ขขอยกเอาข่าวนี้จาก ASTV มาให้พิจารณากันครับ
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เป็นที่น่าตกใจไม่น้อยกับกรณีที่กลุ่มหน้ากากขาวในนาม V For Thailand
ซึ่งมีบทบาทในการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลและประกาศโค่นล้มระบอบทักษิณออกประกาศในช่วงดึกของ
วันอังคารที่ 2 ก.ค.2556 ที่ผ่านมาว่า จะยุติการชุมนุมบริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งปกติจะมีการชุมนุม
ทุกวันอาทิตย์ เป็นการชั่วคราว ส่วนการชุมนุมในต่างจังหวัดขอให้เป็นไปตามเดิม ... ทำเอาหลายคนสับสน
ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
โดยแอดมินของ V For Thailand ได้มีการประกาศผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก 'V For Thailand' ว่า
“ V For Thailand ขอประกาศพักกิจกรรมในกรุงเทพมหานคร แล้ว V จะกลับมาเปิดกิจกรรมใน
Season ต่อไป เมื่อทุกกลุ่ม ทุกท่านพร้อมที่จะดำเนินการในวิถีแห่งความเป็น V = We = พวกเรา = ประชาชน
ที่ไม่ใช่คนของใคร แต่เป็นคนที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศไทย ”
คำประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามและเสียงวิจารณ์มากมาย และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย
กับการหยุดชุมนุมชั่วคราวดังกล่าว จนเกิดการถกเถียงไปมาบนหน้าเฟซบุ๊ก จนสุดท้ายก็ได้คำตอบว่า
เหตุที่ต้องยุติการชุมนุมชั่วคราวเพราะมี 'คนบางกลุ่ม' พยายามจะขึ้นเป็น 'แกนนำ' และจงใจใช้ความ
ก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งขัดกับวัตถุประสงค์ในการชุมนุมและอาจนำมวลชนไปสู่สถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงได้
นอกจากนั้นยังมี “เสียงสะท้อนจากมหาชน” ที่ส่งมายังเพจเฟซบุ๊ก 'V For Thailand' ซึ่งระบุว่า
ถูกแทรกแซงจากกลุ่มอื่นที่พยายามเข้ามานำมวลชนให้เคลื่อนออกนอกเส้นทาง เกิดการใช้วาจาหยาบคาย
ทำรถติดสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้ถนน ไม่ชุมนุมด้วยความสงบ ทำรูปแบบการต่อสู้ของหน้ากากขาวผิดเพี้ยนไป
อาทิ ผู้ที่ใช้ชื่อว่าTanachot Virojwong โพสต์แสดงความเห็นใน V For Thailand ว่า “ บอกตรงนะ
เราจะไม่ไปร่วมก็เพราะแกนนำนี่แหล่ะครับ เราไม่ได้เป็นเครื่องมือให้พรรคการเมืองไหนมาตีกินครับ เราพลัง
บริสุทธิ์ของประชาชน วันนี้เพื่อนเราอีกประมาณ 15-20 ก็ประชุมกันแล้วว่าถ้าหน้ากากขาวยังไม่เคลียร์ตัวเอง
แบบวันนี้เราก็จะขอหยุดไว้ก่อนรอจนกว่าจะได้ความเป็นประชาชนจริงๆครับ แต่ยังไงอุดมการณ์เราไม่เปลี่ยน
แน่นอนครับ ขับไล่ระบอบทักษิณ...อย่ายื่นหมูเข้าปากหมาครับ เราไม่ต้องการ”
ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวที่บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นจริงๆ และไม่ว่าจะด้วยเจตนาใดก็ล้วนไม่เป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนมวลชน
ถ้าย้อนไปในวันนั้นจะเห็นว่า ก่อนการชุมนุมหน้ากากขาวอาทิตย์ที่ผ่านมา เพจกลุ่มสนามหลวง
(ของนายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยรักชาติ) แจ้งว่าจะนำกำลังไปคุ้มกันขบวนหน้ากากขาว
200 คน สองสัปดาห์ก่อนโน้น กลุ่มสนามหลวงพากำลังไปคุ้มกันหน้ากากขาว แต่พอถึงหอศิลป์
กลุ่มสนามหลวงก็เดินต่อจนถึงที่ตั้ง หน้ากากขาวบางส่วนตามไปด้วย อาทิตย์ที่ผ่านมา วัยรุ่นของกลุ่ม
สนามหลวงพยายามจะพาหน้ากากขาวที่หอศิลป์เดินต่อไปทางอนุสาวรีย์ฯ แต่การ์ดหน้ากากขาวเบรกไว้ทัน
ตลอดเวลาที่หน้ากากขาวนัดชุมนุม แกนนำพลังธรรมาธิปไตยมักจะพูดบนเวทีเสมอว่า พวกเราเป็นผู้ปกป้อง
หน้ากากขาว ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามมาก่อกวน
นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว หรือ V For Thailand
ในช่วงระยะหลังมักจะมีมวลชนกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่ที่ท้องสนามหลวงเข้ามาร่วม
กิจกรรมด้วย โดยใช้รถขยายเสียง และมักจะพาผู้ชุมนุมบางส่วนเดินขบวนต่อไปยังท้องสนามหลวง
หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
งานนี้คงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากกลุ่มนายไชยวัฒน์จะพยายามเล่นบท 'แกนนำ' ชิงมวลชน
แม้ภายหลังนายไชยวัฒน์จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาแย่งชิงมวลชนก็คงจะช้าไปเสียแล้ว เพราะไม่เช่นนั้น
คงไม่มีเหตุผลอะไรที่คนของนายไชยวัฒน์จะต้องพาผู้ชุมนุมกลุ่มหน้ากากขาวไปรวมกับกลุ่มของตนเองที่ท้อง
สนามหลวง และถ้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็ต้องบอกว่าการนำของนายไชยวัฒน์ในช่วงที่ผ่านมานั้น 'จุดไม่ติด'
มีแนวร่วมน้อยมาก ผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ที่สนามหลวงในแต่ละวันนั้นโดยรวมแล้วน่าจะมีไม่เกิน 50 คนเท่านั้น
หากได้มวลชนจากกลุ่มหน้ากากขาวไปสมทบก็จะทำให้กลุ่มของนายไชยวัฒน์มีพลังมากขึ้น
อีกทั้งการแสดงบทบาทการ์ดที่จะช่วยปกป้องมวลชนกลุ่มหน้ากากขาวของกลุ่มนายไชย์วัฒน์ก็เป็นประเด็น
ที่น่าเคลือบแคลง เพราะด้วยจำนวนผู้ชุมนุมกลุ่มหน้ากากขาวหลายพันคนที่แห่แหนกันไปชุมนุมที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์
ถือเป็น 'ปัจจัย' สำคัญที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เสื้อแดงเข้ามาทำร้ายอยู่แล้ว เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าบรรดา
แดงฮาร์ดคอร์เหล่านี้จะกล้าใช้กำลังไล่ล่าทุบตีก็ต่อเมื่อตนเองมีพวกมากกว่าเท่านั้น ดังเช่นเหตุการณ์ที่เชียงใหม่
แต่สำหรับที่กรุงเทพฯนั้นที่ผ่านมาลำพังเสื้อแดงไม่กี่ร้อยที่รับเงินมาเคลื่อนไหวหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ก็ดูจะจ๋อยสนิท
และมาเย้วๆ เฉพาะช่วงสัปดาห์แรกๆที่หน้ากากขาวชุมนุมเท่านั้น หลังจากที่เห็นว่ามีคนมากันมืดฟ้ามัวดิน
กลุ่มเสื้อแดงก็ออกอาการปอดไม่กล้าโผล่มาเซ็นทรัลเวิลด์อีก เพราะไม่มั่นใจว่าจะถูกทวงคืนแทนหน้ากากขาว
เชียงใหม่ที่ถูกเสื้อแดงรุมสกรัมหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่กลุ่มของนายไชยวัฒน์จะประกาศตัวว่าเป็น
ผู้คุ้มกันกลุ่มหน้ากากขาวแต่อย่างใด
นอกจากนั้นการขยับขับเคลื่อนของฟากประชาธิปัตย์ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะทันทีที่
V For Thailand ประกาศยุติการชุมนุมชั่วคราวในคืนวันอังคารที่ 2 ก.ค. 'องค์การพิทักษ์สยาม' ที่นำโดย
'เสธ.อ้าย' พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี และพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมาได้จัดชุมนุมร่วมกับกลุ่มหน้ากากขาวทุกสัปดาห์
อยู่แล้ว ก็ออกมาประกาศชิงธงขึ้นเป็นแกนนำกลุ่มหน้ากากขาวทันที โดยประกาศนัดชุมนุมบริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิล์
ในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. ที่เก่า เวลาเดิม ภายใต้ชื่อ 'หนุมานอาสา' โดยจะมีการแจก 'หน้ากากหนุมาน' ให้กับ
ผู้ชุมนุมด้วย
ซึ่งเป็นไปได้ว่าการประการยุติชุมนุมกลุ่มหน้ากากขาวเป็นการชั่วคราวของ V For Thailandนั้นทำให้
ประชาธิปัตย์ไม่สามารถอยู่เฉยได้ ด้วยมองว่ามวลชนกำลัง 'จุดติด' หากพักการชุมนุมเป็นเวลานานเกินไป
อาจทำให้คนหมดความสนใจ การจะกลับมาชุมนุมใหม่ก็อาจไม่มีกำลังเพียงพอ จึงอาศัยจังหวะนี้ส่งแนวร่วม
ของตนเข้าไปช่วงชิงบทบาทแกนนำของกลุ่มหน้ากากขาว เพื่อหวังใช้พลังของมวลชนที่ต้องการขับไล่ระบอบ
ทักษิณเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เพราะแน่นอนว่าหากสามารถล้มรัฐบาลเพื่อไทยได้
พรรคการเมืองที่มีโอกาสจะเข้ามาเป็นรัฐบาลแทนก็มีเพียง 'ประชาธิปัตย์' เท่านั้น
หากแต่นักเลือกตั้งที่คุ้นชินกับการเล่นเกมทางการอย่างประชาธิปัตย์คงลืมไปว่า 'กลุ่มหน้ากากขาว'
นั้นเป็นมวลชนบริสุทธิ์ มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการ 'โค่นล้มระบอบทักษิณ' เพื่อกวาดล้างนักการเมืองชั่ว
ที่หวังแต่จะเข้ามาโกงกิน เป็นกลุ่มที่ไม่ได้ชุมนุมเพื่อแสวงหาอำนาจ จึงไม่ต้องการมี 'แกนนำ' ใดๆทั้งสิ้น
ที่สำคัญพวกเขาเป็นมวลชนที่มีความรู้ และไม่ยอมตกเป็น 'เครื่องมือทางการเมือง' ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ดังนั้นการเดินเกม 'ชิงธงแกนนำ' ของประชาธิปัตย์ จึงนับเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง !!
จะเห็นได้ว่าไม่มีมวลชน 'หน้ากากขาว' คนใดที่แสดงปฏิกิริยาตอบรับว่าจะเข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยาม
และชุมนุมเคลื่อนไหวภายใต้ 'หน้ากากหนุมาน' แต่ในทางกลับกันกลับมองว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการฉวย
โอกาสแบบมั่วนิ่มของนักการเมือง
ล่าสุดเพื่อป้องกันความสับสน V For Thailand จึงประกาศนัดชุมนุมกลุ่มหน้ากากขาวอีกครั้ง
ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.นี้ แต่เปลี่ยนสถานที่เป็น ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่า....ไม่ว่าจะเป็นอำนาจเผด็จการของรัฐบาล หรือความ
ถ่อยเถื่อนของเสื้อแดง ก็ไม่สามารถทำให้ 'กลุ่มหน้ากากขาว' หวาดหวั่นได้ ...แต่ผู้ที่บ่อนทำลายพลังบริสุทธิ์
ของกลุ่มหน้ากากขาวก็คือ เล่ห์เหลี่ยมและความละโมบของผู้ฝักใฝ่แต่อำนาจทางการเมือง ซึ่งกำลังทำให้เกิด
ความสับสน แตกแยก และเกิดความหวาดระแวงในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง !!