเงินที่ชาวนาได้รับถ้าเทียบกับเงินที่รัฐลงทุนไปมันต่างกันเยอะมากจนน่าตกใจนะครับ



#39 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:05

อย่ามองถึงเงินที่ชาวนาจะได้เฉพาะหน้าเป็นหลัก ให้ดูถึงจำนวนเงินที่จะเหลือไปพัฒนาระบบการเกษตร ก็จะเห็นว่าประกันหรือจำนำ วิธีไหนจะยืนระยะได้ยาวกว่าและเป็นประโยชน์ต่อชาวนามากกว่ากัน ถ้าเทียบที่ตัวเลข 12000 บาท เหมือนกัน ผมเชื่อว่า เงินที่ใช้ในการประกันรายได้น้อยกว่าและส่วนใหญ่ตกถึงชาวนาโดยตรง โอกาสที่การจำนำจะใช้เงินสุทธิต่ำกว่าการประกันมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือเรื่องตัวเงินงบประมาณ

 

ส่วนเรื่องประโยชน์ต่อชาวนา ไม่ต่างกันในเรื่องรายรับ แต่ต่างกันในเรื่องความเสี่ยง  แนวทางที่ ปชป นำมาใช้คือทำให้ชาวนามีหลักประกันว่าเขาอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนการจำนำไม่มีหลักประกันตรงนี้เลย 



#40 nornoo

nornoo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,578 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:15

มันเป็นความคิดของอ้ายทักกี้ ณ ดูไบ มานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยเป็นรัฐบาลรอบแรก

อวดเก่ง ราคาคุย ดื้อด้าน ว่า ข้าวจะสามารถทำการควบคุมและกำหนดราคาเองได้เหมือนน้ำมัน จะทำเป็น cartel เหมือนกลุ่มโอเปก

โดยพยายามที่จะผนวกข้าวไทย ข้าวเวียดนาม ข้าวเขมร มากำหนดราคาตลาดโลก เพราะเห็นว่าประเทศไทยและเพื่อนบ้านมีผลผลิตสำหรับการส่งออกมากกว่าทั่วโลกในขณะนั้น

เลยกล้าที่จะออกนโยบายกำหนดราคาเกินเพดานการจำนำให้แก่ชาวนา และมากกว่าราคาจริงของตลาดโลกอยู่มาก เพราะเชื่อว่าเก่ง สามารถดันราคาเองได้

ปัญหาก็คือ ข้าวมันไม่เหมือนน้ำมัน คือ

1. ชาวโลกไม่ได้กินข้าวกันทุกคน หรือทุกประเทศ  บางประเทศเขากินถั่ว ข้าวโพด มัน ข้าวสาลี ฯลฯ เป็นหลัก  (เช่นเดียวกันกับในไทยเอง ปกติกินข้าว อยู่ดีๆ อ้ายทักกี้หลอกให้ไปกินหญ้าซะงั้น)

2. ราคาข้าวแพงขึ้น เขาทดแทนกินอาหารแป้งประเภทอื่นๆ ได้ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Substitute (แปลให้สำหรับพวกแดงโง่ๆ ในเวปนี้)

3. ข้าวสามารถปลูกได้เกือบทั่วโลก ได้ทุกทวีป ยิ่งหากราคาดี รัฐบาลของแต่ละประเทศเขาก็จะสนับสนุนให้มีการปลูกมากขึ้น เกิดการแข่งขันมากขึ้น มีปริมาณมากขึ้น

4. ข้าวที่ดีที่สุดในโลก สำหรับผู้บริโภค ไม่ใช่ข้าวไทย (หลายประเทศเขานิยมข้าวแข็ง ไม่ใช่ข้าวนิ่ม) อันนี้ เป็นข้อเท็จจริง หาข้อมูลได้จาก google

5. ประเทศผู้ผลิต มีหลายประเทศ ผลิตได้มากกว่าไทย แต่มีปริมาณการบริโภคภายในประเทศเขาเยอะ และ/หรือบางประเทศเขากำหนดเป็นยุทธศาสตร์ก่อน เพราะหากเกิดสงคราม ประชาชนเขายังจะมี

    กินต่อไปมักเป็นนโยบายให้มีการขายภายในก่อนพิจารณาการส่งออก

6. เผอิญยิ่งเป็นความซวยของอ้ายทักกี้ ณ ดูไบ บางประเทศที่เคยผลิตได้ไม่เพียงพอและไม่ค่อยมีการส่งออก กลับผลิตได้เกินความต้อง เลยมีส่งออกมามากกว่าปกติ เช่นอินเดีย หรือบางประเทศผลิต

    ได้มากขึ้น เลยส่งออกมาด้้มราคาให้ได้มากขึ้น เพราะไทยไม่ไปขาย ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพต่ำกว่า แต่เขาขายในราคาที่ต่ำกว่า เช่นเวียดนาม หลักเศรษฐศาสตร์ปกติ supply vs

    demand ปริมาณมากขึ้นมื่อเทียบกับความต้องการคงที่ราคาต้องตกลงแน่นอน

7. ในปัจจุบันมีวิวัฒนาการทางเทคโนโยลีการผลิต ที่ให้ผลผลิต yield  ได้มากขึ้น ใช้น้ำน้อยลง แถมมีพันธุกรรมข้าวที่หอมเพื่อมาแข่งตลาดข้าวหอมของไทยมากขึ้น เช่น ในสหรัฐฯ

8. ตลาดที่เคยกินข้าวหอมไทย ถือเป็นตลาดบน ราคาขยับแพงมากเกินกว่าตลาดจะรับได้ หันไปกินข้าวปากีสถาน ข้าวอินเดีย แม้ตอนแรกอาจจะบอกว่า รส กลิ่น ไม่ถูกใจ แต่กินไปกินไป ก็ชินเอง แถมราคาถูกกว่า

 

โดยสรุป นอกจากทำลายมูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไป กว่ามากกว่า 2 แสนล้านต่อปี ทำลายภาคการผลิตและระบบการจำนำ แทนที่จะให้มีการกำหนดราคาที่เหมาะสมกับตลาดให้แก่ชาวนาผู้ปลูก และในขณะเดียวกันไม่เอาเปรียบผู้บริโภคคนไทยด้วยกันเอง เพราะคนไทยต้องกินข้าวกันอยู่ทุกวัน หยุดให้มีการพัฒนาภาคการผลิตเนื่องจากชาวนาจะรอการจำนำราคาที่สูงผิดไปกว่าความจริง สร้างความเคยชินเป็นลักษณะระบบรัฐสวัสดิการเหมือนประเทศสังคมนิยม (มีประเทศไหนบ้างที่เป็นระบอบสังคมนิยมและสามารถคุยได้ว่ามีศักยภาพการผลิตที่ดี)

อุดหนุนผิดวิธี ต้องใช้เงินมาก ดินพอกหางหมู ไม่ยอมรับว่าทำผิด และแต่ดื้อดานทำต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งสูญเสียมากขึ้นอีก ตอนนี้ไม่มีโรงเก็บข้าวอีก เงินหมดที่จะหมุนเวียนเพราะไม่ได้ขายใคร  สูญเสียตลาดต่างประเทศที่ได้สร้างฐานด้านความเชื่อถือและคุณภาพไว้หมด

 

ภายใน 2 ปีที่่ผ่านมา สามารถคุยได้ว่า รัฐบาลชุดนี้่ได้สร้างความ ship   หาย ไว้แบบประวิติศาสตร์ไทยต้องจารึกไว้ เพราะได้นายกฯ โง่ๆ ไม่รู้อะไรเลย ไม่รับผิดชอบ เที่ยวต่างประเทศลูกเดียว เพราะสนุก คนที่เข้ามาบริหารแต่งตั้งมาไม่ความสามารถเลย เพียงเพื่อการตอบแทนกระทำความชั่วไว้ให้ โกงให้ เป็นปากหมากัดแทนให้ และเป็นลูกจ้างที่ทำหน้าตามคำสั่งและดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง นี้นี้ขนาดไม่รวม การกู้เงิน 2 ล้านๆ การใช้เงินน้ำอีก 3.5 แสนล้าน ด้วยนะ ทำลายประเทศชาติได้ครบวงจรพอดี

อนาถดีแท้ๆ


Edited by nornoo, 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:19.


#41 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:10

อย่ามองถึงเงินที่ชาวนาจะได้เฉพาะหน้าเป็นหลัก ให้ดูถึงจำนวนเงินที่จะเหลือไปพัฒนาระบบการเกษตร ก็จะเห็นว่าประกันหรือจำนำ วิธีไหนจะยืนระยะได้ยาวกว่าและเป็นประโยชน์ต่อชาวนามากกว่ากัน ถ้าเทียบที่ตัวเลข 12000 บาท เหมือนกัน ผมเชื่อว่า เงินที่ใช้ในการประกันรายได้น้อยกว่าและส่วนใหญ่ตกถึงชาวนาโดยตรง โอกาสที่การจำนำจะใช้เงินสุทธิต่ำกว่าการประกันมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือเรื่องตัวเงินงบประมาณ

 

ส่วนเรื่องประโยชน์ต่อชาวนา ไม่ต่างกันในเรื่องรายรับ แต่ต่างกันในเรื่องความเสี่ยง  แนวทางที่ ปชป นำมาใช้คือทำให้ชาวนามีหลักประกันว่าเขาอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนการจำนำไม่มีหลักประกันตรงนี้เลย 

     เห็นด้วยครับ

     ขอเพิ่มอีกหน่อย

     ถ้ามีการกวาดล้างพวกโกงกิน ทำลายขายชาติ

     คนบางตระกูล มีหลักประกันว่า จะมีที่อยู่อย่างสุขสบาย ที่ตปท.


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#42 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:34

อย่ามองถึงเงินที่ชาวนาจะได้เฉพาะหน้าเป็นหลัก ให้ดูถึงจำนวนเงินที่จะเหลือไปพัฒนาระบบการเกษตร ก็จะเห็นว่าประกันหรือจำนำ วิธีไหนจะยืนระยะได้ยาวกว่าและเป็นประโยชน์ต่อชาวนามากกว่ากัน ถ้าเทียบที่ตัวเลข 12000 บาท เหมือนกัน ผมเชื่อว่า เงินที่ใช้ในการประกันรายได้น้อยกว่าและส่วนใหญ่ตกถึงชาวนาโดยตรง โอกาสที่การจำนำจะใช้เงินสุทธิต่ำกว่าการประกันมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือเรื่องตัวเงินงบประมาณ
 
ส่วนเรื่องประโยชน์ต่อชาวนา ไม่ต่างกันในเรื่องรายรับ แต่ต่างกันในเรื่องความเสี่ยง  แนวทางที่ ปชป นำมาใช้คือทำให้ชาวนามีหลักประกันว่าเขาอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนการจำนำไม่มีหลักประกันตรงนี้เลย 

     เห็นด้วยครับ
     ขอเพิ่มอีกหน่อย
     ถ้ามีการกวาดล้างพวกโกงกิน ทำลายขายชาติ
     คนบางตระกูล มีหลักประกันว่า จะมีที่อยู่อย่างสุขสบาย ที่ตปท.


เหมือน ประกันสังคมเลย เหะๆ

#43 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:16

วันนี้ลองเปลี่ยนจากรับจำนำเป็นประก้นรายได้ แล้วให้คนไปตรวจสอบสต๊อคลมทุกโกดังข้ืาวพร้อมกันดิ

 

รับรอง แย่งกันไปให้ราคาชาวนาขอซื้อข้าวกันบาน

 

เหมือนตอนมาร์คทำประกันใหม่ ๆ พอสต็อคข้าวของรัฐบาลเริ่มน้อย

 

ราคาข้าวทีโรงสีรับซื้อก็ขึ้นป๊าบเลย

 

:lol: 



#44 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:19

 

 

อย่ามองถึงเงินที่ชาวนาจะได้เฉพาะหน้าเป็นหลัก ให้ดูถึงจำนวนเงินที่จะเหลือไปพัฒนาระบบการเกษตร ก็จะเห็นว่าประกันหรือจำนำ วิธีไหนจะยืนระยะได้ยาวกว่าและเป็นประโยชน์ต่อชาวนามากกว่ากัน ถ้าเทียบที่ตัวเลข 12000 บาท เหมือนกัน ผมเชื่อว่า เงินที่ใช้ในการประกันรายได้น้อยกว่าและส่วนใหญ่ตกถึงชาวนาโดยตรง โอกาสที่การจำนำจะใช้เงินสุทธิต่ำกว่าการประกันมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือเรื่องตัวเงินงบประมาณ
 
ส่วนเรื่องประโยชน์ต่อชาวนา ไม่ต่างกันในเรื่องรายรับ แต่ต่างกันในเรื่องความเสี่ยง  แนวทางที่ ปชป นำมาใช้คือทำให้ชาวนามีหลักประกันว่าเขาอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนการจำนำไม่มีหลักประกันตรงนี้เลย 

     เห็นด้วยครับ
     ขอเพิ่มอีกหน่อย
     ถ้ามีการกวาดล้างพวกโกงกิน ทำลายขายชาติ
     คนบางตระกูล มีหลักประกันว่า จะมีที่อยู่อย่างสุขสบาย ที่ตปท.

 


เหมือน ประกันสังคมเลย เหะๆ

 

    กับฌาปณกิจสงเคราะห์ ก็ต่างกันแค่ชื่อ


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#45 ตำรวจบ้าน

ตำรวจบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 964 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:21

1371872610-1014106469-o.jpg

1371859811-o.jpg

#46 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:58

เหอะ เหอะ  ผมว่าเขาค้านตรงบรรทัดแรกที่แม่ลูกจันทร์เขียนนั่นแหละครับ

 

เมื่อรัฐบาลผิดพลาดก็ต้องหาทางช่วยเหลือชาวนาให้ถึงที่สุด

 

เขาคงมองว่าการช่วยเหลือชาวนาให้ถึงที่สุดโดยการไปลดราคาจำนำลง แทนที่

จะไปลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ถูกกครหาว่า เขมือบ เป็นการโกหกชาวนาแบบไม่อาย

น่ะครับ



#47 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:34

 

http://www.thanonlin...5-57&Itemid=597

 


 

ดังนั้นการลดราคาจำนำข้าวมาที่ 12,000 บาทนั้น จึงเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด พรรคยืนยันว่าให้ใช้เงิน 1.2 แสนล้านเพื่อช่วยชาวนา แต่ไปลดการทุจริตอีกกว่าแสนล้านที่ไปไม่ถึงมือชาวนา ไม่ใช่ลดเงินให้ชาวนา ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการบริหารจัดการโครงการเดิม หรือเปลี่ยนรูปแบบการช่วยเหลือชาวนาใหม่ ตนจึงยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลทำไม่ถูกจุดและไม่ถูกเรื่อง เพราะต้องไปลบในส่วนที่ไม่กระทบชาวนา ไม่ถูกจุดเพราะความเสียหายในเรื่องการซื้อข้าวเข้าสต๊อค การสวมสิทธิ เวียนเทียนข้าว ไม่สามารถแข่งขันได้ ยังอยู่ครบ จึงขอย้ำว่าพรรคไม่เห็นด้วยกับการปรับลดราคาจำนำข้าวเหลือ 1.2 หมื่นบาท เพราะรัฐบาลมีพันธะสัญญาต้องช่วยเกษตรกรให้ได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่าเดิม แต่ต้องไปลดความสูญเสียด้านการบริหารและทุจริตลง

“มีความพยายามบิดเบือนว่ารัฐบาลลดราคาจำนำเพราะมีคนคัดค้านโครงการ จึงขอเรียกร้องว่าไม่ควรมีการบิดเบือนความจริง แต่ต้องให้เกษตรกรทราบว่าการลดประโยชน์เกษตรกรเป็นการตัดสินใจของรรัฐบาล ผมทราบว่าเกษตรกรเดือดร้อนมาก แม้ว่ารัฐบาลบอกจะใช้ราคาใหม่ในวันที่ 1 ก.ค.56 แต่ในขณะนี้มีการชะลอการรับข้าวเข้าโครงการแล้ว ในขณะที่ชาวนาปลูกข้าวโดยคิดว่าจะได้เงินเท่าเดิม แต่รัฐบาลกลับทำให้เกษตรกรเสียประโยชน์ทันทีตันละ 3 พันบาท” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
 

 



#48 ant

ant

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,081 posts

ตอบ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:04

ผมเห็นต่างครับ ประกัน ยังไงก็ดีกว่าครับ  แค่โจทย์ให้ ทั้ง จำนำ และประกัน ที่ 15000 บาท เท่ากัน

 

ประกัน เราไ่ม่เสียค่าเช่าโกดัง   ค่าปรับสภาพข้าว รมยา  จิปาถะต่างๆ

 

ในขณะที่จำนำ เราเสียตรงนี้ครับ และโกงกินกันง่าย

 

ประกัน แม้ว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยว เงินเข้ากระเป๋าชาวนาทันที  แต่จำนำ  ก็ อดแดรกกันไป

 

ประกัน ของ ปชป จำกัดโควต้าช่วยเหลือชาวนารายย่อย ให้ไม่เกิน 25 ตันหากจำไม่ผิด

 

ประกัน ไม่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน การแข่งขันทำได้ ซึ่งมีโอกาศสูงที่จะทำให้ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน เพราะเอกชน

 

จะแย่งซื้อข้าวจากโรงสี  เพราะรู้ว่ารัฐไม่มีสต็อกข้าวในมือ  แต่จำนำ หากว่าเอกชนรู้ว่ารัฐสต็อกข้าวบวม  จะเร่งซื้อทำไม่ รอซื้อของถูกจากรัฐดีกว่า ฯลฯ

 

ประกัน ราคา เราสามารถเก็บข้าวส่วนนึงไว้กินเองได้ แต่จำนำ เราต้องเอาข้าวไปขายเอาเงินมาซื้อข้าวกิน

 

ประกันราคา หากเราสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ได้เยอะขึ้น ก็คือกำไรล้วนๆ

 

สรุปยังไงประกันก็ดีกว่าครับ   แต่ยังมีรอยโหว่ที่ต้องอุด ตรงที่บางคนมาลงทะเบียน แต่ไม่ปลูกข้าว ตรงนี้ต้้องตรวจสอบแก้ไขกันต่อไป

 

เสียดายที่ชาวนาไทย มองสั้น  ทั้งที่ระบบประกันแก้ไขจุดรั่วไหล ก็จะเป็นระบบที่ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ยั่งยืนในระยะยาวแท้ๆ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับกับประกันราคาพืชผลทางการเกษตร

ส่วนดีอีกอย่างของการประกันราคา คือสามารถตัดวงจรการทุจริตจากนักการเมืองได้ครับ เพราะรัฐไม่ได้ซื้อ-ขายเอง เพียงแต่ชดเชยเงินส่วนต่างเท่านั้น

 

ที่ว่า..

ประกันราคา ขาดทุน....เพราะรัฐนำเงินไปช่วยชดเชยราคาข้าวให้ชาวนา

จำนำข้าว ขาดทุน......เพราะเกิดการทุจริตของนักการเมืองร่วมกับพ่อค้า และบิดเบือนกลไกของตลาด(ซื้อแพง-ขายถูก)


ตราบที่สูอยู่-กิน..แผ่นดินไทย ตราบโคตรเหง้าสูใช้แผ่นดินนี้ตราบศพสูฝังใต้..ไทยปฐพี สูไม่มีสิทธิ์ยํ่ายี.." พระเจ้าแผ่นดิน "

#49 ant

ant

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,081 posts

ตอบ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:20

ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียด


ตราบที่สูอยู่-กิน..แผ่นดินไทย ตราบโคตรเหง้าสูใช้แผ่นดินนี้ตราบศพสูฝังใต้..ไทยปฐพี สูไม่มีสิทธิ์ยํ่ายี.." พระเจ้าแผ่นดิน "

#50 kabokaboh

kabokaboh

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 588 posts

ตอบ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:54

ส่วนตัว

 

ไม่ว่าจะอะไร มันก็ดีทั้งนั้น ถ้าคิดจะช่วยชาวนาจริงๆ

 

ข้อดีข้อเสียมันมี ก็อย่างที่่หลายท่านว่ามา

 

แต่การรับจำนำคราวนี้ มันเปิดช่องให้ เหลือบ มอด หารับประทาน อย่างใหญ่หลวงนัก

 

ไม่ว่า รับทุกเมล็ด ถามว่า ชาวนาจนๆ จะมีกำลังการผลิตสักเท่าไหร่ รายใหญ่ที่กว้านซื้อที่ไว้ รับเต็มๆ ภาษีคุณทั้งนั้น

 

ไหนจะ ถ้าเป็นแดง จะได้ราคาหน่อย แดงน้อยๆ ก็ได้ราคาน้อย ตามความเข้มของสีอีก

 

ไหนจะ สวมสิทธิข้าว หมุนข้าว

 

ไหนจะ หักนั่นนี่โน่น ถ้าไม่ยอมให้หัก ก็ไม่รับซื้อ แล้วก็เอาข้าวราคาถูกไปขายแพงๆ

 

คนรวย ไม่น่าจะใช่ชาวนานะ

 

ชาวนา โอเคตรงที่ได้เงินเร็ว และ มากกว่าเดิมนิดหน่อย แค่นั่น เพราะต้องรีบเอาไปใช้หนี้

 

แต่ เงินจะหายไปไหนก็ช่างมัน ชาวนาไม่เกี่ยว

 

แต่ คนเสียภาษี คงจะต้องเกี่ยวบ้าง เพราะ มันไม่ใช่เงินของตระกูล ชิน แต่มันเป็นเงิน ของคนทั้งประเทศ






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน