สัปดาห์นี้(24 - 30 มิย.56) ต้องถือเป็นสัปดาห์ทองของโรงสี
เพราะยังคงใช้ราคาจำนำข้าวเดิม ที่ 15000 บาท...
ที่เป็นเช่นนั้น ผมได้ทราบเอา จากบทความ ที่พูดถึง...
ใบเสร็จ...24 มิถุนายน 2556
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ช่วงเวลานี้ จนถึงวันที่ 29 มิ.ย. ต้องถือว่าเป็นเวลาทองของการจำนำข้าว
สาเหตุเนื่องจากหลังวันดังกล่าว รัฐบาลจะลดราคารับจำนำข้าวเปลือกจากเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท ก็จะเหลือ 1.2 หมื่นบาท
นั่นหมายความว่า ใครมีข้าวในมือจะถือว่าเป็นโชคหลายชั้น
ตัวเลขการรับจำนำข้าวในช่วงนี้จึงน่าจะสูงลิ่ว โป่งออกมาชนิดที่คาดไม่ถึง
แน่นอนที่สุด สิ่งที่จะต้องตามมาคือมหกรรมการโกง หรือการเอาข้าวในโรงสีมาสวมสิทธิเวียนเทียนรับจำนำอีกรอบ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณีข้าวหาย ที่โรงสี จ.พิจิตร
โรงสีดังกล่าวถูกตั้งข้อหายักยอกข้าวเปลือก 4,000 ตัน และข้าวสาร 840 ตัน วงเงินประมาณ 88 ล้านบาท และฉ้อโกงชาวนา โดยนำชื่อชาวนามาสวมสิทธิจำนำข้าวเปลือกอีก 4,000 ตัน
ทั้งหมดมีการประเมินว่า ข้าวที่หายไปจะถูกนำไปขายต่อเพื่อเวียนเทียนรับจำนำอีกรอบ ในช่วงที่ราคารับจำนำยังอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อเกวียน
นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงทองของการจำนำข้าวที่คงราคาเดิมเอาไว้
ปัญหาการโกงของโรงสี จ.พิจิตร นี้ ยังเป็นใบเสร็จชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นการทุจริตที่เกิดขึ้นจริงในโครงการรับจำนำข้าว
การกระทำของโรงสีแห่งนี้ แสดงชัดคือกระบวนการเวียนเทียนข้าว เอาข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาเวียนจำนำซ้ำ
ที่เรื่องแดงขึ้นมา เนื่องจากมีการโกงชาวนา ทำให้ชาวนาประท้วงปิดถนน ถึงได้เข้ามาดูแล
ถ้าไม่โกงชาวนาก็เห็นทีว่าจะปิดกันได้อย่างมิดชิดไม่เกิดความฮือฉาวอย่างที่รับรู้
ถึงได้บอกเอาไว้แล้วว่า นโยบายรับจำนำข้าวเป็นความเสียหายไม่รู้จบ
ไม่ใช่เฉพาะตัวเลขการขาดทุนจากผลต่างของราคารับจำนำที่สูงลิ่วกับราคาตลาดเท่านั้น แต่ยังมีความเสียหายอื่นๆ ที่นับกันไม่ถูก
ทั้งข้าวสารที่เก็บไว้ต้องประสบปัญหาการเสื่อมคุณภาพ ทำให้ปริมาณขาดหาย รวมถึงเมื่อต้องขายออกไปจะไม่ได้ราคา บางครั้งถึงขั้นขายไม่ได้ กลายเป็นข้าวเน่า ข้าวเสีย ต้องเอาไปเลี้ยงหมูอย่างเดียว
ขณะเดียวกันปริมาณสต๊อก 16-17 ล้านตันข้าวสาร ในโครงการรับจำนำข้าว ไม่มีใครรู้ชัดว่าจะโกงตัวเลข มีสต๊อกลมอีกเท่าใด และรวมไปถึงการเวียนเทียนข้าว จำนำซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างที่เกิดขึ้นที่พิจิตร
โครงการรับจำนำข้าวจึงจะมีกลิ่น ปัญหาปูดขึ้นมาไม่หยุด
เป็นสุดยอดความเน่าจริงๆ
http://www.posttoday.com/คอลัมน์นิสต์ออนไลน์/230022/ใบเสร็จ
ส่วนปีหน้าหรืออาจจะนับแต่นี้ไป จะเป็นโอกาสทองของคนเลี้ยงหมู
ก็ด้วยสาเหตุว่า คงไม่มีทั่น สส. /รมต. หรือไอ้ อี ไพร่แดง ตนไหน
จะทนหรือกล้าแดกข้าวเน่าที่เก็บไว้ในสต็อคได้
ดังนั้น ข้าวเหล่านั้น จึงน่าจะหวานสำหรับหมูและคนเลี้ยง...
ปัญหาที่คิดว่าน่าจะตามมาคือ..."หมูราคาถูก"
ไม่รู้รัฐบาล เตรียมคิดโครงการอะไรไว้รองรับหรือยัง
เพื่อนๆ มาลองจินตนาการน้ำแตก ล่วงหน้าเหมือนที่พวกไพร่แดง
ชอบทำ ดูกันหน่อยมั๊ย...
Edited by Suraphan07, 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:59.