ขอเพียงแค่ ได้แสดงถึงการตอบแทนคนเสื้อแดง เท่านั้นก็พอ...
ความรู้ ความสามารถ ความถนัดในงาน ไม่จำเป็น...
พอดีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆ ในโลกไซเบอร์หลายคนได้มีโอกาสพบ รมช.ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ที่งานแต่งงานในโรงแรมใหญ่ พวกเราก็เลยถือโอกาสขอถ่ายรูปและ วิพาร์กวิจารณ์ คุณณัฐวุฒิ กรณีการแถลงข่าวเรื่องจำนำข้าว คุณณัฐวุุฒิ ก็เลยชี้แจงว่า
ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาด ก็โดนรุมด่าจนหูชาไปแล้ว ก็ถือว่าต้องรับผิดชอบไป
แต่โครงการจำนำข้าวก็อย่างที่ผมเคยเขียนความเห็นไปหลายที่ มันไม่จำเป็นต้องไปมองในมุมกำไร-ขาดทุน เพราะมันเหมือนโครงการลงทุนอื่นๆ ที่ผลได้มันต้องวัดที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ใช่วัดที่ตัวเงินที่รัฐต้องจ่าย รัฐไม่ใช่บริษัทที่ต้องคิดเรื่องกำไรขาดทุนในรูปของตัวเงิน แต่รัฐคือ "ตัวแทนของสังคม ต้องวัดที่สมาชิกของสังคม" คือ ชาวนาที่เป็นผู้ผลิตและประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้บริโภคข้าว" กรณีจำนำข้าว ตัวเลขของสภาพัฒน์ฯคือ ทำให้รายได้ประชาชนชาติเพิ่มขึ้น 0.62% คิดเป็นตัวเงินคือ 7-8 แสนล้านบาท โดยใช้เงินลงทุน (ก็เงินที่รัฐขาดทุน) 1.36 แสนล้านบาท ดังนั้นผลได้ของโครงการนี้จะสูงกว่าการลงทุนถึง 5 เท่า ไม่ใช่การขาดทุนอย่างที่โจมตีกัน
นี่เป็นแนวคิดทางด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ
ต่อไปคุณณัฐวุฒิก็คงต้องระมัดระวังในการแถลงข่าว หากโดนบีบแบบนี้ก็ต้องยกเลิกการแถลงข่าวก่อน ไม่อย่างนั้นก็เสียมากกว่าได้
ก็ข้อวิจารณ์คุณณัฐวุฒิเล็กน้อย
คุณณัฐวุฒินั้น มีความเชี่่ยวชาญในการพูด การใช้ภาษา อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุดคือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุมงานด้านสื่อของรัฐบาล จึงจะตรงกับความสามารถมากที่สุด แต่เนื่องจากคุณณัฐวุฒิเป็นคนเสื้อแดง เต็มตัว รัฐบาลต้องการหลักเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มอำมาตย์ และฝ่ายตรงกันข้าม จึงไม่อาจวางคุณณัฐวุฒิให้ตรงกับความสามารถได้ แต่จำเป็นต้องมี รมต. จากฝ่ายคนเสื้อแดงที่เป็นมวลชนส่วนใหญ่ด้วย ก็เลยต้องตั้งคุณณัฐวุฒิเป็น รมต.สายเศรษฐกิจ คือครั้งแรกเป็น รมช. กระทรวงเกษตร
เป็น รมช.เกษตร คุณณัฐวุฒิไปจับงานด้านราคายางที่กำลังตกต่ำ ก็เลยไม่สามารถแสดงผลงานได้ชัดเจน เพราะเรื่องตลาดโลกเป็นเรื่องซับซ้อน ยากที่จะทำสำเร็จได้โดยง่าย
เมื่อถูกย้ายมาเป็น รมช. พาณิชย์ คุมด้านราคาสินค้า คุณณัฐวุฒิก็ยังไม่มีผลงานเด่นอะไร นอกจากการเปลี่ยนชื่อจาก โชห่วยเป็นโชว์สวย
สรุปคือ เป็น รมต.คุณณัฐวุฒิยังไม่มีผลงานโดดเด่นมากนัก
คุณณัฐวุฒินั้นเป็น รัฐมนตรี อายุยังน้อย แค่ 38 ปีเท่านั้น แต่งานบริหารระดับสูงแบบนั้น มันต้องการประสบการณ์ในด้านการบริหาร และการทำงาน รวมทั้งความรู้ในเรื่องนั้นๆ ด้วย
ผมว่าคุณณัฐวุฒิหาทีมทำงานที่มีประสิทธิภาพและเก่งมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ ต้องหา "ที่ปรึกษารัฐมนตรี" ที่เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่เก่งๆ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เพราะงานด้านเศรษฐกิจ นั้นต้องการความรู้ความสามารถที่จะมองเศรษฐกิจในภาพรวมได้อย่างเข้าใจ เพราะเรื่องบางเรื่อง เราไม่อาจใช้สามัญสำนึกได้ มันเป็นเรื่องทางวิชาการ เช่น ระบบตลาด กลไกราคา และอื่นๆ ผมว่าหาอาจารย์มหาวิทยาลัย เก่งๆ แบบ ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์หรืออาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์อื่นๆ เข้าไปช่วยครับ จึงจะทำงานออก
ทีมที่ปรึกษาควรมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งๆ ไม่ใช่ทีมด้านการเมือง นักวิชาการที่เป็นเสื้อแดงเก่งๆ ก็มีเยอะครับ
ไม่งั้นคุณณัฐวุฒิไม่มีผลงานโดดเด่น ก็จะโดนโจมตีมากเปล่าๆ
คุณณัฐวุฒิ มีข้อดีตรงที่ไม่ถือตัวว่าเป็นรัฐมนตรี คนเสื้อแดงเข้าไปหาได้โดยง่าย ทำให้เป็นที่ป็อบปูล่า แต่คงต้องมีผลงานที่เป็นรูปธรรมด้วยครับ
เป็นเสียงส่วนใหญ่ มันดีอย่างงี้นี่เอง...
จะว่าไปถ้าถนัดการยุยงให้คนเผาบ้านเผาเมือง
ก็ไม่น่าจะอยู่ที่กระทรวงเกษตร หรือพาณิชย์ อยู่แล้ว...
ว่าแต่เพื่อนๆว่า น่าจะอยู่กระทรวงไหนดีเอ่ย...
Edited by Suraphan07, 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:18.