จากความทรงจำที่ค่อนข้าง กระพร่อง-กระแพร่ง
วันก่อนนี้นึกถึง บทเสภา ขุนช้าง-ขุนแผน ด้วยความกลัวที่จะลืมไปอีก
จึงได้เอาไปบันทึกเก็บไว้ใน Facebook ของ ตัวเอง
บทเสภา ที่พูดถึงนี้ เป็น บทเสภา ที่ว่าด้วย ลางร้าย บอกเหตุต่างต่าง
มี เนื้อหา-ใจความ ดังต่อไปนี้ครับ...
ครานั้นขุนแผนแสนสนิท.....เรืองฤทธิ์ราวีจะมีไหน
เมื่อถึงคราวจะมีเหตุเภทภัย.....ก็เกิดลางร้ายใหญ่หลายประการ
ผึ้งมาจับ กก รู บูรพทิศ.....วิปริตมากมายหลายสถาน
เห็ดขึ้นกลางเตาเท่าลำธาร.....เต่าก็คลานขึ้นไปขี้บนที่นอน
แมวออกลูกห้าตัวหัวเป็นเต่า.....หมามีเขาขึ้นที่หน้าคล้ายกาสร
รุ้งกินน้ำในกระถางอ่างมังกร.....เ-หี้-ย ขึ้นหอนเห่าคนบนหลังคา ฯลฯ
บทเสภา นี้ได้กล่าวถึงสิ่งต่างต่างที่คนโบราณถือว่า เป็นลางบอกเหตุ หรือ เป็นอัปมงคล ไว้หลายอย่าง
๑. ผึ้ง ซึ่งจะต้องเป็น ผึ้งป่า ที่มาจับบ้าน เรื่อง ผึ้ง จับบ้าน นี้
จะต้องมี ทิศ เป็นตัวกำกับ และ คงต้องเป็น บูรพทิศ หรือ ทิศตะวันออก เท่านั้นกระมัง จึงจะถือว่า ลางไม่ดี
แต่ถ้าเป็น ทิศเหนือ-ใต้-ตะวันตก คงจะไม่เป็นไร
๒. เห็ด ขึ้น เตา หุงหาอาหาร อย่างนี้ก็น่าจะ วิปริต-ผิดอาเพศ อยู่หรอกกระมังครับ เพราะ โดยธรรมชาติแล้ว
เห็ด นั้นจะขึ้นที่ เย็นเย็น-ชื้นชื้น หาก เห็ด ขึ้น ในเตาอันเป็นสถานที่ที่ต้องร้อนอยู่เสมอเสมอ คงประหลาดดีแท้
๓. เต่า แหม...ถ้าบ้านไหนถึงขนาดปล่อยให้ เต่า ขึ้นไป ถ่าย อุจจาระ-ปัสสาวะ ได้ถึงบนที่นอนนี่
คงต้อง ตำหนิ-ติ-ติง กันเป็น ขนานใหญ่แล้ว เพื่อนเพื่อน ลองนึก สภาพ ของ เรือนไทยโบราณ ดูนะครับ
ขั้นบันไดที่ค่อนข้างชัน ถามว่า ชัน ขนาดไหน ก็ขนาด อังศุมาลิน ตก บันได ลงมาเกือบ แท้ง ประมาณนั้น
ลงว่า คนท้อง ตกลงมา เกือบ แท้ง ได้ ก็ไม่น่าเชื่อว่า เต่า จะ ปีน ขึ้นไป ขี้-รด ที่นอนเช่นกัน
แต่ถ้าขึ้นไปได้ก็คงต้องว่า วิปริต เป็นแน่แท้
๔. แมว กับ หมา นั้น คนโบราณ เชื่อกันว่า แมวห้า-หมาหก ไม่ควรเลี้ยงไว้ใน บ้าน เป็น อัปมงคล
ถามว่ามีเหตุผลไหมก็น่าคิดอยู่ ปกติแล้ว คนโบราณ จะเลี้ยง หมู-หมา-กา-ไก่-แมว ก็ เพื่อประโยชน์ ใน ครัวเรือน ทั้งสิ้น
อย่าง หมา นี่ก็เลี้ยงไว้ เห่า ไล่ ขโมย-ขโจร หากต้องเลี้ยง หมา ไว้ถึง ๖ ตัว เวลา หน้าสัด คงหอนกันโหยหวนน่าดู
จนเพื่อนบ้านทนไม่ได้ต้องปล่อย พระธาตุ ลง หลังคาบ้าน เดือดร้อน กันอีก ส่วน แมว นั้น เขาเลี้ยงไว้จับ หนู
สัก ตัว-สอง-ตัว ก็คงที่จะพอทน กว่านี้เห็นทีจะ เปลืองข้าวสุก เสียเปล่า
๕. รุ้งกินน้ำ ใน บ้าน ตรงนี้ก็ให้สงสัยอยู่ เพราะ ตะนิ่นตาญี ก็ดูว่าสวยดี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม ถึงเป็น ลางไม่ดี
อาจเป็น เพราะว่า นี่คือ ปรากฎการณ์-ธรรมชาติ ที่ไม่ใคร่เกิดขึ้นในบ้านหรือกระมัง อันนี้ไม่ทราบจริงจริง
แต่ที่เรียกกันว่า รุ้งกินน้ำ นั้น ก็คือ หัวรุ้ง ตกลงไปใน น้ำ นั่นเอง
๖. ส่วนตัว วรนุช หรือ ที่เรียกกันว่า ตัวเงิน-ตัวทอง หรือ ตัว เ-หี้-ย นั้น สมัยนี้ก็คงยังถือว่าเป็น อัปมงคล อยู่
โดยธรรมชาติ ของ คุณวรนุช เธอ นั้น มักจะทาน ของสด-ของคาว-ของเน่า-ของสกปรก บ้าน ใครไม่รักษาความสะอาด
ทิ้งขยะมูลฝอย ปล่อยสัตว์ตาย ไว้ กลาดเกลื่อน จนถึงขนาด คุณวรนุช เธอ ขึ้นมาหากินก็ถือว่าบ้านนั้นมี อัปมงคล
ลางไม่ดีทั้ง หกประการ นี้ สาธุชน พึง ระมัดระวัง ไว้ อย่าได้ปล่อย สิ่งอัปมงคล ให้เข้ามาเป็นภัยกล้ำกรายได้
คุณเฉลิม อยู่บำรุง ครับ ตะนิ่นตาญี แลเห็น คุณฯ ปล่อย ให้ ตัววรนุช มา เดินเคียงข้าง-นั่งเคียงข้าง...ไหน-ตัว-ไหนหรือครับ?
ก็ ไอ้ตัว ที่อยากให้ ประเทศไทย เป็น เช่น เขมร...อยากให้ ประเทศไทย ไม่มี สถาบันพระมหากษัตริย์ ไงล่ะครับ
ถึงขนาด สมช. ว่า เป็น ภัยต่อความมั่นคง ไงล่ะครับ รู้แล้วใช่ไหมครับ...ถ้า รู้แล้ว-ทราบแล้ว ก็พึงระลึกไว้เสมอว่า
นาทีนี้ คุณฯ กำลัง เลี้ยง ตัววรนุช ไว้เคียงข้าง ราศี-บารมี ต่างต่าง ที่เคยมีมา ก็ถูก ความอัปมงคล กล้ำกราย ให้ลดน้อยถอยลง
ที่สำคัญ วรนุช-สอง-ขา มัน อัปมงคล เสียยิ่งกว่า วรนุช-สี่-ขา เสีย อีกนะครับ คุณเฉลิม อยู่บำรุง ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๑๗.๔๐ นาฬิกา
