แต่อย่ากลั่นแกล้งคนดีให้มากนัก ถ้าข้าราชการเหลือแต่คนชั่วๆอย่างพวกเผาไทย เมื่อนั้นประเทศไทยก็จะเป็นอย่างประเทศรวันด้า
ด้าน น.ส.สุภา เปิดเผยกับสื่อว่า การถูกตั้งกรรมการสอบวินัยกรณีไปชี้แจง กมธ.เศรษฐกิจ วุฒิสภา โดยยืนยันว่า ตนเองไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากได้ทำตามหน้าที่ ขณะที่ นายกิตติรัตน์ และนายอารีพงศ์ ก็ทำตามหน้าที่เช่นกัน เราเคารพซึ่งกันและกัน โดยยืนยันว่า การไปชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ได้บอกไปว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีความเสี่ยง และโอกาสที่จะเกิดการทุจริตในทุกขั้นตอน เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 10 หน่วยงาน เช่น กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ เกษตรกร ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดการทุจริตได้ เช่น ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การทำประชาคม เป็นต้น
“มีกรรมาธิการคนหนึ่งถามว่า ขั้นตอนไหนมีการโกงมากที่สุด ซึ่งดิฉันบอกไปว่า ทุกขั้นตอนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตทั้งนั้น และได้ยกตัวอย่างการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่มีส่วนเกินออกมา รวมถึงตัวเลขสต๊อกข้าวสารส่วนเกินอีก 3 ล้านตัน และตัวเลขขาดทุน 2.2 แสนล้านบาท”
น.ส.สุภา ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองได้ชี้แจง กมธ.ฯ ไปนั้น มีเอกสารรายงานที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฯ จัดทำขึ้น และได้ส่งให้นายกฯ รับทราบไปตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
http://astv.mobi/AowEGtP