http://www.komchadlu...ml#.Uc5dm9j_kTA
คุก2ปี8เดือน'ขวัญชัย'คดีหนองประจักษ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน คุก 2 ปี 8 เดือน 'ขวัญชัย' คดีหนองประจักษ์ ที่กลุ่ม พธม.อุดรธานี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 55 ที่ห้องพิจารณาคดี 10 ศาลแขวงอุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร พร้อมด้วย นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยา และ ทนายความ ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำหมายเลข 2149/2551 กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม.อุดรธานี โดยฝ่ายโจทก์มี 7 คน ประกอบด้วย นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ , นายรังษี ศุภชัยสาคร , นางธันยนันท์ จรัสจิรวงศ์ , นายชนะศักดิ์ ผ่องเพลิดพริ้ง , นายแก้ว จันธิชู , น.ส.สุจิรา มีชั้นช่วง และนายรัตนชัย ทองสุข ได้ยื่นฟ้อง นายขวัญชัย เป็นจำเลยที่ 1 โดยกล่าวหา "ร่วมกันพยายามฆ่า , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันทำลายทรัพย์สิน" เหตุเกิดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551
ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2554 ศาล จ.อุดรธานี ได้อ่านคำพิพากษาให้จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเป็นเงิน 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ
ครั้งนี้ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษายืน ซึ่งหลังฟังคำพิพากษา นางอาภรณ์ ภรรยานายขวัญชัย ได้ใช้หลักทรัพย์ราคา 500,000 บาท ประกันตัว และเตรียมให้ทนายความยื่นฎีกา ภายในวันที่ 17 มกราคม 2556
นายขวัญชัย กล่าวว่า เป็นไปตามคาดว่าศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งเราเตรียมที่จะยื่นฎีกาตามสิทธิ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เท่าที่ฟังคำพิพากษาต้องยอมรับว่าฝ่ายโจทย์มีข้อมูลที่สอดคล้องกันในการรวม รวมหลักฐาน เป็นการสร้างภาพที่ดีเยี่ยม เป็นมืออาชีพจริงๆ แต่เราเป็นนักต่อสู้ คดีของเราทนายความคนแรกเสียชีวิต หลักฐานต่างๆ จึงไม่มีนำมาประกอบในการต่อสู้คดี รวมถึงคดีใช้เวลาหลายปี มีการเปลี่ยนทนายหลายคน ซึ่งตนต้องยอมรับในคำพิพากษา แต่เราก็ต้องสู้ตามสิทธิในการยื่นฎีกา
"จากนี้ผมก็ยังคงจะทำงานเคลื่อนไหวตามปกติ ตามการต่อสู้ภาคประชาชน ที่เราไม่เคยพึ่งพาอาศัยฝ่ายรัฐบาล มีสมาชิกชมรมคนรักอุดรจำนวนมากสอบถามมาว่า เราเป็นฝ่ายรัฐบาลแล้ว ยังเพลี่ยงพล้ำอย่างนี้อีกหรือ ซึ่งผมตอบไม่ได้ เพราะเราเป็นภาคประชาชน เราไม่เคยหวังให้รัฐบาลมาช่วยในเรื่องของคดี ที่เกิดมาตั้งแต่ปี 2551 แต่ยืนยันว่า คดีนี้ภาคประชาชนอย่างผมไม่มีความตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่อง เราเตือนไว้แล้ว แต่พวกเขาวางแผนกันมาล่วงหน้าอย่างดี ต้องยอมรับว่ากลุ่ม พธม.เขาเป็นนักสร้างภาพ รวมถึงมีสภาทนายความเป็นที่ปรึกษาในการยื่นคำฟ้อง แต่เราภาคประชาชนมีหัวใจเป็นนักสู้ ก็ต้องยอมรับคำตัดสิน"
นายขวัญชัย กล่าวว่า ถามว่ากังวลไหม หากศาลฎีกาพิพากษายืนอีก ก็คงกังวลบ้าง ในเรื่องความเป็นห่วงพี่น้องเสื้อแดงของเราที่อยู่ข้างนอก เพราะคนเหล่านี้ฝากความหวังไว้กับตน หากถึงวันที่ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ เราก็ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง 2 ปี 8 เดือน ที่พิพากษาเอาไว้ คงไม่นานเกินไปที่เราจะเข้าไปสู่ประตูคุก แต่ประชาชนนักต่อสู้คงจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น กับการต่อสู้กับพันธมิตรประชาชน เพื่อเผด็จการ ที่เขามีเส้นสายมาก และตนกำลังดูคนที่จะมาเป็นตัวแทนของตัวเอง หากต้องติดคุก แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเป็นใคร