ในที่สุดก็ออกมายอมรับแล้วว่ามีสารปนเปื้อนในข้าวจริง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธมาตลอด
ตกลงหน้าที่ของอย.คือคุ้มครองผู้บริโภคหรือคุ้มครองผู้ผลิตกันแน่ครับ
http://www.komchadlu...ml#.UediLY1kPE0
อย.รับ'ข้าวโคโค่'มีสารเกินเกณฑ์ อย.รับ'ข้าวโคโค่'มีสารเกินเกณฑ์ รื้อประกาศสธ.คุมสาร3ตัวในอาหารรวมเมทิลโบรไมด์ 'ประดิษฐ' ให้เวลาผู้ผลิตข้าวถุงบังคับใช้ 1 ม.ค.ปีหน้า
หลังจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเปิดเผยผลตรวจสอบข้าวบรรจุถุง 46 ตัวอย่าง ปรากฏว่าพบ 34 ตัวอย่างมีสารรมควันเมทิลโบรไมด์ที่ใช้ในการรมข้าวเพื่อป้องกันมอดและแมลงมีสารตกค้างในผลิตภัณฑ์ และมี 1 ยี่ห้อที่สารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือพีพีเอ็ม นั้น
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวภายหลังตรวจโรงงานบรรจุข้าวถุง บริษัท สยามเกรนส์ จำกัด ภายหลังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแถลงผลทดสอบข้าวสารถุงพบว่า ยี่ห้อ "โคโค่” ซึ่งผลิตโดยบริษัทดังกล่าว และมีบริษัท เสถียรรุ่งเรืองมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้ว่าจ้างผลิตและจัดจำหน่าย มีสารเมทิลโบรไมด์ตกค้างเกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (โคเด็กซ์) ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (พีพีเอ็ม) ว่า อย.ได้เก็บตัวอย่างข้าวยี่ห้อโคโค่ส่งตรวจเช่นกัน และเพิ่งทราบผลเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยพบว่าเกินมาตรฐานเช่นกัน จึงต้องเก็บตัวอย่างที่แหล่งผลิตเพื่อทำการตรวจซ้ำ รวมทั้งได้เก็บตัวอย่างข้าวอื่นๆ ที่บริษัทรับบรรจุด้วยประมาณ 3 ยี่ห้อ จะทราบผลใน 2-3 วัน
ทั้งนี้ ข้าวสารจัดเป็นอาหารทั่วไป มีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบจาก อย. แต่เมื่อปลายปี 2555 มีความคิดที่จะยกระดับคุณภาพอาหารทั่วไปให้ได้มาตรฐานการผลิตอาหารที่ดีขั้นพื้นฐาน (Primary GMP) โดยให้เวลาผู้ประกอบการกลุ่มอาหารทั่วไปดำเนินการภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2558 รวมไปถึงข้าวบรรจุถุงต่อไปจะต้องมีเลขสารบบ อย.ด้วย เบื้องต้นมี 1 รายมาขอขึ้นทะเบียนแล้ว คือข้าวตราฉัตร
"อย.จะเก็บตัวอย่างข้าวถุงเพื่อสุ่มตรวจเรื่อยๆ อาจจะเจอสารตกค้างเกินมาตรฐานอีก ซึ่งในเชิงระบบหากต้องการให้ อย.รับรองก็ต้องทำมาตรฐานจีเอ็มพี ซึ่งจะต้องมีการรมให้ดี และเป็นไปตามมาตรฐานทั้งหมด สำหรับการดำเนินคดีนั้นต้องดูผลการตรวจซ้ำคราวนี้ก่อน" เลขาธิการ อย.กล่าว
รื้อประกาศสธ.คุมสารปนเปื้อนอาหาร
ต่อมา ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอาหาร ว่า คณะกรรมการมีข้อสรุปว่าจะแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง (ฉบับที่ 2) ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 โดยจะเพิ่มชนิดและปริมาณสารพิษตกค้างจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรในบัญชีอาหารหมายเลข 1 ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (Maximum Residue Limit : MRL)โดยจะกำหนดให้ สารไฮโดรเจนฟอสไฟด์ มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของอาหาร สารเมทิลโบรไมด์ มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของอาหาร
ทั้งนี้ สารดังกล่าวอยู่ในรูปของแก๊สทำให้วัดปริมาณได้ยาก จึงต้องวัดจากโบรไมด์ ไอออนในสารเมทิลโบรไมด์อีกที โดยกำหนดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และสารซัลฟูริค ฟลูออไรด์ มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของอาหาร โดยเป็นไปตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ โดยจะเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันที
"ประดิษฐ"เผยบังคับใช้ข้าวถุง1ม.ค.
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้ อย.เตรียมสุ่มตรวจข้าวสารเพิ่มทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค โดยในระยะสั้นจะขอให้ประชาชนเป็นผู้ชี้แหล่งว่าต้องการให้ อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจข้าวยี่ห้อใดและสถานที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้าส่ง หรือโรงสี เพื่อความสบายใจของผู้บริโภค ส่วนในระยะยาวเร่งให้ อย.บังคับใช้มาตรฐานการผลิตอาหารที่ดีขั้นพื้นฐาน (Primary GMP) ในผู้ผลิตข้าวถุง จากเดิมที่กำหนดให้เริ่มในปี 2558 ให้เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2557 และให้ผู้ประกอบการปรับปรุงสถานที่ให้ได้มาตรฐานให้แล้วเสร็จใน 5 เดือน
"ขอให้ทุกฝ่ายอย่านำปัญหาเรื่องข้าวมาเป็นเกมการเมือง เพราะจะกระทบต่อการส่งออกข้าวที่เป็นรายได้หลัก จะทำให้ไทยเสียโอกาสทางการค้า" รมว.สาธารณสุข กล่าว
เอกชนหนุนประกาศเกณฑ์คุม
นางโสพรรณ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวถุง ยี่ห้อ "หงษ์ทอง" กล่าวว่า เห็นด้วยกับที่ อย.ออกมากำหนดค่ามาตรฐานของสารปนเปื้อนเมทิลโบรไมด์ในข้าวถุงไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ พีพีเอ็ม ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ และค่าดังกล่าวถือว่าไม่ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศจีน ที่กำหนดไม่เกิน 5 พีพีเอ็ม และอินเดียไม่เกิน 25 พีพีเอ็ม โดยอัตราดังกล่าวถือเป็นกำแพงเพื่อใช้กีดกันทางการค้ามากกว่า สำหรับข้าวถุงหงษ์ทองไม่ได้ใช้สารเมทิลโบรไมด์ 6 เดือนแล้ว และระหว่างการผลิตข้าวถุงก็จะตรวจสอบสารเคมีตกค้างทุก 3 เดือน