ที่ผ่านมาหลายคนได้อ่านบทความของโอ๊ค ลูกชายคนเดียวของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และคิดไปสะระตะว่าโอ้โห !! นายช่างเก่งจริงๆสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารมาโบ้ยความผิด เพื่อให้รัฐบาลรอดพ้นความผิดไปวันๆ ตามหลักทฤษฎีการพ้นผิดของนักปรัชญาชาวตะวันตก แต่ข้อเท็จจริงแล้วสถานการณ์ของประเทศไทย คนไทยควรจะรู้ควรจะทราบว่าใครกันแน่อยู่เบื้องหลัง Facebook โอ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra เพราะอันที่จริงแล้ว Facebook ดังกล่าวตั้งมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ดูสวยหรู เพื่อให้ภาพของลูกชายพันตำรวจโททักษิณ ดูดีเพื่อหวังก้าวสู่ตำแหน่งเหมือนกับพ่อและน้าสาว ดูมีกึ๋นสมเป็นลูกชายของนายกรัฐมนตรี ผู้ร่ำรวยติดอันดับ 10ของประเทศไทย แต่คำพูดภาษาที่ใช้บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นภาษานักข่าวที่อายุมาก และเข้าใจการเมืองตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันอย่าง " พญาไม้ " ที่นอกจากช่ำชองในเรื่องเขียนข่าวแล้วยังช่ำชองในเรื่องของป๊อกเด้ง จนเป็นข่าวในคลิปฉาว "ถังเช่า" อีกด้วย
เผด็จ ภรีปติภาน หรือที่รู้จักจากนามปากกา "พญาไม้" คือนักหนังสือพิมพ์ และในอดีตเคยเป็นหนี่งในสิบแปดอรหันต์ของวงการหนังสือพิมพ์ ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ข่าวสด และเขียนคอลัมน์ "พญาไม้ทูเดย์" ประจำหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ นอกจากนั้นยังเป็นผู้ดำเนินรายการรับเชิญของรายการจัตุรัสการเมือง ทางเคเบิลทีวีช่อง MV News , MV Bangkoktoday ,MV Starchannel และ รายการจตุรัสข่าว ทางวิทยุ FM 105 MHz ข้อเขียนล่าสุดของ "พญาไม้" ใน Facebook Oak Panthongtae Shinawatra ได้พรรณาเปรียบเทียบเหตุการณ์พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ "เดลินิวส์" ฉบับวันที่ 23 ธ.ค. 2518 และระบุว่าเหตุการณ์ในอดีตเหมือนกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพราะในยุคสมัยนั้นเขาลืมไปแล้วกระมังว่าในปี 2538 มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เจ้าของพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของไทย ในยุคสมัยนั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่กลางกรุงเทพฯ เกิดการทุจริตคตโกง ช่อราชบังหลวงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ข้าวยาก หมากแพง สินค้าแพง อาหารแพง ชาวไร่ชาวนา เกษตรกร ออกมาชุมนุมประท้วงไม่ต่างจากปัจจุบัน จนนายบรรหารต้องประกาศยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในที่สุด โดยเข้าดำรงค์ตำแหน่ง13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ตาม (มติสภาผู้แทนราษฎร) และสิ้นสุด 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539(ยุบสภา)
สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นคือในปี 2538 กับในปี 2554-2556 นอกจากต่างกันระหว่างนายกหญิงและชายแล้ว ในยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันกลางกรุงเทพแล้ว ข้าวของในเวลานี้แพงกว่ากันเกือบ 5 เท่าตัวเฉพาะน้ำมันยุคนั้นปี 2538 เบนซินเฉลี่ยลิตรละ10บาท ปัจจุบันอยู่ที่ 2 ลิตรเกือบ 100 บาท การทุจริตในยุคนี้ถูกกล่าวหาว่ามีการกู้ยืมมากถึง2.2ล้านๆบาท รวมดอกเบี้ยรวม 5ล้านๆบาทคนไทยต้องเป็นหนี้ถึง50ปี จนมีการฟ้องร้องต่อศาล เป็นยุคที่มีการทุจริตรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยอย่างที่ไม่เคยมีมา ก่อน และเป็นยุคที่มีการเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนชัดเจนที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ที่รัฐบาลเปิดเจรจากับโจรใต้อย่างเป็นทางการยกระดับโจรใต้ ที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เคยตั้งฉายาว่า "โจรกระจอก" มาเป็นโจรระดับชาติ ดึงมาเลเซีย หรือมาลายู อันเป็นดินแดนของไทยเดิมที่ถูกอังกฤษกดดันยกให้เป็นมาเลเซียมาทำการต่อรอง เพื่อทำการแบ่งแยกดินแดนไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
"พญาไม้" ในคราบ Facebookของ โอ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra คงมิสนใจหลอกว่าคนไทยจะเป็นหนี้นานถึง 50 ปี ชั่วลูกชั่วหลาน เพราะอายุก็มากแล้วคงอยู่ไม่ถึงอีก 50 ปีจนใช้หนี้หมด แต่ที่แน่ๆภาพลักษณ์ของ โอ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อาจต้องเสียหายเพราะข้อมูลที่ขาดตกบกพร่องมิได้นำมาเปรียบเทียบให้ครบถ้วน บริบูรณ์ ฤ ว่าตอนนี้ "พญาไม้" คงทราบแล้วกระมังว่ารัฐบาลมาอยู่ในยุคปลายเหมือนกับทุกรัฐบาลที่ผ่านๆมาใน อดีต ที่จะมีอาการร่อแร่ ที่มีปัจจัยหลักคือการทุจริตคตโกง คอรัปชั่น ช่อราชบังหลวงมูลค่าหลายแสนล้านบาทเพราะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เป็นรัฐบาลแรกที่มีประชาชนใส่หน้ากากขาวออกมาขับไล่ทั่วประเทศ มีสารพัดม๊อบเดินขบวนต่อต้าน จนจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าจะเกิดการรัฐประหาร จนเขียนภาษาผิดๆถูกๆระหว่าง"รัฐประหาร"กับ"ปฎิวัติ" ที่มีความหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งไทยมีการปฎิวัติเพียงครั้งเดียว คือ 24 มิถุนายน 2475 ที่เหลือคือการ"รัฐประหาร"ของคณะราษฎร์โดยส่วนใหญ่ที่กระทำการแย่งชิงอำนาจ กันเองไปมาโดยตลอด
ที่แน่ๆ "พญาไม้" ในคราบ Facebookของ โอ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra ขู่ว่าถ้า รัฐประหาร หรือใช้มาตรา 7 ประชาชนตัวจริงจะออกมาต่อต้าน เขาคงกลัวจนหลงในคำพูดของแกนนำเสื้อแดงธิดา ถาวรเศรษฐ ที่พูดทุกวันตามหลักทฤษฎีการโกหกซ้ำๆว่าประเทศไทยปกครองด้วย ระบอบ"ประชาธิปไตย" จนลืมไปแล้วกระมังว่าประเทศไทย ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นผู้ถือครองรัฐถาธิปัตย์ มิใช่นายกรัฐมนตรีเป็นประมุข และที่สำคัญประชาชนตัวจริงที่มาจากอุดมการณ์มิได้มาจากอุดมเงินมาจากทุกชน ทุกอาชีพต่างจากเสื้อแดง ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียภาษีให้กับประเทศได้เคลื่อนกระจายตัวไปทั่วประเทศไม่พ้น แม้ในพระนคร ฤ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ "พญาไม้" ในคราบ Facebookของ โอ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra วิตกจริตจน "ขี้หักใน" ยิ่งขึ้นเมื่อมี " คณะเสนาธิการร่วม " ที่ประกอบไปด้วยระดับนายระดับพลเอก สายเหยี่ยวผู้ช่ำชองการทหาร การเมือง ที่ชำนาญทั้งบู๋ และบุ๋น ออกมาประกาศเตรียมเคลื่อนพลใหญ่ นำประชาชนขับไล่รัฐบาล 4 สิงหาคม2556 กระมัง….
คณะเสนาธิการร่วม
23 กรกฎาคม 2556