นักบุญบาปหนา! ศิษย์ธรรมกายโดนครหา “ฉ้อโกงหมื่นล้าน!!!”
#1
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:11
สืบเนื่องจากกรณีความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่สร้างความเสียหายไปกว่า12,000 ล้านบาท! กระทบถึงสหกรณ์น้อยใหญ่ทั่งประเทศ จนกลายเป็นกรณีเสียหายทางด้านการเงินครั้งมโหฬารครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่กระจายความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมย่านของความเสียหาย
สมาชิกกว่าห้าหมื่นคน สหกรณ์ทั่วประเทศที่ฝากเงินรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
เหตุใดจึงเกิดกรณีร้ายแรงแบบนี้ได้ ล่าสุด ศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการพร้อมพรรคพวกถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟองเงิน(ปปง.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าทำการยึดทรัพย์ มหากาพย์การโกงครั้งนี้ได้ฝากบทเรียนใดไว้กับระบบสหกรณ์ระดับประเทศบ้าง?
มหากาพย์มหาโกงหมื่นล้าน
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2526 โดย 3 ผู้นำคือวิวัฒน์ พัฒนศักดิ์สุธี(เสียชีวิตไปแล้ว) มณฑล กันล้อม และศุภชัย ศรีศุภอักษร โดยมีแนวคิดในการแก้ไขปัญหาชุมชนอย่างยั่งยืน มีการรับสมัครสมาชิกในฐานะที่ทุกคนเป็นเจ้าขององค์กร มีการปล่อยเงินกู้ รับเงินฝาก มีบริการธุรกรรมทางการเงินคล้ายธนาคาร
แรกเริ่มนั้นสหกรณ์แห่งนี้ยังเป็นเพียงสหกรณ์ระดับชุมชน แต่ได้มีการเติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นสหกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสมาชิกทั้งสิ้น 52,683 คน และเงินหมุนเวียนหลักหมื่นล้านบาท
ปมปัญหาแรกต้องสงสัยจากการออกมาแฉของมณฑล กันล้อม ซึ่งพบว่า มีการปล่อยสินเชื่อผิดระเบียบในวงเงิน 3,298.34 ล้านบาท โดยชื่อผู้กู้คือตัวศุภชัยเอง!!
เหตุการณ์ยิ่งทวีรุนแรงขึ้น เมื่อสมาชิกสหกรณ์หลายคนไม่สามารถเบิกถอนเงินของตัวเองออกมาได้ และมหากาพย์การโกงครั้งนี้ก็ถูกสืบสาวอย่างต่อเนื่อง จากเอกสารที่สำนักไทยออนไลน์พับลิก้า ตีแผ่ออกมาพบว่า มีการให้สินเชื่อไม่ชอบมาพากลกับลูกหนี้ 27 ราย เป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท!!
ในรายละเอียดพบว่า ยอดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จำนวน 27 ราย เป็นยอดหนี้ประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยลูกหนี้ทุกรายไม่มีการถือหุ้นตามข้อบังคับของสหกรณ์ บางรายยังมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ไม่ครอบคลุมกับมูลหนี้ บางรายเป็นการค้ำประกันเงินกู้ด้วยบุคคล และมี 2 รายที่ไม่มีหลักประกันหนี้ รวมทั้งยังมีการชำระหนี้ไม่เป็นไปตามกำหนดอีกด้วย
จากการเปิดโปงของสำนักข่าวดังกล่าวยังพบข้อมูลว่า บริษัทหลายแห่งมีสถานที่ตั้งที่เป็นตึกเปล่า บางแห่งเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีตัวตน หลายแห่งยังมีชื่อของศุภชัยนั่งเป็นประธานเสียเอง
ทั้งนี้ ผู้ที่ฝากเงิน ซื้อหุ้นของสหกรณ์ก็ยังเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารในอัตราฝากพิเศษสูงถึงร้อยละ 3-4 ต่อปี และเงินปันผลหากซื้อหุ้นสหกรณ์ก็สูงถึงร้อยละ 10 ต่อปี ทำให้มีหลายคนเห็นโอกาสในการลงทุน ข้าราชการเกษียณอายุแล้วหลายคนนำเงินเก็บทั้งหมดมาฝากซื้อหุ้นที่นี่ หวังเงินปันผลรายปีดูแลเป็นรายได้จุนเจือดูแลชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายยังคงกินวงกว้างไปอีก จากที่รายได้การฝากเงินกับสหกรณ์แห่งนี้ถือว่า มีผลตอบแทนที่ดีมาก ทำให้มีสหกรณ์ทั่วประเทศถึง 12 แห่ง ตัวอย่างเช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครูทรัพย์ครูปทุมธานี สหกรณ์ออมทรัพย์ครูทรัพย์ครูยโสธร สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสงขลา รวมไปถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมียอดรวมกันไปต่ำกว่า 5000 ล้านบาท!!
นอกจากนี้ยังมีสหกรณ์อีกหลายอย่างของมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลราชวิถี สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขอุทัยธานี สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ สหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่รับว่าฝากเงินไว้ที่นี่ แต่ไม่ขอระบุยอดเงิน
พูดให้ชัดคือ ความเสียหายทางด้านการเงินครั้งนี้ดูจะกระจายไปทั่วทุกหย่อมย่าน ทั้งยังรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย คำถามสำคัญคือเหตุใดองค์กรที่รับผิดชอบจึงไม่สามารถตรวจพบความไม่ชอบมาพากลตลอด 8 ปีที่ผ่านมาได้
มือถือสากปากถือศีล
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ศุภชัยสามารถกลับมาเป็นประธานได้อีกครั้งคือภาพลักษณ์ที่ดูดีราวกับนักบุญผู้เคร่งศีลธรรมที่หลายคนอาจจะจินตนาการไม่ออกว่า คนแบบนี้จะโกงใครได้ นอกจากนี้เขายังมีวาทศิลป์สามารถโน้มน้าวใจคนได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย
จากหนังสือประวัติของเขาที่ตีพิมพ์ในช่วงที่เขาได้รับรางวัลนักสหกรณ์ดีเด่นประจำปี 2550 มีการเล่าถึงประวัติของเขาว่า มีพื้นเพเป็นคนราชบุรีที่เข้ามาทำงานและเรียนต่อกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 18 ว่าง่ายๆคือมีพื้นฐานในการเป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง
กระทั่งต่อมาเริ่มมีบทบาทในด้านของการเป็นนักพัฒนาที่ชุมชนครองจั่นในฐานะเลขาธิการชุมชน และก้าวขึ้นมาเป็นผู้ก่อตั้งสหกรณ์ในอายุเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น
ทั้งนี้ ปากคำจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ บอกว่า แรกเริ่มนั้นศุภชัยมีพื้นฐานที่เป็นคนดีมากคนหนึ่ง เป็นคนทำงานเก่ง คิดใหญ่ ทำใหญ่ การที่สหกรณ์พัฒนาได้ถึงตรงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความสามารถของคนๆนี้ โดยผู้ก่อตั้งอีก 2 คนคือวิวัฒน์ พัฒนศักดิ์สุธี และ มณฑล กันล้อมมีบทบาททางด้านกฎหมาย การบัญชีตามลำดับ ทว่าเวลาที่ผ่านไปก็เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง
“แรกๆ เขาเป็นคนดีมากเลยนะ มีความสามารถ มีคนคิดใหญ่ทำใหญ่ ทำให้สหกรณ์พัฒนาในเชิงธุรกิจ แต่มันก็เหมือนจะจุดเปลี่ยนบางอย่างซึ่งพูดยากว่าเป็นจุดไหน แต่ส่วนหนึ่งที่สำคัญน่าจะมาจากการที่เขาเป็นศิษย์ลำดับต้นของวัดธรรมกาย”
แหล่งข่าวได้เผยว่า ศุภชัยผู้ศรัทธาชั้นนำของวัดธรรมกาย ที่บางคนบอกว่า เป็นศิษย์อันดับ 1 เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้การบริจาคเงินที่มากขึ้น ก็จะมาพร้อมกับการโปรโมตที่ทางวัดมีให้แก่ศุภชัยมากขึ้น
“เรามองศุภชัยเป็นคนที่ยึดติดในชื่อเสียงเกียรติยศ วัดธรรมกายยิ่งบริจาคก็ยิ่งจะได้ชื่อเสียงมาก จากปากคำล่าสุดของเขาบอกว่า มีเงินของสหกรณ์อยู่ธรรมกายในหลักร้อยล้าน แต่เราเชื่อว่า น่าจะมากกว่านั้น น่าจะหลักพันล้านได้”
นอกจากนี้ เขายังมีการถือหุ้นใหญ่ในสหกรณ์ยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อการทำบุญให้แก่วัดธรรมกาย นอกจากบริษัทดังกล่าวยังถือหุ้นใหญ่ในบริษัท มงคลเศรษฐีเอสเตท จำกัด ที่เป็น 1 ใน 27 ลูกหนี้สมทบที่ก่อหนี้ให้ถึงหลักหมื่นล้าน
ศุภชัยยังชอบทำบุญบริจาคเงินหลายล้านบาทให้กับโรงเรียนตามต่างจังหวัดโดยมีข้อแม้ว่า ต้องปูพรมแดงเพื่อต้อนรับตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นเขาผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญของอีเวนต์0ดังของวัดธรรมกายอย่าง “ธุดงค์ธรรมชัยฯ” หรือธุดงค์กลางกรุงอีกด้วย
โดยเกียรติประวัติด้านการบุญของเขาทำให้เขาได้รับรางวัลพุทธคุณูปการ ประเภทกาญจนเกียรติคุณซึ่งเป็นรางวัลระดับทองจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นรองเพียงระดับเพชรซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่านั้น
ข้อเขียนของเขาในหนังสือพิมพ์เกลียวเชือก หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวในแวดวงสหกรณ์ก็มักจะสอดแทรกไว้ด้วยธรรมะมากมาย รวมไปถึงการพูดของเขาด้วย แม้หลายครั้งจะไม่ได้ให้คำตอบต่อประเด็นที่สมาชิกค้างคาใจก็ตาม จนถึงการประชุมวิสามัญเพื่อเลือกตั้งหาประธานสหกรณ์ครั้งล่าสุด แม้ว่าเขาจะต้องคดีฟ้องร้องกว่าหมื่นล้าน เขาก็ยังคงได้รับเลือกให้เป็นประธานสหกรณ์ต่อ ทำให้เห็นได้ว่า ยังคงมีคนศรัทธาในตัวเขาอยู่
จนถึงตอนนี้สหกรณ์ก็ยังคงดำเนินการอยู่ แม้จะไม่สามารถเบิกเงินออกได้ก็ตาม และยังคงมีสมาชิกบางส่วนที่เชื่อมั่นว่า สหกรณ์ก็ยังคงประคับประคองตัวของมันเองต่อไปได้ และนำเงินมาฝากเพื่อให้ยังมีสิทธิ์ในเงินหุ้นปันผลอยู่
สหกรณ์ในอุดมคติ
จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนซึ่งถือเป็นสหกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หากมองถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่น่ากลัวคือ จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับสหกรณ์อื่นมั้ย? วิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต อธิบายถึงหลักการของสหกรณ์ว่า คือการที่ชุมชนร่วมเป็นเจ้าของ โดยกิจการทั้งหมดจะมุ่งเน้นที่การบริการชุมชน หากเทียบกับธนาคารที่มุ่งทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น สหกรณ์จะมุ่งแบ่งปันสิ่งที่เหลือได้ให้แก่ชุมชนที่เป็นสมาชิกซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าของร่วมกัน
“ตัวหลักการหรือระบบของสหกรณ์มันดีนะ มันตอบโจทย์การรวมตัวของชุมชน ในต่างประเทศก็มีสหกรณ์หลายแห่งที่เติบโตได้มากกว่าในประเทศเรา มีการวางระบบที่ดีทั้งยังมีกำไรที่สูงให้กับสมาชิก เพียงแต่ระบบมันก็เรียกร้องความเป็นมืออาชีพในการบริหารและการเป็นสมาชิกอีกด้วย”
ทั้งนี้ การเป็นสมาชิกสหกรณ์นั้น เขาเผยว่า ต้องมีส่วนในการร่วมตรวจสอบการทำงานภายในสหกรณ์เอง เหตุเพราะสมาชิกนั้นถือเป็นเจ้าของสหกรณ์ด้วย จึงมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆทั้งหมด แต่สหาชิกสหกรณ์โดยทั่วไปในสังคมไทยนั้นมักจะฝากเงินไว้เพื่อหวังดอกผลกำไรที่สูงกว่าธนาคารเท่านั้น
“จริงๆ ระบบสหกรณ์ต่างประเทศเขาก็ยืดหยุ่นกว่าในประเทศเรานะ แต่ประเทศเขามีความเป็นมืออาชีพมากกว่าทั้งในการบริหาร และในส่วนของสมาชิก ซึ่งตรงนี้มันก็เป็นปัญหาที่ว่าในประเทศไทยอาจมีระบบการตรวจสอบที่ไม่ทั่วถึง อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็อาจจะไม่มีความสามารถเพียงพอในด้านการตรวจทางด้านการเงินก็ได้”
ประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงคือความผิดของผู้ตรวจสอบจากฝ่ายรัฐบาลอย่าง กรมส่งเสริมสหกรณ์ที่อยู่ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น วิทยากรเผยว่า จุดเริ่มต้นของสหกรณ์นั้นเดิมทีมาจากการรวมตัวของกลุ่มชุมชนเกษตรกรเล็กๆ เพื่อสร้างความแข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน
“สหกรณ์ที่ยังมีขนาดเล็ก และมักจะเป็นการรวมตัวของเกษตรกรจึงอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตรซึ่งทำงานกับเกษตรกรได้ง่ายกว่า ทว่าปัจจุบันนี้สหกรณ์ในระดับองค์กรต่างๆ มันขยายตัวมากขึ้น มันใหญ่ถึงขนาดมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน”
ในการแก้ไข้เชิงระบบเพื่อไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก เขาจึงมองว่า การดูแลตรวจสอบสหกรณ์ในยุคปัจจุบันควรมีการเปลี่ยนแปลง โดยให้องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินโดยเฉพาะในการตรวจสอบ
“ถึงตอนนี้ผมก็ได้ข่าวว่า สหกรณ์บางแห่งก็มีการโกงกันนะ เพราะระบบการตรวจสอบมันทำได้ไม่ทั่วถึง ผมมองว่า ควรให้องค์กรอย่างแบงก์ชาติมารับผิดชอบในการตรวจสอบองค์กรในระดับสหกรณ์ด้วย”
…..
มหากาพย์การโกงครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? บั้นปลายของระบบที่ยังมีช่องโหว่จะได้รับการแก้ไขหรือไม่? กับประเทศไทยที่ระบบการตรวจสอบและความรับผิดชอบฐานะสมาชิกยังคงเต็มไปด้วยความไม่รู้ ระบบสหกรณ์จะเป็นระบบที่โปร่งใสและปลอดภัยได้หรือไม่?
-------------------------------------------
ที่เอามาลงเรื่องใหญ่เหมือนกันนะครับเนี้ย ลูกศิษญ์ ธรรมโกง โกงมาทำบุญ เสียหายเยอะมาก
ไปดูพันทิป
http://pantip.com/topic/30331991
มหากาพย์เลยทีเดียว
เรื่องใหญ่มาก เพราะคนเสียหายเยอะ เพราะอาจจะโลภเห็นดอกเบี้ยดี เหมือนมากระทุ้ง เศรษฐกิจ ที่กำลังแย่ตอนนี้เลย
#2
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:15
โอ้ววววววววววววววววววววววววว
กู้ 27 คน ยอดหนี 12000 ล้าน
มันเอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#3
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:23
เมื่อคืนเปิดสปริงนิวสื เจอแกมาออก ผมยิ่งฟังยิ่งงง แกแย่งพิธีกรพูดจนไม่รู้เรื่อง
ยังไม่ได้อ่านอะไรมากหรอกนะ แต่หากเมื่อคืนใครดูสปริงนิวส์จะเห็นการดิ้นแบบน่าเกลียดจนเห็นได้ชัด
#4
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:32
เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
มาแอบตั้งบริษัทตัวเอง
มาแล้วมันปล่อยกู้ให้ตัวเองมันได้เหรอครับ ?
ถ้าธนาคารทั่วไปยังงี้
#5
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:01
ลูกศิษย์หรือสาขาครับ?
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#6
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:06
อ่านได้เยอะพอสมควร ได้เห็นประเทศไทยฉบับย่อเลย มันดี
#7
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:36
ลัทธินี้มีแต่เงินบาปที่ได้มาจากเบียดเบียนผู้อื่นไหลเวียนอยู่จริงๆ ด้วยแฮะ
#8
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:16
ห่าาาาาาาาาาาาาาา ประเทศไทยชัดๆๆๆๆ โคตรฮาเลย
สรุปสั้นๆ มันคือ ไซฟอน เงิน แบบที่ แคลิ ทำเลย
ไอ้คนที่ทำ ก็มาทำตัวเป็นประธาน ตั้งบริษัท มากู้เอง เซ็นเอง จะเอาบริจาคยานบิน หรือ อื่นๆ
ไอ้คนที่ฝากเงิน ก็เชื่อคนโกงคน ฝากเป็นแสน เป็นล้าน คนโกงมาโกหก โยนเศษตังให้ ถอนเดือนละ 2 หมื่น เลื่อนมากเรื่อยๆ ก็เชื่อ
โกงแต่ทำงาน ตลกดี
#9
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:10
ผมอ่านแล้วงง
เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
มาแอบตั้งบริษัทตัวเอง
มาแล้วมันปล่อยกู้ให้ตัวเองมันได้เหรอครับ ?
ถ้าธนาคารทั่วไปยังงี้
ผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับแม้วนะ
ให้พม่ากู้ มาซื้อของบริษัทตัวเองประมาณนั้น
นับถือลัทธิเดียวกัน ย่อมทำเหมือนกัน
#11
ตอบ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 21:32
บุคคลที่ทำบาปทำชั่วนั้น
เมื่อผลของการกระทำปรากฎ
เขาเหล่านั้นจะได้รับทุกขเวทนามากกว่าที่คิด
ยังมีอีกเยอะที่ทำบุญกับนรกขุมนี้
ที่บอกว่าแล้วจะได้เป็นนั่นเป็นนี่
ไอ้ห่านห่มเหลืองตัวพ่อ
ไม่รู้นรกจะกล้ารับมันรึเปล่า
เด๋วก็ไปเซ้งนรกสิ
ยมบาลยังคิดหนัก
#13
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 00:16
จาก สหกรณ์ ดีๆ
กลายเป็น วงแชร์ เชิดเงินหนี ซะงั้น...
#14
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:05
สะดุดกับการตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจ
สินเชื่อเพื่อการทำบุญเนี่ย!!!
ไอเดียแจ่มฝุดๆ เลย
ไม่ได้ประชดจริง ๆ ผมขอความรู้หน่อยครับ ว่าสินเชื่อเพื่อการทำบุญ นี่ มีจริง ๆ หรือว่าเป็นศัพท์ที่เค้าพูดกันเฉย ๆ
ผมเพิ่งเคยได้ยินคำนี้ครับ
#15
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:27
สะดุดกับการตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจ
สินเชื่อเพื่อการทำบุญเนี่ย!!!
ไอเดียแจ่มฝุดๆ เลย
ไม่ได้ประชดจริง ๆ ผมขอความรู้หน่อยครับ ว่าสินเชื่อเพื่อการทำบุญ นี่ มีจริง ๆ หรือว่าเป็นศัพท์ที่เค้าพูดกันเฉย ๆ
ผมเพิ่งเคยได้ยินคำนี้ครับ
มีจริง ครับ มีเป็นบัครดิต ไว้ทำบุญเลย ของกรุงไทย
#16
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:37
#17
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:46
วัดนี้ของเขาดีจริงๆ นะ จากคนดีๆ เปลี่ยนเป็นคนโกงไปได้
ไม่รู้เงินที่โกงไปนี่เอาไปบริจาคซื้อตั๋วชั้นหนึ่งไปสวรรค์หมดรึยัง
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#18
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:05
#19
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:16
ผมก้อเพิ่งรู้เหมือนกัน
โอ้วววววววววววววว
ถ้างั้นกู้มาทำบุญเสด ตายไปขึ้นสววรค์
ลูกหลานมาใช้หนี้ต่อ
โอ้วววววววววววววว
บุญเหลือหลาย
ห้่าาาาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#20
ตอบ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:20
เงินในอากาศ มีอยู่จริง ซื้อขายได้จริง ... แต่สิ่งที่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่จริง...
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม...
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน