พรบ นิรโทษกรรม ฤาเป็นปาหี่หลอกเงินนักโทษหนีคุก

ขออนุญาตเอาข้อเขียนในเฟทบุ๊คของคุณชูชาติ สีแสง (Chuchart Srisaeng) อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา มาให้อ่าน เพื่อความรู้ และความสบายใจขึ้น ลดความกังวล ครับผม

".....ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ ที่สภาผู้แทนราฎรกำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้และได้ลงมติรับหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 นั้น หากร่าง พรบ ฉบับนี้ ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาและประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมาย
.....กลุ่มคนเสื้ิอแดงที่ได้กระทำผิดกฎหมายและมีโทษทางอาญา ไม่ว่าจะถูกศาลพิพากษาลงโทษแล้ว อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล หรืออยู่ระหว่างหลบหนี ก็กลายเป็นผู้ไม่มีความผิดอีกต่่อไป
.....ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทย พ่อของพวกเสื้อแดงทั้งหลายและเป็นนายของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ไม่ใช่พวกเสื้อแดง ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายร่วมกับเสื้อแดงคนอื่น ๆ ก็ได้รับประโยชน์จากกฎหมายฺฉบับนี้และจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน

.....รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๒๒ บัญญัติว่า " สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ "

.....คำว่า โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ก็หมายความว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ในการเสนอ การพิจารณาร่าง พรบ หรือกฎหมาย ต่าง ๆ นั้น ตัวเอง บิดามารดา บุตร คู่สมรส ญาติพี่น้อง นายจ้างลูกจ้างของตัวเองจะต้องไม่มีส่วนได้เสียหรือได้ประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายฉบับนั้น

.....ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับนี้ได้กล่าวมาแล้วว่า กลุ่มคนเสื้อแดงทุกคนได้ประโยชน์
.....กลุ่มแรกคือคนถูกดำเนินคดีฟ้องศาลและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลในข้อหาก่อการร้าย
..........นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ
..........นายเหวง โตจิระการ
..........นายก่อแก้ว พิกุลทอง
..........ฯลฯ
.....คนพวกนี้ได้รับประโยชน์โดยตรง จึงไม่มีสิทธิที่จะร่วมพิจารณาหรืออภิปรายในที่ประชุมการพิจารณาและลงมติ ร่าง พรบ ฉบับนี้

......กลุ่มที่ญาติพี่น้อง บิดา หรือสามี ได้ประโยชน์
..........นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ
..........นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ
..........ภริยาของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อการร้าย
..........บุตรสาวของเสธแดงหรือพลตรีขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานก่อการร้าย
..........ฯลฯ
.....คนพวกนี้ก็ต้องถือว่ามีส่วนได้ประโยชน์เพราะ พี่ สามีและบิดาได้ประโยชน์ ก็ไม่มีสิทธิที่จะร่วมพิจารณาหรืออภิปรายในที่ประชุมการพิจารณาและลงมติ ร่าง พรบ ฉบับนี้

.....คนที่ประกาศตัวว่าเป็นขี้ข้าของทักษิณ เช่น ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง หรือคนอื่นท่ีเคยยอมรับว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ รวมทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยทั้งหมดที่ได้เป็น ส.ส.เพราะทักษิณเป็นผู้ส่งลงสมัคร มิฉะนั้น คนอย่างนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความลืมขนมไว้ที่ศาลงฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ทำร้ายภริยาตนเองที่ไม่ได้เลี้ยงดูเธอแล้ว แม้ ส.ส.เขตหลาย ๆ คนที่เป็นคนเสื้อแดง เช่น ส.ส.คนที่แสดงความกักขฬะแบบคนยุคหินด้วยการยกเท้าขึ้นมาอวดคนทั้งประเทศและคนอื่น ๆ อีกหลายคน ถ้าไม่ใช่เพราะทักษิณให้ลงสมัคร คงไม่โอกาสได้เป็น ส.ส. อย่างแน่นอน คนพวกนี้ก็ต้องถือว่ามีส่วนได้ประโยชน์เพราะเป็นการกระทำเพื่อตอบเจ้านายผู้มีพระคุณ

.....ถ้ากล่าวให้ถึงที่สุดแล้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนต่างก็เป็นญาติสนิท เพื่อน และลูกจ้างของทักษิณทั้งนั้น ดังนั้นทุกคนจึงมีส่วนได้เสียใน พรบ นิรโทษกรรมฉบับนี้ การลงมติไม่ว่าในวาระแรก วาระสอง หรือวาระสาม ต้องถือว่า เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจนแน่นอน

.....ส่วนบทบัญญัติตอนแรกที่ว่า ส.ส.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย นั้น
.....หมายความว่า การทำหน้าที่ของ ส.ส.ต้องไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ จากใครหรือผู้หนึ่งผู้ใด
.....เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาคงพอจำกันได้ว่า ทักษิณได้สไกป์เข้ามาในชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า ขอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ช่วยกันสนับสนุนร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ

.....การกระทำของ ส.ส.เพื่อไทยทุกคน นับตั้งแต่นายวรชัย เหมะ ผู้เสนอร่าง พรบ ฉบับนี้นอกจากเป็นเรื่องที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์เพราะเป็นการเสนอเพื่ิอช่วยเหลือทักษิณและเพื่อน ๆ เสื้อแดงด้วกันแล้ว ยังเป็นกระทำที่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัตื การมอบหมายและการครอบงำจากทักษิณด้วย ส่วน ส.ส.คนอื่นก็กระทำที่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัตื การมอบหมายและการครอบงำจากทักษิณด้วยเช่นเดียวกัน

.....กล่าวโดยสรุป ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมพิจารณาร่าง พรบ ฉบับนี้ เฉพาะที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ถ้าลงมติเห็นด้วยก็เท่าลงมติเพื่อให้ตนเองพ้นจากการกระทำความผิด ย่อมเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์แน่นอน ส่วนคนอื่น ๆ ก็มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องดังที่กล่าวมาแล้ว ทั้งเป็นที่รับรู้กันของคนไทยทั้งปวงว่าทักษิณคือเจ้าของพรรคเพื่ิอไทย ส.ส.ในพรรคเปรียบเหมือนลูกจ้าง ใครจะได้รับสิทธิให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ จะได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี รมต รมช หรือตำแหน่งอื่น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับทักษิณคนเดียว ในการประชุมพรรคเพื่ิอไทยทักษิณจะโทรศัพท์หรือใช้วิธีการอย่างอื่นเพื่ิอสั่งที่ประชุมเกือบทุกครั้ง แม้แก่การสไกป์เข้าที่เวทีการชุมนุมของพวกเสื้อแดงครั้งหลังสุดทักษิณก็พูดในลักษณะที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย ครั้งอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ดังนั้นการร่วมลงมติเห็นด้วยเพื่ิอให้ร่าง พรบ ฉบับนี้ประกาศใช้เป็นกฎหมายเพื่อช่วยเหลือทักษิณที่เป็นเจ้าของพรรค จึงเท่ากับเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยการครองงำของทักษิณและเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน
.....ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนย่อมไม่มีสิทธิเสนอ ร่วมพิจารณาและลงมติในร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับนี้

.....ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับนี้ จึงตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๒๒

.....รัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๔ บัญญัติว่า " ร่างพระราชบัญญัติใดที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะนําขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ฯลฯ
..........(๑) หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน มีจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ให้เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา หรือประธานรัฐสภา แล้วแต่กรณี แล้วให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับความเห็นดังกล่าวส่งความเห็นนั้น ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยไม่ชักช้า
ฯ ล ฯ
.....ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และข้อความดังกล่าวเป็นสาระสําคัญ ให้ร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นอันตกไป "

.....บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าวหมายความว่า เมื่อร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาคือทั้งสภาผู้แทนและวุฒิสภาแล้ว
.....ส.ส.หรือ ส.ว.มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบ คือไม่น้อยกว่า ๕๐ คน สำหรับ ส.ส. หรือไม่น้อยกว่า ๒๐ คน สำหรับ ส.ว. หรือไม่น้อยกว่า ๗๐ คน สำหรับ ส.ส.และ ส.ว. รวมกัน มีสิทธิเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวุฒิสภา หรือประธานรัฐสภา แล้วแต่กรณี ว่า ร่างพรบ ฉบับนี้ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๒๒
.....ประธานสภาที่ได้รับความเห็นดังกล่าวต้องส่งความเห็นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า

.....ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ฉบับนี้ ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๒๒ หรือมาตราอื่นใดก็ตาม ร่าง พรบ ฉบับนี้ก็เป็นอันตกไป ซึ่งหมายความไม่อาจนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้ให้มีผลบังคับเป็นกฎหมาย

.....โอกาสที่ทักษิณและคนเสื้อแดงทั้งหลายจะได้รับการนิรโทษกรรมให้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ได้ง่ายอย่างที่ทักษิณและลูกจ้างทั้งหลายคิดอย่างแน่นอน

.....เป็นหน้าที่ของ ส.ส.พรรค ปชป และ ส.ว.ที่ไม่ได้เป็นพรรคพวกหรือลูกน้องทักษิณ ต้องดำเนินการเพื่อให้ส่งความเห็นไปให้ศาลงรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ครับ

...............แชร์ได้ กดไลค์ได้ ขอรับรองว่า ไม่ผิดกฎหมายฉบับใด ๆ ครับ"

ใครหนอที่ต้องการให้ ปชป ลาออกจาก สส ออกมาสู้นอกสภา เพื่อ...........
กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณได้ลดความกังวลเวลาในสภาถูกพวกมากลากไป
ปชป สู้.. สู้ สู้

Edited by sudthorn, 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:22.

ไม่มีพรรคไหน จะหน้าด้านได้เท่า พรรคเพื่อควายแดงแล้ว 

รัฐธรรมนูญเขียนไว้ ไม่ได้มีสภาพบังคับทุกข้อหรอกครับ

 

"โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ"

ข้อความนี้ ถึงในทางการเมืองจะรู้อยู่แก่ใจว่าพวกนั้นเป็นขี้ข้าทักษิณ แต่มันพิสูจน์ทางศาลไม่ได้เลย

 

ส่วนการขัดกันของผลประโยชน์นั้น พอจะพิสูจน์ได้ ถ้าออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเองก็ชัดเจน

ตรงนี้เสียงของเพื่อไทยก็อาจจะต้องหายไปเป็นบางส่วนครับ ขึ้นกับว่าแปรญัตติออกมาหน้าตายังไง

ใครได้ประโยชน์บ้าง

กำลังรอดูว่า....มันจะดันทุรังกันไปได้ไกลแค่ไหน

รัฐธรรมนูญเขียนไว้ ไม่ได้มีสภาพบังคับทุกข้อหรอกครับ

 

"โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ"

ข้อความนี้ ถึงในทางการเมืองจะรู้อยู่แก่ใจว่าพวกนั้นเป็นขี้ข้าทักษิณ แต่มันพิสูจน์ทางศาลไม่ได้เลย

 

ส่วนการขัดกันของผลประโยชน์นั้น พอจะพิสูจน์ได้ ถ้าออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเองก็ชัดเจน

ตรงนี้เสียงของเพื่อไทยก็อาจจะต้องหายไปเป็นบางส่วนครับ ขึ้นกับว่าแปรญัตติออกมาหน้าตายังไง

ใครได้ประโยชน์บ้าง

 

เห็นตามคุณริดกุนครับ ดูจากการยื่นฟ้องศาลของอาจารย์เจิม เรื่องไอ้แม้วเข้ามายุ่งเกี่ยวกับรัฐบาลนี้ ศาลท่านยังไม่รับฟ้องเลย ขนาดหลักฐานชัดทั้งภาพ เสียง และนโยบาย 

อ่านข้อความนี้แร้ว ผนวกกับสิ่งที่ ส.ส.ธนา ชีรวินิจ พูดไว้มะวันเสาร์ในรายการผ่าความจริง ภาคพิเศษ

 

ยิ่งทำให้รู้ว่าช่องทางการต่อสู้มันยังมีอีกเยอะะะะะะะะะะะ แระเข้าท่ากว่าด้วย 

 

 

เรายังมะได้จนมุมใด ๆ ทั้งนั้นหนิ

 

 

 

 

ให้ สส.ปชป. ลาออก       

ทีนี้ละ เข้าทางส้วมใครหนอว่ะแพร่ด          

เราว่านโยบายพรรคเพื่อไทยที่ว่า
"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" นี่พอจะทำให้ สส พท ไม่สามารถ
ให้เอี้ยหนีคุกร่วมเป็นหนึ่งใน พรบ นิรโทษกรรมไหม
แถมด้วยถ้าพิสูจน์ได้ว่า เอี้ยหนีคุกสไกป์เป็นว่าเล่นให้กับ
การประชุมของพรรคเพื่อไทยสั่งการให้ พท ทำอะไรบ้าง
ความสัมพันธ์ น่าจะพิสูจน์ขึ้นได้

แถมด้วยพวก สส ที่เคยไปขึ้นเวทีเสื้อแดงจะสามารถปฏิบัติ
หน้าที่ สส ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่ง
ผลประโยชน์ หรือ??

อยากให้ตั้งกระทู้ วิเคราะห์ ติดตาม พรบ.ฉบับนี้โดยเฉพาะเลยครับ

ผมสนใจมาก แต่ไม่มีความรู้กฏหมายเลย

Edited by gears, 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 14:00.

ขออนุญาตคุณชูชาติ ศรีแสง (นามสกุลที่เขียนถูกต้องครับผม) ต่อ
ด้วยกฎหมายว่าด้วยหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธาน
วุฒิสภา ที่ต้องส่งความเห็นจาก สส หรือ สว แล้วแต่กรณีต่อศาล
รัฐธรรมนูญ
"..........ร่่าง พรบ นิรโทษกรรม ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีเรื่องที่ต้องพูดกันอีก
.....มีหลายท่านกังวลว่า ถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา ได้รับความเห็นจาก ส.ส. หรือ ส.ว. แล้วแต่กรณี แล้วไม่ยอมส่งความเห็นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะทำอย่างไร

.....รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๔ (๑) บัญญัติไว้ ชัดเจนว่า เมื่อประธานสภาผู้แทนหรือประธานวุฒิสภา ได้รับความเห็นจาก ส.ส. หรือ ส.ว.แล้วให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับความเห็นดังกล่าวส่งความเห็นนั้น ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยไม่ชักช้า
.....เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวุฒิสภา คงไม่กล้าเสี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญโดยไม่ส่งความเห็นของ ส.ส. หรือ ส.ว.ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ

.....การไม่ดำเนินการตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี
.....ส.ส. หรือ ส.ว.ที่เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราฎรหรือประธานวุฒิสภา ย่อมเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔) จึงมีอำนาจที่จะฟ้องประธานสภาผู้แทนหรือประธานวุฒิสภาต่อศาลได้ด้วยตนเอง

.....แม้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ยอมเสี่ยงที่จะถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ไม่ส่งความเห็นของ ส.ส. หรือ ส.ว. ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และไม่แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ
.....แต่กรณีที่ ส.ส.หรือ ส.ว. ยื่นความเห็นว่า ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา สื่อสารมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ จะต้องเสนอข่าวกันอย่างครึกโครม

.....ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะกล้าตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่าไม่ทราบเรื่องที่ ส.ส.หรือ ส.ว. เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา และนำร่างพรบ นิรโทษกรรม ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย เชียวหรือ ?

.....ถ้าทั้งประธานสภาผู้แทนราฎร ประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรี กล้ากระทำโดยไม่นำพาต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพียงต้องช่วยเจ้านายและพี่ชายของตนเองและพวกพ้องให้พ้นผิด

.....โดยเฉพาะผู้ทำหน้านายกรัฐมนตรีถ้ากล้านำ ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ที่ตามรัฐธรรมนูญยังไม่อาจนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมได้ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม อันเป็นการแสดงถึงการไม่เคารพสักการะองค์พระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘ ไม่เช่นนี้

.....คนไทยที่ไม่ใช่คนเสื้อแดง คงทนกันไม่ได้อีกต่อไปแน่นอน อะไรจะเกิดขึ้นไม่อาจคาดหมายได้ ?

...............รอคอยดูเมื่อถึงวันนั้น ครับ ! ! !"

เอามาให้อ่านต่อเผื่อเพื่อน ๆ จะคิดว่า แล้วถ้า ประธานทั้ง 2 ดือด้านไม่ทำหน้าที่ตัวเองก็เจอ คุก ครับผม
นายกฯจะไม่รับรู้ได้อย่างไร ในเมื่อเธอก็เป็น สส ถ้าว่าไม่รู้ทำผิดอีก ประชาชนจะยอมหรือ?

ด้วยความเคารพ ผึ้งว่าเหล่าบรรดาขี้ข้าและบริวารทั้งหลายไม่ได้อยากให้นายทาสมันกลับมาหลอก เดี๋ยวหมดมุกหลอกกินตังค์พอดี

.....ขอนอกเรื่องเพื่อความถูกต้องคือชื่อ นายชูชาติ ศรีแสง ไม่ใช่ สุชาติ และไม่ใช่ สีแสง

ส่วนตำแหน่งในอดีตคือ

ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

 

ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงกว่า

ผู้พิพากษาศาลฎีกา

ครับ..

 

..........ร่่าง พรบ นิรโทษกรรม ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีเรื่องที่ต้องพูดกันอีก
.....มีหลายท่านกังวลว่า ถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา ได้รับความเห็นจาก ส.ส. หรือ ส.ว. แล้วแต่กรณี แล้วไม่ยอมส่งความเห็นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะทำอย่างไร

.....รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๔ (๑) บัญญัติไว้ ชัดเจนว่า เมื่อประธานสภาผู้แทนหรือประธานวุฒิสภา ได้รับความเห็นจาก ส.ส. หรือ ส.ว.แล้วให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับความเห็นดังกล่าวส่งความเห็นนั้น ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยไม่ชักช้า
.....เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวุฒิสภา คงไม่กล้าเสี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญโดยไม่ส่งความเห็นของ ส.ส. หรือ ส.ว.ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ

.....การไม่ดำเนินการตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี
.....ส.ส. หรือ ส.ว.ที่เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราฎรหรือประธานวุฒิสภา ย่อมเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔) จึงมีอำนาจที่จะฟ้องประธานสภาผู้แทนหรือประธานวุฒิสภาต่อศาลได้ด้วยตนเอง

.....แม้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ยอมเสี่ยงที่จะถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ไม่ส่งความเห็นของ ส.ส. หรือ ส.ว. ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และไม่แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ
.....แต่กรณีที่ ส.ส.หรือ ส.ว. ยื่นความเห็นว่า ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา สื่อสารมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ จะต้องเสนอข่าวกันอย่างครึกโครม

.....ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะกล้าตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่าไม่ทราบเรื่องที่ ส.ส.หรือ ส.ว. เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา และนำร่างพรบ นิรโทษกรรม ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย เชียวหรือ ?

.....ถ้าทั้งประธานสภาผู้แทนราฎร ประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรี กล้ากระทำโดยไม่นำพาต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพียงต้องช่วยเจ้านายและพี่ชายของตนเองและพวกพ้องให้พ้นผิด

.....โดยเฉพาะผู้ทำหน้านายกรัฐมนตรีถ้ากล้านำ ร่าง พรบ นิรโทษกรรม ที่ตามรัฐธรรมนูญยังไม่อาจนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมได้ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม อันเป็นการแสดงถึงการไม่เคารพสักการะองค์พระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘ ไม่เช่นนี้

.....คนไทยที่ไม่ใช่คนเสื้อแดง คงทนกันไม่ได้อีกต่อไปแน่นอน อะไรจะเกิดขึ้นไม่อาจคาดหมายได้ ?

...............รอคอยดูเมื่อถึงวันนั้น ครับ ! ! !

Edited by คนกรุงธน, 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 16:53.

ด้วยความเคารพ ผึ้งว่าเหล่าบรรดาขี้ข้าและบริวารทั้งหลายไม่ได้อยากให้นายทาสมันกลับมาหลอก เดี๋ยวหมดมุกหลอกกินตังค์พอดี

 

ก็ดันๆ หลอกเอาตังค์ไปไงครับ เผื่อฟลุ๊คผ่านจะได้ร้องขอโบนัส

 

รัฐธรรมนูญเขียนไว้ ไม่ได้มีสภาพบังคับทุกข้อหรอกครับ

 

"โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ"

ข้อความนี้ ถึงในทางการเมืองจะรู้อยู่แก่ใจว่าพวกนั้นเป็นขี้ข้าทักษิณ แต่มันพิสูจน์ทางศาลไม่ได้เลย

 

ส่วนการขัดกันของผลประโยชน์นั้น พอจะพิสูจน์ได้ ถ้าออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเองก็ชัดเจน

ตรงนี้เสียงของเพื่อไทยก็อาจจะต้องหายไปเป็นบางส่วนครับ ขึ้นกับว่าแปรญัตติออกมาหน้าตายังไง

ใครได้ประโยชน์บ้าง

 

เห็นตามคุณริดกุนครับ ดูจากการยื่นฟ้องศาลของอาจารย์เจิม เรื่องไอ้แม้วเข้ามายุ่งเกี่ยวกับรัฐบาลนี้ ศาลท่านยังไม่รับฟ้องเลย ขนาดหลักฐานชัดทั้งภาพ เสียง และนโยบาย 

 

เผลอๆ มันจะอ้างคำตัดสินนี้เป็นข้อต่อสู้ด้วยซ้ำ