Jump to content


Photo
- - - - -

ในนาม.......คนไทยที่นับถือ "ศาสนาพุทธ" .............คนหนึ่ง.......


  • Please log in to reply
69 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:46

ผมมีความรู้สึก.........เศร้าๆ เหงาๆ......ยังไงๆ พิกล........บอกไม่ถูก......

 

เพราะ.......มันรู้สึกหดหู่ใจ......ทุกครั้ง.......ที่ได้ยินเรื่อง......แบบนี้.........

 

ได้แต่พูดเศร้าๆ......ว่า...... "ไม่น่าเลย" ............แต่ยังไงเสีย.....

 

 

"ศรัทธาในพุทธศาสนา......ของผม....ยังเต็มเปี่ยม.....เหมือนเดิมครับ"

 

 

 

"พอๆกับที่ผม.......ยังศรัทธาในเว๊ปฯ....สรท. ว่าเป็นเว๊ปฯที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างแท้จริง"

 

r28.jpg

 

 

 

 

 

Untitled-11.jpg

 

nigon.jpg

 

Y5525226-0.jpg

 

bhbjffaebk8hbjikkkedi.jpg

 

1372161286-1012611480-o.jpg

 

401871_320160211402358_420278025_n.jpg

 

g1.jpg

 

1371793781-o.jpg

 

 

 

 

 

 


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#2 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:58

ผมยังศรัทธาในพุทธศาสนาเสมอ เพราะพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ายังใช้ได้ดีเสมอ โดยเฉพาะผลจากการกระทำของเรา

 

แต่คนนี่แหละที่ไปทำศาสนาเสื่อม แทนที่จะทำบุญเพื่อหวังบำรุงวัด บำรุงศาสนา บำรุงพระให้มีกินมีใช้ตามอัตภาพเหมาะสมกับผู้ทรงศีล กลับไปนึกถึงบุญจนเกินเลย ด้วยการทุ่มทุนทำบุญจนตัวเองเอาตัวไม่รอดในชาตินี้ ซึ่งเป็นการเบียดเบียนตัวเอง หรือไม่ก็ทำคล้ายๆ พ่อแม่รังแกฉัน เป็นญาติโยมรังแกพระสงฆ์ คือเอาอกเอาใจด้วยการถวายของพระด้วยของหรูๆ ทำให้พระเสียคน ...ความเห็นส่วนตัว 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#3 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:59

อย่าคิดมาก คิดว่าคนไทยนับถือพุทธกันเป็นส่วนใหญ่หรือ?

 

ผมแค่ถามคำถามง่ายๆ กับคนรอบตัว 10 คน ตอบได้แค่ 1 คน (ครบหมด)

ตอบได้แต่ไม่ครบ 2 คน ถ้าไม่เปิดหนังสือ ไม่ถามอากู๋ คิดว่าคนในเว็บนี้

ตอบได้กี่เปอร์เซ็นต์?

 

สิ่งเหล่านี้คืออะไร?

1. พระรัตนตรัย

2. ไตรลักษณ์

3. ไตรสิกขา



#4 lovelygam

lovelygam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,729 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:00

แก่น กับ กะพี้


"กูจะสู้แม้รู้พวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#5 i-mic

i-mic

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 74 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:10

พุทธเรา  ให้อิสระ  มาก  ทั้งความคิด  และการกระทำ   อยากบวชตอนไหนก็บวช  แค่มีความพร้อม  ไม่เหมือนบางศาสนาที่  ก่อนจะเป็นพระ  หรือ ผู้นำศาสนาได้ จะต้อง  บวชกันตั้งแต่เด็กๆ มีการทดสอบสภาพจิตใจก่อนที่จะเป็นพระจริงๆ  มันจึงไม่ค่อยมีเรื่องเสื่อมเสียซักเท่าไหร่    ส่วนพุทธของเราการที่เปิดกว้างเลยเป็นช่องโหว่  ให้ผู้ที่มีจิตใจหยาบ  ไร้ความสำนึกได้ทำเรื่องไม่ดีให้เสือมเสีย      เหมือนอย่างการเมืองไทย   การที่เปิดกว้าง  เลยทำให้พวกเลวๆทำมาทำลายประเทศอันเป็นที่รักของเรา    เอะ....  พูดเรื่องพระอยู่ดีๆ  จบการเมืองได้งัยเนี่ย  



#6 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:17

 
 ที่สุดแห่งธรรม"หลวงพ่อสด"

พ้นกับดัก"ธรรมกาย"43ปี


ในบรรดา 1 ใน 4 ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ที่มีแนวทางผิดเพี้ยนจากศาสนา ซึ่งกรมการศาสนาสรุปออกมาแล้วได้แก่ คือ คำสั่ง สอนของวัด ไม่ว่าจะเป็นการสอนเพื่อเน้นการทำบุญอย่างเดียว การสอนว่านิพพาน เป็นสถานที่มีพระพุทธเจ้าไปนั่งอยู่ในนั้น


โดยสามารถเห็นได้จากการนั่งสมาธิแนวธรรมกาย ขนาดที่ในการเทศนาวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค. พระไชยบูลย์ ธัมมฺชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังยืนยันต่อหน้าลูกศิษย์ว่า แนวทางของธรรมกายนิพพานเป็นสถานที่ มีตัวตนคืออัตตา เป็นนิจจัง เที่ยง และเป็นสุข ซึ่งไม่สนใจหลักศาสนาที่ว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ทุกขัง คือเป็นทุกข์ และอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีเอกสาร และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วิชชาธรรมกายที่ก่อกำเนิดโดยหลวงพ่อสด จันฺทสโร หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการหลงงมงายได้ง่าย ๆ

ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากคำสอนใน พระไตรปิฎกที่ พระธรรมปิฎก หรือเจ้าคุณปยุต ปยุตฺโต เรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือชื่อ "นิพพาน อนัตตา" ที่ยืนยันนิพพานไม่ใช่สถานที่ และไม่มีตัวตนไปจนถึงหลักฐานการที่ เสฐียร พงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ไปยื่นต่อคณะกรรมา ธิการการศาสนาฯ ว่า ในช่วงที่หลวงพ่อสดมีชีวิตได้เกิดติดขัดในการปฏิบัติภาวนา และต้องไปเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานวัด มหาธาตุ ให้แก้ให้ จึงสามารถผ่านต่อไปได้ โดยมีหลักฐานรูปถ่ายหลวงพ่อสดลงนามถวายไว้ มีข้อความว่า

"ให้สำนักวิปัสสนาวัดมหาธาตุไว้เป็นที่ระลึก ในโอกาสที่ฉันได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนา ตามแบบที่วัดมหาธาตุสอนอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฎฐานสูตรทุกประการ" และลงชื่อโดยพระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ ธนบุรี

เล่ากันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำสำนึกที่เข้าใจผิดว่านิมิตเป็นการบรรลุธรรม แต่จะประกาศออกไปก็เกรงว่าศิษย์จะสับสน ด้วยว่ามีคนทำตามมากแล้ว และวิธีปฏิบัติธรรมกายเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสดทิ้งแล้ว แต่ศิษย์ยังคงสืบต่อกันมา

นอกจากหลักฐานจากภาพถ่าย รวมถึงคำพูดของเสฐียรพงษ์แล้ว ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถอ้างถึงได้นั่นคือ เทปการสอนธรรมะของ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาสิทฺธิ ป.9) หรือเจ้าคุณโชดกอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนา วัดมหาธาตุที่ยืนยันได้อีก เพราะ เจ้าคุณโชดกคือพระรูปที่หลวงพ่อสดไปพบ และแก้ไขเรื่องกัมมัฏฐานให้นั่นเอง

เทปดังกล่าวเคยออกอากาศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2541 ในรายการธรรมร่วมสมัย รวมถึงมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางด้วย

แต่ก่อนที่จะเข้าไปในเนื้อหาของเทปนี้ ต้องเข้าใจพื้นฐานของศาสนาพุทธก่อนว่าจะเริ่มจากการให้ทาน ถือศีล และการภาวนา ซึ่ง การภาวนาจะถือว่าเป็นกุศล เป็นแนวทางสูงสุดของศาสนาพุทธ

ในแง่การภาวนายังแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "สมาธิหรือสมถะ" ซึ่งเป็นการภาวนาขั้นต้น กับ "การวิปัสสนา" ที่เป็นการภาวนาขั้นสูงสุดของศาสนา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

การทำสมาธิ คือ การเพ่ง หรือการทำจิตให้หยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนทำให้จิตมีพลังขึ้นมาได้ เช่น การเพ่งกำหนดไปที่ลมหายใจ จิตในขั้นนี้จะมีฤทธิ์ มีอำนาจ ตามหลักศาสนาจะใช้จิตประเภทนี้เข้ามาหนุน เนื่องสติปัญญา โดย เมื่อจิตมีพลังเต็มเปี่ยมก็ค่อยถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ ตามลำดับชั้นโดยเฉพาะในแง่สติปัฏฐาน 4 อาทิ การพิจารณาให้เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิตและเห็นธรรมในธรรม ภาวะการบรรลุธรรมขั้นสูงจะเกิดได้ต่อเมื่อเป็นผลของการวิปัสสนาเท่านั้น

สำหรับสมาธิแนวทางวิชชาธรรมกายก็คือ การเพ่งให้เห็น "ลูกแก้ว" ในร่างกาย นั่นเอง แต่ปัญหาของสมาธิแนวทางนี้คือ ทำให้เกิดการหลงทางได้ง่าย ๆ โดยภาพที่เห็นเป็น "นิมิต" หรือการเพ่งจนปรากฏรูปขึ้นมาได้ด้วยอำนาจของพลังจิต แต่ถือว่ายังอยู่ในขั้นสมถะไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่การวิปัสสนาได้

จากเทปของเจ้าคุณโชดกได้กล่าวว่า การปฏิบัติสมาธิแต่อย่างเดียวเมื่อปฏิบัติมาก ๆ และจะก้าวเข้าสู่การวิปัสสนานั้นอาจทำให้เกิดการหลง หรือเกิดอุปกิเลสได้ถึง 10 ข้อ อาทิ การเกิดแสงสว่าง และเข้าไปยึดติดกับภาพนั้น

"บางอาจารย์ก็นึกเป็นธรรมกาย เป็นปฐมมรรค เป็นแสงสว่าง ไปดูนรก สวรรค์ อธิษฐาน สร้างภาพนรก สร้างสวรรค์ จิตนึกไปเรื่อย เป็นจิตนึกมาเอง แล้วไปยึดติด บางครั้งคิดว่ากิเลสหายไปหมดแล้ว และกลายเป็นพระอรหันต์แล้วทั้งที่ไม่ใช่" เจ้าคุณโชดก กล่าว

นอกจากนั้น เจ้าคุณโชดกยังกล่าวอีกว่า เจ้าคุณวัดปากน้ำหรือหลวงพ่อสด ที่ปฏิบัติด้านสมาธิหรือสมถะมา 43 ปีมาให้ช่วย โดยแนวทางที่หลวงพ่อสดปฏิบัติคือการเพ่งดวงแก้ว และภาวนาว่าสัมมาอรหัง เห็นธรรมกาย เห็นแสงสว่าง

"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"

ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ

เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน

เจ้าคุณโชดกเองเคยกล่าวว่า ที่เล่าถึงเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ใช่เอามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ แต่เอาความดีของท่านมาเล่าให้ฟัง เพราะท่านเป็นพระที่มุ่งศึกษาในการปฏิบัติธรรม และต่อมาท่านก็ได้สู่แนวทางของการวิปัสสนาอย่างแท้จริง

ปัญหาของวิชชาธรรมกายนี้ เสฐียรพงษ์ได้สรุปว่า ธรรมกายของหลวงพ่อสดคือการปฏิบัติสมาธิโดยเข้าใจว่าเป็นมรรคผล แต่ในยุคหลวงพ่อสดก็เป็นแค่การสัมผัสได้เฉพาะตน ไม่ได้นำมาเผยแผ่จนใหญ่โต และสร้างศรัทธาอย่างวัดพระธรรมกายกระทำ เพื่อให้ลูกศิษย์มาทำบุญ

และปัจจุบันก็กลายเป็นการ จัดสรรนิมิต จนทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นภาพ และก็มีการบอกว่าได้บรรลุธรรมเป็นขั้น ๆ โดยคนที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น พอเห็นเข้าก็เกิดศรัทธา มีเท่าไหร่ก็ทุ่มเททำบุญไปหมด

นี่คือขบวนการสูบบุญที่แท้จริง !!!!



 


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#7 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:19

เรื่องนี้ได้เกิดกับพระพุทธศาสนามาแล้วเมื่อกึ่งพุทธกาล

จนพระเจ้าอโศกมหาราชต้องจับพระเลว เหลือบศาสนา ฆ่าทิ้งเสีย 200000 กว่ารูป

แล้วก็ทำการสังคายนาพระไตรปิฏกใหม่  อันเป็นฉบับที่ถ้าผมจำผิดต้องกราบขออภัยมากๆ...

เป็นฉบับที่พระถังซำจั๋งเดินทางมาถึงชมพูทวีป เพื่อรับไปเผยแผ่ที่ประเทศจีน

 

 

 

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

กรณีหลวงปู่เกษมนี่อ่านเจอมาจะจะจังๆในแมเนเจอร์ครับ

เรียกว่าหลวงปู่เกษมเลย

 

ผมงงมาก


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#8 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:21

พุทธเรา  ให้อิสระ  มาก  ทั้งความคิด  และการกระทำ   อยากบวชตอนไหนก็บวช  แค่มีความพร้อม  ไม่เหมือนบางศาสนาที่  ก่อนจะเป็นพระ  หรือ ผู้นำศาสนาได้ จะต้อง  บวชกันตั้งแต่เด็กๆ มีการทดสอบสภาพจิตใจก่อนที่จะเป็นพระจริงๆ  มันจึงไม่ค่อยมีเรื่องเสื่อมเสียซักเท่าไหร่    ส่วนพุทธของเราการที่เปิดกว้างเลยเป็นช่องโหว่  ให้ผู้ที่มีจิตใจหยาบ  ไร้ความสำนึกได้ทำเรื่องไม่ดีให้เสือมเสีย      เหมือนอย่างการเมืองไทย   การที่เปิดกว้าง  เลยทำให้พวกเลวๆทำมาทำลายประเทศอันเป็นที่รักของเรา    เอะ....  พูดเรื่องพระอยู่ดีๆ  จบการเมืองได้งัยเนี่ย  

 

 

ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกก็กำลังถูกทดสอบเช่นกัน

จนเป็นเหตุให้พระสันตะปาปาต้องลาออกกันเลยทีเดียว

ถือว่าสะเทือนวงการสงฆ์คาทอลิกอย่างรุนแรง

คือพระคาทอลิกปัจจุบันทำการล่วงละเมิดเด็ก(ทั้งชายและหญิง)อย่างหนาตา

แต่เมื่อร้องเรียนแล้ว วาติกันกลับไม่สะทกสะท้าน ไม่ทำอะไร  แถมยังเหมือนปกป้องพระผู้ใหญ่ที่ต้องสงสัยอีกด้วย

 

ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#9 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:23

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

______________________________________________________

 

 

นั่นนะสิ.............ทำไมเรียก....... "หลวงปู่" ..........

 

 

หรือว่าระลึกชาติได้........ว่าเคยบวชมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว........หรือว่าไง.....?????????


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#10 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:25

เป็นเรื่องยากครับ อย่างเช่น "นิพพาน" พวกเพื่อนที่ชอบธรรมกาย

ถกกันหลายรอบ ผมยกพระสูตร ว่า

"นิพพานไม่ใช่โลกนี้ ไม่ใช่โลกหน้า ไม่ใช่ระหว่างสองโลก"

 

แล้วธรรมกายเอา ข้าวปลาอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าในนิพพานได้อย่างไร?

 

คำตอบมาตราฐานคือ ต่างคนต่างยังไม่บรรลุธรรม ไม่เข้าใจหรอก

 

 

 

เรื่องพวกนี้ คนที่อ้างตัวว่าเป็น "พุทธบริษัท" ยังไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็น

สงฆ์ หรือฆาราวาส ก็ไม่เข้าใจ ดันคิดว่าตัวเองยังเป็น "พุทธสาวก" อยู่อีก



#11 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:26

ตรงใจ ขออนุญาตอภิปรายสั้น

ขออภันท่านที่กลัวนรกโปรดกรุณาผ่านไปเถิด

 

ปัญหาหลักทุกวันนี้เกิดจากผู้ได้ชื่อว่า พระสงฆ์

 

ผมขอประเด็นเดียว

และเคยแสดงในเวบนี้ นับครั้งไม่ถ้วน

กรณี สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้มีพระลิขิตว่า

"...บุคคลผู้นี้ได้พ้นจากความเป็นพระไปแล้ว..."

 

นับจากวันนั้น จนวันนี้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

-กรมการศาสนา

-สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

-เจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัด ภาค หน ผู้เกี่ยวข้องทั้งห่มเหลือง และสีกากี

ได้ทำหอกอะไรไปแล้วบ้างเพื่อสนองสมเด็จพระสังฆราช

ซึ่งเสมือนพระประมุขของฝ่ายสงฆ์

 

กรณีนี้ ทำให้เกิดการเหิมเกริม

ไม่มีใครกลัวใคร ทำตามกันมาเรื่อยๆ และนับวันยิ่งเละเทะ

 

เท่าที่ทราบ

เหตุเพราะตัวเดียวเท่านั้นที่บัญชา

และเรียบร้อยนรกทุกกรณี

เงิน..เงิน..เงิน


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#12 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:27

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

______________________________________________________

 

 

นั่นนะสิ.............ทำไมเรียก....... "หลวงปู่" ..........

 

 

หรือว่าระลึกชาติได้........ว่าเคยบวชมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว........หรือว่าไง.....?????????

 

ส่วนใหญ่อ้างว่าระลึกชาติได้ครับ

ส่วน หลวงปู่พุทธอิสระ อ่านหนังสือนานมาแล้ว

ลืมไปแล้วครับว่ามาจากอะไร แต่คิดว่าไม่น่าเกินนี้



#13 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:30

ลองไปเสริซมา ปรากฏว่า ผมเดาผิดครับ

 

http://www.kanlayana...ddha_isara1.htm

ประวัติ หลวงปู่พุทธะอิสระ



#14 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:34

ช่วงที่อยู่วัดคลองเตยใน   มีผู้คนมากมายมาฟังท่านแสดงธรรม   จนมีครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสแสดงธรรมที่วัดท่าซุง   จ . อุทัยธานี   การแสดงธรรมครั้งนั้นจับใจผู้ฟัง   ซึ่งไม่คิดว่าพระหนุ่ม   พรรษาไม่มาก   จะแสดงธรรมได้ดีถึงเพียงนี้   น่าจะเป็นพระอาวุโสมากกว่า   จึงเรียกท่านว่า " หลวงปู่ " แล้วก็เรียกกันต่อๆ มา

มีคนเคยมาถามหลวงปู่ว่า “ ทำไมหลวงปู่จึงยังดูหนุ่ม แต่คนเรียกหลวงปู่ ) ท่านมักตอบตามภาษิตโบราณว่า “ คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน คนจะแก่แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวยรวยศีลทานใช่บ้านโต ”

 

____________________________________________________________

 

สาธุ....สาธุ.....สาธุ.......


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#15 ppneer

ppneer

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,201 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:36

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ


ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิตใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว

#16 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:41

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย



#17 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:46

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

______________________________________________________

 

 

นั่นนะสิ.............ทำไมเรียก....... "หลวงปู่" ..........

 

 

หรือว่าระลึกชาติได้........ว่าเคยบวชมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว........หรือว่าไง.....?????????

 

 

ต้องถามท่านเอง แต่อย่าไปสนใจเลย การระลึกชาติได้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงไตรลักษณ์ หากใช้ปัญญาพิจารณา จนจิตผู้รู้ ยอมรับด้วยปัญญา ก็เป็นการก้าวเข้าสู่การวิปัสสนาแล้ว เป็นโสดาปัตติมรรคในขั้นแรก อีกไม่เกิน 7 ชาติก็จะบรรลุธรรม


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#18 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:47

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......


มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#19 คุณหนูจีน่า

คุณหนูจีน่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 364 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:47

เป็นคนไกลวัด ไม่ชอบไปทำบุญ ทอดผ้าป่ากฐิน สวดมนต์ข้ามปีข้ามชาติ ทำบุญ 9 วัด หรืออะไรทั้งหลายแหล่
กิจกรรมเดียวที่เกี่ยวกับวัดแล้วไม่เคยเลี่ยงคือไปงานศพ
นานๆตักบาตรที ซึ่งไม่รู้จะได้บุญหรือบาป เพราะบางทีเห็นพระมีวัตรปฏิบัติไม่งาม จะนึกนินทาอยู่ในใจ
เคยเจอพระรูปนึง ใส่บาตรเสร็จจะลุกยืน พระท่านบอกให้นั่งลงก่อน แล้วเอาฝาบาตรมาแตะหัว
สวดอวยชัยให้พรยืดยาว จบแล้วเอาฝาบาตรเคาะหัวอีกสองสามที นึกไม่ถึงว่าจะเจออะไรแบบนี้ ไม่ชอบอย่างแรง (-.-)y-., o O

แต่มั่นใจในความเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีของตัวเอง เชื่อว่าคนเราทำดีได้ทุกที่ทุกโอกาสและเวลา
ไม่จำเป็นต้องทำกับพระหรือไปวัดเท่านั้น

ไม่เคยกลัวบาปเวลาวิจารณ์คนห่มเหลืองแรงๆ เพราะไม่ถือว่าคนพวกนี้เป็นพระ
และถ้าจะบาป คนที่อาศัยผ้าเหลืองหลอกลวงผู้คนย่อมบาปกว่าสีกาปากจัดเป็นไหนๆ

สุดท้าย ... ยังเชื่อมั่นว่าพุทธศาสนา และหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์นั้นเป็นสิ่งประเสริฐสุด
ต่อให้มีสิ่งแปดเปื้อนใดๆก็จะต้องแพ้ภัยแห่ง "ธรรม" ในที่สุด
ในส่วนของประเทศไทย เราไม่ขออะไรมากไปกว่า "แผ่นดินของเรา" - ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย / คำแถลงปิดคดีปราสาทพระวิหาร

#20 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:47

 

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย

 

 

 

ใครถือศิล 5 ได้บริสุทธิ์ อย่างไม่มีบกพร่อง...............ก็ถือเป็นอริยะบุคคลแล้วครับ..........


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#21 Francis Drake

Francis Drake

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 243 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:47

*
POPULAR

นำมาฝากครับ 

 

 

 

 

โยม:หลวงปู่ครับผมจะขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรมครับเพราะพระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ผมว่าพระแท้ๆหมดแล้วจากพระศาสนา
 

หลวงปู่:ฮ้วย แสดงว่าบ่นับถืออาตมานำตั้วนี่
 

โยม:เปล่าๆ ครับหลวงปู่ ผมยังเคารพศัทธาหลวงปู่เหมือนเดิม
 

หลวงปู่:เอ้าไสว่าไม่นับถือพระสงฆ์เด้
 

โยม:เว้นหลวงปู่สิครับผม
 

หลวงปู่:บ่ะ เว้นหลวงปู่ก็แสดงว่าหลวงปู่ก็ไม่ใช่พระสงฆ์สิ
 

โยม :(ทำหน้าเหมือนคิดหนัก).........
 

หลวงปู่:บักหล่าเอ้ย เวลาเขาเอาทองคำนั้นเขาไปหามาจากที่ไหน
 

โยม:ไปขุดดินแล้วร่อนเอาทองมาครับ
 

หลวงปู่:ดินมากหรือทองมาก
 

โยม:ดินมากครับผม ร่อนทองจากดินมากแล้วจะได้ทองนิดเดียว
 

หลวงปู่:มันก็เหมือนพระสงฆ์นั้นหล่ะ พระสงฆ์ก็ร่อนมาจากลูกชาวบ้าน ลูกสมมติสงฆ์ ไม่ใช่เป็นพระอรหันต์แล้วมาบวชเมื่อไหร่ มันก็มีบ้างเสียบ้าง จะให้ดีหมดมันก็ทำไม่ได้ จะให้มันเสียหมดก็ทำไม่ได้ ส่วนที่มันเป็นดินก็อย่าเอาเอาส่วนที่มันเป็นทองสิ ถ้าเชื่อหลวงปู่ถ้าเคารพหลวงปู่ ก็จงเชื่อว่าพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีมากมาย อย่าเหมาว่าไม่ดีทั้งหมด ขนาดคุณยังมีข้อเสีย จะให้ดีทั้งหมดทั้งโลกก็ไม่ได้ พระรัตนตรัยเหมือนไม้สามลำค้ำกันไว้ เอาออกอันหนึ่งมันก็ล้ม จำไว้พระก็คือนักเรียน ผู้เป็นอริยะคือผู้สอบผ่าน ผู้เป็นข่าวคือผู้สอบตก ให้สงสารคนสอบตก อย่าไปเกลียดคนสอบตก เพราะไม่มีใครอยากจะสอบตก เข้าใจนะ

 

 

https://www.facebook...ลวงปู่ไดโนเสาร์

 


"                          "

 

 

 


#22 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:50

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......

 

คำพูดท่านคัดง้างกับคำศาสดานะครับ

 

ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี

ภิกษุ ท. !
ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง
สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึกไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นครูของเทวดาและมนุษย์
เป็นผู้เบิกบานแล้วจำแนกธรรมออกสั่งสอนสัตว์.

ภิกษุ ท. ! ตถาคตนั้น ได้ทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้
กับทั้งเทวดา มาร พรหม ซึ่งหมู่สัตว์ กับทั้งสมณพราหมณ์
พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว

ประกาศให้ผู้อื่นรู้แจ้งตาม
ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น
ในท่ามกลาง และในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้ง
อรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.

คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือคนที่เกิดในตระกูลอื่นใด
ในภายหลัง ย่อมฟังธรรมนั้น.
ครั้นฟังแล้ว ย่อมเกิดศรัทธาในตถาคต.

กุลบุตรนั้นผู้ประกอบอยู่ด้วยศรัทธา ย่อมพิจารณาเห็นว่า

ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี;
ส่วน บรรพชา เป็นโอกาสว่าง
มันไม่เป็นไปได้โดยง่ายที่เราผู้อยู่ครองเรือนเช่นนี้
จะประพฤติพรหมจรรย์นั้น ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว
เหมือนสังข์ที่เขาขัดสะอาดดีแล้ว.

ถ้ากระไร
เราพึงปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาด
ออกจากเรือนไปบวชเป็นผู้ไม่มีเรือนเถิด....
” .



#23 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:51

 

 

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย

 

 

 

ใครถือศิล 5 ได้บริสุทธิ์ อย่างไม่มีบกพร่อง...............ก็ถือเป็นอริยะบุคคลแล้วครับ..........

 

 

น่าจะกลับกันนะ ศีล 5 เป็นปรกติของอริยะ หมายความว่าหากก้าวเข้าสู่โสดาบัน ก็จะมีคุณสมบัติอันนี้ต่างหาก เขาทำโดยเป็นปรกติของเขา


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#24 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:52

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......

 

 

 

 

เออ....  จะว่าไป

 

หากเรา ยอมให้พระเล่นการเมืองได้....   ผลมันจะออกมายังไงหว่า  น่าคิดนะ....

 

เพราะ พระที่ต้องมี คุณธรรมวินัยสูงในตัวอยู่แล้ว ไปเป็นนักการเมือง

 

ย่อมน่าจะ ดีกว่า นักการเมืองในปัจจุบัน...  ที่ คนในสังคมเข้าใจกันว่า ไม่จำเป็นต้องมี คุณธรรมวินัยเพื่อสังคมส่วนรวมอะไรมาก

เพราะ คนดันไปเชื่อว่า นักการเมืองมันก็คนธรรมดาเหมือนเรานี่ล่ะ...

ดังนั้น ถ้ามันเลวบ้าง ก็ปล่อยมันไป....


มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#25 หงส์แดง

หงส์แดง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,755 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:52

 

 

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย

 

 

 

ใครถือศิล 5 ได้บริสุทธิ์ อย่างไม่มีบกพร่อง...............ก็ถือเป็นอริยะบุคคลแล้วครับ..........

 

แค่ศีล 5 ก็ยากจริงๆ


ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย


#26 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:56

 

 

 

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย

 

 

 

ใครถือศิล 5 ได้บริสุทธิ์ อย่างไม่มีบกพร่อง...............ก็ถือเป็นอริยะบุคคลแล้วครับ..........

 

แค่ศีล 5 ก็ยากจริงๆ

 

 

ไม่ใช่ครับ แค่ข้อเดียวก็ยากแล้วครับ

เหตุเป็นเพราะ ถ้าคุมสติไว้ไม่ตลอด 24 ชม.

ก็หลุดได้เสมอครับ แล้วผู้ที่คุมสติได้ตลอด

ก็คือ "พระอรหันต์" ครับ ดังนั้นใครที่อวดว่า "ตน"

หรือ "อาจารย์" ของตนเป็นเพราะอรหันต์ แต่ยังทำ

ผิด "ศีล" โดยที่รู้ตัว ผมจึงไม่เชื่อว่าเป็น "อรหันต์" ครับ



#27 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:00

 

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......

 

คำพูดท่านคัดง้างกับคำศาสดานะครับ

 

ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี

ภิกษุ ท. !
ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง
สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึกไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นครูของเทวดาและมนุษย์
เป็นผู้เบิกบานแล้วจำแนกธรรมออกสั่งสอนสัตว์.

ภิกษุ ท. ! ตถาคตนั้น ได้ทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้
กับทั้งเทวดา มาร พรหม ซึ่งหมู่สัตว์ กับทั้งสมณพราหมณ์
พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว

ประกาศให้ผู้อื่นรู้แจ้งตาม
ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น
ในท่ามกลาง และในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้ง
อรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.

คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือคนที่เกิดในตระกูลอื่นใด
ในภายหลัง ย่อมฟังธรรมนั้น.
ครั้นฟังแล้ว ย่อมเกิดศรัทธาในตถาคต.

กุลบุตรนั้นผู้ประกอบอยู่ด้วยศรัทธา ย่อมพิจารณาเห็นว่า

ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี;
ส่วน บรรพชา เป็นโอกาสว่าง
มันไม่เป็นไปได้โดยง่ายที่เราผู้อยู่ครองเรือนเช่นนี้
จะประพฤติพรหมจรรย์นั้น ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว
เหมือนสังข์ที่เขาขัดสะอาดดีแล้ว.

ถ้ากระไร
เราพึงปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาด
ออกจากเรือนไปบวชเป็นผู้ไม่มีเรือนเถิด....
” .

 

 

 

 

คือ หากคนที่เขาบวช หรือ เป็น สมณะ ด้วยใจจริง... แล้วทำตัวให้หลุดพ้นตามคำสอนของศาสนาได้ มันก็ดีไงครับ

 

ผมไม่ได้บอกว่า ในทางศาสนาแล้ว คนธรรมดา จะดี หรือไม่ดี กว่าสมณะ

 

แต่กล่าวถึงในกรณี ที่มันเป็น ดาบสองคม ว่า...

หากคุณเป็น สมณะแล้ว ดันยังก้าวข้ามกิเลสไปไม่ได้... นั่นมันเป็นความเสี่ยง และ อุปสรรค ที่จะเป็น สมณะที่ดีได้

 

อย่างเรื่อง รักใคร่เนี่ย... คนธรรมดาทั่วไปมีได้ และ เขาก็สามารถศึกษาธรรมะ และทำดีได้ปกติ

แต่ สมณะ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ มันเป็นข้อจำกัด


มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#28 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:01

พุทธเรา  ให้อิสระ  มาก  ทั้งความคิด  และการกระทำ   อยากบวชตอนไหนก็บวช  แค่มีความพร้อม  ไม่เหมือนบางศาสนาที่  ก่อนจะเป็นพระ  หรือ ผู้นำศาสนาได้ จะต้อง  บวชกันตั้งแต่เด็กๆ มีการทดสอบสภาพจิตใจก่อนที่จะเป็นพระจริงๆ  มันจึงไม่ค่อยมีเรื่องเสื่อมเสียซักเท่าไหร่    ส่วนพุทธของเราการที่เปิดกว้างเลยเป็นช่องโหว่  ให้ผู้ที่มีจิตใจหยาบ  ไร้ความสำนึกได้ทำเรื่องไม่ดีให้เสือมเสีย      เหมือนอย่างการเมืองไทย   การที่เปิดกว้าง  เลยทำให้พวกเลวๆทำมาทำลายประเทศอันเป็นที่รักของเรา    เอะ....  พูดเรื่องพระอยู่ดีๆ  จบการเมืองได้งัยเนี่ย

 
 
ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกก็กำลังถูกทดสอบเช่นกัน
จนเป็นเหตุให้พระสันตะปาปาต้องลาออกกันเลยทีเดียว
ถือว่าสะเทือนวงการสงฆ์คาทอลิกอย่างรุนแรง
คือพระคาทอลิกปัจจุบันทำการล่วงละเมิดเด็ก(ทั้งชายและหญิง)อย่างหนาตา
แต่เมื่อร้องเรียนแล้ว วาติกันกลับไม่สะทกสะท้าน ไม่ทำอะไร  แถมยังเหมือนปกป้องพระผู้ใหญ่ที่ต้องสงสัยอีกด้วย
 
ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟครับ
วันก่อนผึ้งเพิ่งได้ดู Law & order ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี เลยไปหาอ่านเพิ่ม เจอข่าวว่าสาขาของโบส์บางที่ต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหายให้เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิด

#29 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:03

เหตุใดพระโสดาบันไม่ล่วงศีล 5 เลยตลอดชีวิต
terawat
 
วันที่ 31 พ.ค. 2549
อ่าน 998
 
 

ทราบว่าพระโสดาบัน มีลักษณะเหมือนปุถุชนทั่วไป  อยู่ในเพศฆราวาสก็ได้  มีเสียใจมี

โกรธ มีโลภ ผิดหวังมีคู่ครองแต่ทำไมถึงไม่ล่วงศีล 5 เลยเช่น มุสาวาทที่ล่วงง่ายมาก  

ขอกราบเรียนถามครับ

 
ความคิดเห็นที่ 1
study
 
วันที่ 31 พ.ค. 2549
 
 

พระอริยะบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปท่านมีปัญญาประจักษ์แจ้งอริยสัจจธรรมทั้ง ๔

ละกิเลสอันเป็นเหตุของการล่วงศีลได้แล้วท่านจึงไม่มีการล่วงศีลอีก สำหรับปุถุชนผู้

ที่หนาด้วยกิเลส อันเป็นเหตุให้ล่วงศีล  ฉะนั้นพระอริยะบุคคลท่านละกิเลสอย่างหยาบ

อันเป็นเหตุให้ล่วงศีลได้แล้ว จึงไม่มีการล่วงศีลอีกเลย

 

......

 

.......

 

.......

 

http://www.dhammahom...how.php?id=1269


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#30 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:05

 

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......

 

 

 

 

เออ....  จะว่าไป

 

หากเรา ยอมให้พระเล่นการเมืองได้....   ผลมันจะออกมายังไงหว่า  น่าคิดนะ....

 

เพราะ พระที่ต้องมี คุณธรรมวินัยสูงในตัวอยู่แล้ว ไปเป็นนักการเมือง

 

ย่อมน่าจะ ดีกว่า นักการเมืองในปัจจุบัน...  ที่ คนในสังคมเข้าใจกันว่า ไม่จำเป็นต้องมี คุณธรรมวินัยเพื่อสังคมส่วนรวมอะไรมาก

เพราะ คนดันไปเชื่อว่า นักการเมืองมันก็คนธรรมดาเหมือนเรานี่ล่ะ...

ดังนั้น ถ้ามันเลวบ้าง ก็ปล่อยมันไป....

 

 

 

ถ้าเจอองค์นี้.....มาเล่นการเมืองจริง.......สงสัย.......เงินเดือนคงหมด....ไปกับบุญภาษีแน่ๆ........

 

 

นะจ๊ะ.................. -_- 

 

 

 

 

Dhammachayo.jpg

 

 

 

379099.jpg


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#31 bangkaa

bangkaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,104 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:07

 

 

ผมว่า เป็น ฆราวาส คนทั่วไป ที่มีธรรมะ มันก็ดีละ

คนเรามันก็ตัด กิเลส กันไม่ได้หรอก อยู่ที่จะทำยังไง ให้ทำไม่ดีน้อยที่สุด

 

 

แต่การเป็น สมณะ ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก...

คือ ต้องดีจริงๆ ต้องอยู่ในกรอบเลย นอกลู่นอกทางไม่ได้

สมณะที่บรรลุด้วยใจตามธรรมชาติเลย ก็ดีไป

แต่บางท่าน อาจจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ฝืนข่มตนให้อยู่ในกรอบ... วันใดวันนึงอาจมีแจ๊กพอตให้พลาดขึ้นมาได้

 

 

 

ถ้าเปรียบกันแล้ว สมณะ กับ นักการเมือง ก็ควรจะมีหลักประพฤติคล้ายๆกัน

คือ ควรต้องอยู่ในกรอบของคุณธรรมให้มากๆ

แต่ที่เห็นๆกันในยุคนี้คือ....  ทั้งสมณะ และ นักธุรกิจการเมือง จำนวนมาก....

ดันทำนอกกรอบ... กร่าง คิดว่าเท่ห์  มันก็เลยทำให้สังคมผิดเพี้ยนนนนน.......

 

 

 

 

เออ....  จะว่าไป

 

หากเรา ยอมให้พระเล่นการเมืองได้....   ผลมันจะออกมายังไงหว่า  น่าคิดนะ....

 

เพราะ พระที่ต้องมี คุณธรรมวินัยสูงในตัวอยู่แล้ว ไปเป็นนักการเมือง

 

ย่อมน่าจะ ดีกว่า นักการเมืองในปัจจุบัน...  ที่ คนในสังคมเข้าใจกันว่า ไม่จำเป็นต้องมี คุณธรรมวินัยเพื่อสังคมส่วนรวมอะไรมาก

เพราะ คนดันไปเชื่อว่า นักการเมืองมันก็คนธรรมดาเหมือนเรานี่ล่ะ...

ดังนั้น ถ้ามันเลวบ้าง ก็ปล่อยมันไป....

 

 

 

ถ้าเจอองค์นี้.....มาเล่นการเมืองจริง.......สงสัย.......เงินเดือนคงหมด....ไปกับบุญภาษีแน่ๆ........

 

 

นะจ๊ะ.................. -_- 

 

 

 

 

Dhammachayo.jpg

 

 

 

379099.jpg

 

 

 

 

เขา ไม่ใช่ พระ นี่ครับ

 

 

5555


มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...

#32 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:09


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#33 ppneer

ppneer

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,201 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:10

กระผม ขอสาธุทุกท่านนะ คับ กะผม

 

กราบเรียน จขกท หรือเพื่อน สรท

 

อย่ามาเอาเรื่องทางจิตวิญญาน มาเลยครับ

 

เรป ก่อน  ผมขออโหสิด้วยครับ

 

 

สิ่งใดที่กระผมกล่าวล้วง ต่อท่าน สรท ทุกๆกระผมขออโหสิด้วยนะครับ


Edited by ppneer, 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:11.

ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิตใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว

#34 Ghost Rider

Ghost Rider

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 145 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:44

ผมว่าปัญหามันเหมือนกับหลายวงการในประเทศเรานะแหละครับ

มันติดตรงที่ผู้ที่มีหน้าที่รักษากฏหมายไม่ยอมบังคับใช้กฏหมายอย่างเที่ยงธรรม

ลองผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเข้ามาจัดการกับผู้ที่ทำผิดอย่างจริงจังให้เข็ดหลาบและเป็นเยี่ยงอย่าง

ปัญหาที่เจออยู่ทุกวันนี้ก็คงจะค่อยๆลดน้อยลงไปเอง


★ ไม่มีอ้ายหรืออีตัวไหน หนีพ้นเพลิงกัลป์จากกรรมที่ตนก่อเอาไว้ได้หรอก ★


#35 แสนยานุภาพ

แสนยานุภาพ

    สปอร์ต กทม ใจดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,267 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:47

ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับ "การถวายปัจจัย" น่ะฮะ  :lol: 



#36 zeedzaad

zeedzaad

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,963 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:19

สวดมนต์กันไป ได้เข้าใจไหม

เรากราบพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี พฤติชอบ

เรากราบสมมติสงฆ์ที่เพิ่งบวช

สงฆ์แท้ย่อมยังด้วยศีล กราบไหว้ได้บริสุทธิ์ใจ
“A fool's brain digests philosophy into folly, science into superstition, and art into pedantry. Hence University education. ”George Bernard Shaw

#37 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:03

 

 

ศีล 5 ตูยังทำไม่ได้ อย่ามาถือว่าตูคือ พุทธ

 

นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากครับ

พระยังอาบัติได้เลย เป็นพุทธคือศึกษา

และปฏิบัติตามคำ "พุทธะ" ทำได้ ทำไม่ได้

ทำได้น้อย ก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ

จะมีศีลกันได้ง่ายๆ ศีลผมผลุบๆ โผล่ๆ

ยังถือว่าเป็น "พุทธ" เลย

 

 

 

ใครถือศิล 5 ได้บริสุทธิ์ อย่างไม่มีบกพร่อง...............ก็ถือเป็นอริยะบุคคลแล้วครับ..........

 

 

ไม่เสมอไปครับ... แต่เป็นอาการปกติของพระอริยะที่จะมีศีลบริสุทธิ์ เช่น พระโสดาบัน ซึ่งฆราวาสก็จะเป็นได้ ...แต่..ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมรักษาศีลแปดมากกว่า เพื่อยกระดับจิตใจ...แต่อย่างน้อยก็คือศีล 5 ไม่ขาดแน่นอน ดังนั้น พระโสดาบันจึงไม่มีวันตกนรกอีก

 

พระโสดาบันยังมี โลภ โกรธ หลง อยู่บ้าง โลภ แต่ก็ไม่ได้ไปอยากได้ของคนอื่นเขา โกรธ แต่ก็ไม่ได้ไปโกรธใคร หลง ก็ไม่ได้ไปชื่นชอบใครหรือรังเกียจใคร (หลงอยู่ในจิตตัวเอง) จึงไม่มีทางที่พระโสดาบันจะทำศีลขาด

 

พระโสดาบันนั้นจิตเข้าถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว...หากบำเพ็ญเพียรต่อไปอีก อย่างเร็วก็ 7 วันได้บรรลุพระอรหันต์ อย่างช้าก็ 7 ปี...


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#38 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:13

 

 

พระโสดาบันนั้นจิตเข้าถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว...หากบำเพ็ญเพียรต่อไปอีก อย่างเร็วก็ 7 วันได้บรรลุพระอรหันต์ อย่างช้าก็ 7 ปี...

 

 

เรียนถามเป็นความรู้   แล้วต้องไปถึงระดับอนาคามีก่อนมั้ยครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#39 bonnerr

bonnerr

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,158 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:39

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

______________________________________________________

 

 

นั่นนะสิ.............ทำไมเรียก....... "หลวงปู่" ..........

 

 

หรือว่าระลึกชาติได้........ว่าเคยบวชมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว........หรือว่าไง.....?????????

หลวงปู่เณรคำ



#40 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:20

ผมรู้เรื่องศาสนาน้อยมาก

แต่ผมยังศรัทธาและเชื่อ

ในความเป็นพุทธะ ครับ

#41 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:36

ในซอยบ้าน มาพระมายืนรับบิณบาตร 2-3รูปเสมอ

แต่ไม่เคย ยกมือไหว้ หรือใส่บาตรเลย 

ทำไมหรือ เพราะไม่ศรัทธา 

เห็นสวดให้พร แต่ตา หัวหันไปมา มองดูสาวๆ ไม่มีสำรวม

ขณะชาวบ้านใส่บาตร ยังเอามือเกาตูด

มีชายสติไม่ดี เดินขอข้าวกินจากแม่ค้า แต่ไม่เคยเห็นได้รับทานจากพระ


Posted Image

#42 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:38

 

 

 

พระโสดาบันนั้นจิตเข้าถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว...หากบำเพ็ญเพียรต่อไปอีก อย่างเร็วก็ 7 วันได้บรรลุพระอรหันต์ อย่างช้าก็ 7 ปี...

 

 

เรียนถามเป็นความรู้   แล้วต้องไปถึงระดับอนาคามีก่อนมั้ยครับ

 

 

แล้วแต่ตัวบุคคลครับ ถ้าศึกษาประวัติพระสาวกหลายๆท่าน มีหลายท่านที่เทศนาปุ๊บ บรรลุเป็นพระอรหันต์เลยก็มี อย่างพระพาหิยะเป็นต้น 

บางท่านอย่างพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ไม่ได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าโดยตรง แต่ฟังจากคนอื่นก็บรรลุโสดาบัน แต่ไปบรรลุพระอรหันต์หลังจากที่

มาอยู่กับพระพุทธเจ้าแล้ว 

 

หรือพระอานนท์ เป็นพระโสดาบันมานานและอุปัฏฐากพระพุทธเจ้ามาจนท่านปรินิพพานไป จึงได้เร่งฝึกและบรรลุจากโสดาบันเป็นพระอรหันต์ในคืนเดียว

ถ้าดูจากรูปแบบ พระพุทธสาวกในสมัยพุทธกาลส่วนใหญ่จะเป็นสเต็ปสั้นๆแบบนี้ครับ  แต่คนที่ค่อยๆก้าวจากโสดาบันไปเป็นพระสกิทาคามี หรือไปเป็นพระอนาคามี

ส่วนใหญ่มักจะเป็นฆราวาสมากกว่า 

 

เท่าที่ทราบในตอนนี้นะครับ อาจจะมีท่านอื่นที่ทราบมากกว่าผมก็ได้  :)



#43 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:45

อันนี้สำหรับเพื่อนๆที่จิตตกครับ ...คำสอนของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

 

          ถ้าใจรู้อยู่ที่ไหน พระพุทธเจ้าอยู่ที่นั่น ถ้าใจรู้อยู่เป็นปกติ ไม่หวั่นไหว พระธรรมก็อยู่ที่นั่น
ถ้าใจมีสติสัมปชัญญะ สังวรระวัง หรือควบคุมความรู้สึกให้รู้อยู่ที่รู้ คือที่ใจนั้นเอง พระสงฆ์ก็อยู่ที่นั่น

          พระพุทธเจ้า ก็คือ จิตรู้ของเรา
          พระธรรม ก็คือ จิตที่มีความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี
          พระสงฆ์ ก็คือ เจตนาตั้งใจจะละความชั่วประพฤติดีอยู่ตลอดเวลา

          จิตของเราเป็น พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกันแล้วทุกคน
แต่ว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ของเรายังมีพลังน้อย
เพิ่งเริ่มเป็นแสงริบหรี่ เล็กกว่าแสงหิ่งห้อยนิดหนึ่ง ดังนั้น 
เราจึงมาตั้งใจปฏิบัติภาวนา…เพื่อให้แสงพุทธธรรมอันนั้นสว่างไสวขึ้นในจิต

          การทำสมาธิมิได้หมายความว่า เราจะมากำหนดจิตบริกรรมภาวนา หรือมาพิจารณาเฉพาะในขณะนั่งหลับตาเท่านั้น
แม้เวลาอื่นนอกจากการปฏิบัติ คือนอกจากการเดินจงกรมและจากการนั่งสมาธิเราจะทำอะไร จะพูด จะคิด จะดื่ม จะฉัน
จะรับประทานอะไรก็ตามให้มีสติสัมปชัญญะคอยกำกับ และเอาตัวรู้สะกดตามไปด้วย คือให้มีผู้รู้
ในเมื่อเรามีสติสัมปชัญญะกำกับรับรู้กิริยาความเคลื่อนไหวของเราอยู่ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด เราก็มีสติสังวรอยู่

          การมีสติสังวรอยู่ สํวโร คือการสำรวม
          การสำรวม ก็คือ ศีล 
          ความตั้งมั่นจดจ้องต่อการสังวรระวัง ก็คือ สมาธิ
          ความมีสติสัมปชัญญะ รู้รอบคอบอยู่ทุกอิริยาบถนั้น คือ ปัญญา
 
   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- :) 


#44 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:12

แต่อย่างนี้ มีแต่ฮาดี
 
1011186_472757949476826_1894275740_n.jpg
มึน บวก ฮา !!!
โผล่อีก "พระอาจารย์ตี๋" เปิดญาณเทพ สอนชาวบ้านพูดจาภาษาเทพ !?
เป็นคลิปที่มีผู้ใช้ชื่อว่า พระอาจารย์ตี๋ เปิดญาณเทพ โพสต์ในยูทูบ เผยแพร่เมื่อ 7 ม.ค. 201 อ้างว่าสอนให้ชาวบ้านพูดจาภาษาเทพ แต่เท่าที่ฟังดูไม่น่าจะรู้เรื่อง และไม่เป็นภาษาที่สื่อสารกัน รวมทั้งบทสวดในพุทธศาสนา เพราะระบุชัดว่าให้ชาวบ้านท่องอะไรขึ้นมาก็ได้ ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกอินเทอร์เน็ตที่ระบุว่าเป็นพระตี๋นั้น เป็นพระจริงหรือไม่ บวรในเมืองไทยหรือไม่ สอนชาวบ้านทำอย่างนี้ได้อย่างไร เข้าข่ายหลอกลวง หรือต้มตุ๋นหรือไม่ ?
พระตี๋ยังระบุอีกว่า ถ้าเชื่อเรื่องเทพก็โทรมาถาม ภาษาเทพติดมากับดวงจิตกี่ชาติกี่กัลป์ อาตมาเปิดญาณบารมี ขอขมากรรม และพูดภาษาเทพ
รวมมิตรการเมือง
มีคลิบให้ชมความบ้า แบบจุใจ !!!

 

 


Posted Image

#45 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:03

 

อันนี้สำหรับเพื่อนๆที่จิตตกครับ ...คำสอนของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

 

          ถ้าใจรู้อยู่ที่ไหน พระพุทธเจ้าอยู่ที่นั่น ถ้าใจรู้อยู่เป็นปกติ ไม่หวั่นไหว พระธรรมก็อยู่ที่นั่น
ถ้าใจมีสติสัมปชัญญะ สังวรระวัง หรือควบคุมความรู้สึกให้รู้อยู่ที่รู้ คือที่ใจนั้นเอง พระสงฆ์ก็อยู่ที่นั่น

          พระพุทธเจ้า ก็คือ จิตรู้ของเรา
          พระธรรม ก็คือ จิตที่มีความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี
          พระสงฆ์ ก็คือ เจตนาตั้งใจจะละความชั่วประพฤติดีอยู่ตลอดเวลา

          จิตของเราเป็น พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกันแล้วทุกคน
แต่ว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ของเรายังมีพลังน้อย
เพิ่งเริ่มเป็นแสงริบหรี่ เล็กกว่าแสงหิ่งห้อยนิดหนึ่ง ดังนั้น 
เราจึงมาตั้งใจปฏิบัติภาวนา…เพื่อให้แสงพุทธธรรมอันนั้นสว่างไสวขึ้นในจิต

          การทำสมาธิมิได้หมายความว่า เราจะมากำหนดจิตบริกรรมภาวนา หรือมาพิจารณาเฉพาะในขณะนั่งหลับตาเท่านั้น
แม้เวลาอื่นนอกจากการปฏิบัติ คือนอกจากการเดินจงกรมและจากการนั่งสมาธิเราจะทำอะไร จะพูด จะคิด จะดื่ม จะฉัน
จะรับประทานอะไรก็ตามให้มีสติสัมปชัญญะคอยกำกับ และเอาตัวรู้สะกดตามไปด้วย คือให้มีผู้รู้
ในเมื่อเรามีสติสัมปชัญญะกำกับรับรู้กิริยาความเคลื่อนไหวของเราอยู่ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด เราก็มีสติสังวรอยู่

          การมีสติสังวรอยู่ สํวโร คือการสำรวม
          การสำรวม ก็คือ ศีล 
          ความตั้งมั่นจดจ้องต่อการสังวรระวัง ก็คือ สมาธิ
          ความมีสติสัมปชัญญะ รู้รอบคอบอยู่ทุกอิริยาบถนั้น คือ ปัญญา
 
   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- :) 

 

 

"ให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน"
 


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#46 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:06

 

 

 

พระโสดาบันนั้นจิตเข้าถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว...หากบำเพ็ญเพียรต่อไปอีก อย่างเร็วก็ 7 วันได้บรรลุพระอรหันต์ อย่างช้าก็ 7 ปี...

 

 

เรียนถามเป็นความรู้   แล้วต้องไปถึงระดับอนาคามีก่อนมั้ยครับ

 

 

มันแล้วแต่ความตั้งใจอธิษฐานครับ บางท่านอาจจะมีภารกิจด้านฆราวาสอยู่ ก็อาจจะไปเรื่อยๆ ไม่ได้อยากที่จะบรรลุอรหันต์ไวๆ  ก็อาจจะเป็นพระโสดาบันไปจนตายก็มี... แต่สเต็ปจากพระโสดาบัน ไป อนาคามีนั้น ไม่ได้ยุ่งยากครับ แต่จะยุ่งยากในการดำเนินชีวิตเป็นฆราวาส เพราะต้องละเว้นหลายสิ่งหลายอย่าง (พระโสดาบันละเยอะแล้ว) คงไม่สะดวกอย่างยิ่ง พระเถระในอดีตท่านจึงแนะนำให้บวชเพื่อปฏิบัติจะสำเร็จได้เร็วกว่า

 

ถ้าถามว่าจำเป็นมั้ยที่จะต้องผ่านการเป็นพระสกทาคามี พระอนาคามีก่อนบรรลุ คำตอบก็คือ ไม่จำเป็นครับ ดูที่ความเห็นของคุณ Isa ได้ครับ

 

หากบรรลุพระอรหันต์แล้ว จะต้องบวชภายในวันนั้น ไม่เช่นนั้นก็จะนิพพานไป เพราะไม่อาจทนอยู่ในเพศฆราวาสต่อไปได้ เพราะรู้ว่าเป็นภัยเป็นโทษ เปรียบเสมือนไฟกำลังไหม้บ้าน ควันก็เข้าตา ร้อนก็ร้อน ใครจะทน มีใครทนไหม ร้องหาทางหนี อยู่ไปก็ตายแน่ เพราะรู้ว่านี่ก็เป็นกิเลส ทำให้ต้องมีการเกิด นี่ก็เป็นโทษ นี่ก็เป็นภัย เมื่อเป็นผู้กลัวภัย จึงต้องพาตนเองออกจากภัยนั้น บวชจึงเท่ากับออกจากเพศฆราวาส


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#47 จูกัดขงเบ้ง

จูกัดขงเบ้ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,226 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:17

แต่ก่อน พระพุทธเจ้า ท่าน ไม่ยอมรับสตรีเพศ เข้าบวชเลยด้วยซ้ำ

จิตใจของสตรีเพศ คือ จิตใจของความเป็น แม่ เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ยึดติด ยึดถือเป็นหลัก เหมือนไม้เลื้อยนั่นแหละ

เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องอิจฉาริษยา นินทา ในหมู่สตรีเพศจึงเป็นเรื่อง ปกติ ครับ

เรียกว่า ถ้าถือหางข้างไหนแล้วข้าไม่ฟังใครทั้งนั้น คนของข้าไม่มีวันผิด

จิตนี้ไม่ใช่สิ่งไม่ดี แต่มันไปด้วยกันไม่ได้กับศาสนาที่ต้องปล่อยวาง และ สงบ

แต่สิ่งที่ดีของสตรีก็คือ ความอดทน มุ่งมั่น อย่างสูงสุด จนทำให้พระองค์ต้องยินยอมให้สตรีเพศเข้ามาบวชได้

 

ถึงกระนั้นก็ตามยังคงวางระเบียบเข้มงวดมากในการจะบวชแต่ละครั้ง

 

ที่เขียนมานี่ไม่ได้ด่าสตรีเพศ แต่สภาพพื้นฐานเป็นอย่างนี้เอง

จิตใจแบบนี้แหละที่พาไปเกิดเป็นสตรี อาศัยในเพศสตรี เราทั้งหลายพึงพิจารณา

มิใช่อธิษฐานแล้วจะได้ไปเกิดเป็นชายเป็นหญิง 

หากแต่เหตุปัจจัยในจิตใจนี้ต่างหากเล่า ที่สร้างรูปเพศชายหญิงขึ้นมาหลังจากปฏิสนธิ

 

เรื่องการครองเรือน การเป็นผัวเป็นเมีย ก็เป็นเรื่องของกิเสสในส่วนละเอียดมากๆ

มันเหมือนเป็นพื้นฐานแห่งจิตมนุษย์ จะมีกิเลสส่วนนี้อยู่เป็นฐานเลยแหละ

ความรักใคร่ ชอบพอ และ สืบพันธุ์ เป็นกิเลสที่อยู่ส่วนลึกมากของจิต

เพราะเราต่างเกิดมาจาก กิเลสและตัณหาของพ่อแม่ ที่ร่วมกันจึงเกิดชีวิตขึ้นมา

กิเลสส่วนนี้จึงเป็นส่วนฐานของจิต ที่ทำให้มนุษย์ต้องสืบพันธุ์มีลูกหลานต่อไป

การกำจัด ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย เพราะมันเหมือนกำจัดจิตตัวเองทิ้งนั่นแหละ

 

ดังนั้น การที่พระจะเป็นพระที่เสพกาม ทั้งในผ้าเหลืองหรือสึกมา  ก็เป็นเรื่องปกติ

เป็นปกติแห่งจิต

ยิ่งครองอยู่ในสมณเพศ ยิ่งไม่สามารถเสพกามได้ ยิ่งนานไป กิเลสที่นอนก้นอยู่ยิ่งรุ่มร้อน

เหมือนน้ำมันเดือด ที่ รอแค่เพียง สะเก็ดไฟเล็กๆ เท่านั้น

เจ้าตัวเองไม่มีทางรู้หรอก ถ้าไม่ได้ฝึกจิตจริงๆ ไม่เห็นหรอก

จนเมื่อเจอสะเก็ดไฟ เข้ามานั่นแหละ เห็นโยมผู้หญิงเข้ามาหน่อย มองยังไม่ทันละเอียด แค่ตรงจริตแค่ส่วนเดียว

เท่านี้ กิเลสก็ขี่หัวแล้ว มันก็ขยายออกไปอีก รุ่มร้อนมากขึ้น อยากครองเรือน อยากอยู่ข้างร่างกายแห่งสตรีเพศนี้ตลอดไป

 

เพียงแต่ใครจะหน้าด้าน โลภในลาภสักการะ มากกว่า การครองเรือน หรือจะเอาทั้งคู่

ต่างเป็นวิถีแห่งจิตและวิถีแห่งกรรมที่ผูกพันร่วมกันมา

 

จะว่าหญิงว่าเป็นนักล่า ก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะหลักฐานไม่มี และ มันสามารถเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง

เราเพียงแต่มองแล้วน้อมนำมาที่เราเองว่า นี่แหละคือจิตแห่งมนุษย์ทั้งหลาย เราเองก็เป็นเหมือนกัน

เพียงแต่เราจะมองเห็นมันชัดแค่ไหนเท่านั้น


แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง

จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน


#48 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:20

ปล. เรียนถามท่านผู้รู้ครับ  ถ้าก้าวล่วงต้องขออภัย

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพระหนุ่มๆยุคนี้ต้องใช้ชื่อว่าหลวงปู่

หลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่พุทธอิสระ

หลวงปู่เกษม

 

______________________________________________________

 

 

นั่นนะสิ.............ทำไมเรียก....... "หลวงปู่" ..........

 

 

หรือว่าระลึกชาติได้........ว่าเคยบวชมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว........หรือว่าไง.....?????????

 

:rolleyes:  เกิดระลึกไปถึงยุคจูราสสิก... ไม่กลายเป็นหลวงน้าไดโนเสาร์หรือขอรับ...

 

:D  คนทั้งนั้น... ปรุงกันไป๊...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#49 A Better Tomorrow

A Better Tomorrow

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 333 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:32

คนที่บวชมานาน ร่ำเรียนทางธรรม มาก็เยอะ ใช่ว่าธรรมมะจะดีกว่าคนที่ไม่ได้บวช หรือบวชใช้เวลาน้อยกว่า

 

ตอนที่เรียนโทด้วยกัน มีเพื่อนร่วมเรียนคนหนึ่ง แกบวชเป็นเณร เป็นพระมาร่วม 30 ปี แล้วสึกออกมาเป็นฆราวาส

 

วันหนึ่งก็คุยกันเรื่องศาสนา ผมก็ว่าพระเดี๋ยวนี้หาดียาก มีแต่เรื่องพุทธพาณิชย์ แกก็ว่าผม ว่าด่าพระไม่ดี บาป

 

ผมก็บอกว่าไม่บาป พระเลวๆ ไม่ใช่พระ ด่าได้ ก็เถียงกันไปพักหนึ่ง

 

วันหลังแกมาปรับทุกข์ว่า แฟนแกที่คบกัน เขาจะขอเลิก ไปคบกับตำรวจ แกก็บอกเพราะแกจน แกไม่มีฐานะใช่ไหม ไม่มีตำแหน่งใช่ใหม

 

ผมก็บอกแกว่า ถือว่าวาสนาไม่ตรงกัน ก็ต้องปล่อยเขาไป ถ้าใจเขาไม่รักเราแล้ว ให้ปลงซะ  เพราะพี่ก็บวชมานานนี่ น่าจะปลงได้นะ

 

แกบอกว่า ผมไม่เคยมีแฟน และรักผู้หญิง คนหนึ่ง มันรักมากมายขนาดไหน ทำใจไม่ได้หรอก

 

ผมเลยด่าซ้ำไปเลย ว่า ที่พี่บวชมาตั้งนานนี่  พระธรรมมันไม่ได้ซึมซับพี่บ้างเลยเหรอ 

 

555

 

(นี่เรื่องจริงนะครับ)



#50 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:41

... ภิกษุทั้งหลาย! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม, แม้จะทุกข์กายทุกข์ใจ ถึงน้ำตานองหน้า ร้องให้อยู่ ก็ยังสู้ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์อยู่ได้ ก็มี ข้อที่น่าสรรเสริญเธอให้เหมาะสมแก่ธรรมที่เธอมี ในบัดนี้ห้าอย่าง. ห้าอย่างอะไรบ้างเล่า ? ห้าอย่างคือ :-

(๑) ธรรมที่ชื่อว่า ศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย ก็ได้มีแล้วแก่เธอ.
(๒) ธรรมที่ชื่อว่า หิริในกุศลธรรมทั้งหลาย ก็ได้มีแล้วแก่เธอ.
(๓) ธรรมที่ชื่อว่า โอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย ก็ได้มีแล้วแก่เธอ.
(๔) ธรรมที่ชื่อว่า วิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย ก็ได้มีแล้วแก่เธอ.
(๕) ธรรมที่ชื่อว่า ปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย ก็ได้มีแล้วแก่เธอ.

ภิกษุทั้งหลาย! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม, แม้จะทุกข์กายทุกข์ใจ ถึงน้ำตานองหน้า ร้องไห้อยู่ ก็ยังสู้ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์อยู่ได้ก็มี. ข้อที่น่าสรรเสริญเธอให้เหมาะสมแก่ธรรมที่เธอมีในบัดนี้ห้าอย่างเหล่านี้แล...

 

... ถูกแล้ว ถูกแล้ว สารีบุตร ! สารีบุตร ! อริยสาวกใด มีความเลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว, เขาย่อมไม่สงสัยหรือลังเลในตถาคตหรือคำสอนในตถาคต. สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธาแล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย. สารีบุตร ! ความเพียรเช่นนั้นของอริยสาวกนั้นย่อมเป็น วิริยินทรีย์ ของเธอนั้น...

 

:) 


:) Sometime...Sun shine through the rain...




ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน