ฝรั่งยังเจ๊ง
วงการค้าข้าวกล่าวขวัญถึงความสำเร็จของวิชัยว่าเกิดจากเหตุประจวบเหมาะพอสมควร เขาเข้าสู่ตลาดข้าวนึ่งแข่งขันโดยตรงกับข้าวนึ่งคุณภาพใกล้เคียงกันจากสหรัฐในเวลานั้น (ก่อนปี 2528) สหรัฐกำลังหน้ามืดตามัวอยู่กับนโยบายล้าสมัยในการส่งออกข้าวโดยการรับจำนองข้าวเปลือกของ COMMODITY CREDIT CORPORATION จากชาวนามาเก็บไว้ในโกดังในราคาสูงลิ่ว ยังผลให้ราคาข้าวส่งออกของสหรัฐสูงกว่าข้าวไทยถึง 2 เท่าตัว ซึ่งในเวลานั้นผู้ส่งออกข้าวไทยก็ถูกกล่าวหาหนักพอสมควรด้วยความเข้าใจผิดว่าตัดราคาขายหั่นแหลก ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วข้าวล้นตลาดโลกต่างหาก
ราคาที่ต่ำกว่า และคุณภาพข้าวนึ่งที่เหมือนกันไม่เป็นเรื่องยากเย็นนักที่วิชัยจะแย่งตลาดมาจากข้าวสหรัฐอย่างมากมาย ปัญหาของไรซ์แลนด์ระหว่างนั้นจึงไม่ใช่เรื่องดีมานด์ แต่เป็นเรื่องซัพพลายมากกว่าว่า ทำอย่างไรจึงจะรักษาคุณภาพข้าวนึ่งได้เป็นปรกติและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของผู้ซื้อ แต่ถึงกระนั้นวงการค้าข้าวก็เชื่อกันว่ากำไรที่ไรซ์แลนด์ได้รับในแต่ละตันจะต้องไม่ต่ำกว่า 20-40 เหรียญสหรัฐทีเดียว หาที่ไหนจะกำไรขนาดนี้
http://goo.gl/V6Ts8
คนในวงการข้าวเขาก็เตือนมาแล้วว่า ถ้าลูกค้าไปแล้วเอากลับมายาก
อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวอีกว่า อนาคตข้าวหอมมะลิไทย หากรัฐบาลยังดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวต่อไป เราจะเสียตลาดไปอย่างน่าเสียดาย ให้แก่ เวียดนาม และกัมพูชา ยกตัวอย่างการส่งออกข้าวหอมมะลิไปฮ่องกง ปีละประมาณ 3 แสนตัน ปัจจุบันเหลือประมาณ 1.5 แสนตัน ที่หายไปครึ่งหนึ่ง เพราะถูกข้าวหอมของเวียดนาม กัมพูชา แย่งชิงตลาด ไม่ต่างจากที่ตลาดสิงคโปร์ แคนนาดา ออสเตรเลีย
“ราคาข้าวไทยที่สูง บังคับให้ประเทศต่างๆ เหล่านี้จำเป็นต้องลอง เมื่อลองแล้วชอบ ใช้ได้ เห็นว่า ดี และยังราคาถูกกว่า 400 -500 เหรียญฯ ในที่สุดตลาดข้าวไทยก็จะหดตัวลง ยิ่งการจำนำในราคาเดียว ทำให้คุณภาพข้าวหอมมะลิด้อยคุณภาพลง กลายเป็นข้าวเกรดเดียวกันหมด”
http://goo.gl/Sw6yE
.....ไหนว่านายกเราเคยเรียรจบจากอเมริการไงครับ ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่รู้