Jump to content


Photo
- - - - -

เสนอไอเดียเรื่องนโยบายข้าว สำหรับช่วยเหลือเกษตกร


  • Please log in to reply
20 replies to this topic

#1 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 25 June 2013 - 10:53

- เป็นไปได้ไหม  หากเราจะคิดราคาประกัน  ตามต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ย+กำไร  20-30% ให้ชาวนา

- 30%  จากต้นทุนการผลิต  น่าจะเป็นราคาที่ชาวนาพอใจที่สุด  ที่ไม่เวอร์เกินไป  

- ผลักภาระการลดต้นทุนการผลิต  ไปที่รัฐบาล  เพราะคิดราคาประกันตามต้นทุนการผลิต  หากรัฐไม่ควบคุม  ค่าปุุ๋ย  ค่ายา  รัฐเองจะเป็นฝ่ายอ้วก  ดังนั้นรัฐต้องทำนโยบาย/โครงการ  อะไรก็ได้ออกมาควบคุม  ต้นทุนการผลิตของชาวนาให้ได้ต่ำที่สุด  เพื่อที่จะไม่เป็นภาระคงคลังมากเกินไป  (น่าจะดีกว่า  ซื้อข้าวไปเก็บในโกดัง  ขายก็ยาก)

- กำหนดเพดานของราคาประกันโดยเอาไว้  ราคาตลาดโลกเป็นเกณฑ์  โดยห้ามเกิน  กี่%  ของราคาตลาด  (สมมุติซัก 20%  ของราคาตลาด)  ใช้กรณีต้นทุนพุ่งเกินราคาตลาด  จะทำไม่ให้รัฐขาดทุนมากเกินไป

- แต่ไม่กำหนดราคาพื้น(floor)  เพราะราคาประกันคิดตามต้นทุน  ยิ่งต่ำยิ่งดี

- ชาวนาที่ลดต้นทุนได้เอง  มากกว่าค่าเฉลี่ยของรัฐ  ก็กำไรเน้นๆ  เข้าไปอีก

- หากรัฐควบคุมต้นทุนไม่ได้/ราคาตลาดตกต่ำ  ก็ถือว่าช่วยชาวนาไป   หากราคาต้นทุนพุ่งแสดงว่ารัฐไม่มีน้ำยา  ตรวจสอบกันไป

- หากขนาดนี้แล้ว  ชาวนายังขาดทุน  รัฐช่วยทำนโยบาย  ย้ายให้ชาวนาเหล่านั้นไปทำอาชีพอื่นๆ โดยด่วน

- รัฐทำโครงการเพื่อพัฒนาในระยะยาวควบคู่กันไปด้วย  มีเป้าหมายเพื่อพยายามลดการพึ่งพารัฐของชาวนาในอนาคต  จนอาจไม่จำเป็นต้องใช้ประชานิยมอีก

- นำรูปแบบของจำนำข้าวเข้ามาผสาน  กรณ๊ราคาข้าวตกต่ำ  โดยรัฐทำตัวเป็นผู้รับซื้อข้าวอีกราย  ที่เข้ามารับซื้อข้าวจากชาวนา  เพื่อช่วยดึงราคาตลาดให้สูงขึ้น

- อื่นๆ  

 

* ตัวเลขต่างๆ  ปรับเปลี่ยนได้  ตามความเหมาะสม

* ต้นทุนการผลิต  ที่เป็นค่ากลาง  คิดจากราคาเฉลี่ยของค่ายา  ค่าปุ๋ย  ค่าแรงงาน  และอื่นๆ  ที่จำเป็นต่อการทำนาในแต่ละไร่   ครอบคลุมทุกปัจจัยการผลิตที่จำเป็นทั้งหมด  

* ประชานิยม แหละ  แต่อย่างว่าหากไม่ทำ  เขาก็ไม่เลือก  ให้เขาเลือกก่อน  เพื่อพัฒนา  แล้วค่อยลด  ละ เลิก  หากทำได้ตามเป้าหมายในอนาคต

* work  ไม่ work ยังไงก็เสวนากันไป


Edited by annykun, 25 June 2013 - 10:56.

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#2 Emolution

Emolution

    โคตรพ่อโคตรแม่ควายแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,029 posts

Posted 25 June 2013 - 10:58

ยุบสภา



#3 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

Posted 25 June 2013 - 13:36

ก่อนอื่นรัฐบาลชุดนี้ต้องยอมรับผิดเสียก่อน แล้วเราค่อยมาดูว่ามีอะไรเสียหายไปบ้าง มูลค่าเท่าไหร่ แล้วค่อยๆแก้ ตอนนี้ยังมองไม่ออกเลยว่าซุกอะไรไว้ตรงไหนอีกบ้าง แก้ตอนนี้ถ้าผิดจุดจะเสียหายมากกว่าเดิมค่ะ


มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#4 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

Posted 25 June 2013 - 14:22

เคยมียุคไหนไหม ที่รัฐบาลไม่ต้องช่วยชาวนา ??? หรือชาวนาไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง ???


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#5 บัวทอง...

บัวทอง...

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 254 posts

Posted 25 June 2013 - 14:53

จริงจังกับ....การปราบทุจริตทุกโครงการเกี่ยวกับข้าว......จบข่าว ตัวเลขเม็ดเงินทั้งหมดจะอยู่กับชาวนาเต็มๆ



#6 ขุนพลชิน

ขุนพลชิน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,053 posts

Posted 25 June 2013 - 14:58

ไม่ต้องรับจำนำ ไม่ต้องประกัน ไม่ต้องไปยุ่งอะไรเลย ให้ชาวนาพัฒนาการทำนาเป็นหลัก



#7 Novice

Novice

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,353 posts

Posted 25 June 2013 - 15:33

อันที่จริง เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับไทยรัฐวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าสุดท้าย ไม่ว่าจะจำนำ หรือ ประกันราคา ชาวนาก็คือ "ทาส" ของรัฐบาลร่ำไป อยู่ที่ว่าจะเป็นทาสในนโยบายไหนเท่านั้นเอง มันมีด้วยเหรอครับ การประกอบสัมมาอาชีพอะไรซักอย่าง แล้วต้องมีคนคอยเป็นแบ๊คอัพให้ตลอดเวลา เหมือนทำงานแล้วแต่ยังต้องขอตังค์พ่อแม่ตลอด แบบนี้มันจะไปรอดได้ยังไงครับ

 

ลดพื้นที่ทำนาข้าว สนับสนุนให้มีการทำเกษตรแบบอื่นในพื้นที่ทำนาที่ไม่มีผลผลิตที่ดีแบบถาวร คือทางออกแบบยั่งยืนที่สุด อันที่จริงคำพูดนายกก็พูดไม่ผิดหรอกเรื่องให้ชาวนาไปปลูกอย่างอื่นบ้าง แต่ไอ้ตัวคนพูดน่ะแหละที่ผิด เพราะตัวเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้ชาวบ้านแห่มาปลูกข้าวซะจนไม่มีที่จะส่งออก แต่ดันมาบอกให้คนอื่นไปปลูกอย่างอื่นเวลาตัวเองไม่มีเงินจะจ่าย แบบนี้แถวบ้านผมเรียกเมากาวพูดครับ

 

รัฐบาลทำได้แค่ยอมรับความผิดพลาดแล้วดำเนินการให้มันเหมาะสมกับที่ควรจะเป็น แต่คงไม่มีหวัง เพราะไอ้แม้วมันไม่มีทางปล่อยให้ฐานเสียงไม่พอใจแน่ ถึงชาวนาจะเป็นทาสรัฐบาล แต่รัฐบาลก็ต้องเป็นทาสชาวนาในเรื่องคะแนนเสียงอยู่ตลอดเหมือนกัน

 

ดังนั้นความเห็นผมคือ อาจต้องรอให้ชาติพินาศแบบกรีซ แต่ต้องให้พินาศก่อนที่ไอ้แม้วจะกุมทุกฐานอำนาจในไทยเบ็ดเสร็จ เหมือนรัฐบาล กรีซ อิตาลี ญี่ปุ่น และประเทศเผด็จการรัฐสภาอีกนับไม่ถ้วนในโลก เมื่อนั้นชาวนาอาจมีโอกาสพ้นจากความเป็นทาสรัฐบาลได้บ้าง



#8 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

Posted 25 June 2013 - 15:56

ไม่ขายจะขาดทุนได้ไง   ถ้าในโกดัง 10-20 ล้านตัน  มีคนมาขอซื้อตันละ ห้าหมื่น แสนนึงว่าไง

จะได้กำไรขนาดไหน สลิ่มเคยคิดบ้างไหม  

อย่างไข่ไก่เอามาทำไข่เค็มสลิ่มแม่มก็โง่ไม่รู้เรื่อง คอยดูนะเสื้อแดงจะครองตลาด   รู้ไว้ซะ

 

ท่านทักกี้ ได้มองไกลคิดไปถึงไหนแล้ว สลิ่มเอ๋ย เลือกตั้งคราวหน้า เอาตันละ 25,000 ไปเลยให้  สลิ่มกระอักเลือดตายให้หมด


Edited by butadad, 25 June 2013 - 15:58.


#9 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

Posted 25 June 2013 - 16:05

ผมจะไม่ช่วยด้านราคา แต่จะช่วยด้านวิธีการ สนับสนุนให้คนมาทำนาแบบปลอดสารพิษให้ได้ ถ้าทำได้ต้นทุนจะลดลงมาเอง และที่สำคัญราคาข้าวจะดีกว่า ช่วงแรกๆ ก็ต้องหาวิธีจูงใจให้คนหันมาทำแบบนี้ อาจจะต้องใช้เงินหน่อยและอาจต้องมีการชดเชยผลผลิตในกรณีที่ชาวนาชอบอ้างว่าไม่ฉีดยาข้าวก็โดนแมลงกินหมด หรือได้ผลผลิตน้อย ให้หลักประกันเขาไป แต่ต้องให้ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการทำสัญญาระยะยาวสามถึงสี่ปี ใครไม่อยากทำปัญหาเยอะก็ปล่อยเขาไป

#10 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

Posted 25 June 2013 - 17:22

- เป็นไปได้ไหม  หากเราจะคิดราคาประกัน  ตามต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ย+กำไร  20-30% ให้ชาวนา

- 30%  จากต้นทุนการผลิต  น่าจะเป็นราคาที่ชาวนาพอใจที่สุด  ที่ไม่เวอร์เกินไป  

- ผลักภาระการลดต้นทุนการผลิต  ไปที่รัฐบาล  เพราะคิดราคาประกันตามต้นทุนการผลิต  หากรัฐไม่ควบคุม  ค่าปุุ๋ย  ค่ายา  รัฐเองจะเป็นฝ่ายอ้วก  ดังนั้นรัฐต้องทำนโยบาย/โครงการ  อะไรก็ได้ออกมาควบคุม  ต้นทุนการผลิตของชาวนาให้ได้ต่ำที่สุด  เพื่อที่จะไม่เป็นภาระคงคลังมากเกินไป  (น่าจะดีกว่า  ซื้อข้าวไปเก็บในโกดัง  ขายก็ยาก)

- กำหนดเพดานของราคาประกันโดยเอาไว้  ราคาตลาดโลกเป็นเกณฑ์  โดยห้ามเกิน  กี่%  ของราคาตลาด  (สมมุติซัก 20%  ของราคาตลาด)  ใช้กรณีต้นทุนพุ่งเกินราคาตลาด  จะทำไม่ให้รัฐขาดทุนมากเกินไป  ...เพิ่มสัก5% ของราคาปีที่แล้ว เพราะนี่ประกันราคา(ประกันรายได้)

- แต่ไม่กำหนดราคาพื้น(floor)  เพราะราคาประกันคิดตามต้นทุน  ยิ่งต่ำยิ่งดี

- ชาวนาที่ลดต้นทุนได้เอง  มากกว่าค่าเฉลี่ยของรัฐ  ก็กำไรเน้นๆ  เข้าไปอีก  ...+คุณภาพข้าว

- หากรัฐควบคุมต้นทุนไม่ได้/ราคาตลาดตกต่ำ  ก็ถือว่าช่วยชาวนาไป   หากราคาต้นทุนพุ่งแสดงว่ารัฐไม่มีน้ำยา  ตรวจสอบกันไป

- หากขนาดนี้แล้ว  ชาวนายังขาดทุน  รัฐช่วยทำนโยบาย  ย้ายให้ชาวนาเหล่านั้นไปทำอาชีพอื่นๆ โดยด่วน

- รัฐทำโครงการเพื่อพัฒนาในระยะยาวควบคู่กันไปด้วย  มีเป้าหมายเพื่อพยายามลดการพึ่งพารัฐของชาวนาในอนาคต  จนอาจไม่จำเป็นต้องใช้ประชานิยมอีก

- นำรูปแบบของจำนำข้าวเข้ามาผสาน  กรณ๊ราคาข้าวตกต่ำ  โดยรัฐทำตัวเป็นผู้รับซื้อข้าวอีกราย  ที่เข้ามารับซื้อข้าวจากชาวนา  เพื่อช่วยดึงราคาตลาดให้สูงขึ้น ...คงไม่จำเป็น เพราะแม้ราคาตลาดโลกจะต่ำ แต่ราคาประกันก็สูงกว่าปีที่แล้ว

- อื่นๆ  

 

* ตัวเลขต่างๆ  ปรับเปลี่ยนได้  ตามความเหมาะสม

* ต้นทุนการผลิต  ที่เป็นค่ากลาง  คิดจากราคาเฉลี่ยของค่ายา  ค่าปุ๋ย  ค่าแรงงาน  และอื่นๆ  ที่จำเป็นต่อการทำนาในแต่ละไร่   ครอบคลุมทุกปัจจัยการผลิตที่จำเป็นทั้งหมด  ...เกือบทุกรายการรัฐต้องควบคุมให้ได้

* ประชานิยม แหละ  แต่อย่างว่าหากไม่ทำ  เขาก็ไม่เลือก  ให้เขาเลือกก่อน  เพื่อพัฒนา  แล้วค่อยลด  ละ เลิก  หากทำได้ตามเป้าหมายในอนาคต

* work  ไม่ work ยังไงก็เสวนากันไป

        ปัญหามันเกิดจากนักการเมืองชั่วๆ ไปดึงเอาชาวนาลงมาเป็นตัวประกัน  ไม่ได้คิดที่จะหาทางให้ชาวนายืนบนขาตัวเองอย่างยั่งยืน

        ตัวอย่างการแก้ปัญหาให้ชาวนา จากการกระทำของมัน ...... ตอนนี้มีปัญหาที่อยู่ๆไปลดเหลือหมื่นสอง โดยมีข้าวซึ่งปลูกจากผลพวงหมื่นห้าคานาอยู่  พอมีแนวโน้มจะถูกม๊อบประท้วง ก็จัดม๊อบมาชน   และอ้างว่าฝ่ายค้านบีบ ราคาตลาดโลก ค่าเงินผันผวน ...ฯลฯ

        และประกาศบอก เตรียมเงินให้ชาวนากู้(ชดเชย)ผ่าน ธกส. อีกหมื่นล้าน

 

  อีก100ปีก็แก้ปัญหาชาวนาไม่ได้


Edited by IFai, 25 June 2013 - 17:25.

ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#11 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 26 June 2013 - 08:57

- เป็นไปได้ไหม  หากเราจะคิดราคาประกัน  ตามต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ย+กำไร  20-30% ให้ชาวนา

- 30%  จากต้นทุนการผลิต  น่าจะเป็นราคาที่ชาวนาพอใจที่สุด  ที่ไม่เวอร์เกินไป  

- ผลักภาระการลดต้นทุนการผลิต  ไปที่รัฐบาล  เพราะคิดราคาประกันตามต้นทุนการผลิต  หากรัฐไม่ควบคุม  ค่าปุุ๋ย  ค่ายา  รัฐเองจะเป็นฝ่ายอ้วก  ดังนั้นรัฐต้องทำนโยบาย/โครงการ  อะไรก็ได้ออกมาควบคุม  ต้นทุนการผลิตของชาวนาให้ได้ต่ำที่สุด  เพื่อที่จะไม่เป็นภาระคงคลังมากเกินไป  (น่าจะดีกว่า  ซื้อข้าวไปเก็บในโกดัง  ขายก็ยาก)

- กำหนดเพดานของราคาประกันโดยเอาไว้  ราคาตลาดโลกเป็นเกณฑ์  โดยห้ามเกิน  กี่%  ของราคาตลาด  (สมมุติซัก 20%  ของราคาตลาด)  ใช้กรณีต้นทุนพุ่งเกินราคาตลาด  จะทำไม่ให้รัฐขาดทุนมากเกินไป

- แต่ไม่กำหนดราคาพื้น(floor)  เพราะราคาประกันคิดตามต้นทุน  ยิ่งต่ำยิ่งดี

- ชาวนาที่ลดต้นทุนได้เอง  มากกว่าค่าเฉลี่ยของรัฐ  ก็กำไรเน้นๆ  เข้าไปอีก

- หากรัฐควบคุมต้นทุนไม่ได้/ราคาตลาดตกต่ำ  ก็ถือว่าช่วยชาวนาไป   หากราคาต้นทุนพุ่งแสดงว่ารัฐไม่มีน้ำยา  ตรวจสอบกันไป

- หากขนาดนี้แล้ว  ชาวนายังขาดทุน  รัฐช่วยทำนโยบาย  ย้ายให้ชาวนาเหล่านั้นไปทำอาชีพอื่นๆ โดยด่วน

- รัฐทำโครงการเพื่อพัฒนาในระยะยาวควบคู่กันไปด้วย  มีเป้าหมายเพื่อพยายามลดการพึ่งพารัฐของชาวนาในอนาคต  จนอาจไม่จำเป็นต้องใช้ประชานิยมอีก

- นำรูปแบบของจำนำข้าวเข้ามาผสาน  กรณ๊ราคาข้าวตกต่ำ  โดยรัฐทำตัวเป็นผู้รับซื้อข้าวอีกราย  ที่เข้ามารับซื้อข้าวจากชาวนา  เพื่อช่วยดึงราคาตลาดให้สูงขึ้น

- อื่นๆ  

 

* ตัวเลขต่างๆ  ปรับเปลี่ยนได้  ตามความเหมาะสม

* ต้นทุนการผลิต  ที่เป็นค่ากลาง  คิดจากราคาเฉลี่ยของค่ายา  ค่าปุ๋ย  ค่าแรงงาน  และอื่นๆ  ที่จำเป็นต่อการทำนาในแต่ละไร่   ครอบคลุมทุกปัจจัยการผลิตที่จำเป็นทั้งหมด  

* ประชานิยม แหละ  แต่อย่างว่าหากไม่ทำ  เขาก็ไม่เลือก  ให้เขาเลือกก่อน  เพื่อพัฒนา  แล้วค่อยลด  ละ เลิก  หากทำได้ตามเป้าหมายในอนาคต

* work  ไม่ work ยังไงก็เสวนากันไป

 

แค่จ่ายเงินประกัน ล่วงหน้าก็พอแล้วครับ จ่ายตันละ 15,000 บาท จำนวนกี่ตัน ตามใบประทวนที่ผลิตได้ที่ผ่านมาก็พอ เมื่อขายข้าวได้เงินมาก็เอามาคืน ธกส.ที่ให้กู้ไป ตีราคาข้าวตามราคาตลาด ชาวนาก็รับส่วนต่างต่อตันไปเหมือนเดิม เพียงแต่มีเงินไปลงทุนก่อน


Edited by Stargate-1, 26 June 2013 - 09:30.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#12 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

Posted 26 June 2013 - 09:11

รู้สึกจะเป็นคุณผึ้งน้อยฯโพสต์ไว้ ขอยืมมาใช้หน่อย

 

1.01.jpg



#13 korn-online

korn-online

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 81 posts

Posted 26 June 2013 - 09:20

ผมจำได้ว่าประกันราคามีปัญหา การลงทะเบียนเกษตรกร คือ มีการไปแจ้งจำนวนไร่เว่อร์ๆ หรือไม่ได้ทำนาแต่มีที่เปล่า ก็ไปแจ้งไว้ แล้วมารับเงินส่วนต่างประกันไป ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับคนรับรอง เห็นว่าเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการชุมชน ซึ่งผมว่าเขาก็คงฮั้วกันนั่นแหล่ะ เคยมีข่าวว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมแจ้งเท็จจนถูกลูกบ้านไม่พอใจจะปลดออก ผมว่าเรื่องนี้ต้องหาทางป้อง ไม่อย่างนั้นก็จะรั่วไหลมากและปลูกฝังนิสัยแย่ๆให้ชาวบ้าน

#14 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

Posted 26 June 2013 - 09:30

1.คัดข้าวที่ไม่ได้คุณภาพออกจากโกดัง

2.ข้าวที่พอใช้ได้ ขายเป็นอาหารสัตว์

3.ขายข้าวราคาถูก

4.เอาประกันราคาข้าวมาใช้

5.โรงสีทุริจจัดการตามกฏหมาย



#15 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

Posted 26 June 2013 - 09:37

ผมจำได้ว่าประกันราคามีปัญหา การลงทะเบียนเกษตรกร คือ มีการไปแจ้งจำนวนไร่เว่อร์ๆ หรือไม่ได้ทำนาแต่มีที่เปล่า ก็ไปแจ้งไว้ แล้วมารับเงินส่วนต่างประกันไป ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับคนรับรอง เห็นว่าเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการชุมชน ซึ่งผมว่าเขาก็คงฮั้วกันนั่นแหล่ะ เคยมีข่าวว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมแจ้งเท็จจนถูกลูกบ้านไม่พอใจจะปลดออก ผมว่าเรื่องนี้ต้องหาทางป้อง ไม่อย่างนั้นก็จะรั่วไหลมากและปลูกฝังนิสัยแย่ๆให้ชาวบ้าน

 

เขาให้แค่รายละ 25 ไร่ในตอนแรก แล้วมาปรับเป็น 30 ไร่

อยากทราบว่าแจ้งเว่อร์ๆ แจ้งยังไง ถ้าจะมีก็คือ ชาวนาเดิมมีที่ร้อยไร่

จะเข้าโครงการประกันก็ได้แค่สามสิบไร่เท่านั้นจึงแบ่งนาออกเป็นหลายส่วน

เพื่อเข้าโครงการประกันรายได้ให้ได้ครับทุกไร่ คนที่เข้าโครงการต้องผ่านการ

ประชาคมว่าได้ทำนาจริง ส่วนใครไม่ปลูกข้าวแล้วได้ส่วนต่างมีไหม

จะมีได้ยังไงถ้าไม่มีข้าวไปขายที่โรงสี ก็ไม่ได้เงินส่วนต่าง

คุณต้องไปหาข้าวมาไปหาจากไหนใครเขาจะให้คุณ ถ้าเขาให้คุณ

เขาก็ไม่ได้ส่วนต่างสิ นอกจากว่าคุณจะไปขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน

ถ้าคิดว่าคุ้มก็ทำไปนะ


Edited by phoosana, 26 June 2013 - 09:45.

We love fender.

#16 korn-online

korn-online

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 81 posts

Posted 26 June 2013 - 09:58

ผมจำได้ว่าประกันราคามีปัญหา การลงทะเบียนเกษตรกร คือ มีการไปแจ้งจำนวนไร่เว่อร์ๆ หรือไม่ได้ทำนาแต่มีที่เปล่า ก็ไปแจ้งไว้ แล้วมารับเงินส่วนต่างประกันไป ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับคนรับรอง เห็นว่าเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการชุมชน ซึ่งผมว่าเขาก็คงฮั้วกันนั่นแหล่ะ เคยมีข่าวว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมแจ้งเท็จจนถูกลูกบ้านไม่พอใจจะปลดออก ผมว่าเรื่องนี้ต้องหาทางป้อง ไม่อย่างนั้นก็จะรั่วไหลมากและปลูกฝังนิสัยแย่ๆให้ชาวบ้าน

 
เขาให้แค่รายละ 25 ไร่ในตอนแรก แล้วมาปรับเป็น 30 ไร่
อยากทราบว่าแจ้งเว่อร์ๆ แจ้งยังไง ถ้าจะมีก็คือ ชาวนาเดิมมีที่ร้อยไร่
จะเข้าโครงการประกันก็ได้แค่สามสิบไร่เท่านั้นจึงแบ่งนาออกเป็นหลายส่วน
เพื่อเข้าโครงการประกันรายได้ให้ได้ครับทุกไร่ คนที่เข้าโครงการต้องผ่านการ
ประชาคมว่าได้ทำนาจริง ส่วนใครไม่ปลูกข้าวแล้วได้ส่วนต่างมีไหม
จะมีได้ยังไงถ้าไม่มีข้าวไปขายที่โรงสี ก็ไม่ได้เงินส่วนต่าง
คุณต้องไปหาข้าวมาไปหาจากไหนใครเขาจะให้คุณ ถ้าเขาให้คุณ
เขาก็ไม่ได้ส่วนต่างสิ นอกจากว่าคุณจะไปขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ถ้าคิดว่าคุ้มก็ทำไปนะ

ผมไม่ใช่ชาวนาครับ ผมไม่ทราบว่าสถานะการณ์จริงๆมันเป็นอย่างไร
ก็รับทราบจากสื่อต่างๆ ทีวี หนังสือพิมพ์ ยกตัวอย่าง
http://www.thairath....price_guarantee
เขาก็มีพูดถึงข้อเสียของการประกันคล้ายๆกับที่ผมจำได้

#17 อาตี๋

อาตี๋

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,267 posts

Posted 26 June 2013 - 10:10

ชาวนาเงินล้านก็มีตัวอย่างตั้งหลายคน (ลองหาในอากู๋ดู) ออกข่าวก็เยอะมีทั้งทีวีเสื้อแดงก็มี (ห-มอยทีวีก็ออก) รายการต่างไปสัมภาษณ์ บทความก็มีมาก แต่กลับไม่เคยถูกนำมาใช้ประโยชน์เลย

 

ผมเคยคุยกับชาวนา พวกเค้ารู้นะว่าทำอย่างไรถึงจะได้เงินมากขึ้นแต่ แต่มักได้คำตอบว่า ขี้เกียจทำยุ่งยาก จะให้รวมกลุ่มช่วยกันก็ทะเลาะกัน ขี้เกียจทำให้คนอื่น (รู้สึกสาเหตุมาจากควาขี้เกียจเป็นหลักเลย) และถ้าไปอ่านบทความของเศรษฐีชาวนาส่วนใหญ่จะได้คำตอบคล้ายๆกันคือ ขยัน อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง และทำเกษตรแบบชีวภาพไม่พึ่งสารเคมี  (ซึ่งทั้ง ๓ อย่างตามหาในตัวชาวนาไทยได้ยากมาก)


Edited by อาตี๋, 26 June 2013 - 10:11.

สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น


ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ


#18 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 26 June 2013 - 10:12

จริงแล้วผมก็แค่อย่ากรู้ว่า  ไอเดียนี้มันจะดีกว่า  ประกันราคาเดิมๆที่ทำกันมารึเปล่าว?

 

ก็รู้อะนะว่าทุกคนไม่ชอบประชานิยม  ไม่อยากให้มี  แต่ถ้าไม่เอาบ้างเลย  เมื่อไหรจะชนะเลือกตั้งได้?

คนรากหญ้าส่วนใหญ่คงมองไปว่า  พรรคนี้ไม่ใส่ใจ  ไม่ดูแลพวกเขา   จนโดนพวกชั่วยุยง  ปลุกปั่นกันอีก  

คงต้องรอจนประเทศชิบหายก่อน  ล่ะมั๊ง  ปชป.  ถึงจะมีโอกาสเข้าไปแก้ไข  แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า

สุดท้ายแม้ประเทศชิบหายไปแล้ว ปชป.  จะชนะและมีโอกาสเข้าไปแก้ไขปัญหาได้จริง

 

ผมเทียบนโยบายประชานิยมกับ  ยาเสพติด  วิธีการเลิก  มันก็มีอยู่ 2 วิธี  คือหักดิบ  กับ  ค่อยเป็นค่อยไป

แต่ยอมรับว่าผมไม่ชอบวิธี  หักดิบเท่าไหร่นัก  มันทรมาณ  งั้นแบบค่อยเป็นค่อยไป  ค่อยๆเลิก  จะดีกว่าไหม?


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#19 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 26 June 2013 - 10:27

ผมจะไม่ช่วยด้านราคา แต่จะช่วยด้านวิธีการ สนับสนุนให้คนมาทำนาแบบปลอดสารพิษให้ได้ ถ้าทำได้ต้นทุนจะลดลงมาเอง และที่สำคัญราคาข้าวจะดีกว่า ช่วงแรกๆ ก็ต้องหาวิธีจูงใจให้คนหันมาทำแบบนี้ อาจจะต้องใช้เงินหน่อยและอาจต้องมีการชดเชยผลผลิตในกรณีที่ชาวนาชอบอ้างว่าไม่ฉีดยาข้าวก็โดนแมลงกินหมด หรือได้ผลผลิตน้อย ให้หลักประกันเขาไป แต่ต้องให้ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการทำสัญญาระยะยาวสามถึงสี่ปี ใครไม่อยากทำปัญหาเยอะก็ปล่อยเขาไป

มันก็ไม่ต่างจากแนวคิดของผมเท่าไหร่หรอกครับ  เน้นช่วยด้านวิธีการ  แต่มีหลักประกันให้เค้า  เพียงแต่ในกระทู้นี้ออกจะเน้นคุยเรื่อง  

ไอ้หลักประกันที่ว่าเนี่ยๆ  จะใช้วิธีการแบบใดให้มัน  oK  ทั้ง 2 ฝ่าย  ทั้งช่วยชาวนา  และไม่เป็นภาระกับประเทศชาติมากนัก


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#20 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 26 June 2013 - 10:38

 

 

ผมจำได้ว่าประกันราคามีปัญหา การลงทะเบียนเกษตรกร คือ มีการไปแจ้งจำนวนไร่เว่อร์ๆ หรือไม่ได้ทำนาแต่มีที่เปล่า ก็ไปแจ้งไว้ แล้วมารับเงินส่วนต่างประกันไป ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับคนรับรอง เห็นว่าเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการชุมชน ซึ่งผมว่าเขาก็คงฮั้วกันนั่นแหล่ะ เคยมีข่าวว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมแจ้งเท็จจนถูกลูกบ้านไม่พอใจจะปลดออก ผมว่าเรื่องนี้ต้องหาทางป้อง ไม่อย่างนั้นก็จะรั่วไหลมากและปลูกฝังนิสัยแย่ๆให้ชาวบ้าน

 
เขาให้แค่รายละ 25 ไร่ในตอนแรก แล้วมาปรับเป็น 30 ไร่
อยากทราบว่าแจ้งเว่อร์ๆ แจ้งยังไง ถ้าจะมีก็คือ ชาวนาเดิมมีที่ร้อยไร่
จะเข้าโครงการประกันก็ได้แค่สามสิบไร่เท่านั้นจึงแบ่งนาออกเป็นหลายส่วน
เพื่อเข้าโครงการประกันรายได้ให้ได้ครับทุกไร่ คนที่เข้าโครงการต้องผ่านการ
ประชาคมว่าได้ทำนาจริง ส่วนใครไม่ปลูกข้าวแล้วได้ส่วนต่างมีไหม
จะมีได้ยังไงถ้าไม่มีข้าวไปขายที่โรงสี ก็ไม่ได้เงินส่วนต่าง
คุณต้องไปหาข้าวมาไปหาจากไหนใครเขาจะให้คุณ ถ้าเขาให้คุณ
เขาก็ไม่ได้ส่วนต่างสิ นอกจากว่าคุณจะไปขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ถ้าคิดว่าคุ้มก็ทำไปนะ

ผมไม่ใช่ชาวนาครับ ผมไม่ทราบว่าสถานะการณ์จริงๆมันเป็นอย่างไร
ก็รับทราบจากสื่อต่างๆ ทีวี หนังสือพิมพ์ ยกตัวอย่าง
http://www.thairath....price_guarantee
เขาก็มีพูดถึงข้อเสียของการประกันคล้ายๆกับที่ผมจำได้

 

มันใช้ได้กรณีเกิดเหตุแบบ  น้ำท่วม  ครับ  คือรัฐไม่สามารถประเมิณได้ว่าชาวนาคนนั้นทำนาจริงๆ  รึเปล่าว  แต่ต้องจ่ายเงินชดเชยออกไป

ชาวนาที่ขี้โกงหน่อยๆ  รวมหัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ  ก็แจ้งยอดที่นาเวอร์ๆไป  เช่น  มี 30 ไร่  ทำจริง 20 ไร่  แต่ก็แจ้งไปเต็มจำนวน  

หรือเจ้าของที่ไม่ได้ทำนา  แต่มาโมเม  ว่าทำนาจะเอาเงินประกันครับ

 

อีกกรณีคือ  คนที่มีที่นาเยอะๆ  เกิน 30 ไร่  แต่ฮั้วกับเจ้าหน้าที่รัฐ  ลงทะเบียนแแบบ  ซอยย่อย  ที่ดินตัวเองออกเป็นหน่วยๆ เล็กๆ  เพื่อเอาเงิน

ประกันทุกไร่  แต่กรณีนี้ต้องมีข้าวไปขายจริงๆ  ถึงจะได้รับเงินส่วนต่างครับ


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#21 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

Posted 26 June 2013 - 10:38

ข้อเสีย

 

 

- รัฐต้องจ่ายเงินไปสู่เกษตรโดยตรง ทำให้รัฐต้องจ่ายเงินเพื่อการนี้เป็น

จำนวนมากโดยไม่ได้อะไรกลับมา

 

จำนำข้าวของแม้วบอกว่ารัฐได้ vat กลับมา ประกันรายได้ก็ได้เหมือนกันแหละหรือจะเถียงมหาเทพแม้ว

นโยบายแบบรัฐสวัสดิการมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว  เช่นประกันสุขภาพถ้วนหน้า เบี้ยยังชีพคนชรา คนพิการ เรียนฟรี

ถามว่ารัฐได้อะไรกลับมา ออกจะนอกประเด็น หากเทียบกับจำนำแล้ว จำนำละเลงเงินมหาศาล

แต่เงินถึงชาวนาแค่ส่วนน้อย เงินส่วนใหญ่หมดไปกับการบริหารจัดการ การทุจริต และระบายข้าวได้ยาก

 

- มีการแจ้งการทำนาที่เป็นเท็จ เช่น

ทำนา 10 ไร่บอกว่า 20 ไร่ แม้จะมี

ประชาคมแต่บ้างครั้งต่างก็เกรงใจกัน

ไม่กล้าคัดค้านหรืออาจเนื่องจากต่าง

คนต่างแจ้งเท็จด้วยกัน เรื่องนี้มีบ่นกัน มาก

 

อาจจะมีแต่หากไม่มีข้าวไปก็ไม่ได้ส่วนต่างครับ

แต่เขาจะได้เงินชดเชยเกินจริงหากเกิดภัยพิบัต เช่นน้ำท่วมโรคระบาด

ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่มากมายนัก หากเทียบกับการขายใบประทวนของ

โครงการจำนำเพื่อให้นายทุนสวมสิทธิ์ นำข้าวมาเวียนเทียนเสียหายมากกว่า

 

- ทำให้ราคาข้าวไม่ขึ้นเกินหนึ่งหมื่น บาทเพราะพ่อค้ารับซื้อรู้ว่ารัฐ

จ่ายส่วนต่างให้เกษตรแล้วเหมือน

รัฐกดราคาข้าวไม่ให้เกินหนึ่งหมื่นบาท

 

 

รัฐนั้นจะตั้งราคาไว้สูงกว่าราคาตลาดอยู่แล้ว ลองยกเลิกประกันสิมันก็ไม่ขึ้นไปไปเกินหมื่นหรอก

ยกเว้นเกิดข้าวขาดแคลนอย่างหนัก

 

 

- การจ่ายเงินส่วนต่างจะจ่ายให้แค่

25 ตัน ถ้าใครได้เกินกว่า 25 ตัน ไม่ได้รับส่วนต่าง

 

จริง เพราะนี่คือการประกันรายได้ให้ชาวอยู่ได้ไม่ใช่ให้รวยอู้ฟู่

และให้ประโยชน์ตกถึงชาวนาทั่วประเทศ ไม่ใช่รายได้แต่รายใหญ่เท่านั้น

ถ้าขืนประรกันข้าวทุกเมล็ดก็เจ๊งใช้เงินมหาศาล

 

- คิดให้ผลผลิตข้าวที่ 500 กก. ต่อไร่ ถ้าใครทำได้มากกว่านั้นก็ไม่ได้

 

จริง ครึ่งเดียว แต่ละพื้นที่ให้ผลผลิตไม่เท่ากัน บางพื้นที่ หกร้อยกว่า กก.ก็มี

ถ้าคุณมีนา 10 ไร่ แต่เวลาเอาข้าวไปขายดันขายได้ 10 ตันหรือมากกว่านั้น

ความเป็นจริงชาวนารายนี้สามารถทำได้มากกว่า 1000 กก./ไร่

ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ข้อกำหนดเขามีไว้เพื่อป้องกันการทุจริต การกำหนดจำนวนไร่และจำนวนตัน

น่าจะดีกว่า

 

 

การเปรียบเทียบของไทยรัฐ มองแต่ประโยชน์ของชาวนาที่จะได้รับอย่างเดียว

ไม่มองให้รอบด้าน และข้อดีของโครงการจำนำหลายข้อบิดเบือนเช่น ได้รับเงินเร็ว ทำไมมีชาวนาฆ่าตัวตาย สงสัยดีใจได้เงินเร็วเกินไป


Edited by phoosana, 26 June 2013 - 11:30.

We love fender.




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users