ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:43
ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:44
ผมเลือกสมัยแรกครับ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:47
สมัยแรก เหมียนกัน แต่ไม่นานพอลายออก กลายเป็นโครตเกลียดเลย
เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองเท่าไหร เลยเลือกตามกระแส
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:25
ไม่เคยเลือกมันเลยสักสมัยเหมือนกันครับ ตอนนั้นผมเลือกนายกชวน บัญญัติ และเรื่อยมา ก็ยังไม่เลือกพรรคโน้นอยู่ดี
Edited by Octavarium, 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:26.
Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:32
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:43
โหย สมาชิก ตอบคนละเรื่องกับ หัวกระทู้ ทุกคนเลย
มันยังไงเนี่ย
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:55
ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
เห็นจ่าหน้าซองเอาไว้ว่า
ใครทัน "ประชาธิปัตย์ผลัดใบ" บ้างครับ
ตะนิ่นตาญี ก็คิดไปถึงตอนที่ คุณเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์, พี่วีระ มุสิกพงศ์ ลาออกจาก พรรคประชาธิปัตย์
ในชื่อกลุ่ม ๑๐ มกรา ไปนู่น แต่พอมาอ่านเนื้อในแล้วถึงร้อง อ๋อ...อ่ะนะ 555+
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๑๙.๕๕ นาฬิกา
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:08
ไม่รู้ว่าผมทันประชาธิปัตย์ผลัดใบหรือเปล่านะ
ตั้งแต่มีสิทธิ์เลือกตั้งผมเคยกากบาทเลือก ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 2 พระนคร เลือก นพ.เกษม ศิริสัมพันธ์ หลังจากนั้นมาผมก็ไม่มีโอกาสได้เลือก ส.ส.เขต จากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมอีกเลย จนกระทั่ง3ครั้งหลังสุดผมเลือก ปชป.ได้แค่ ปาร์ตี้ลิสต์เท่านั้น เพราะเขตเลือกตั้งผมอยู่ในดงเสื้อแดง ไม่มี ส.ส.เขตจาก ปชป.ลงสมัครผมจึงไม่มีโอกาสได้กากบาทเลือก ส.ส.จากค่าย ปชป.
ส่วน ส.ส.จากไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ผมไม่เคยแม้แต่จะชายตาแล แม้พวกมันจะพยายามเกี้ยวผมไปเป็นพวก ถึงขั้นต่อสายตรงให้ผมคุยกับไอ้แม้วจากดูไบ ก็ตาม พอเข้าคูหาผมก็ไม่ลังเลใจที่จะกา ปชป.ในระบบบัญชีรายชื่อ ส่วน ส.ส.เขต ผมมักจะกาให้ ผู้สมัครจากพรรคโนเนม หรือไม่ก็กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ครับ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:42
โหย สมาชิก ตอบคนละเรื่องกับ หัวกระทู้ ทุกคนเลย
มันยังไงเนี่ย
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:45
ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
อ้าว เจอขี้ข้าทักษิณตัวจริงเสียงจริงเลย
สติปัญญาอย่างคุณเคยดูผิดตอนทักษิณ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่้าคุณจะดูไม่ผิดตอนอภิสิทธิ์?
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:55
ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
อ้าว เจอขี้ข้าทักษิณตัวจริงเสียงจริงเลย
สติปัญญาอย่างคุณเคยดูผิดตอนทักษิณ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่้าคุณจะดูไม่ผิดตอนอภิสิทธิ์?
คนเดียวสั่งทั้งพรรค
กับ ทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็น
ผมคิดว่าผมคงไม่ได้ดูผิด มั้งครับ
หรือจะเถียง
จะเกียงก็ เอาแบบ ดีๆหน่อยนะ รออ่านอยู่
ส่วนขี้ข้าทักษิณไหม ผมไม่เคยรับตัง นะไม่เคยทำธุรกิจ กับเขาด้วย แต่เป็นแดงไซเบอร์รุ่นแรก(ตอนนั้นยังไม่มีเสื้อแดง) สมัยคาร์บอม คอยเล่นงานสาวก พรรคปชป.
รู้ไหม ว่าเกิดขึ้นที่ไหน
ลืมบอก
พวกผมไมไ่ด้ตังนะ จะบอกให้ ฉะกับสาวก ปชป ให้ฟรีๆ ในโลกไซเบอร์ยุคนั้น
จริงๆผมเคยบอกแล้วว่าเกิดขึ้นที่ไหน นะลองหาดูเอา
ราชดำนาไม่ได้ขี้เล็บผมหรอกครับ
Edited by gass, 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:56.
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:06
ตอนนั้นผมชอบทักษิณ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ระหว่าง บัญญัติ กับอภิสิทธิ์ตอนนั้น ผมเลือกอภิสิทธิ์นะ
จนมาถึงตอนนี้ ผมเสียใจที่เคยเลือกทักษิณมากๆ แต่ผมดีใจนะที่ผมดูคนไม่ผิด(หมายถึงอภิสิทธิ์)
ผมนี่แหละ เลือก ทักษิณ สองสมัย
อ้าว เจอขี้ข้าทักษิณตัวจริงเสียงจริงเลย
สติปัญญาอย่างคุณเคยดูผิดตอนทักษิณ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่้าคุณจะดูไม่ผิดตอนอภิสิทธิ์?
คนเดียวสั่งทั้งพรรค
กับ ทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็น
ผมคิดว่าผมคงไม่ได้ดูผิด มั้งครับ
หรือจะเถียง
จะเกียงก็ เอาแบบ ดีๆหน่อยนะ รออ่านอยู่
ส่วนขี้ข้าทักษิณไหม ผมไม่เคยรับตัง นะไม่เคยทำธุรกิจ กับเขาด้วย แต่เป็นแดงไซเบอร์รุ่นแรก(ตอนนั้นยังไม่มีเสื้อแดง) สมัยคาร์บอม คอยเล่นงานสาวก พรรคปชป.
รู้ไหม ว่าเกิดขึ้นที่ไหน
ลืมบอก
พวกผมไมไ่ด้ตังนะ จะบอกให้ ฉะกับสาวก ปชป ให้ฟรีๆ ในโลกไซเบอร์ยุคนั้น
จริงๆผมเคยบอกแล้วว่าเกิดขึ้นที่ไหน นะลองหาดูเอา
ราชดำนาไม่ได้ขี้เล็บผมหรอกครับ
อ้าว สารภาพอย่างภาคภูมิเลยว่าเป็นแดงขี้ข้าทักษิณตั้งแต่ยุคแรกๆ
ระดับสติปัญญาแค่ไหนก็คงเดาไม่ยากหรอกแบบนี้
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:07
ผมไม่เคยเลือกมันสักครั้ง
เพราะรู้ว่ามันอยู่ในแก๊งค์ฟองสบู่
สร้างความชิ บ หายให้ประเทศ
ผมก็โดนหน้าหงายเหมือนกัน
ผมไม่โทษใครหรอกที่ไปลงคะแนนให้มัน
เพราะ ปชป. อ่อนจัดเรื่อง ประชาสัมพันธ์
คนไม่โดนกับตัวเองแบบผม ก็คงไม่เข้าใจความเลวของคนพวกนี้หรอก
ปชป. มาปรับตัวบ้างในระยะหลัง ...ถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มา
แต่ก็อย่าหยุด...คิดอะไรใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ
เดี๋ยวนีั้การเมืองเล่นกันที่เรื่องประชาสัมพันธ์ เรื่องสื่อกันแล้ว
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:07
เอ่อน้องใหม่ แบบไหนเนี่ย สงสัยเป็นแดงปลอมตัวมา
ผมยอมรับก็ได้ว่าเคยเป้นแต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นละ
โอเคป่ะ จ๊ะ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:08
ผมไม่เคยเลือกมันสักครั้ง
เพราะรู้ว่ามันอยู่ในแก๊งค์ฟองสบู่
สร้างความชิ บ หายให้ประเทศ
ผมก็โดนหน้าหงายเหมือนกัน
ผมไม่โทษใครหรอกที่ไปลงคะแนนให้มัน
เพราะ ปชป. อ่อนจัดเรื่อง ประชาสัมพันธ์
คนไม่โดนกับตัวเองแบบผม ก็คงไม่เข้าใจความเลวของคนพวกนี้หรอก
ปชป. มาปรับตัวบ้างในระยะหลัง ...ถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มา
แต่ก็อย่าหยุด...คิดอะไรใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ
เดี๋ยวนีั้การเมืองเล่นกันที่เรื่องประชาสัมพันธ์ เรื่องสื่อกันแล้ว
ตอนนั้นผมยังวัยรุ่นชอบอะไร โฉ่งฉ่าง ไม่คิดอะไรมากเหมือนตอนนี้
มันก็ต้องยอมรับล่ะครับ ผมก็ไมไ่ด้แก่อะไร
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:34
POPULAR
เจ้าของกระทู้ หมายถึง สิ่งนี้หรือเปล่าฮะ
ยุคที่ห้า (พ.ศ. 2544-2551) : ยุคแห่งการต่อสู้เผด็จการรัฐสภา และต่อต้านการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน
หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 พรรคไทยรักไทยนำโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาลบริหาร
ประเทศ โดยมีการยุบรวมพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กกว่า อาทิพรรคความหวังใหม่ พรรคเสรีธรรมเข้าด้วย ทำให้พรรคไทยรักไทยมีเสียงในสภาจำนวน 294 เสียง ต่อมาภายหลังมีการยุบรวมพรรคชาติพัฒนาเข้าด้วยอีกทำให้พรรคไทยรักไทยมี ส.ส. ถึง 319 คน เมื่อไปร่วมกับพรรคชาติไทย 24 คน และพรรคความหวังใหม่ที่เหลืออีก 1 คน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงในสภามากถึง 344 เสียง คุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส. เพียง 128 คน ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อสู้กับระบอบเผด็จการรัฐสภาอย่างเข้มแข็ง เพื่อคัดค้านการใช้กลไกของรัฐสภาในการออกกฎหมายและต่อต้านการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมและเพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อธุรกิจของครอบครัวและพวกพ้อง จนเป็นที่ยอมรับต่อสาธารณชน กระทั่งมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548
การเลือกตั้งในปี 2548 ถือเป็นช่วงที่พรรคไทยรักไทยมีความฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตั้งครั้งนั้นถูกครอบงำทั้งโดยอำนาจรัฐและอำนาจเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในขณะนั้น ถูกตั้งข้อ สังเกตในความไม่เ่ป็นกลาง และเอื้อประโยชน์ใ์ห้แ้ก่พรรคการเมืองบางพรรคหลังการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้ง 377 คน พรรคประชาธิปัตย์ 96 คน พรรคชาติไทย 25 คน พรรคมหาชน 2 คน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น คือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ได้เลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค
รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2548 นอกจากจะคุมเสียงเบ็ดเสร็จในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังพยายามดึงสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนให้มาเป็นพวกเพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล มีการแทรกแซงสื่อสารมวลชน องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในคดีต่างๆ อาทิ คดีซุกหุ้น คดียุบพรรคไทยรักไทย
พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด้วยความเข้มแข็ง ต่อสู้กับอำนาจทั้งในระบบและนอกระบบ
อย่างกล้าหาญ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศยุบสภาเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่กองทุนเทมาเส็ก และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน 2549
การเมืองในช่วงดังกล่าวมีความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างหนักคดีการเลือกตั้งทุจริตของพรรคไทยรักไทยและคดีการเลือกตั้งในปี 2548
เกิดความไม่เป็นธรรมทั่วประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้ประท้วงการเลือกตั้งด้วยการไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคไทยรักไทยได้ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง จนในที่สุดศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ กกต. ทั้ง 3 คนมีความผิดทางอาญา ลงโทษจำคุก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะและให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่แล้วในที่สุดก็ได้เกิดการรัฐประหารขึ้น
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ซึ่งมี พลเอก สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกเป็นหัวหน้า ได้จัดตั้งรัฐบาลโดยมีพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศส่วน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ต้องสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ กระทั่งตกเป็นนักโทษในคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจนปัจจุบัน
เมื่อรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ บริหารประเทศได้ 1 ปีเศษ ก็ได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 พรรคไทยรักไทยซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินและมีคำพิพากษาให้ยุบพรรคได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยจำนวน ส.ส.232 คน พรรคพลังประชาชนได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ จัดตั้งรัฐบาลขึ้นบริหารประเทศ โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีจำนวน ส.ส. 164 คน เป็นฝ่ายค้านการบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่เป็นตัวแทนกลุ่มอำนาจเก่า ถูกต่อต้านจากประชาชนเป็นวงกว้างจนเกิดการรวมตัวขึ้นเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อมานายกรัฐมนตรีของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน 2 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งไป พร้อมๆ กับการถูกยุบพรรคพลังประชาชนอีกครั้งด้วยคดีทุจริตการเลือกตั้ง แล้วเปลี่ยนไปใช้ชื่อพรรคเพื่อไทย
เหตุการณ์ทางการเมืองที่ผันผวนทำให้เกิดการแตกแยกอย่างรุนแรงในประเทศ ความไม่ชอบธรรมในการบริหารบ้า้นเมืองของรัฐบาลทำให้เ้กิด วิกฤตนึ้กับประเทศไทยอีกครั้ง แต่ในที่สุดเมื่อพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนั้นประสบปัญหาจึงได้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ พรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ธันวาคม 2551จึงนับเป็นการยุติบทบาทการเป็นฝ่ายค้าน 8 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์และกลับเข้าเป็นรัฐบาลของประชาชนเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในภาวะวิกฤติ มุ่งมั่นพัฒนาบ้านเมือง และสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวันนี้
จวบจนมีการตัดสินใจยุบสภาของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 และมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ 44 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 115 คน รวมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ระบบ 160 คน
ที่มา http://www.democrat..../about/history/
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:37
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:39
เจ้าของกระทู้ หมายถึง สิ่งนี้หรือเปล่าฮะ
ขอบคุณครับ คือตอนนั้น วัยรุ่นมาก เลยจำไม่ค่อยได้ มัวแต่เอาชีวิตตัวเองเป็นหลัก สนุกมากกว่า คะนองมากกว่า
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:40
รู้สึกว่าก็ไม่มีอะไรนะ ก็แค่ท่านชวนลาออก พรรคก็โหวตเลือกบัญญัติ พอแพ้เลือกตั้ง แกก็ลาออก อภิสิทธิ์ก็ขึ้นมาแทน เพราะกระแสทั้งในพรรคนอกพรรค รู้สึกว่าอภิสิทธิ์ตอนนั้นมาแรง
ประมาณนี้ล่ะมั้ง ตอนนั้นยังไม่ค่อยได้สนใจการเมืองเท่าไรเหมือนกัน รู้สึกว่าไกลตัว
แต่ถ้าเรื่องการเมือง ในสมัยที่ยังละอ่อนอยู่ ที่จำได้ฝังใจคือ ที่ทักษิณมาเป็นรัฐมนตรีอะไรสักอย่างเนี้ยล่ะ
แล้วมันบอกว่า จะแก้ปัญหารถติดภายใน 6 เดือน ตอนนั้น รู้สึกว่าไอ้เหี้ ยนี้แม่งโคตรตอแหลเลย เก่งมาจากไหนว่ะ สรุป มันก็แก้ไม่ได้จริงๆ
หลังจากนั้น ก็ไม่เคยมองไอ้นี่ดีเลยสักครั้ง
ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:40
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
รอ น้าเช ลูกคู่ก่อนสิ แหมมม เล่าคนเดียวไม่ออกรสออกชาต นึกถึงตอนที่เล่าเรื่องปฏิวัติ พคท เมืองไทย การแก้ปัญหาของป๋าเปรม ยุคเมืองไทยใกล้สิ้นชาติขึ้นมาเลยวุ๊ย
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:47
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
รอด้วยคนนะ..
ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:55
ทันสิครับ ตอนนั้นบัญญัติชนะ ตอนเลือกตั้งนี่ป้ายหาเสียงของประชาธิปัตย์เห่ยมาก เห่ยกว่าชาติไทยด้วยซ้ำ นโยบายก็ลอกไทยรักไทยแบบเห็นๆ เลยแพ้ไปโดยปริยาย
ส่วนเลือกตั้งนี่เคยเลือกชวน หลังจากนั้นก็ไม่เลือกใครเลยอยู่พักนึงครับ แค่ไปใช้สิทธิ์เฉยๆ แต่ตอนหลังต้องกลับมาเลือกฝ่ายตรงข้ามกับ ทรท/พปช/พท เพราะไม่อยากให้เสียคะแนน
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:03
POPULAR
ตรงนี้ผมขอบอกก่อนว่าไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาใครเป็นความทรงจำของคนแก่คนหนึ่ง และต้องการยกย่องบุคลากรของ ปชป ทุกท่าน
เมื่อตอนท่านชวนลาออก ประกอบกับกระแสของพรรคไทยรักไทยรุนแรง ช่วงนั้นมีการดึง สส ของพรรค ปชป ไปมากมาย
เช่น อีดี้จวบ(ขุนพลอีสาน) บิ๊กหอย ทำให้พรรคอ่อนแอลง ในพรรคเองก็มีการถกกันถึงแนวทางการต่อสู้ทางการเมือง
โดยแบ่งเป็นฝ่ายเก่าและฝ่ายใหม่ ดาราตัวละครมีหลายท่านเช่น ท่านมารุต ท่านชวน โดยต่างมีความเห็นต่างกัน
ฝ่ายเก่าพยายามใช้ลำดับอาวุโส ฝ่ายท่านชวนเห็นว่าต้องปรับเปลี่ยนให้คลื่นลูกใหม่มา และเมื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่
ผลปรากฏว่าได้ท่านบัญญัติ เป็นหัวหน้าพรรค ได้ต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐบาลทักษิณ ในการเลือกตั้งปี 48 ปชป แพ้อย่างบอบช้ำ
ไทยรักไทยได้ สส 377 คน ปชป ได้ 96คน เป็นยุคที่ ปชป โดนโดดเดี่ยวอย่างมากทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ท่านบัญญัติจึงได้ลาออก
และแสดงสปิริตช่วยส่งเสริมท่านอภิสิทธิ์ ให้ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคในการต่อสู้ทางการเมืองแทน ซึ่งช่วงนั้นรัฐบาลทักษิณ
ได้ใช้อำนาจที่มีอยู่ซื้อหลายองค์กร เช่น วุฒิสภา จนเป็นที่โจษจันกันว่าเป็นสภาผัวเมีย องค์กรอิสระต่าง ๆ ไม่ว่า ปปช กกต แม้แต่ศาล
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:15
ไม่รู้ว่าผมทันประชาธิปัตย์ผลัดใบหรือเปล่านะ
ตั้งแต่มีสิทธิ์เลือกตั้งผมเคยกากบาทเลือก ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 2 พระนคร เลือก นพ.เกษม ศิริสัมพันธ์ หลังจากนั้นมาผมก็ไม่มีโอกาสได้เลือก ส.ส.เขต จากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมอีกเลย จนกระทั่ง3ครั้งหลังสุดผมเลือก ปชป.ได้แค่ ปาร์ตี้ลิสต์เท่านั้น เพราะเขตเลือกตั้งผมอยู่ในดงเสื้อแดง ไม่มี ส.ส.เขตจาก ปชป.ลงสมัครผมจึงไม่มีโอกาสได้กากบาทเลือก ส.ส.จากค่าย ปชป.
ส่วน ส.ส.จากไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ผมไม่เคยแม้แต่จะชายตาแล แม้พวกมันจะพยายามเกี้ยวผมไปเป็นพวก ถึงขั้นต่อสายตรงให้ผมคุยกับไอ้แม้วจากดูไบ ก็ตาม พอเข้าคูหาผมก็ไม่ลังเลใจที่จะกา ปชป.ในระบบบัญชีรายชื่อ ส่วน ส.ส.เขต ผมมักจะกาให้ ผู้สมัครจากพรรคโนเนม หรือไม่ก็กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ครับ
เกษม ศิริสัมพันธ์ นี่หากจำไม่ผิดคือ พรรคกิจสังคมนะครับ
ในอดีต เขตพระนคร ไม่ว่าจะเลือกแบบเขตเดียวคนเดียว หรือหลายเขตหลายคน
ก็ได้สส ปชป มาเกือบตลอด จะแย่หน่อยก็ตอนจำลองฟีเวอร์ ที่แม้แต่อาจารย์มารุตยังสอบตกเลยครับ
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:40
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
รอด้วยคนนะ..
รอด้วนคน ป๋มน้องใหม่ อยากฟังด้วยคนฮ้ฟ ...
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:00
ตอบ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:19
รู้สึกว่าก็ไม่มีอะไรนะ ก็แค่ท่านชวนลาออก พรรคก็โหวตเลือกบัญญัติ พอแพ้เลือกตั้ง แกก็ลาออก อภิสิทธิ์ก็ขึ้นมาแทน เพราะกระแสทั้งในพรรคนอกพรรค รู้สึกว่าอภิสิทธิ์ตอนนั้นมาแรง
ประมาณนี้ล่ะมั้ง ตอนนั้นยังไม่ค่อยได้สนใจการเมืองเท่าไรเหมือนกัน รู้สึกว่าไกลตัว
แต่ถ้าเรื่องการเมือง ในสมัยที่ยังละอ่อนอยู่ ที่จำได้ฝังใจคือ ที่ทักษิณมาเป็นรัฐมนตรีอะไรสักอย่างเนี้ยล่ะ
แล้วมันบอกว่า จะแก้ปัญหารถติดภายใน 6 เดือน ตอนนั้น รู้สึกว่าไอ้เหี้ ยนี้***โคตรตอแหลเลย เก่งมาจากไหนว่ะ สรุป มันก็แก้ไม่ได้จริงๆ
หลังจากนั้น ก็ไม่เคยมองไอ้นี่ดีเลยสักครั้ง
ที่มันทำป้ายติดตามเกาะกลางถนน จำพวก "ลูกใครหว่า" , "อย่าทับหนู" ป่ะครับ
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:33
ผมได้กลิ่นศูนย์กลางจักรวาล มันมาอีกแล้วครับ
สำนวนเหยียดคนอื่นนี่ใช่เลย
เข้ากระทู้
ผมซื้อโมโตฯเครื่องแรก 40000 ตอนยังเอ๊าะๆ เป็นช่วงหนังสืออัศวินคลื่นลูกที่สามดังสนั่น
เพื่อนฮ่องกงกับญี่ปุ่นของผมขำกลิ้ง บอกว่ามือถือบ้านตูซื้อเบอร์แถมเครื่อง ถูกเป็นขี้(สนนราคาตีเป็นไทยประมาณ 4000)
ตอนที่ผมฟังเพื่อนเล่านั่นแหละครับ คือครั้งแรกที่ผมเอะใจ ทำไมราคามือถือบ้านเราต่างจากประเทศของเพื่อนผมถึง 2 ประเทศถึง 10 เท่า!
ผมมาเอะใจติดๆกันอีกทีตรงที่ผมไม่เคยเห็นทักษิณช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากมาก่อนเลย ไม่มีประวัติสักนิด
จนริจะเข้าวงการเมืองน่ะแหละถึงมาทำมูลนิธิไทยคม
ผมก็แหม่งๆอีกแล้ว....
ก็เลยไม่เคยกาเลือกทักษิณเลยครับ
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:24
ผมได้กลิ่นศูนย์กลางจักรวาล มันมาอีกแล้วครับ
สำนวนเหยียดคนอื่นนี่ใช่เลย
เข้ากระทู้
ผมซื้อโมโตฯเครื่องแรก 40000 ตอนยังเอ๊าะๆ เป็นช่วงหนังสืออัศวินคลื่นลูกที่สามดังสนั่น
เพื่อนฮ่องกงกับญี่ปุ่นของผมขำกลิ้ง บอกว่ามือถือบ้านตูซื้อเบอร์แถมเครื่อง ถูกเป็นขี้(สนนราคาตีเป็นไทยประมาณ 4000)
ตอนที่ผมฟังเพื่อนเล่านั่นแหละครับ คือครั้งแรกที่ผมเอะใจ ทำไมราคามือถือบ้านเราต่างจากประเทศของเพื่อนผมถึง 2 ประเทศถึง 10 เท่า!
ผมมาเอะใจติดๆกันอีกทีตรงที่ผมไม่เคยเห็นทักษิณช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากมาก่อนเลย ไม่มีประวัติสักนิด
จนริจะเข้าวงการเมืองน่ะแหละถึงมาทำมูลนิธิไทยคม
ผมก็แหม่งๆอีกแล้ว....
ก็เลยไม่เคยกาเลือกทักษิณเลยครับ
ก็เหมือนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน..ส วะ..ในคราบนักบุญ..
และถ้าใครเชื่อมัน..ว่าเป็นนักบุญ..ทุกวันนี้..ไม่เกรง..ไม่อาย..ที่จะบอกว่า..คนที่เชื่อแบบนั้น..น่าสงสาร..ที่โง่กว่าควาย..
ปล..ไม่รู้จะเปรียบกะอะไร..ขอโทษ..คุณควายด้วยนะครับ..
Edited by whiskypeak, 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:25.
ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 05:48
คือ ถ้าจะพูดถึงการผลัดใบของ ปชป. ก็คือ
ห่ะนั้นยังเป็นทักษิณ 1 อยู่ ช่วงนั้นทักษิณทำอะไรก็ดีไปหมด เลิศศศศศไปหมดทั้ง 3 โลก
กระแสมันก็เรยตีกลับไปที่ ปชป.ว่า เชย ไม่ทันสมัย ทำแบบนี้มะไหร่จะเอาชนะเลือกตั้งได้ อะไรทำนองนี้
คุณชวนก็รู้ตัวว่า ด้วยตนเองคงไม่สามารถตอบโจทย์การเมืองได้ในเวลานี้ ก็เรยพอตอนประชุมพรรคใหญ่ เลือกตัวหัวหน้าคนใหม่ แกก็ประกาศสละตำแหน่ง ไม่ขอรับต่อ
จำได้ว่าในวันนั้น ยังมีการถ่ายทอดทางฟรีทีวีด้วยซ้ำ
ก็เรยมีแคนดิเดต 3 คน ก็คือ คุณอภิสิทธิ์ คุณบัญญัติ และดร.อาทิตย์ แต่ทุกคนก็มุ่งไปที่ 2 คนเท่านั้น คือ อภิสิทธิ์ และบัญญัติ
ช่วงนั้นกระแสแข่งขันกันเองในพรรคสูงมวากกกกกกก มีการเรียกชื่อกลุ่มกันว่า เลือดใหม่ คือ กลุ่มของอภิสิทธิ์ กะกลุ่มผลัดใบ คือ กลุ่มของบัญญัติ อะไรทำนองนี้แระ
ผลการลงคะแนนวันนั้น อภิสิทธิ์แพ้บัญญัติไปแค่ไม่กี่เสียง ก่อนหน้านั้นก็คงมีการล็อบบี้กัน ก็ธรรมดา จำได้ว่า ตอนที่อภิสิืทธิ์ขึ้นเวทีพูดเปิดใจ แกก็พูดคำแรกเรยว่า "ผมเสียใจ" คงหมายถึง คนที่ีแกไปลอบบี้กันก่อนหน้านั้น แต่เปลี่ยนใจ ไม่เลือกแกซะังั้น แต่ท้ายที่สุดก็คือ แกก็ยอมรับผล แระก็ช่วยช่วยงานคุณบัญญติมาตลอด ส่วนดร.อาทิตย์ ก็มีคนเลือกแกแค่ไม่กี่เสียง
ตอนนั้นคุณบัญญัติมาเป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อาวุโส และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณชวนทั้ง ชวน 1 ชวน 2 มาตลอด ก็เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรค (ในขณะนั้น)
แร้วพอเลือกตั้งปี 48 ที่ทักษิณได้เสียงมากถึง 377 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดรียวได้สำเร็จสมใจอยาก (แต่มันก็เกิดจากการไปควบรวมพรรคอื่น ๆ มานะ พรรคเล็ก พรรคน้อย) ช่วงนั้น ดร.อาทิตย์ก็ลาออกจากพรรคไป ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ กับอรรคพล สรสุชาติ กับเสธ.หนั่นที่เพิ่งพ้นโทษแบนมา 5 ปี ก็กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็ออกกันไปตั้งพรรคมหาชน กะว่าจะเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 แต่ทว่าผลออกมาก็ได้เแค่ 2 เสียงเท่านั้น ส่วนบัญชีรายชื่อไม่ได้เรย
นี่แระ คุณบัญญัติก็ลาออกทันที แระก็เป็นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นทันที ทั้งที่ตอนนั้นมีข่าวว่า จะมีการสนับสนุนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ให้เป็นขึ้นแข่งเป็นหัวหน้าด้วย แต่เอาจริง ๆ แร้ว คุณจุรินทร์ แกก็สละสิทธิ์
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 05:49
ไม่รู้ว่าผมทันประชาธิปัตย์ผลัดใบหรือเปล่านะ
ตั้งแต่มีสิทธิ์เลือกตั้งผมเคยกากบาทเลือก ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 2 พระนคร เลือก นพ.เกษม ศิริสัมพันธ์ หลังจากนั้นมาผมก็ไม่มีโอกาสได้เลือก ส.ส.เขต จากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมอีกเลย จนกระทั่ง3ครั้งหลังสุดผมเลือก ปชป.ได้แค่ ปาร์ตี้ลิสต์เท่านั้น เพราะเขตเลือกตั้งผมอยู่ในดงเสื้อแดง ไม่มี ส.ส.เขตจาก ปชป.ลงสมัครผมจึงไม่มีโอกาสได้กากบาทเลือก ส.ส.จากค่าย ปชป.
ส่วน ส.ส.จากไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ผมไม่เคยแม้แต่จะชายตาแล แม้พวกมันจะพยายามเกี้ยวผมไปเป็นพวก ถึงขั้นต่อสายตรงให้ผมคุยกับไอ้แม้วจากดูไบ ก็ตาม พอเข้าคูหาผมก็ไม่ลังเลใจที่จะกา ปชป.ในระบบบัญชีรายชื่อ ส่วน ส.ส.เขต ผมมักจะกาให้ ผู้สมัครจากพรรคโนเนม หรือไม่ก็กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ครับ
เกษม ศิริสัมพันธ์ นี่หากจำไม่ผิดคือ พรรคกิจสังคมนะครับ
ในอดีต เขตพระนคร ไม่ว่าจะเลือกแบบเขตเดียวคนเดียว หรือหลายเขตหลายคน
ก็ได้สส ปชป มาเกือบตลอด จะแย่หน่อยก็ตอนจำลองฟีเวอร์ ที่แม้แต่อาจารย์มารุตยังสอบตกเลยครับ
ยืนยันอีกคน อ.เกษม ศิริสัมพันธ์ ไม่เคยลงกับ ปชป. แต่แกลงกิจสังคม
ลงพร้อมกะ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่ะ กับ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:00
คือ ถ้าจะพูดถึงการผลัดใบของ ปชป. ก็คือ
ห่ะนั้นยังเป็นทักษิณ 1 อยู่ ช่วงนั้นทักษิณทำอะไรก็ดีไปหมด เลิศศศศศไปหมดทั้ง 3 โลก
กระแสมันก็เรยตีกลับไปที่ ปชป.ว่า เชย ไม่ทันสมัย ทำแบบนี้มะไหร่จะเอาชนะเลือกตั้งได้ อะไรทำนองนี้
คุณชวนก็รู้ตัวว่า ด้วยตนเองคงไม่สามารถตอบโจทย์การเมืองได้ในเวลานี้ ก็เรยพอตอนประชุมพรรคใหญ่ เลือกตัวหัวหน้าคนใหม่ แกก็ประกาศสละตำแหน่ง ไม่ขอรับต่อ
จำได้ว่าในวันนั้น ยังมีการถ่ายทอดทางฟรีทีวีด้วยซ้ำ
ก็เรยมีแคนดิเดต 3 คน ก็คือ คุณอภิสิทธิ์ คุณบัญญัติ และดร.อาทิตย์ แต่ทุกคนก็มุ่งไปที่ 2 คนเท่านั้น คือ อภิสิทธิ์ และบัญญัติ
ช่วงนั้นกระแสแข่งขันกันเองในพรรคสูงมวากกกกกกก มีการเรียกชื่อกลุ่มกันว่า เลือดใหม่ คือ กลุ่มของอภิสิทธิ์ กะกลุ่มผลัดใบ คือ กลุ่มของบัญญัติ อะไรทำนองนี้แระ
ผลการลงคะแนนวันนั้น อภิสิทธิ์แพ้บัญญัติไปแค่ไม่กี่เสียง ก่อนหน้านั้นก็คงมีการล็อบบี้กัน ก็ธรรมดา จำได้ว่า ตอนที่อภิสิืทธิ์ขึ้นเวทีพูดเปิดใจ แกก็พูดคำแรกเรยว่า "ผมเสียใจ" คงหมายถึง คนที่ีแกไปลอบบี้กันก่อนหน้านั้น แต่เปลี่ยนใจ ไม่เลือกแกซะังั้น แต่ท้ายที่สุดก็คือ แกก็ยอมรับผล แระก็ช่วยช่วยงานคุณบัญญติมาตลอด ส่วนดร.อาทิตย์ ก็มีคนเลือกแกแค่ไม่กี่เสียง
ตอนนั้นคุณบัญญัติมาเป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อาวุโส และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณชวนทั้ง ชวน 1 ชวน 2 มาตลอด ก็เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรค (ในขณะนั้น)
แร้วพอเลือกตั้งปี 48 ที่ทักษิณได้เสียงมากถึง 377 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดรียวได้สำเร็จสมใจอยาก (แต่มันก็เกิดจากการไปควบรวมพรรคอื่น ๆ มานะ พรรคเล็ก พรรคน้อย) ช่วงนั้น ดร.อาทิตย์ก็ลาออกจากพรรคไป ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ กับอรรคพล สรสุชาติ กับเสธ.หนั่นที่เพิ่งพ้นโทษแบนมา 5 ปี ก็กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็ออกกันไปตั้งพรรคมหาชน กะว่าจะเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 แต่ทว่าผลออกมาก็ได้เแค่ 2 เสียงเท่านั้น ส่วนบัญชีรายชื่อไม่ได้เรย
นี่แระ คุณบัญญัติก็ลาออกทันที แระก็เป็นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นทันที ทั้งที่ตอนนั้นมีข่าวว่า จะมีการสนับสนุนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ให้เป็นขึ้นแข่งเป็นหัวหน้าด้วย แต่เอาจริง ๆ แร้ว คุณจุรินทร์ แกก็สละสิทธิ์
ในตอนนั้น ผมซึ่งเป็นวัยรุ่น (20) ต้นๆ เห็นว่า บัญญัติ ไม่เหมาะกับยุคสมัใหม่จริงๆนะครับ
พอรู้ว่าได้เป็นหัวน้าพรรคนี่ส่ายหัวเลยนะ (ทั้งๆที่ตัวเอง กาไทยรักไทย)
การเมืองยุคนั้น เลือกพรรคไหน ยังรักกันได้คุยกันดีไม่มีสีเสื้อ ม๊อบก็มีแต่ม๊อบคนจน ที่ถึงจะทำรถติดไปบ้างอะไรบ้าง แต่ยังไม่มีความรุนแรง
ว่าไปก็คิดถึงเหมือนกันนะครับ
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:17
อ๋อ มาเพิ่มให้อีกหน่อยว่า
เลือกตั้งปี 48 คราวนั้น ห่ะแรก เขากำหนดไว้ว่าจะเลือกกัีนวันที่ 15 ก.พ. 48 ถึงขนาดที่หน้าเว็บไซต์ของ กกต. ยังขึ้นตัวหนังสือเรยว่า เลือกวันนี้
แต่พอไอ้เหลี่ยมมันบ่องว่า เลื่อนมาเลือกให้เร็วหน่อยได้ไหม รัฐบาลใหม่จะได้แก้ปัญหาภาคใต้ได้ ปริญญา นาคอัีปรีย์ 1 ในสามหนาก็รีบรัีบลูกทันทีเรยว่า "เราจะรับไว้พิืจารณา"
คราวนั้น ปชป. ได้แค่ 96 ที่นั่งก็จริง กทม.ได้แค่ 4 ฝั่งธนฯ 1 ฝั่งพระนคร 4 แต่ก็เป็นเวทีแจ้งเกิดของ ส.ส. รุ่นใหม่ (ในเวลานั้น) หลายคน ที่ปัจจุบันนี้มีบทบาทกัน คือ กรณ์ จาติกวณิช ที่เขตสาทร ที่ตอนนั้นแข่งกับบรู๊ค ดนุพร ที่ลงครั้งแรกเหมือนกัน ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ที่บางรัก แร้วก็ที่จตุจักร ก็ ชวนนท์็ อินทรโกมาลย์สุต แข่งกับเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ ซึ่งชวนนท์ก็ไม่ได้
ในภาคใต้ก็มี เทพไท เสนพงษ์ กับอภิชาติ ศักดิเศรษฐ น้องชายคุณชำนิ
ครั้งนั้นหลายพื้นที่ในกทม. ของ ปชป. ถูกวิจารณ์ว่า ผู้สมัครเป็นใคร ชาวบ้านเขาไม่รู้จักกัน อันนี้ก็ไม่แปลก ที่จะไม่ประสบความสำเร็จ เข้าใจว่าคงเป็นเพราะคนที่จะลงไม่มี
เลือกตั้งคราวนั้น บรรหารได้เบอร์ 1 หาเสียงด้วยคำขวัญที่ว่า "สัจจนิยม" บรรหารกะว่าจะให้ กทม.มีชาติไทยให้ได้สักคน ซึ่งก็คือ ไอ้เก่ง นี่แระที่ดอนเมือง แต่พอใกล้เลือกตั้งไม่กี่วัน ไอ้เก่งก็หนีบรรหารไปลงไทยรักไทย ก็เรยโดนตัดสิทธิซะเรยจากวุฒิการศึกษา เรยเป็นน้องแบมที่ถูกเข็นมาแทน ชนะไปแบบเบิร์ด ๆ
บรรหารถึงหาว่า "ฝนตกห่าใหญ่" ไง เพราะครั้งนั้นมีการซื้อตัว ส.ส. กันเยอะมวากกกก ปชป.เองก็ไปกันหลายคน เอ่ยชื่อเรยก้อได้ เช่น ทวี สุระบาล ที่ตรังแท้ ๆ ที่ลงคู่กับคุณชวนมาตลอด ก็ยังโดนซื้อไป แต่ไม่กล้าลงพื้นที่ หนีไปลงบัญชีรายชื่อ หลายคนได้รับการติดต่อแต่ไม่ไป เช่น คุณมด กันตวรรณ ที่พังงา วิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.บ้านข้าพเจ้าเอง แม้แต่ สก.สุธา นิติภานนท์ มันยังจะซื้อตัวเรยยยยยยยย
อ๋อ ตอนนั้น ป๋าเหนา่ะแกเริ่มแตกกะทักษิณแร้วนะ เพราะทักษิณเห็นแร้วว่า เสียงเริ่มแน่นแร้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้แก ตอนนั้นแกโมโหทักษิณเรื่อง เวลาที่ต้องสังกัดพรรค 90 วัน แกเรียกว่าเป็น "คุก 90 วัน" (แต่จริง ๆ แร้วก็มีมากกว่านั้นแระ)
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:20
ช่วงแรกที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็นอนหลัยทับฟูก อยู่กับบ้าน ด้วยเชื่อมั่นว่า
"ใครจะมาบริหาร ก็โกงทุกพรรค ส่วนเมืองไทยเจริญได้ ก็เพราะตามเวลาที่ผ่านไป"
แต่มีความคิด ถ้าไปเลือก จะเลือก คุณจำลอง หรือคุณสมัคร
เลือกตั้งครั้งแรก ตอนอยู่เชียงใหม่ ไม่ใช่เพราะมีหน่วยเลือกตั้งอยู่หน้าหมู่บ้าน แต่เพราะเมียขายเสียงได้300บ. (เกือบ30ปีที่แล้ว) จำไม่ได้ว่าของพรรคไหน เลยเริ่มสนใจจะไปเลือกตั้ง แต่ไม่มองพรรคการเมือง ชาติไทยเบื่อป้ายตั้งแต่ส้วม ยันโรงเรียน บรรหาร-แจ่มใส, เพื่อไทย ทักษิณ ไม่ว่าจะใช้ชื่อพรรคอะไร ด้วยไม่ชอบหน้า ไม่ชอบลักษณะท่าทาง โดยเฉพาะพฤติกรรมแยกตัวออกจากมหาจำลอง
เลยคิดว่า เลือกที่เป็นสถาบันพรรคที่มั่นคงดีกว่า เลือก ปชป. โดยไม่ดูว่าใครลงรับสมัครในเขตที่ไปเลือกตั้ง ด้วยเชื่อว่า "ใครจะมาบริหาร ก็โกงทุกพรรค ส่วนเมืองไทยเจริญได้ ก็เพราะตามเวลาที่ผ่านไป จะสูญชาติ ถ้ามันมาครองเมือง"
มาอยู่นี่ 2คราวก่อน ทั้งหน่วยมีคนเลือก ปชป. 2คน ผมกับน้อง
ตั้งแต่หางทักษิณ โผล่ออกมา ก็ยิ่งต้องไปเลือก ถ้านับคะแนนที่หน่วย ก็ไปก่อนปิดหีบสัก20นาที เคยเถียงกับกรรมการนับคะแนน เรื่องลักษณะบัตรเสีย ....เถียงสู้ไม่ได้ต้องโทรถามน้องที่เป็นกก.หน่วยที่กทม.
พรรคอะไร เป็นรบ. ก็ดี ...เป็นฝ่ายค้านก็เยี่ยม
Edited by IFai, 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:29.
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:29
เขาว่ากันว่า ในเมืองไทยพรรคการเมืองที่ถือได้ว่าเป็นพรรคการเมืองจริง ๆ อ่ะ มีแค่ 2 พรรคเท่านั้น คือ
ปชป. กับ กิจสังคม (แสบ) เท่านั้น
แต่กิจสังคม นี่ต้องเข้าใจนะว่าเป็นยุคของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เท่านั้น พอแกสิ้นไป
ไอ้รุ่นหลัง ๆ โดยเฉพาะนายเรียงหิน สมศักดิ์ นี่ตัวแสบเรย ทำพรรคซะเละ พอมาถึงยุคนี้เป็นยุคทุนนิยมเต็มตัว ใช้สื่อ ใช้อะไรต่อมิิอะไรสารพัดสารเพ สุวิทย์จะกลับมาฟื้นฟูพรรค ก็ไม่ทันแร้ว
น่าเสียดาย
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:45
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
รอด้วยคนนะ..
รอด้วนคน ป๋มน้องใหม่ อยากฟังด้วยคนฮ้ฟ ...
ไม่ต้องทำเนียนเลยน้าเช
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:27
ตอนนั้นเถียงกับพ่อเรื่องทักษิณ พ่อว่าทักษิณมันก็พวกพ่อค้า คอยดูสิซักพักมันจะออกลาย
ไม่นานนโยบายประชานิยมถูกนำมาใช้ พ่อก็บอกมันเสียนะแบบนี้ เอาเงินไปให้เค้าแทนที่จะหางานให้ทำ
ไม่นานนัก พวกก็ออกลายหนักข้อ บอกตามตรงเสียความรู้สึกมากนะกับการกระทำของทักษิณ
จากคนเคยรักกัน
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:04
ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ
รอฟังนะครับ
รอด้วยคนนะ..
รอด้วนคน ป๋มน้องใหม่ อยากฟังด้วยคนฮ้ฟ ...
ถ้าคุณเช เอาช่วง ยุคไอเกรียนเฒ่า มาลงเสริมกับเรื่อง คุณ phoebus และ ท่าน อาวุโสโอเค
จะครบองค์เลยนะครับ ถือว่าเป็นความรู้ให้น้องใหม่กว่า... ขอบคุณครับ
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:17
คือ ถ้าจะพูดถึงการผลัดใบของ ปชป. ก็คือ
ห่ะนั้นยังเป็นทักษิณ 1 อยู่ ช่วงนั้นทักษิณทำอะไรก็ดีไปหมด เลิศศศศศไปหมดทั้ง 3 โลก
กระแสมันก็เรยตีกลับไปที่ ปชป.ว่า เชย ไม่ทันสมัย ทำแบบนี้มะไหร่จะเอาชนะเลือกตั้งได้ อะไรทำนองนี้
คุณชวนก็รู้ตัวว่า ด้วยตนเองคงไม่สามารถตอบโจทย์การเมืองได้ในเวลานี้ ก็เรยพอตอนประชุมพรรคใหญ่ เลือกตัวหัวหน้าคนใหม่ แกก็ประกาศสละตำแหน่ง ไม่ขอรับต่อ
จำได้ว่าในวันนั้น ยังมีการถ่ายทอดทางฟรีทีวีด้วยซ้ำ
ก็เรยมีแคนดิเดต 3 คน ก็คือ คุณอภิสิทธิ์ คุณบัญญัติ และดร.อาทิตย์ แต่ทุกคนก็มุ่งไปที่ 2 คนเท่านั้น คือ อภิสิทธิ์ และบัญญัติ
ช่วงนั้นกระแสแข่งขันกันเองในพรรคสูงมวากกกกกกก มีการเรียกชื่อกลุ่มกันว่า เลือดใหม่ คือ กลุ่มของอภิสิทธิ์ กะกลุ่มผลัดใบ คือ กลุ่มของบัญญัติ อะไรทำนองนี้แระ
ผลการลงคะแนนวันนั้น อภิสิทธิ์แพ้บัญญัติไปแค่ไม่กี่เสียง ก่อนหน้านั้นก็คงมีการล็อบบี้กัน ก็ธรรมดา จำได้ว่า ตอนที่อภิสิืทธิ์ขึ้นเวทีพูดเปิดใจ แกก็พูดคำแรกเรยว่า "ผมเสียใจ" คงหมายถึง คนที่ีแกไปลอบบี้กันก่อนหน้านั้น แต่เปลี่ยนใจ ไม่เลือกแกซะังั้น แต่ท้ายที่สุดก็คือ แกก็ยอมรับผล แระก็ช่วยช่วยงานคุณบัญญติมาตลอด ส่วนดร.อาทิตย์ ก็มีคนเลือกแกแค่ไม่กี่เสียง
ตอนนั้นคุณบัญญัติมาเป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อาวุโส และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณชวนทั้ง ชวน 1 ชวน 2 มาตลอด ก็เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรค (ในขณะนั้น)
แร้วพอเลือกตั้งปี 48 ที่ทักษิณได้เสียงมากถึง 377 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดรียวได้สำเร็จสมใจอยาก (แต่มันก็เกิดจากการไปควบรวมพรรคอื่น ๆ มานะ พรรคเล็ก พรรคน้อย) ช่วงนั้น ดร.อาทิตย์ก็ลาออกจากพรรคไป ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ กับอรรคพล สรสุชาติ กับเสธ.หนั่นที่เพิ่งพ้นโทษแบนมา 5 ปี ก็กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็ออกกันไปตั้งพรรคมหาชน กะว่าจะเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 แต่ทว่าผลออกมาก็ได้เแค่ 2 เสียงเท่านั้น ส่วนบัญชีรายชื่อไม่ได้เรย
นี่แระ คุณบัญญัติก็ลาออกทันที แระก็เป็นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นทันที ทั้งที่ตอนนั้นมีข่าวว่า จะมีการสนับสนุนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ให้เป็นขึ้นแข่งเป็นหัวหน้าด้วย แต่เอาจริง ๆ แร้ว คุณจุรินทร์ แกก็สละสิทธิ์
ตอนนั้น คุณบัญญัติในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนเลือกตั้งแบบขัดใจแฟนขับ ปชป เป็นอย่างมาก
" เราพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน " ยังไม่ทันได้รบ แต่ดันพูดทำนองยอมแพ้ซะแล้ว
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:26
คือ ถ้าจะพูดถึงการผลัดใบของ ปชป. ก็คือ
ห่ะนั้นยังเป็นทักษิณ 1 อยู่ ช่วงนั้นทักษิณทำอะไรก็ดีไปหมด เลิศศศศศไปหมดทั้ง 3 โลก
กระแสมันก็เรยตีกลับไปที่ ปชป.ว่า เชย ไม่ทันสมัย ทำแบบนี้มะไหร่จะเอาชนะเลือกตั้งได้ อะไรทำนองนี้
คุณชวนก็รู้ตัวว่า ด้วยตนเองคงไม่สามารถตอบโจทย์การเมืองได้ในเวลานี้ ก็เรยพอตอนประชุมพรรคใหญ่ เลือกตัวหัวหน้าคนใหม่ แกก็ประกาศสละตำแหน่ง ไม่ขอรับต่อ
จำได้ว่าในวันนั้น ยังมีการถ่ายทอดทางฟรีทีวีด้วยซ้ำ
ก็เรยมีแคนดิเดต 3 คน ก็คือ คุณอภิสิทธิ์ คุณบัญญัติ และดร.อาทิตย์ แต่ทุกคนก็มุ่งไปที่ 2 คนเท่านั้น คือ อภิสิทธิ์ และบัญญัติ
ช่วงนั้นกระแสแข่งขันกันเองในพรรคสูงมวากกกกกกก มีการเรียกชื่อกลุ่มกันว่า เลือดใหม่ คือ กลุ่มของอภิสิทธิ์ กะกลุ่มผลัดใบ คือ กลุ่มของบัญญัติ อะไรทำนองนี้แระ
ผลการลงคะแนนวันนั้น อภิสิทธิ์แพ้บัญญัติไปแค่ไม่กี่เสียง ก่อนหน้านั้นก็คงมีการล็อบบี้กัน ก็ธรรมดา จำได้ว่า ตอนที่อภิสิืทธิ์ขึ้นเวทีพูดเปิดใจ แกก็พูดคำแรกเรยว่า "ผมเสียใจ" คงหมายถึง คนที่ีแกไปลอบบี้กันก่อนหน้านั้น แต่เปลี่ยนใจ ไม่เลือกแกซะังั้น แต่ท้ายที่สุดก็คือ แกก็ยอมรับผล แระก็ช่วยช่วยงานคุณบัญญติมาตลอด ส่วนดร.อาทิตย์ ก็มีคนเลือกแกแค่ไม่กี่เสียง
ตอนนั้นคุณบัญญัติมาเป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อาวุโส และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณชวนทั้ง ชวน 1 ชวน 2 มาตลอด ก็เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรค (ในขณะนั้น)
แร้วพอเลือกตั้งปี 48 ที่ทักษิณได้เสียงมากถึง 377 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดรียวได้สำเร็จสมใจอยาก (แต่มันก็เกิดจากการไปควบรวมพรรคอื่น ๆ มานะ พรรคเล็ก พรรคน้อย) ช่วงนั้น ดร.อาทิตย์ก็ลาออกจากพรรคไป ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ กับอรรคพล สรสุชาติ กับเสธ.หนั่นที่เพิ่งพ้นโทษแบนมา 5 ปี ก็กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็ออกกันไปตั้งพรรคมหาชน กะว่าจะเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 แต่ทว่าผลออกมาก็ได้เแค่ 2 เสียงเท่านั้น ส่วนบัญชีรายชื่อไม่ได้เรย
นี่แระ คุณบัญญัติก็ลาออกทันที แระก็เป็นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นทันที ทั้งที่ตอนนั้นมีข่าวว่า จะมีการสนับสนุนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ให้เป็นขึ้นแข่งเป็นหัวหน้าด้วย แต่เอาจริง ๆ แร้ว คุณจุรินทร์ แกก็สละสิทธิ์
ตอนนั้น คุณบัญญัติในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนเลือกตั้งแบบขัดใจแฟนขับ ปชป เป็นอย่างมาก
" เราพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน " ยังไม่ทันได้รบ แต่ดันพูดทำนองยอมแพ้ซะแล้ว
อิอิ แต่แกก็พูดจิงอ่ะ
เพราะตอนนั้นใคร ๆ ก็รู้ว่า ทักษิณนอนมาแต่ในมุ้ง
ทักษิณมันอ้อนว่า "ทำงานรับใช้พี่น้องมา 4 ปี เหมือนรถ วิ่งมาน้ำมันหมดแร้ว พี่น้องจะเติมน้ำมันให้ไปต่อไหมคร้าบบบบบบบบบบบบบ" อะไรทำนองนี้ ยังจำได้เรย
ปชป.ห่ะนั้นเรยใช้ยุทธการ เลือกให้ถึง 201 ไง เพื่อที่จะเข้าไปตรวจสอบได้ 200 เหลืออีก 1 เผื่อเหลือเผื่อขาด
มีอีแต๋นพลีชีพ มีทวงคืนประเทศไทย อะไรงี้ไง
อ๋อ 4 ก.พ. 48 ปชป.ปราศรัยใหญ่ปิดท้ายที่ลานพระรูปฯ
4 ก.พ. 49 หนึ่งปีให้หลังพอดีเ๊ปะเรย สนธิก็มาชุมนุมใหญ่ครั้งแรกเหมือนกัน ณ ที่แห่งนี้พอดีเรย โดยย้ายมาจากสนามหลวง ซึ่งตอนนั้นยังไม่มี พธม.
เสื้ิอแดงก็อย่าเอาไปเชื่อมโยงกันอีกอ่ะ
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:09
ผมได้รับสิทธิ์เลือกตั้ง ครั้งแรกคือครั้งที่แล้วครับ ผมเลือกน้ามาร์คครับ
ส่วนเรื่องผลัดใบ ผมเกิดไม่ทันครับ มาขอปูเสื่อนอนรอลุงๆ ความจำดี
เล่าเรื่องราวครั้งเหล่าแต่หนหลังให้ฟังครับ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:17
ตอนนั้น คุณบัญญัติในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนเลือกตั้งแบบขัดใจแฟนขับ ปชป เป็นอย่างมาก
" เราพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน " ยังไม่ทันได้รบ แต่ดันพูดทำนองยอมแพ้ซะแล้ว
ปชป ยุคก่อนผลัดใบ อุดมการณ์คือการต่อสู้กับเผด็จการทหาร ผู้นำ ปชป ยุคก่อนผลัดใบไม่ได้กะสันจะเป็นนายก อุดมการณ์เพียงขอให้ได้ทำงานทางการเมือง บัญญัติจึงพูดเช่นนั้น
ต่างจากยุคหลังผลัดใบ ผู้นำกับแก็งค์ไอดิมมีอุดมการณ์คือการนั่งตำแหน่งนายกและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้นายก แม้กระทั่งการสนับสนุนการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:46
ตอนนั้น คุณบัญญัติในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนเลือกตั้งแบบขัดใจแฟนขับ ปชป เป็นอย่างมาก
" เราพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน " ยังไม่ทันได้รบ แต่ดันพูดทำนองยอมแพ้ซะแล้ว
ปชป ยุคก่อนผลัดใบ อุดมการณ์คือการต่อสู้กับเผด็จการทหาร ผู้นำ ปชป ยุคก่อนผลัดใบไม่ได้กะสันจะเป็นนายก อุดมการณ์เพียงขอให้ได้ทำงานทางการเมือง บัญญัติจึงพูดเช่นนั้น
ต่างจากยุคหลังผลัดใบ ผู้นำกับแก็งค์ไอดิมมีอุดมการณ์คือการนั่งตำแหน่งนายกและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้นายก แม้กระทั่งการสนับสนุนการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ก่อนหน้าที่แก๊งไอติมนั่งตำแหน่งนายกนี่ ใครกันนะที่สนับสนุนรัฐประหารถึง 2 ช่วงอายุเลย นึกๆดูนะ
People shouldn't be afraid of their government.
Governments should be afraid of their people
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน