จริงใจประชาชน
บทบรรณาธิการ26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
[attachment=23016:แดงๆ.jpg]
คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงผลการประชุมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมว่า
วิปรัฐบาลมีมติให้นำร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ ที่เคยมีมติให้เลื่อนการพิจารณาขึ้นมาบรรจุเป็นร่างกฎหมายแรกที่จะพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 7 สิงหาคมนี้
ในอีกด้านหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยประกาศว่าจะสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 2553 ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ว่าจะสนับสนุนต่อไปหรือไม่สนับสนุนอะไรแล้ว
โดยล่าสุด ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับของนายอลงกรณ์ พลบุตร ก็ถูกยับยั้งโดยพวกเดียวกัน
ทั้งที่จริงแล้ว หลักการของกฎหมายนิรโทษกรรมที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นส.ส.พรรครัฐบาล ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ประชาชน และนักวิชาการเห็นพ้องต้องตรงกันก็คือ
ควรจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทั่วไปที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเมือง โดยละเว้นไม่นิรโทษให้กับแกนนำหรือผู้สั่งการ
อาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องถ้อยคำ การตีความ หรือขอบเขตของกฎหมาย แต่ก็ล้วนเป็นรายละเอียดที่สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตระหนักว่ายังคงมีนักโทษการเมืองจำนวนหนึ่งติดค้างอยู่ในเรือนจำ หรือมีภาระทางคดีที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมก็ย่อมเป็นความอยุติธรรมอีกรูปแบบหนึ่งความแตกต่างในรายละเอียดของกฎหมาย สามารถทำให้สมบูรณ์ขึ้นหรือบกพร่องน้อยที่สุดได้ ด้วยกระบวนการขัดเกลาในสภา
ไม่ว่าจะเป็นการตัด ต่อ แต่งเติมเนื้อหาและถ้อยคำ ตราบเท่าที่ยังไม่สูญเสียหลักการอันเป็นที่ยอมรับ
แต่กระบวนการทั้งหมดนี้จะต้องเริ่มด้วยการลงมือทำ ลงมือผลักดันให้เป็นจริง แล้วค่อยขัดเกลาแก้ไขระหว่างการดำเนินการไป
จะอาศัยแต่เจตนารมณ์อันบริสุทธิ์เพียงประการเดียวไม่ได้ จะอาศัยแต่คารมโวหารอันจับใจแต่ไร้ซึ่งการปฏิบัติไม่ได้
มีแต่การลงมือกระทำให้เกิดรูปธรรมที่จับต้องได้จริง จึงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยัน
ว่าใครมีความจริงใจต่อประชาชนอย่างแท้จริง
"ความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมก็ย่อมเป็นความอยุติธรรมอีกรูปแบบหนึ่ง"
ไม่แน่ใจว่า กระบวนการตามจับตัวผู้ต้องหาหนีหมายจับศาล
จัดอยู่ในกระบวนการยุติธรรมด้วยอ๊ะป่าว ?
ถ้าใช่...ผมว่านั่นแหล่ะ โคตรอยุติธรรมเลย...ว่ามั๊ย...
Edited by Suraphan07, 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:13.