เรื่องมันมีอยู่ว่า จากที่โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร โพสรูปในเฟชบุ๊คว่า "ห้ามตะโกนในโรงหนัง กรุณาใช้เสียงในระบบรัฐสภา >> แล้วโอ๊ครู้ไหมจ๊ะ ว่าการตัดต่อภาพ ตัดแปะ ข้อความมันผิดกฎหมาย ขอเตือนหน่อยนะ เวลาให้นักข่าวแก่เขียนก่อนโพสต์เนี่ย ก็หัดอ่านก่อนบ้างนะโอ๊คนะ มันจะพาเข้าคุกซ้ำคดีโกงแบงค์โดยยังมิรู้ตัวอีก แหม…จะให้เหมือนพ่อไปเสียทุกอย่างก็มิไหวมั้ง คุกนะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆเลย !!
อ่านให้ครบ แล้วห้ามลอกนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน….
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ได้กำหนดให้การโพสต์ข้อความอันเข้าข่ายหมิ่นประมาทนั้นอาจเสี่ยงที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาใน 3 มาตรา ดังนี้
1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 "ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
2) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 "ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียงบันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท"
3) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 "ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหาย แก่ชื่อเสียง หรือ เกียรติคุณ ของบุคคลอื่น ก็ดี หรือ เป็นที่เสียหาย แก่ทางทำมาหาได้ หรือ ทางเจริญของเขา โดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสียหาย อย่างใดๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตนมิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ ผู้ใด ส่งข่าวสาร อันตนมิได้รู้ว่า เป็นความไม่จริง หากว่าตนเองหรือผู้รับข่าวสารนั้น มีทางได้เสียโดยชอบในการนั้นด้วยแล้ว ท่านว่าเพียงที่ส่งข่าวสารเช่นนั้น หาทำให้ผู้นั้นต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่"
ด้วยความปรารถนาดีจาก
มัลลิกา บุญมีตระกูล
ฉบับเต็มจาก
Oak Panthongtae Shinawatra
พี่น้องประชาชน ที่มีใจรักประชาธิปไตย อยากจะตะโกนบอกกับ "พรรคประชาธิปัตย์" มาเป็นเวลากว่า60ปีแล้ว
-----ใครที่อยากให้ ปชป.กลับไปทำงานในสภาฯ เลิกออกมาเพ่นพล่านข้างนอก กดLikeที่โพสต์นี้ได้เลยครับ..!!-----
สลิ่ม&แมลงสาบ ทั้งหลายไม่ต้องเสียเวลามาจับผิดภาพนี้ ว่ามีจริงหรือเปล่านะครับ เพราะผมสั่งทีมงานให้รีทัชรูปด้วยตัวเองเมื่อวานนี้ (สรุปคือ"ปลอมเองกับมือ"ครับ แปลให้เลย สลิ่มจะได้ไม่ต้องใช้สมองมากเกินปกติวิสัย) ผมทำภาพนี้เนื่องในโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาใช้โรงหนังเพื่อเป็นประโยชน์ทางการเมืองอีกครั้งครับ
นัยยะของคำว่า "ตะโกนในโรงหนัง" ที่ผมกล่าวถึงนี้ เป็นเพียงสัญลักษณ์ซึ่งอิงถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่มีคนไปตะโกนในโรงหนังว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง" และคนนำไปพูดกันปากต่อปาก จนกระทั่ง นายปรีดีฯต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งยังเป็นวิบากกรรมของนายปรีดีฯ ที่ต่อมาต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ นานถึง30กว่าปีจนกระทั่งเสียชีวิต
( ในขณะนั้น ปชป.เป็นฝ่ายค้านในสภาฯ เหมือนตอนนี้เลย น่าประทับใจมั๊ยยย..??ครับ)
เหตุการณ์นี้ผมมองว่า คือการ"สร้างความเกลียดชัง เพื่อหวังผลทางการเมือง"ครับ มีนัยยะคล้ายกับคำนิยามทางการเมืองที่ทุกคน พร้อมใจกันมอบให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งโดยมิได้นัดหมายว่า "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" ซึ่งคำๆนี้เมื่อพูดไปแล้ว ทุกคนนึกถึงพรรคการเมืองฯพรรคนี้พรรคเดียว อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยนอกใจไปคิดถึงใครอื่นเลย ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคฯมาจนถึงบัดนี้
ในทางการเมืองคนไทยเราต้องระมัดระวัง การตีกินโดยใช้ "การเมืองในอุดมคติ" มาหลอกให้เชื่อว่าจะเป็นไปได้ครับ การเลือกตั้งก็เหมือนกับผู้หญิงหาคู่ชีวิต เลือกแล้วก็คือแต่งงานกัน ต่างกันที่เลือกตั้งมีวาระแค่4ปีแล้วก็เลือกใหม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมืองไทยตลอดมาก็คือ ระหว่างใช้ชีวิตคู่ทางการเมือง4ปี ดันไปเจอจิ้งจอกสังคม หรือ18มงกุฏมาหลอกสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดี ยุให้หย่าเพราะสามีเลวอย่างโง้นอย่างงี้ คนที่หูเบาก็ดันไปเชื่ออยากฟ้องหย่า โดยลืมเสียสนิทว่า ไอ้หมอนี่มันก็คือเจ้าเดิม ที่ใช้มุกนี้หลอกฟันฉันมาหลายครั้งแล้ว
ทุกอย่างในโลกต้องเดินสายกลางครับ คนไทยเจ็บแล้วต้องรู้จักจำบ้าง ไม่ใช้ถูกหลอกฟันซ้ำซากมา60กว่าปียังไม่เข็ด อย่าไปคิดว่าจะมีเทพบุตรจุฑาเทพทางการเมืองที่ไหน ที่เมื่อเลือกไปแล้วมันจะใสบริสุทธิ์ เหมือนภาพที่พยายามสร้างให้เห็น พยายามแยกให้ออกว่าการเมืองมันเลวจริง ขนาดที่ยอมรับไม่ได้ทนรออีก4ปีไม่ไหวแล้ว จนต้องฉีกกฏกติกา หรือว่าเป็นการใส่ร้ายเกินความจริง ของพวกแพ้ซ้ำซากที่อดทนทำความดี รออีก4ปีค่อยเลือกกันใหม่ไม่ได้
เอาอย่างนี้มั๊ยละครับ ในเมื่อรอ4ปีกันไม่ได้ เดี๋ยวฝ่ายค้านจะอกจะแตกตายกันเปล่าๆ แทนที่จะยุทหารให้ออกมาปฏิวัติ หรือขอพระราชทานนายกฯม.7 อย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเคยเสร่อเสนอแนะ แต่ทรงปฏิเสธว่าทำไม่ได้ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย จนหน้าแตกหมอไม่รับเย็บมาทีนึงแล้ว ไหนๆจะแก้รัฐธรรมนูญกันอยู่แล้ว ก็ลดวาระการเลือกตั้งมันซะเลย ให้ฝ่ายที่คาดว่าน่าจะแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งก็คงเดาได้ไม่ยากว่าฝ่ายไหน ระบุมาเลยว่าจะอดทนทำงานในระบอบรัฐสภาอยู่ได้นานแค่ไหน ถ้า4ปีมันนานไป ปีนึง? 2ปี? เอามั๊ย
เมื่อแก้แล้วก็ขอให้ทุกฝ่ายเคร่งครัดอยู่ในระเบียบวินัยครับ ทั้งพรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้านกลับไปชกกันบนเวทีรัฐสภา ชาวบ้านเขาก็ไม่ต้องเดือดร้อน เลิกเล่นการเมืองนอกสภา เลิกส่งคนไปตะโกนในโรงหนัง เลิกสนับสนุนส่งข้าวขนคนให้ม๊อบหลากสี เลิกยุประชาชนให้ใส่หน้ากากเข้าหากัน และเลิกยุทหารให้ออกมาปฏิวัติฉีกรัฐธรรมนูญ ให้ทั้งโลกเขาอิดหนาระอาใจ ถ้าทำได้แบบนี้รับรองประเทศชาติสงบครับ
ส่วนพี่น้องประชาชน ท่องเอาไว้ในใจเลยครับ ถ้าใครยุให้ล้มรัฐบาลเลือกตั้งใหม่ ด่ากลับไปเลย
ก่อนเลือกนึกว่าเป็น "เทพบุตรจุฑาเทพ"
เลือกไปทีไรกลายเป็น "เทพเทือก" ทุกทีครับ
ตุ๊ดแตกกันเลยทีเดียว...