ซุบซิบไทยอินไซเดอร์
กลายเป็นเรื่องโจ๊ก...ที่แสดงให้เห็นถึง “ระบบบริหารจัดการ” และ “การประสานงา” ที่เละตุ้มเป๊ะ...ได้เป็นอย่างดี กับกรณีที่ “ปอดกระเส่า” ที่ใครๆ ก็รู้ว่า “อยากเด่น-อยากดัง” ยังติดภาพเก่าๆ สมัยคุมป่าไม้...ที่ต้อง “แอ็คติ้ง” ให้โดดเด่น
แต่สำหรับหนนี้...ไม่รู้มี “ผีห่าซาตาน” ที่ใดมา “เจาะปาก” ทำให้ “จ้อ” แล้วเกิดความปั่นป่วนกันไปถ้วนหน้า แม้การแจ้งเตือน...จะเป็นสิ่งที่ดี-มีเจตนาดีก็ตาม แต่วิธีการพูด-ลีลาท่าทางที่ฉายภาพออกมาต่างหาก ที่ทำให้ผู้คนตกอกตกใจกันถ้วนหน้า เพราะเวลานี้เรื่อง “บริหารอารมณ์-บริหารความรู้สึก” เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด
การออกมาแถลงข่าวใดๆ แบบ “กระต่ายตื่นตูม” หรือ “อยากเสนอหน้า” ควรหยุดเสียที-เลิกเสียเถอะ...ขณะเดียวกัน “โฆษกน้ำยาล้างห้องน้ำ” ก็เหมือนกัน...หากไม่รู้จริง-ไม่แม่นจริง...ก็ควรศึกษาทำการบ้านให้มากกว่านี้ มิใช่สักแต่มีปาก...และจ้ออย่างเดียว
อยากไล่กลับไปดูบทบาทของ “เสธ.ไก่อู” ให้ดี...เพราะการพูดการจาในสถานการณ์พิเศษนั้น ต้องวางตัว-วางบทบาท-เปร่งคำพูดออกมาให้สาธารณชนได้รับรู้อย่างเป็นทางการ และน่าเชื่อถือ...(แต่จะถูกใจใครทั้งหมดหรือไม่...เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นะ)...555
พูดเรื่องนี้...ก็ต้องเอ่ยถึง “ผู้นำปูกิ๊” แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ระยะหลัง She จะพยายามโชว์แจ๋วให้ผู้คนเห็นว่า อึด-อดทน-ขยันขันแข็ง / มาทำงานเช้า-กลับดึก เพราะเกาะติดสถานการณ์ตลอด แถมยังลงพื้นที่ลุย แต่ก็มาเจอรายการ “ผีเจาะปาก” ทำให้ออกอาการ “วีนแตก” ในท่าที “เสนอหน้า” แบบโอเว่อร์ของ “ปอดกระเส่า” ถึงกับสั่งให้แถลงข่าวใหม่...เป็นการด่วน
งานนี้ทีมงานใกล้ชิด...ถึงกับบ่นอุบ...อุตส่าห์ทำดี-ขายภาพหลอก-โชว์ความ เป็น “ซีอีโอ” ที่ไม่ต้องมี “พี่ชายตัวแสบ” มาคอยบงการ และภาพที่ปรากฏออกไปต่อสื่อ กำลังดูดี ทั้งการประชุม-การสั่งงาน ไม่หน่อมแน้มเหมือนตอนแรกๆ ที่กำลัง “เกร็ง” เลยพูดผิด-พูดหลุดอยู่บ่อยๆ แต่มาเจอพิษ “ผีเจาะปาก” ถึงกับ...ไปไม่เป็นทีเดียวเชียว
แต่ที่ “ไต่กอ” อยากสะกิดเตือนก็คือ โครงการโชว์ภาพเรียลลิตี้ หวังให้ “ภาพลักษณ์ She” ออกมาดูดี ด้วยการจะให้ทีวีตามถ่ายการทำงานของ She ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ทั้งขึ้นรถ-ลงเรือ-นั่งฮ. ฯลฯ เพื่อจะตอกย้ำความเป็น “นักสู้ลุยทำงาน” นั้น...พับแล้วเก็บใส่กล่องเลยดีกว่า
เพราะผลลัพธ์อาจไม่ใช่อย่างที่คิด คนเค้าเดือดร้อนกันทั่วบ้านทั่วเมือง ยังมีหน้ามาโปรโมท-ดราม่าสร้างภาพให้ตัวเองดูดีดูเด่น ขณะที่ชาวบ้านต้องทนอยู่กับน้ำ...อย่างนี้มันไม่ดูถูกคนมากเกินไปหรือ???
ถ้าอยากรู้ว่าใครต้นคิด ก็ลองไปไล่ดูพวกซากศพ 111 “คนตุ้ยนุ้ย” ที่เคยทำงานคุมสื่อดูก็รู้ พวกเสนอหน้าแบบไม่เข้าท่า...มีอยู่เยอะจริงๆ สู้เอาเวลาไปช่วยแก้ปัญหาให้สัมฤทธิ์ผลน่าจะดีกว่าเยอะเลย
“ไต่กอ” อยากบอกอีกว่า วันก่อนมี “ผู้รู้เรื่องน้ำตัวจริงชัดเจน” แอบกระซิบแบบวิพากษ์มาว่า รัฐบาลปูกิ๊...แก้ปัญหาล่าช้า และตามเนื้องานไม่ถูกจุด...แทน ที่จะดึงคนที่เคยแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2538 มาช่วยวิเคราะห์และวางแผนงาน เพราะ “เขาเหล่านั้น” จะรู้ดีว่า...แผนเฉพาะหน้าต้องทำอย่างไร แผนป้องกันต้องมีอะไรบ้าง และปัญหาตอนนั้นกับปัญหาตอนนี้...ต่างกันที่จุดใด
แต่นี่เล่นบท “อีโก้” หวาดระแวงไปหมด เลือกใช้เฉพาะคนที่คิดว่าเป็นพวกตัวเอง ทำให้การแก้ปัญหาเลยสะเปะสะปะ แถม “เสนาบดี” ที่ถูกมอบหมายให้ดูแลในแต่ละพื้นที่ ก็ดันไม่มีความรู้เรื่องน้ำจริงๆ ทำให้การแก้ปัญหาในการสกัดกั้นน้ำ “ไร้ผล-ไร้ประสิทธิภาพ”
เราจึงได้เห็นภาพ “3 ต.-โต้งต่อมแตก” ที่ไปยืนร้องไห้ กอดนักลงทุนญี่ปุ่นแบบหมดสภาพคนเป็นเสนาบดี ที่ต้องแสดงความเป็นผู้นำและต้องเข้มแข็ง เพื่อให้กำลังใจคนทำงานในการต่อสู้กับปัญหาที่หนักหนา แต่นี่ไปยืนโชว์บท “ปล่อยโฮ” สารภาพว่า “จนปัญญา” แล้วอย่างนี้ “ชาวบ้านตาดำๆ” ที่รอคอยความหวัง...ไม่ยิ่งหมดอาลัยตายอยากหนักเข้าไปอีกหรือ??? เพราะขนาดเสนาบดียังเป็นอย่างนี้ แล้วชีวิตเราๆ จะฝากผีฝากไข้กับใครได้
นี่ยังไม่นับ...ความหวาดระแวงทางการเมืองที่ต้องชิงไหวชิงพริบกัน ในเรื่องการให้ “กองทัพคนมีสี” เข้ามาช่วยแบบเต็มอัตราศึก จึงไม่กล้าประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” เพราะกลัว “บิ๊กคนมีสี” จะได้หน้า...ได้คะแนนนิยมมากกว่า หากสามารถช่วยเหลือคนทุกข์ยาก...อย่างทั่วถึง
นี่ยังไม่นับ...ความไม่กล้าหักดิบกับ “เตี้ยห้าสั้น” ที่กี่ปี่กี่ชาติก็ต้องขอดูแลกระทรวงเกษตรฯ และเวลานี้เป็น “คนสั่งการตัวจริง” ผ่านกรมชลประทาน...ซึ่งที่ผ่านมา เจอเสียงติติงกันกระหึ่มว่า จงใจปกป้อง “เมืองขุนแผน” ดุจไข่ในหิน เพราะเป็นฐานที่มั่นสำคัญ จนทำให้เกิด “สงครามน้ำลาย” สาดใส่กันเองของ 2 พรรคร่วม
เมื่อจนปัญญา-จนแต้มในการระบายน้ำให้ออกสู่ทะเล ส่งผลให้เกิดคนเสียชีวิตไปร่วม 300 ราย...คนไร้ที่อยู่กว่า 2 ล้านครัวเรือน...ไร่นา-ไร่สวนจมธรณี...นิคมอุตสาหกรรมพังพินาศ…เสียหายไป แล้วนับแสนล้านบาท และถ้าไม่คิดทำอะไร ขืนปล่อยให้น้ำทะลักเข้าเมืองหลวง...รับรอง Chip หาย...แน่ๆ
งานนี้เมื่อไร้หนทาง...จึงมีการทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรายงานสถานการณ์และขอรับพระราชดำรัส น้อมนำมาปฏิบัติในการแก้ไข ซึ่ง “น้ำพระทัยจากฟ้า” ก็ชี้แนะให้ “คลี่คลาย”หลายเรื่อง
เพราะวันถัดมา...She ถึงกับกล้าประกาศ “กรุงเทพฯปลอดภัยแน่ๆค่ะ”
เพราะวันถัดมา...She ถึงกับสั่งการให้ “ระบายน้ำออกไปสู่แม่น้ำท่าจีน” เพื่อเร่งผันน้ำลงสู่ทะเล พร้อมทั้งสั่งเร่งขุดลอกขยายคูคลอง 4 แห่ง ให้เสร็จใน 5 วัน เพื่อให้ทันรับกับน้ำเหนือที่จะไหล่บ่าลงมา
งานนี้ใครๆ ก็รู้ว่า เป็นการหักดิบ “ใครบางคน” ที่เป็น “จระเข้ขวางคลอง” อยู่...เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้...ความเสียหายมันจะหนักหนาสาหัสกว่านี้
แต่เมื่อ She จนแต้ม-ไร้ทางออก-ไร้กึ๋นจะต่อกร...จึงต้องขออิงกำแพงชั้นยอด แล้วก็เป็นเรื่องทุกฝ่ายพร้อมรีบเร่งดำเนินการ แบบไม่ต้องถือฝัก-แบ่งฝ่าย
ที่สำคัญและน่าสังเกตมากก็คือ ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะมีประชุมกี่หน-ออกตรวจดูน้ำท่วมกี่ครั้ง ไม่เคยเห็น “คุณชายเมืองหลวง” ออกร่วมจอยกับ “เจ๊ปูกิ” เลย จะมีก็แต่ “สฤษดิ์น้อย” ที่ต้องทำหน้าเครียด เดินตาม เพราะสายบังคับบัญชา...ยังไงก็ยังเป็นผู้บังคับบัญชา ผิดกับ “เมืองหลวง” ที่ “คุณชาย” ถือว่าเป็นเอกเทศ-อิสระ จึงปล่อยให้ “ผอ.ระบายน้ำ” ไปร่วมขบวนแทน
แต่พอมาวันสุกดิบ ก่อนถึงวันอันตรายที่ออกเตือนให้ระแวดระวัง...ปรากฏว่า ภาพ “คุณชายเมืองหลวง” เดินตรวจเยี่ยมโซนตะวันออก ที่จะเป็นด่านแรกของเมืองหลวงที่จะรับน้ำเต็มๆ และต่างก็เชื่อมั่นว่า “จะเอาอยู่”
ขณะที่ “เตี้ยห้าสั้น” ที่เคยทำหน้าบึ้งตึง ก็ออกโรงมาการันตีสมทบซ้ำว่า โซนตะวันออกที่หวั่นเกรงกันนั้น...ไม่ท่วมแน่นอน
จึงไม่แปลกหากเวลานี้จะเห็น “หน้ายิ้มแป้น” ของ She เพราะเชื่อว่า วิธีการป้องกันครั้งนี้ จะช่วยทำให้ “เมืองหลวง...ไม่จมธรณี” เหมือนที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดก่อนหน้านี้
เหมือนเป็น “น้ำทิพย์ชโลมใจ” จริงๆ แต่ที่สำคัญ...กลับเป็นเครื่องพิสูจน์ชัดว่า “เรื่องน้ำ...ใครสุดยอด The best ที่สุด” และการเลือกใช้คนไม่ถูกกับงานของ She...ผลลัพธ์มันจะเป็นแบบนี้
เพราะดันเอา “ตำรวจ” มานั่งแก้ปัญหาน้ำ / เอา “คนพาล” มาดูแลกฎหมาย / เอา “คนขายสัตว์” มาแถลงข่าว / เอา “ควาย” มาชุบตัวขึ้นห้าง / เอา “ขี้แง” มาดูแลเศรษฐกิจ
ปัญหาต่างๆ มันถึงแก้ไม่ได้เสียที ปลดแอกจาก “พี่ชายตัวซวย” ได้แล้ว “คุณหนูไฮโซ” เพราะ “ดวง...มันชงกัน”...555
แต่ที่แน่ๆ ข่าวล่ามาไว...มีเสียงสะกิดเตือนแบบทรงพลังถึง 2 พิธีกรดังแห่งวิกน้อยสี...ให้ปรับปรุงตัวในการรายงานข่าวว่าอย่าโอเว่อร์มาก เกินไป เพราะแม้จะเป็นการรายงานข่าวจริงก็ตาม แต่ทำเอาผู้คนตกอกตกใจตามไปด้วย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหา คิดว่าคงเดาไม่ยากว่า 2 คนนี้เป็นใคร เพราะ "ใหญ่ๆ" กันทั้งนั้น แต่ถ้ารู้ว่า คนที่ส่งเสียงสะกิดเตือนคือใคร....หนาวแน่นอน...อิๆๆๆๆ
.......................................
คอลัมน์ “ซุบซิบไทยอินไซเดอร์”
โดย “ไต่กอ”
