ปู้่ชัยแกมีอะไรกับอภิสิทธิ์เนี่ย
http://www.manager.c...D=9560000098928
“2 เทพ” เดินสายชวนปาหี่ “พิชัย” เอาด้วย ไม่ต้องถอนนิรโทษฯ “อนุทิน” ฝันมานานอยากปรองดอง
“พงศ์เทพ-วราเทพ” เดินสายพบอดีตหัวหน้าประชาธิปัตย์ เชิญร่วมสภาปฏิรูปการเมือง เจ้าตัวชมนายกฯ คิดริเริ่ม ยันพร้อมร่วม ย้ำต้องเพื่อประชาชน หวังไม่มีวาระล่วงหน้า แต่ไม่รู้พรรคเอาไง วอนอย่าตั้งเงื่อนไขถอนนิรโทษฯ ซูฮก “นพดล” ร่วมมือดีกว่า “อภิสิทธิ์” บึ่งไปภูมิใจไทยต่อ “อนุทิน” ตอบรับแต่ขอคุยพรรคก่อน รับฝันมานานอยากปรองดอง
วันนี้ (9 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. หมู่บ้านปัญญา พัฒนาการ 30 นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบนายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือพร้อมกับให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตุการณ์ โดยนายพงศ์เทพได้ชี้แจงการทำงานของเวทีปฏิรูปการเมืองว่านายกฯ เป็นผู้ที่มาเปิดเวทีจากนั้นเวทีนี้จะคิดเองว่ากลไกเป็นอย่างไร จะเชิญบุคคลใด ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการหรือไม่ก็แล้วแต่ผู้ที่มาร่วมหารือ
ด้านนายพิชัยกล่าวว่า ตนมีความดีใจที่นายกฯ มีความคิดริเริ่มเรื่องนี้ เพราะหากปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะมองไม่เห็นทางจบได้เลย ถึงแม้ว่าในอดีตที่ผ่านมาจะมีคณะกรรมการที่คล้ายแบบนี้ แต่ตนรู้สึกว่ามันไม่ได้ผล หรือได้ผลแต่เราไม่รู้ การที่นายกฯ มีความคิดนี้ ตนรู้สึกดีใจเพราะความขัดแย้งของบ้านเมืองมีมานาน เหมือนกับรถที่ติดล่ม หากคนที่นั่งบนรถไม่กระโดดลงมาช่วยผลัก คนขับก็ไม่สามารถที่จะเอารถออกจากล่มได้ และการทำครั้งนี้จะต้องไม่ทำเพื่อคนใด คนหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย แต่เพื่อประชาชน ตนหวังว่าคณะกรรมการชุดนี้ต้องไม่มีการกำหนดไว้ก่อนแล้ว
“ผมเคยเป็นนักการเมืองมา อย่างคำกล่าวที่บอกว่าทหารแก่ ทหารเฒ่าไม่ตาย เพียงแต่จะจางหายไป ผมก็เหมือนกันที่ว่านักการเมืองเฒ่าไม่ตาย เพียงแต่จะจางหายไป แต่ก่อนที่จะจางหายไป ถ้ามีอะไรที่ทำได้เพื่อส่วนรวมผมยินดี และจะทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ บั่นปลายชีวิตแล้วถ้าสามารถทำอันนี้ ไม่ว่าใครก็ดีใจ ข้อสำคัญต้องอย่าเอาเรื่องส่วนตัว เรื่องของพรรคเป็นที่ตั้ง เพราะหากเอาพรรคเป็นที่ตั้งก็จะไม่สำเร็จ” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวต่อว่า หากคณะกรรมการชุดนี้คิดว่าการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง โดยให้ลืมเรื่องเก่าๆ ตนคิดว่าทำไม่ได้ เพราะบางครั้งเราต้องนำเรื่องเก่ามาดู แม้จะเจ็บปวดบ้างก็ต้องเอามาพูดคุยกัน ตนหวังสภานี้ถ้าเป็นไปตามที่ตนพูดก็น่าจะได้อะไรบ้าง และต้องมีมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ บางครั้ง บางคราวอาจจะมีความเจ็บปวดกันบ้างก็ต้องทนเพื่อส่วนรวม และคนที่จะมีความสุขคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนจะสบายใจ ตนฝากเรียนขอบคุณนายกฯ ที่ให้ตนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ทั้งนี้ นายพิชัยได้สอบถามนายพงศ์เทพ ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ โดยนายพงศ์เทพได้กล่าวชี้แจงว่า กำลังประสานไป หัวหน้าพรรคก็มีการประสานไป
นายพิชัยกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่พร้อมเข้าร่วมเวทีนี้ ทั่งที่นายอานันท์เองก็อยากเห็นความเรียบร้อย และจากนายอานันท์เคยเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องมีการขวนขวายหาทางร่วมกัน ตนไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะไม่ได้เจอนายอานันท์
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ตอบรับจะมีการเสนออะไรกับพรรคให้เข้ามาร่วมหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ถึงตนเป็นรองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แต่ตนไม่ได้ไปพรรคมา 2 ปีแล้ว ตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเคยแนะนำการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเพื่อให้เกิดความปรองดอง 2 ครั้ง รวมถึงตัวนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยที่ตนเคยเชิญมานั่งพูดคุยที่บ้าน 2 ครั้ง ซึ่งนายนพดลได้ตอบรับตนเป็นอย่างดีไปในทางบวก ซึ่งดีกว่านายอภิสิทธิ์ที่มีปฏิกิริยา เฉยๆ ซึ่งตอนนั้นตนได้มีการกำหนดการที่จะบินไปประเทศดูไบพร้อมกับนายนพดล แต่ช่วงนั้นมีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ซึ่งนายนพดลก็โทรศัพท์มาหาตนว่าเรื่องที่พูดคุยกันของเลื่อนไปก่อน ทั้งนี้ระหว่างที่ได้มีการพูดคุยกับนายนพดลไม่ได้มีการต่อสายคุยกับและเคยรู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อนเลย รู้จักแต่กับนายเลิศ ชินวัตร บิดา พ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาท่านก็เคยเสนอพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์มาโดยตลอด สำหรับเรื่องนี้จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ตนว่ายังพูดอะไรไม่ได้จนกว่าเราจะมีโอกาสนั่งคุยกันก่อน เวลานี้ต้องอยากให้คนที่ตอบรับเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมือง อยากให้ปล่อยสมองให้ว่าง อยากเพิ่งไอเดียหรือวาระส่วนตัวก่อนที่จะเข้าประชุม เพราะหากมีไอเดียก่อนที่จะเข้าไปก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อถามว่า คิดว่าเวทีนี้จะสำเร็จหรือไม่ หากดูจากตัวบุคคลที่ไปทาบทามก่อนหน้านี้ นายพิชัยกล่าวว่า จากที่ตนอ่านหนังสือพิมพ์ก็มีนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และอดีตหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
เมื่อถามว่า นายคณิต ณ นคร อดีตประธานคณะกรรมการอิสระค้นหาความจริงเพื่อความปรองดอง (คอป.) ระบุเวทีสภาฯ จะทำให้ความขัดแย้งมากขึ้น นายพิชัยกล่าวว่า ถ้ามีคณะกรรมการชุดนี้แล้วทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก คณะกรรมการชุดนี้ต้องไปมีวาระส่วนตัว เมื่อถามว่า ในส่วนตัวคิดว่าอะไรคือชนวนของความขัดแย้ง นายพิชัยกล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้จะต้องมีการพูดกันในเวทีปฏิรูปการเมือง เวลาเราคุยกันอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องยอมรับความเจ็บปวด เมื่อถามว่า ความเจ็บปวดที่พูดถึง หมายถึงการยอมเสียของคนบางคนที่อาจจะปลดชนวนความขัดแย้งด้วยหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ไม่ทราบ ยังตอบไม่ได้ เมื่อถามว่า เข้าใจการที่จะให้ลดความเจ็บปวดนั้นหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณได้มีการเสียสละเพื่อทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย นายพิชัยกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า เอาที่ตนก็ได้
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภา ก็จะไม่เข้าร่วม นายพิชัยกล่าวว่า นั้นเป็นเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตนว่าควรแยกออกไปก่อน เพราะการเจรจาอะไรก็แล้วแต่หากมีเงื่อนไขล่วงหน้า คงตกลงกันไม่ได้ ตนเสียดายเวลาผ่านแยะ และความเดือดร้อนก็อยู่ที่ประชาชน และถ้าเราสามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้ทำไมถึงไม่ทำ
ต่อมา ที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อเวลา 11.15 น. นายพงศ์เทพ และนายวราเทพได้เดินทางมายังพรรคภูมิใจไทย เพื่อเชิญนายนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมือง โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขอบคุณที่รัฐบาลได้เชิญตนให้เข้าร่วมเวทีดังกล่าว เบื้องต้นตอบรับในหลักการ แต่รัฐบาลเชิญในนามพรรคดังนั้น ในวันอังคารหน้าจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของพรรค เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่จะเข้าร่วม พรรคภูมิใจไทยยินดีหากเวทีดังกล่าวจะทำให้บ้านเมือง มีความสงบสุข ส่วนตัวฝันที่จะให้เกิดความปรองดองมานานแล้วหากอะไรที่สามารถทำได้ก็ยินดี และถือเป็นหน้าที่ของทุกคน
เมื่อถามว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เข้าร่วมจะทำให้เวทีปฏิรูปเดินหน้าหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วง และหากการปรองดองสามารถทำได้จริงทุกอย่างดีขึ้น มั่นใจว่าทุกฝ่ายก็ต้องอยากมาเข้าร่วมอยู่แล้ว