วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 09.49 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เดินทางเข้าทำงานวันแรก โดยมีคนใกล้ชิด ส.ส.เพื่อไทย และทีมงาน ตลอดจนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เช่น พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. นายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวรชัย เหมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย น.พ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับ โดย ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางมาด้วยรถยี่ห้อไครสเลอร์ สีดำ ทะเบียน วฉ 5 กทม.โดยบอกกับสื่อมวลชนว่า รถคันนี้ใช้มาเกือบ 30 ปีแล้ว จากนั้นได้เดินขึ้นไปชมห้องทำงานที่บริเวณชั้น 6 สำนักงานปลัดกระทรวงทันที ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้เข้าสักการะศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ท่ามกลางความสงสัยของข้าราชการประจำกระทรวง ที่ไม่ปฏิบัติเหมือนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว ระหว่างการมอบนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงแรงงาน ว่า มีคนถามมาว่าสาเหตุที่ตนถูกปรับย้ายเพราะอะไรทั้งที่ 2 ปีของการทำงานในตำแหน่งรองนายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทุกโพล ยกเว้นนายกฯตนมาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นตนย่อมมีสิทธิคิดและถามตัวเองว่าถูกปรับย้ายเพราะอะไร ทั้งที่ทำงานดีมีผลงานมาโดยตลอด การถูกปรับย้ายมาเป็น รมว.แรงงาน ไม่ได้มองว่าลดตำแหน่ง เพียงแต่เสียดาย เพราะแก้ปัญหาด้านยาเสพติดมาโดยตลอด
“ที่ผ่านมา ผมไม่ใช่ขี้ข้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยพูดไว้ว่าเป็นเพราะต้องการประชดพรรคประชาธิปัตย์ ผมกับพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพื่อนรักกันมานาน รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2516 เรียกมึง-กู มาโดยตลอด ฝึกงานมาพร้อมกัน ปี 2549 ตอนที่เกิดพรรคพลังประชาชน สมัยนั้นคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ได้เป็นนายกฯ ไปพบผมที่บ้านริมคลองบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้ผมไปพบที่ลอนดอน เมื่อผมไปถึงที่สนามบินฮีทโธรว์ คุณยิ่งลักษณ์เอารถโรลลอยด์สีน้ำเงินเข้มมารับ และพอไปถึงสถานีรถไฟ พ.ต.ท.ทักษิณก็มารอรับลงจากรถ เรากอดกัน 15 นาที ผมน้ำตาไหลเพราะสงสารเพื่อนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี ช่วงเวลานั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ชวนผมเข้าพรรคพลังประชาชน เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ก็ได้มาพบที่บ้านบอกว่าผมเป็นขุนศึกฝั่งธนฯ นายสมัครเป็นขุนพลกรุงเทพฯ หาเสียงจนได้เป็นรัฐบาล นายสมัครได้เป็นนายกฯและผมเป็นมท.1 อยู่ได้ 8 เดือน ก็เกิดแก๊งค์ออฟโฟร์ แต่วันนี้ที่ทำเนียบฯมีแก๊งค์ไอติม” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ผู้นำการเมืองต้องมีเสือเดินตาม ถ้าวันหนึ่งมีหมาเดินตามผู้นำก็เจ๊ง เพราะไม่มีใครเกรงใจ ที่พูดตนไม่ได้น้อยใจ แต่จะบอกว่า This is a politic (นี่คือการเมือง) ทั้งนี้ชีวิตตนเล่นการเมืองมีกระบวนการทำลายมาโดยตลอด คนที่พูดวันนี้ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการ และยังบอกว่าให้ก้าวข้ามทักษิณไปให้ได้ แต่ตนบอกว่าถ้าพูดอย่างนั้นมาเป็นรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทยทำไม วันนี้ถ้าเล่นการเมืองในไทยแล้วไปทะเลาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณจะเหลือแค่ตนกับเงาเท่านั้น การเมืองวันนี้ไม่ใช่เรื่องปกติแต่เป็นสงครามสู้รบ
“หลายเรื่องผมเคยแสดงความเห็นคัดค้านใน ครม. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือเรื่องพ.ร.บ.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน ที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ รวมถึงที่ผมเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง พรรคเพื่อไทยก็ไม่เห็นด้วย เพราะไม่เชื่อเฉลิม แต่กลับมาบอกว่าผมทิ้งบอมบ์ ทั้งที่ผมบอกว่าให้ทำเรื่องใหญ่ก่อนคือการนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน การเมืองตั้งแต่วันนี้ไปจะแตกหัก ต่อไป นายกฯจะเจอขวากหนาม และรัฐบาลจะสั่นสะเทือน เพราะคนนอกอย่างองค์กรอิสระ เช่น กกต. ป.ป.ช. ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งคนภายนอกที่มีชื่อเสียง ที่ผมบอกว่า ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ที่พูดไม่ได้ขู่แต่เป็นเรื่องจริงและทุกวันพุธบ่ายโมงจากนี้ไป จะวิเคราะห์ให้นักข่าวฟัง ที่กระทรวงแรงงาน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว และว่า บ่ายวันนี้ จะเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะฮ่องกง แต่มีนักข่าวไปลือว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ฮ่องกง ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อน แต่หากพบก็จะพูดคุย อย่าไปซุบซิบว่าตนไม่วิ่งเต้น ส่วนวันที่ 8 ก.ค.จะเข้าผ่าตัดต้อกระจกซึ่งหมอได้นัดมา 3 เดือนแล้ว และหลังผ่าตัดหมอให้พักผ่อน จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมครม.ในวันที่ 9 ก.ค.ได้ อย่าเอาไปเขียนว่าตนงอนไม่เข้าประชุมครม. เพราะเป็นสิทธิที่ตนสามารถลาได้.
Edited by meeboon, 5 July 2013 - 10:54.