“ทูตวีรชัย”เผยศาลโลกยังไม่แจ้งวันตัดสินคดีพระวิหาร
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556 เวลา 16:34 น.
“ทูตวีรชัย”เผยศาลโลกยังไม่แจ้งวันตัดสินคดีพระวิหาร เชื่อไทยชนะคดีพระวิหาร แค่ไม่เสียมากกว่าเดิม แนะเลิกฝันทวงคืนปราสาทพระวิหารเป็นของไทย
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สาขานิติศาสตร์ ได้จัดการประชุมนิติศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 9 โดยมีการอภิปราย เรื่อง “คดีปราสาทพระวิหาร แนวโน้มของข้อยุติ” ทั้งนี้ นายวิสูตร ตุวยานนท์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และอดีตเอกอัครราชทูตไทย กล่าวว่า การต่อสู้คดีของฝ่ายไทยทำได้ดีมาก ซึ่งตนเชื่อว่าไทยน่าจะชนะคดีนี้ แต่คำว่า“ชนะ”ในที่นี้หมายความว่าเราจะไม่เสียอะไรไปมากกว่าคำตัดสินเมื่อปี 2505 ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ตัดสินว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา
นายวิสูตร กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีความเข้าใจผิดว่ามีการทำข้อสงวนสิทธิ์เอาไว้นั้น ต้องทำความเข้าใจกันว่าการสงวนสิทธิ์สามารถทำได้ แต่ตั้งข้อสงวนไม่ได้ ซึ่งในธรรมนูญศาลโลกระบุไว้ว่ารัฐที่เป็นภาคีผู้พิพาท มีสิทธิ์ขอให้ศาลฯแก้ไขคำพิพากษาเมื่อมีการค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ซึ่งมีผลต่อการตัดสนิคดี แต่สิทธิ์นี้สามารถใช้ในภายในระยะเวลา 10 ปีนับจากที่ศาลโลกมีคำพิพากษาเท่านั้น ดังนั้น การที่หลายฝ่ายออกมาบอกว่าจะเอาปราสาทพระวิหารคืนมาจึงไม่สามารถทำได้ เพราะธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าคำพิพากษาของศาลฯเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
นายวิสูตร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีสิ่งที่น่ากังวลอยู่บ้าคือการที่กัมพูชาอ้างถึงคณะรัฐมนตรี(ครม.)ของก็ยังไม่แน่ใจในเรื่องพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทฯ เพราะยังมีการโต้เถียงกันมากว่าอยู่ตรงรั้วลวดหนามที่ไทยขึงไว้ หรือไกลออกไปจากนั้นอีก ซึ่งข้อเท็จจริงนี้มีหลักฐานปรากฏชัดอยู่และกัมพูชาได้หยิบยกมาใช้ อาจเป็นเหตุผลที่กัมพูชาอ้างได้ว่าพื้นที่บริเวณโดยรอบยังไม่ชัดเจน จึงต้องมีการตีความคำพิพากษา ส่วนอีกประเด็นคือการที่ผู้พิพากษาของศาลโลกได้ขอให้ทั้งไทยและกัมพูชาชี้พิกัดตามความเข้าใจของแต่ละฝ่าย ซึ่งจุดนี้น่าเป็นห่วง เพราะศาลโลกอาจบอกว่าตนมีอำนาจในการตีความ
ขณะที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า กรณีของพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร(ตร.กม.) ถ้าศาลโลกให้ยกฟ้อง ก็จะกลับสู่สถานะเดิมคือไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่ถ้าศาลฯตัดสินออกคำขอของเราที่แถลงเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2556 คือขอให้ศาลปัจจุบันตัดสินว่าศาลในปี 2505 มิได้ตัดสินว่าเส้นเขตแดนเป็นไปตามแผนที่ 1:200,000 และไม่ได้ตัดสินในเรื่องพื้นที่บริเวณโดยรอบ กัมพูชาก็ต้องออกไปและเส้นเขตแดนไม่เป็นไปตามที่เขาอ้าง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายคงไปเจรจากัน แต่ถ้าศาลตัดสินออกตามคำขอของเขา เราก็ต้องออกไปเช่นกัน แต่ตนยืนยันว่าเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นเรื่องใหม่ ไม่เกี่ยวกับคดีเก่าเมื่อปี 2505 ซึ่งคำให้การต่อศาลฯของฝ่ายไทย คือจนถึงปี 2550 เราไม่เคยแน่ใจว่ารัฐบาลกัมพูชาต้องการอะไร จนกระทั่งปีดังกล่าว กัมพูชาไปขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
นายวีรชัย ยังกล่าวถึงการต่อสู้คดีในประเด็นพื้นที่บริเวณโดยรอบ ซึ่งปรากฏในคำตัดสินในปี 2505 วรรค 2 ว่า ไทยได้ปฏิบัติตามคำตัดสิน คือการถอนทหารที่ส่งเข้าไปออกมาแล้ว ประเด็นพื้นที่บริเวณโดยรอบจึงไม่จำเป็นต้องคงอยู่ต่อ และกัมพูชาไม่เคยใช้กลไกการบังคับคดีเลยจนมาถึงปี 2554 สำหรับพันธกรณีของไทยในการเคารพบูรณภาพดินแดนของกัมพูชานั้น มีอยู่ แต่เป็นพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าเวลานี้ ศาลโลกมีท่าทีว่าจะกำหนดวันตัดสินคดีที่กัมพูชาขอตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 แล้วหรือไม่ นายวีรชัย กล่าวว่า ศาลโลกยังไม่มีการแจ้งถึงวันตัดสินคดีดังกล่าว.
http://www.dailynews...politics/227218
ถ้าเอา ไอ้มาร์คและ ปชปกลับมาเขมรคงยึด4.6เหมือนเดิมแน่นอน ถ้าจะเอา 4.6 และประสาทคืนอย่าได้เอา ปชปกลับมามีอํานาจอีก
เนี่ยเหรอ วิสัยทัศน์ของทูตวีรชัยที่ตั้งโดยอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ลืมคําพูดของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ให้เอาประสาทพระวิหาร คืนถามพวก ปชปสิว่าจะฟ้อง นพดลเรื่องให้ขึ้นประสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลกฝ่ายเ้ดียวไปเพื่อไรในเมื่อฟ้องไปก็ไม่ได้ประสาทพระวิหาร คืน หรือถอนมรดกโลกได้คําพูดของ ทูต วีรชัย สะท้อนความคิดของ พรรค ปชปว่าไม่น่าไว้ใจและคําพูดของทูตวีรชัยคล้ายคลึงกับที่คนพรรคเพื่อไทยพูดว่าเสมอตัวอย่่าหวังทวงประสาทคืนเลย เหมือนกันเด๊ะ พวก ปชปอย่าปัดส วะในเมื่อทูตวีรชัยพูดแบบนี้ ประเทศอื่นดินเศษเดียวเขาก็เอาและเ้ขาฉลาดกว่าไทยเขาไม่ขึ้นศาลโลกไม่รับอํานาจศาลโลกแต่คนไทยโง่ พท ปชปขึ้นศาลโลก สาวกควาย แดงแมงสาปแม่มโคตรงมงายพรรคการเมืองฉิบหายเลย
Edited by phat21, 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 07:17.