ตำรวจตั้งด่านให้อันธพาลไถเงินประชาชน
#1
ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 23:21
ถนนถูกบีบให้เข้าตามกรวยที่ตั้งไว้ ขับเรื่อยๆ เปิดหน้าต่าง กะจะถามตำรวจให้รู้เรื่อง ก็เห็น ตำรวจยศ ร.ต.ต. อายุมากแล้ว ยืนโบกรถมอไซค์ทุกคันให้เข้าด่านไปหาคนแต่งชุดคล้ายทหารอากาศ หลังจากนั้นคนแต่งชุดคล้ายทหารก็ส่องไฟรับช่วงต่อ ก็คงขอดูใบขับขี่ ทะเบียน และก็คงสั่งให้เปิดเบาะเพื่อตรวจค้นอะไรกันไปต่างเรื่อง แต่ดูแล้วจุดประสงค์หลักก็น่าจะสนใจเพียงใบขับขี่และก็หาข้อหาที่จะยัดให้กับคนขับมอไซค์ ก็เลยนึกออกว่านี่ไม่คงไม่ใช่ปฏิวัติแล้ว เพียงแต่สงสัยว่าสงสัยว่าคนแต่งชุดคล้ายทหารนั้นเป็นใคร
มองดูใกล้ๆ มันเป็นเหมือนชุดทหารอากาศจริงแต่ปกเป็นตราตำรวจ ก็พอเดาออกว่า นี่มัน ผู้ช่วยตำรวจ ในใจคิดตอนนี้มีกฎหมายรับรองให้คนพวกนี้มีสิทธิเรียกตรวจ หรือตรวจค้นอะไรกับประชาชนได้แล้วหรือ แล้วหลังจากนี้คนพวกนี้จะกร่างหรือใหญ่ยิ่งกว่าตำรวจกันอีกขนาดไหน
จำได้ว่า เรื่องนี้เคยผ่านตามาบ้าง เมื่อตอนที่ตำรวจต้องการความชัดเจนเรื่องอำนาจของ ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ที่ตำรวจพยายามตีความว่า ผู้ช่วยตำรวจสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ตำรวจมอบหมาย แต่สมัยนายอภิสิทธิ์ตอบกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้วว่าทำไม่ได้ แถมได้อธิบายว่าคำว่าเจ้าพนักงานตราขึ้นตามกฎหมายจึงไม่สามารถตกทอดเป็นมรดกหรือจะมอบอำนาจให้ใครไปใช้สิทธิที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ ดังนั้นผู้ช่วยตำรวจจึงมีสิทธิเท่ากับประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น จึงไม่สามารถเรียก ตรวจ ค้น หรือจับคุม ใครได้ ยกเว้นเป็นเหตุซึ่งหน้า ที่มันก็คือหน้าที่ของประชาชนทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ช่วยตำรวจจึงมีสิทธิไม่ต่างจากประชาชนคนหนึ่ง ไม่มีสิทธิเหนืออื่นใด สรุปก็คือ คนเหล่านี้ไม่มีสิทธิอะไรเลย แม้แต่ขอให้หยุดรถ ขอดูใบขับขี่ ขอให้เปิดกระโปรงหลัง หรือแม้แต่หยุดรถตามสี่แยกด้วยซ้ำไป แต่กรณีนี้ดูเหมือนตำรวจ สน.สำเหร่ ตั้งแก๊งร่วมกับ คนกลุ่มหนึ่งตั้งด่านรีดไถประชาชน ทำเหมือนบ้านเมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป หรือวันนี้ตำรวจพัฒนาตั้งรัฐตำรวจ ขึ้นมาตรากฎหมายเองได้แล้ว ถึงได้ทำเหมือนอันธพาล รีดไถเงินได้อย่างตามใจชอบ
ยอมรับเห็นภาพแบบนี้แล้วหดหู่ใจว่า ตอนนี้ประเทศไทยในยุคนี้มันเข้าสู่ยุคมืดบอด ที่ตำรวจตั้งก๊วนตั้งแก๊งค์ให้อันธพาลตั้งด่าน ในทุกตารางนิ้วของประเทศนี้ได้แล้วหรือ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไรหากคนพวกนี้จะยัดข้อหาอะไรกับคนขับมอไซค์ จะเป็นอย่างไรหากมีการต่อรองเพื่อจะจ่ายสินบน เพื่อไม่ต้องออกใบสั่ง จะเป็นอย่างไรหากคนพวกนี้เจอโจรหรืออันธพาลด้วยกัน แล้วปล่อยไปโดยที่ตำรวจไม่รู้ แต่มันรู้ว่าต่อไปนี้ประชาชนจะเป็นอย่างไรกัน ในเมื่อตำรวจตั้งใครก็ได้เข้ามาทำอะไรกับใครก็ได้ แล้วประชาชนอย่างเราจะอยู่กันอย่างไรหลังจากนี้ และมันก็เป็นคำถามตัวโตว่า วันนี้ตำรวจ สน.สำเหร่ เริ่มทำตัวอย่างให้เห็นแล้ว อีกไม่นานคงขยายไปทุก สน. ซึ่งประชาชนอย่างผมก็คงได้แค่ทำใจ คิดแล้วก็สงสารคนไทยด้วยกันจริงๆ
- idolation, ทัชชี่, เช never die and 4 others like this
#2
ตอบ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 23:45
ตำรวจสมัยนี้ ดูท่าจะน่ากลัวกว่าโจรแล้วมั้ง
เพราะมีทั้งอาวุธ มีทั้งกฏหมายอยู่ในมือ
เจอด่านตรวจแทนที่จะอุ่นใจ กลับกลัวว่า เดี๋ยวจะโดนเท่าไหร่เนี่ยะ
- คนไทย916, Satan for Vendetta, พอล คุง and 1 other like this
#3
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:38
วันพฤหัส ศุกร์ บ้านโป่งมี 2 ด่าน เฮ้อ ติดๆ กันเลย
#4
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:41
เวลาเห็นข้างหน้าตั้งด่านตรวจ ในความคิดผมทุกครั้งนะ "ตรูจะโดนข้อหาอะไรเปล่าวะ" มันไม่เหมือนเจอด่านแล้วรู้สึกหมดกังวล อบอุ่นใจเลย
ปล.ที่คิดไม่ใช่ว่าเราทำผิดอะไร แต่คิดว่ามันจะยัดข้อหาอะไร
ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย
#5
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:46
เมื่อก่อนจับรถมอไซ ผมเลยเลี่ยงไปใช้รถยนต์แทน ตอนนี้เล่นรถยนต์ด้วยแล้ว สงสัยต้องใช้จักรยานแทนแล้วมั้ง
- หงส์แดง and แอบดูที่รูเดิม like this
#6
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:48
เมื่อก่อนจับรถมอไซ ผมเลยเลี่ยงไปใช้รถยนต์แทน ตอนนี้เล่นรถยนต์ด้วยแล้ว สงสัยต้องใช้จักรยานแทนแล้วมั้ง
มันก็จับนะ อิอิ ไม่มีใบขับขี่จักรยาน
- MuuSang and แอบดูที่รูเดิม like this
ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย
#7
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 07:04
วันพฤหัส ศุกร์ บ้านโป่งมี 2 ด่าน เฮ้อ ติดๆ กันเลย
น้องเล่าว่าด่านแถวนั้น เจอขวดเหล้า ขวดเบียร์เปล่าอยู่บนรถ ก็จะจับแล้ว น้องเลยต้องกินให้หมดห้ามเอาขวดติดรถไป ...คงกลัว เอาแต่ขวดมา หาน้ำมันเอาข้างหน้า ...ไปบ้านโป่งกัน
- pinkpanda likes this
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#8
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 07:16
เดี๋ยวนี้ กล้องบันทึกภาพ เล็กๆ ติดรถยนต์ ราคาไม่แพงแล้วครับ หลักพันต้นๆ แอบไว้เบาะหลัง ใช้บันทึกภาพเวลาตำรวจไถเงิน ปล่อยลงยูทูป หรือ ส่งให้นักข่าว ก็ดีนักแล
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม...
#9
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:07
ตำรวจที่นี่ขยันทำงานกันจริงๆ ด่านเยอะมาก
คิดว่าน่าจะเยอะที่สุดในประเทศไทยแล้ว
ใครมาเที่ยวระวังเรื่องแอลกอฮอล์ไว้หน่อยนะครับ
#10
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:33
เท่าที่เคยถามครับ บางที ตร. ไปราชการกันหมด ทำให้ไม่มีกำลังเหลือพอ ก็จะไปขอแรง ตำรวจบ้าน (อปพร) มาช่วยตรวจครับ แต่จะเป็น ตำรวจบ้านจริงหรือเปล่านั้น ไม่รู้
Edited by ทัชชี่, 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:33.
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#11
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:33
#12
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:41
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไปเป็นตำรวจครับ รวยดี
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รู้จักละอายใจ
คุณจะไม่มีความสุขตลอดชีวิตการเป็นตำรวจ
คุณจะแลกไหมล่ะ
#13
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 13:37
>>> รายได้แบ่งกัน ปกติก็ทำอยู่แล้ว พอมามีคนช่วยทำ
และมีรัฐฯ ..วางเฉย.. ทุกอย่างก็ไปได้สวย.วัน ๆ คงได้เพิ่ม
อีกหลาย..ก็ไม่รู้จะทำไง. ถ้าคนเดือดร้อนเขา..ทนได้...ก็
ให้เขาทนไป. แต่เมื่อไร หมดความอดทนก็ ใส่หน้ากากขาว
ออกมา ๆ ๆ ..............
#14
ตอบ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 17:38
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไปเป็นตำรวจครับ รวยดี
แต่พวกเจ้าพ่อมันเหนือเมฆกว่านั้น
มันรับเลี้ยงเด็กกำพร้า(ผู้ชาย)
ส่งเสียให้มันเรียนจบนายร้อย
พอพวกเด็กๆเหล่านั้นตำแหน่งสูงขึ้น(นายร้อย นายพัน นายพล)
ก็จะกลายตำรวจที่เป็นแขนขาให้กับเจ้าพ่อ
อย่างที่ทราบสังคมไทย ไม่มีลูกที่ไหนแจ้งความจับพ่อตนเองแน่นอน
ทำยังกะระบบ Academy เลย
Edited by Maratiraj_, 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 17:39.
#15
ตอบ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:32
นี่คือ หนึ่งตัวอย่างของ ผู้ช่วยตำรวจ ที่กลางวันร่วมก๊วนกับตำรวจ กลางคืนปล้นร้านสะดวกซื้อ
แล้วคนแบบนี้ ตำรวจแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยตำรวจ อนาคตประเทศจะฝากไว้ที่ใคร
ไหนบอกผู้ช่วยตร. ที่แท้ก็โจรอย่างที่คิด
ตำรวจภาค 5 รวบตัวหนุ่มจัดเก็บลิขสิทธิ์สุดแสบปล้นเซเว่นกลางดึกที่เชียงใหม่
http://www.dailynews...thailand/155277
http://www.manager.c...D=9550000113718
http://ict.in.th/43438
ภาพนายระพีที่ปรากฏในเว็บไซต์ยูทูว์บ ขณะร่วมกับทีมงานที่อ้างว่าเป็นบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เข้าตรวจสอบร้านเกมใน จ.บุรีรัมย์(ที่โดนจับเป็นน้องชายของคนเสื้อดำ ที่ทำท่าล้วงกระเป๋าครับ)
ตำรวจภาค 5 รวบตัวหนุ่มจัดเก็บลิขสิทธิ์สุดแสบปล้นเซเว่นกลางดึกที่เชียงใหม่ หลังก่อเหตุปี 53 แล้วหลบหนี ภายหลังมีคดีจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่บุรีรัมย์เลยหนีกลับมาซ่อนตัวที่เชียงใหม่ สารภาพร่วมทีมจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แต่พอได้เงินกลับเอาไปใช้เองก่อน พอถึงเวลาส่งเงินให้บริษัทแล้วไม่มีเลยต้องปล้นเซเว่นหาเงินมาคืนแทน
วันนี้ (15 ก.ย. 2555) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมคณะ แถลงข่าวการจับกุมตัวนายระพี หรือพี คุดค่ำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/34 หมู่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดีก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2553
การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วงตั้งแต่ปี 2553 ถึง ปัจจุบัน ได้เกิดคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ โดยคนร้ายจะลงมือในเวลากลางคืน และใช้มีดหรือปืนเป็นอาวุธในการข่มขู่พนักงานก่อนจะทำการชิงทรัพย์
จากเหตุดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ทำการติดตามหาตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากคดีดังกล่าวถือเป็นคดีสะเทือนขวัญและอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนในช่วงเวลากลางคืนได้
ต่อมาจากการสืบสวนและตรวจสอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่านายระพีคือผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่น แต่นายระพีได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่
ต่อมาในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พบชายลักษณะคล้ายนายระพีปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูว์บ โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จัดเก็บลิขสิทธิ์และเข้าไปตรวจสอบและเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามร้านเกมในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.บุรีรัมย์ จนทราบว่านายระพีได้หลบหนีจาก จ.บุรีรัมย์กลับมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 159/73 หมู่บ้านอนุสารวิลล่า ม.10 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายระพีไว้ได้
พล.ต.ท.สุเทพกล่าวว่า จากการสอบสวนนายระพีให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ปตท.บิ๊กซี ดอนจั่นจริง โดยเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์จะนำไปส่งให้กับบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่นายระพีทำงานอยู่ เนื่องจากนายระพีได้นำเงินที่ได้จากการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ไปใช้จ่ายก่อน เพราะยังไม่ได้นำส่งให้กับบริษัท เมื่อถึงกำหนดแล้วไม่มีเงินส่งจึงตัดสินใจชิงทรัพย์จากร้านสะดวกซื้อเพื่อนำเงินที่ได้มาส่งให้กับบริษัทแทน
ส่วนภาพที่ปรากฏในเว็บไชต์นั้น นายระพีระบุว่าได้ไปออกจัดเก็บลิขสิทธิ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเกิดเหตุและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวจึงหลบหนีกลับมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.สุเทพกล่าวต่อไปว่า นายระพีอยู่ในระหว่างการประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่กลับมาก่อเหตุชิงทรัพย์อีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะสืบสวนว่านายระพีเป็นผู้ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์จากร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากพบว่าลักษณะการเข้าชิงทรัพย์ในแต่ละครั้งมีความคล้ายคลึงกัน กล่าวคือคนร้ายมักจะเลือกลงมือในเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. และเลือกชิงทรัพย์จากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาที่ค่อนข้างเปลี่ยว ขณะเดียวกันจะขยายผลด้วยว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุชิงทรัพย์ด้วยหรือไม่
ใครที่ยังไม่เข้าใจการทำงานของไอ้พวกนี้ คงได้มุมมองใหม่ๆเพิ่มเติม แต่ผมมีคำถามในใจอยู่ว่าแล้วตร.เสื้อขาวเค้าได้ตรวจสอบอะไรบ้างหรือปล่าวก่อนที่จะออกมาให้ความร่วมมือกับไอ้คนพวกนี้ หรือว่าเดี๋ยวนี้ ....เค้าร่วมงานกับโจรหากินกันแล้ว
และอยากให้ท่านตร.ที่ไปกับไอ้พวกนี้ตอบคำถามของสังคมว่าท่านช่วยเหลือประชาชนหรือว่ามิจฉาชีพ
(คนที่อ้างเป็นตร.เสื้อขาวในคลิป)
- idolation likes this
#16
ตอบ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:44
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ตำรวจแถลงหนุ่มในคลิปที่่ถีบรถจักรยานยนต์ล้มไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออาสาสมัครจราจร ด้านเจ้าตัวเผยทำไปเพราะตกใจ และต้องการช่วยตำรวจจับคนขับรถเร็ว
จากกรณีที่มีการโพสต์ภาพวิดีโอ "วิธีจับมอไซด์ไม่ใส่หมวก" ผ่านยูทูบและเฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพเหตุการณ์ตำรวจตั้งด่านจับกุมมอเตอร์ไซค์ โดยให้ อาสาสมัครทำการดักกระโดดถีบผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่สวมหมวกและพยายามหลบหนี โดยในภาพมีความพยายามโดดถีบมอเตอร์ไซค์คันแรก แต่รอดไปได้ ขณะที่อีกคันซึ่งมีผู้หญิงซ้อนท้ายถูกถีบจนล้มอย่างแรง เหตุเกิดภายใน ซ.กรรณิการ์ พระราม 3 ซอย 19 ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของตำรวจอย่างรุนแรงในสื่อโซเชียลมีเดีย
ล่าสุดวันนี้ (26 กรกฎาคม) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัว นายหมัดอารี ฮิม อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุถีบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่กำลังเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก มาแถลงข่าว โดย พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนหัวหน้าด่านที่รับผิดชอบแล้วทราบว่า นายหมัดอารี ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรืออาสาสมัครจราจรแต่อย่างใด
ขณะที่ นายหมัดอารี กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้ไปดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในซอยทางลัดถนนพระราม 3 กับซอยประดู่ ระหว่างนั้น มีรถจักรยานยนต์ขับขี่มาด้วยความเร็ว ตนจึงตกใจกลัวว่าจะถูกชน ประกอบกับไม่ชอบรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว จึงกระโดดถีบจนรถจักรยานยนต์ล้มลง แต่ไม่ได้มีเจตนาให้ถึงกับรุนแรง ที่ทำลงไปเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ตนชื่นชอบและใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ จึงมักจะชอบมาดูการตั้งด่านเสมอ
ด้าน พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตั้งด่านดังกล่าว เป็นการตั้งด่านอย่างถูกต้อง ตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อกวดขันดูแลความปลอดภัยตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยืนยันว่าจากเหตุการณ์จุดที่เกิดเหตุที่ปรากฏตามภาพคลิปวิดีโอ อยู่ห่างจากจุดตั้งด่านถึง 25 เมตร และผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหา ฐานทำร้ายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
#17
ตอบ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:00
จราจรหากินกับคนจนขี่มอไซง่ายสุดละครับ ไม่เอาที่พักเท้าคนซ้อนขึ้นยังเคยมีโดนเลย
แต่ก็นะกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐตำรวจก็คือชนชั้นล่างนี่แหละ รับๆกรรมกันไป แล้วก็ทำหน้าไทยเฉยสบายๆ
#18
ตอบ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:12
บางคนก็กร่างเกินไม่รู้ว่าตำรวจจะเลี้ยงไว้ทำไมให้เป็นปัญหา
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน