- คุณ bangkaa บอกว่าอ่านหนังสือแล้วเข้าใจ ผมว่าหลายคนอ่านแล้วก็เข้าใจ แต่จะเข้าใจอย่างเดียวกันรึเปล่าไม่ทราบ
แล้วจะแก้ปัญหาเหล่านั้นกันได้อย่างไร?? (ถ้าเข้าใจกันจริงทำไมยังแก้ไม่ได้ หรือแปลว่ายังไม่เข้าใจ)
แล้วปัญหาต่างๆในหนังสือนั้นมันแก้ได้ด้วยโหวตโนจริงเหรอครับ ผมคนล่ะที่หนึ่งเห็นว่าโหวตโนไม่ใช่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ (โหวตโนมันสำหรับภาคประชาชนผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ตอนนี้มันเป็นแบบนั้นหรือ ที่แน่ๆพวกแดงเขาตกเป็นทาสนักการเมืองไปแล้ว เขาไม่สนประโยชน์ประเทศชาติ เขาสนแต่ทักษิณจะกลับมาให้ประโยชน์เขา ดังนั้นจะมาใช้โหวตโน ก็เท่ากับทำให้ทักษิณแข็งแกร่งขึ้น ไร้คู่แข่ง นี่คือสิ่งที่หลายคนพยายามบอกเสื้อเหลืองมาตลอด)
- ลองดูสิ่งที่คุณเน้นด้วยตัวแดงก็ได้ครับ
ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะต้องมาโทษมาเถียงกัน มาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าคนนั้นคนโน้นคนนี้เป็นสาเหตุทำให้ประเทศชาติเสื่อมถอย
สนธิเองยังบอกว่าประเทศต้องมีคนเสื้อเหลืองไว้(ไม่ยอมสลายสีเสื้อ) ด่านักการเมืองเลวหมด ขายชาติหมด แล้วทำไมคุณ bangkaa ยังสนับสนุนเขาอยู่
ทั้งที่ในความเป็นจริงก็ย่อมมีทั้งคนดี คนเลว เราต้องรู้จักแยกแยะให้ได้และสนับสนุนให้คนดีได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ(แม้แต่ในหลวงก็เคยตรัสไว้) ถ้ารอให้นักการเมืองเป็นคนดีทั้งหมด จะรอกี่ชาติครับ
ใครไม่ใช่พรรคพวกตนเอง ก็เลว ก็แย่ ก็เป็นปัญหาหมด...
ใครเป็นพรรคพวกตนเองก็ดีไปหมด ทำผิดก็แก้ตัวให้
ความเห็นแก่ตัวทำให้มีอคติไม่สามารถใช้ตรรกะเหตุผลมองเห็นปัจจัยสาเหตุของปัญหาประเทศที่แท้จริงได้
คำพูดนี้คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะฝ่ายพรรคการเมือง แต่รวมถึงทุกกลุ่มที่ยังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ดังนั้นตราบใดยังแบ่งสี ใครมาด่าสีเราไม่ได้ หัวหน้าสีพูดอะไรต้องทำตามหมด ต้องเชื่อตามแกนนำสี มันจะไปแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ยังไง
- เรื่องนักการเมืองชั่วมันก็มีมานาน กี่พันกี่หมื่นปีมันก็มีของมันมาแบบนี้ ทุกคนต่างก็ปรารถนาให้มีแต่นักการเมืองที่ใสสะอาด ซึ่งเป็นโลกในอุดมคติ ผมว่ากลับมามองปัญหาในปัจจุบันที่เป็นสิ่งเร่งด่วนก่อนดีกว่ามั้ย (อยู่กับปัจจุบันกันก่อน)
ปัญหาตอนนี้คือ ทักษิณกำลังจะให้มีนิรโทษกรรม คุณ bangkaa เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วยจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
ที่แน่ๆโหวตโนตอนนี้คงไม่ได้เพราะยังไม่มีเลือกตั้ง
ปล. ใครเป็นคนที่ตัดสินว่านักการเมืองคนไหนดีไม่ดี สนธิเหรอ อย่างพวกแดงเขาก็มองว่าทักษิณดี เขาก็เลือก
ถ้าเหลืองบอกโหวตโน รอคนดี เกณฑ์ของคนดีแบบเหลืองคือยังไง แล้ววัดกันยังไงว่าดีจริง เพราะแม้แต่ผมเองยังมองว่าสนธิไม่ใช่คนดี
นี่จึงเป็นที่มาของระบอบประชาธิปไตย คือตัดสินกันที่เสียงข้างมาก ปัญหาคือ ประชาชนมีข้อมูลที่ถูกต้องดีพอในการตัดสินใจแค่ไหน หรือโดนผลประโยชน์บังหน้า เกิดการแบ่งพวกเลือกเฉพาะคนของตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาแก้กันด้วยโหวตโนเลย มันต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนยังไม่เลือกตั้ง แล้วหลังเลือกตั้งก็ต้องมีการตรวจสอบ ลงโทษอีก ...
แล้วทำไมจึงยังได้หลงอยู่กับคำว่า โหวตโน อยู่ได้ มันไม่ได้ต่างอะไรกับคนเสื้อแดงที่หลงอยู่กับคำว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เลยครับ
ถ้าจะอธิบายแบบยาวๆๆๆๆ ก็ตามเอาจากกระทู้ VOTE NO ที่ตั้งเอาไว้ได้ครับ...
http://webboard.seri...-ป่านนี/page-17
คือ ได้ว่ากันมาหลายแง่ หลายมุมแล้ว
หรือลองถาม คุณ กรกช
เขาก็มีกระทู้เก่าๆ ที่ว่าเรื่อง VOTE NO เรื่องปัญหาการเมืองในระบบเก่าๆที่เราไม่มีทางแก้ได้ เพราะเรายังคิดแบบเดิมๆ
ประเด็นที่เราต้องคิดเกี่ยวกับปัญหาการเมืองนั้น...
ผมว่า คนส่วนใหญ่รู้ว่า การเมืองไทยมีปัญหา... จะตระหนักรู้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความรู้แต่ละคน
แต่ที่เป็นอุปสรรคคือ เราไม่ทราบว่า สาเหตุของปัญหาคืออะไร ใครเป็นปัญหา อะไรเป็นปัญหา...
เมื่อไม่ทราบตรงนี้... ระบุสาเหตุผิด การแก้ปัญหาก็ผิด
เราจึง หาวิธีแก้ปัญหากันไม่ได้ เราทำกันไม่ได้...
มันเป็น ตรรกะง่ายๆครับ
ระยะเวลาเป็นหลายสิบปี ที่พัฒนาการทางการเมืองของประเทศไม่ไปไหน
นั่นแสดงว่า ที่เรากำลังทำอยู่ เป็นอยู่ มันต้องมีอะไรที่ผิดพลาดครับ
เราก็ยังทำกันแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ด้วยความหวังลมๆแล้งๆว่า มันจะดีขึ้น...
แล้วมันดีมั้ยล่ะครับ... ก็ ไม่ดี...
พวกนักเลือกตั้ง มักอ้างประชาธิปไตย เสียงข้างมาก โดยไม่สนอย่างอื่น...
ประชาชนหลายคนยังยึดติดตรงนี้แบบหัวชนฝา เลือกตั้งแล้วต้องจบ 4 ปี ว่ากันใหม่
เขาคิดว่า คนที่แย้งประเด็นนี้ คือ พวกเพ้อเจ้อ...
ผมเอง บอกว่า ในเมื่อมองกันว่า นักการเมืองมันแย่ มันห่วย ทำไมคุณจะเลือกล่ะ ก็ไม่ต้องเลือกสิ
มันตรรกะง่ายๆ สามัญที่สุด... เข้าใจได้ง่ายสุดๆ ไม่ดี ก็ไม่เอา
แต่ก็ยังมีประชาชนหลายคนมองว่า แนวคิดนี้ เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ...
เห็นมั้ยครับ ทั้งสีแดง ทั้งสีน้ำเงิน.... จากพารากราฟข้างบน
คือ กรอบที่เราออกมาจากมันไม่ได้
ปัญหามันจึงไม่มีทางถูกแก้....
ผมไม่ได้บอกว่า VOTE NO เป็นวิธีปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา
แต่เป็นการยกตัวอย่างแนวทาง ข้อเสนอให้ได้คิด...
มันมีวิธีการอีกหลายทาง....... ที่แก้ปัญหาได้
แต่ประเด็นสำคัญ ต้องระบุ สาเหตุของปัญหาให้ได้ แล้วเอาตัวออกมาจากกรอบปัญหา
จากนั้นจึงค่อยหาวิธีแก้ปัญหา....
ประเทศไทย เราระบุ สาเหตุปัญหาไม่ได้ เพียงเพราะ ความเห็นแก่พรรคพวกตนเองครับ...
คนที่ก่อปัญหา คือ ประชาชนคนไทยเรานี่แหล่ะ ที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองน้อย
เป็นช่องทางให้พวก นักธุรกิจการเมืองแสวงหาช่องโหว่ตรงนี้ เพื่อมากอบโกยผลประโยชน์
โดยชักจูง ชี้นำ เอาประชาชนมาเป็นพวก ให้ยึดติดอยู่กับพรรคพวกตนเอง...
ออกจากกรอบนี้ไม่ได้ ก็ไม่มีทางพ้นแน่นอนครับ
มันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆล่ะ วงจรอุบาทว์
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...