Jump to content


Photo
- - - - -

ปราสาทพระวิหารกับการทำลายมาตรฐานมรดกโลกของยูเนสโกเอง


  • Please log in to reply
3 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 อารยา

อารยา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,216 posts

ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 04:58

อารยาได้ทบทวนแหล่งข้อมูลเอกสารของ UNESCO (Draft Decision: 31 COM 8.24
The World Heritage Committee) ว่าด้วยการเสนอชื่อปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก (dtad.dti.or.th/index.php?...preah-vihear...phravihear...‎) อีกครั้ง พบข้อสังเกตที่ขอเรียนชี้แจงสั้นๆในเบื้องต้นพอเป็นสังเขปก่อน ดังนี้ 
 
1.  กัมพูชาระบุในแบบฟอร์มขอชึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดก (30 มกราคม 2549) ว่า แหล่งโบราณสถานแห่งนี้เข้าข่ายเป็นมรดกโลกตามมาตรฐานของ ICOMOS ข้อ i, iii, iv (1,3,4)  [ในแม่บทการประเมินคุณค่ามรดกโลก ICOMOS ตั้งเกณฑ์ทั่วไปไว้  6 ข้อสำหรับกว่า 190 ประเทศที่ต้องการเสนอขึ้นทะเบียนแหล่งวัฒนธรรมหรือธรรมชาติก็ตาม]
 
2. เมื่อ ICOMOS ลงไปสำรวจแหล่งโบราณสถานซึ่งก็คือ "ปราสาทพระวิหาร" ตามข้อ 1 ICOMOS ได้รายงานผลการประเมินต่อยูเนสโกว่าได้มาตรฐานมรดกโลกจริงตามเกณฑ์ข้อ i, ii, iv (1,2,4 ) กล่าวคือ 3 ข้อเท่ากันแต่สลับจาก iii เป็น ii] (โปรดดู ICOMOS Evaluation Book, May 2007, page 32-37)
 
ประเด็นสำคัญที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติคือ ยูเนสโกไม่มีเหตุผลในการเปลี่ยนเกณฑ์มาตรฐานเหลือเพียงข้อ i เดียว (7 กรกฏาคม 2551 ) ในการรับรองความเป็นมรดกโลกของปราสาทพระวิหารที่ขาดองค์ประกอบในข้อ ii และ iv 

เพราะนั่นนอกจากถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และสองมาตรฐานแล้ว
ยังเท่ากับยูเนสโกกำลังทำลายมาตรฐานมรดกโลกของอนุสัญญามรดกโลกของสหประชาชาติ UN-Unesco's World Heritage Convention 1972) 


#2 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 06:00

:lol:  :D  :lol:


"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#3 อารยา

อารยา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,216 posts

ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:31

  • ก่อนฝรั่งเศสเข้ามามีอิทธพลในอินโดจีน เจ้านายไทย (พระเจ้าน้องยาเธอสรรพประสิทธิ์ฯ)ได้พบแหล่งโบราณสถานแห่งนี้ปี 2441 แล้วทรงขนานนามว่า "ปราสาทพรหมวิหาร"

    จากนั้นบันทึกเกี่ยวกับปราสาทพรหมวิหารมีน้อยมาก จนกระทั่งมีภาพถ่ายครั้งกรมพระยาดำรงฯเสด็จไปเยือนในฐานะส่วนพระองค์เมื่อปี 2472 
    กัมพูชาฉวยโอกาสใช้เป็นหลักฐานปิดปากไทยว่ายอมรับาแหล่งโบราณสถานแห่งนี้เป็นของฝรั่งเศส ก่อนจะใช้ความเป็นข้าเก่ามารับช่วงกรรมสิทธิ์ทันทีที่ได้เอกราชในปี 2496 โดยเอาแผนที่ฝรั่งเศสมาตราส่วน 1:200,000 มาเป็นเอกสารประกอบคำร้องใน "คดีเขาพระวิหาร" (2502-2505) ที่คนไทยรู้จัก 

    แม้กระทั่งหลังศาลสั่งให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาแล้ว คนไทยก็ยังเรียก "เขาพระวิหาร" ในความหมายเดียวกับซากโบราณสถาน

    เพิ่งจะมาแยกว่า "ปราสาทพระวิหาร" อยู่บน "เทือกเขาพนมดงรัก" ขัดเจนในราวเดือนกรกฏาคม 2551 เมื่อนายสมัคร สุนทรเวชให้สัมภาษณ์ว่า "ฮุนเซนขอร้องให้เรียกแหล่งโบราณสถานที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้ถูกต้องว่า "ปราสาทพระวิหาร" เนื่องจากต้องการให้เกิดความเข้าใจว่ากัมพูชาขึ้นทะเบียนเฉพาะที่ศาลโลกยกให้กัมพูชาแล้วเมื่อปี 2505 ไทยไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว"
 
  • ที่ฮุนเซนออกมาบอกกล่าวให้ผู้นำไทยเข้าใจตามนั้นเกี่ยวข้องโดยตรง กับความพยายามอำพรางไทยให้สนับสนุนการขึ้นทะเบียน The Temple of Preah Vihear" ในการประชุมมรดกโลกครั้งที่ 32/2551 หลังจากที่เพียรพยายามขึ้นทะเบียน "The Sacred Site of the Temple of Preah Vihear" ไม่เป็นผลมาตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 2530
     
     
     
     
  • สองชื่อนี้ (The Sacred Site of the Temple of Preah Vihear VS The Temple of Preah Vihear) ต่างกันแน่นอน เข้าใจง่ายๆคือ อันแรกการกระจายของซากปรักหักพังจะกินพื้นที่ข้ามเขตจากบริเวณตัวปราสาท (vicinity) มาถึงเขตไทย ส่วนอีกอันเป็นไปตามนัยยะคำตัดสินของศาลโลกปี 2505 คือเฉพาะตัวปราสาทและบริเวณ  การเปลี่ยนมาขึ้นทะเบียนผ่านชื่อใหม่ว่า "The Temple of Preah Vihear" ก็เพื่อจะได้แหกตาคนลงนามแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique ลว. 18 มิถุนายน 2551) ว่าไทยจะไม่เสียดินแดนอะไร สนับสนุนการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวของกัมพูชาได้แล้ว! ส่วน "แผนบริหารจัดการปราสาท" ในสถานะมรดกโลก (ที่จะผนวกดินแดนไทยรอบตัวปราสาท) ยังอุบไว้ก่อน เพราะกว่าจะเรื่องแดงก็อีกตั้งสองปีตามนัยยะในแถลงการณ์ร่วม
  • แล้วฮุนเซนก็มาลับลวงพรางนายสมัครต่อดังได้กล่าวแล้ว
     
     
     
  • ยูเนสโกระหว่างประชุมมรดกโลกครั้งที่ 31/2550 จนถึงการประชุมครั้งที่ 32/2551 ได้สนับสนุนนายซก อาน รองนายกกัมพูชาให้มีการเปลี่ยนแหล่งขึ้นทะเบียนจาก The Sacred Site of ...มาเหลือเพียง The Temple of...อย่างมีวาระซ่อนเร้น ทั้งๆที่ไม่ถูกต้อง
    แทนที่จะล๊อบบี้กัมพูชาให้ขึ้นทะเบียนร่วมกับไทย (Transboundary Nomination)
    เพื่อจะได้รักษามาตรฐานของมรดกโลกไว้
    และจะยังผลให้ความตรึงเครียดด้านชายแดนของทั้งสองประเทศลดลงด้วย

     

Edited by อารยา, 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 16:41.


#4 อารยา

อารยา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,216 posts

ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:41

 ไทยย่อมไม่สนับสนุนกัมพูชาให้ชึ้นทะเบียน "The Sacred Site of..." ฝ่ายเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว กัมพูชาก็ต้องยุติ ยูเนสโกก็ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่ายกเลิกข้อเสนอของกัมพูชา ทุกอย่างก็จบตามเหตุตามผล
ไม่ต้องมาอ้างผิดฝาผิดตัวว่าเพื่อต้องการให้เกิดสันติภาพ เพราะยิ่งยูเนสโกหาทางออกที่ไม่โปร่งใสในช่วงนั้น (2550-2551) เท่าไหร่ ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัตามเหตุตามผลองมพูชาก็มีมากขึ้นเท่านั้น และนำไปสู่ผลกระทบที่บานปลาย 
 
เพราะต้องไม่ลืมว่า ICOMOS ได้ชี้ไว้ชัดเจนในรายงานแล้วว่าการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทฯ (The Temple of... ) เป็นมรดกโลกไม่ได้ เพราะผ่านได้เพียงเกณฑ i เดียว ไม่ครบ 3 เกณฑ์ 
ซึ่งยูเนสโกเองได้รับรองรายงานนั้นผ่านที่ประชุมครั้งที่ 31/2550 ไปแล้ว จึงไม่มีเหตผลที่จะทุรังมาจนถึงวันนี้

 

  •  





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน